หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 682 ความทรงจำอันแสนล้ำค่า
ตอนที่ 682 ความทรงจำอันแสนล้ำค่า
“งานที่นายสั่งให้ทำ ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว” เสียงทุ้มดังออกมาจากปลายสาย
เมื่อได้ยินดังนั้น มุมปากของเขาก็มีรอยยิ้ม “ดี เข้าใจแล้ว ขอบใจมาก”
“แต่ที่ฉันสงสัยก็คือ ทำไมนายถึงทำแบบนี้? ไม่มีผลดีกับนายเลยสักนิด อีกอย่าง ใครๆ ก็รู้ว่าถ้าทำอย่างนี้กับเขาผลลัพธ์ที่ตามมามันไม่ดีอย่างแน่นอน” คนปลายสายพูด
เมื่อได้ยินดังนั้น เปรมศักดิ์ก็แสยะยิ้มเยือกเย็น “อย่างนั้นเหรอ? งั้นฉันจะคอยดูความย่อยยับของมันอย่างช้าๆ!” เขาพูดมันออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ คำพูดทุกคำแฝงไปด้วยความเกลียดชัง สายตาชั่วร้าย ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ เมื่อจัดการเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว เราสองคนก็ไม่มีอะไรต่อกันอีก แล้วก็หวังว่านายจะไม่เอาเรื่องฉันไปบอกเขา!”
“นายวางใจเถอะ แค่นายไม่พูดอะไรออกไปก็ไม่มีใครรู้” เปรมศักดิ์พูด
“งั้นก็ดี งั้นแค่นี้นะ ฉันวางล่ะ”
เปรมศักดิ์วางโทรศัพท์ลง สายตาเขามองออกไปยังนอกหน้าต่าง หรือว่าเมื่ออารมณ์เปลี่ยนไปเราก็จะมองทุกอย่างเปลี่ยนไปเหมือนกัน รอยยิ้มปรากฏขึ้นตรงมุมปากของเขา เหมือนจะสำเร็จไปอีกหนึ่งขั้น
เขาหรี่ตาลง แล้วมองออกไปไกลๆ เหมือนมีเสียงเรียกร้องออกมาจากในใจลึกๆ
สักวันหนึ่ง มันจะเป็นแบบที่ฉันเป็นอยู่ในตอนนี้!!!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็แสยะยิ้มเยือกเย็นออกมา
ขณะนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของก็ดังขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของกชกร ผ่านไปครู่หนึ่งเขาจึงกดรับสาย “ฮัลโหล” “เปรมศักดิ์ คุณยุ่งอยู่หรือเปล่า? ฉันโทรมากวนคุณหรือเปล่า?” กชกรถาม เพราะกลัวว่าจะไปรบกวนเวลาเขาทำงาน “ไม่เท่าไร มีอะไรหรือเปล่า?” เปรมศักดิ์ถามด้วยน้ำเสียงห่างเหินและเรียบเฉยจนไม่มีใครคิดว่าปลายสายนั่นคือภรรยาของเขา “อ่อ ฉันแค่อยากถามว่าคุณจะกลับมาเมื่อไร?” กชกรถาม เปรมศักดิ์อึ้งไปครู่หนึ่ง จึงนึกได้ว่าเขาตอบตกลงกชกรไปเมื่อเช้าว่าจะรีบกลับไป “เดี๋ยวงานเสร็จก็จะกลับแล้ว” “อ่อ งั้นเหรอคะ ฉันจะรอนะคะ” “อื้ม” จากนั้นจึงวางสายลง เขาที่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาสีดำขลับค่อยๆ เปิดออก ดวงตานั้นสั่นไหวและเยือกเย็น ในช่วงบ่าย ทุกคนเลิกงานกลับกันหมดแล้ว เลขาเดินเข้าไปเห็นเปรมศักดิ์จึงถามขึ้น “ประธานคะ วันนี้ไม่มีกำหนดการอะไร คุณยังไม่กลับหรือคะ?” เมื่อได้ยินเสียงนั้น เปรมศักดิ์จึงเงยหน้าขึ้นมามองเลขา สายตาเย็นชาเรียบเฉย “ผมมีงานต้องทำอีกหน่อยน่ะ คุณกลับไปก่อนได้เลย” เลขาพยักหน้า “ค่ะ งั้นฉันไปแล้วนะคะ” เปรมศักดิ์พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต เลขาจึงเดินออกไป เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า เปรมศักดิ์ยังคงนั่งอยู่ในห้องทำงาน จนกระทั่งเกือบจะสี่ทุ่ม เปรมศักดิ์จึงหยิบโทรศัพท์มือถือและเสื้อนอกแล้วเดินออกไป เมื่อกลับมาถึง การันต์และจันทนีหลับไปแล้ว เปรมศักดิ์จึงเดินขึ้นไปข้างบน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงกชกร “เปรมศักดิ์ กลับมาแล้วหรือคะ?” กชกรอยู่ในชุดนอน เธอเดินมาตรงหน้าเขา ในห้องเปิดโคมไฟติดผนัง แสงนวลของมันดูแล้วมันช่างอบอุ่น โดยเฉพาะกับชุดนอนของกชกร มันเป็นคำเชื้อเชิญที่สมบูรณ์แบบ ขาขาวเรียวยาว ชุดนอนผ้าไหมเผยให้เห็นร่องอกเล็กน้อย ผิวขาวดุจหิมะ คอเรียวสวย อีกทั้งใบหน้าที่งดงามนั่น ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ สำหรับผู้ชายแล้วมันเป็นการยั่วยวนอันใหญ่ยิ่ง เปรมศักดิ์เบือนสายตาออกจากเธออย่างไม่รู้ตัว เขาพูดอย่างเรียบเฉย “ทำไมยังไม่นอน?” “ก็คุณบอกว่าจะกลับเร็ว ฉันรอคุณมาจนถึงตอนนี้!” กชกรพูดแล้วก็จ้องเขาไม่วางตา แม้น้ำเสียงจะแฝงไปด้วยความน้อยใจและคาดโทษ แต่ที่มีมากกว่านั้นคือความใส่ใจที่เธอมีต่อเขา เปรมศักดิ์ตะลึงไปเล็กน้อย “วันนี้มีงานเยอะ ถ้าต่อไปผมกลับดึกอีก คุณก็ไม่ต้องรอผมแล้ว รีบพักผ่อน” พูดพลางเปรมศักดิ์ก็จะเดินออกไป “คุณจะไปไหน?” เพียงช่วงเวลานั้นเอง กชกรคว้าแขนของเขาเอาไว้ เปรมศักดิ์ยืนอยู่ตรงนั้น “ยังมีงานที่ต้องทำให้เสร็จ ฉันจะไปห้องหนังสือ” ห้องหนังสือ? “มีงานอะไร ไว้ทำพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ?” กชกรถาม ใบหน้าอันหล่อเหลาของเปรมศักดิ์หม่นลง กชกรเดินไปใกล้เขา “เปรมศักดิ์ ตอนนี้เป็นช่วงที่เรายังแต่งงานกันใหม่ๆ ฉันรู้ว่างานสำคัญกับคุณมาก แต่คุณสละเวลาให้ฉันสักหน่อยไม่ได้เหรอ?” กชกรมองเขาแล้วพูดออกมา ร่างกายที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เต็มไปด้วยกลิ่นของความสะอาด กชกรมองเปรมศักดิ์ เธอก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว เธอรู้ว่าควรจะใช้ชีวิตอย่างไรในสังคม แต่เธอแค่มีประสบการณ์น้อยไปก็เท่านั้นเอง ในตอนนี้ดวงตาใสจ้องไปยังเปรมศักดิ์ แววตาแฝงไปด้วยความอ้อนว้อน เปรมศักดิ์ยังคงยื่นทื่ออยู่ตรงนั้น ทุกคืนเข้ามักจะหาข้ออ้างเพื่อหลบเธอ แต่เขาก็รู้ดีว่าวันหนึ่งคงหนีไม่พ้น! เธอมองเปรมศักดิ์โดยไม่พูดอะไร กชกรขยับเข้ามาใกล้เขา “เปรมศักดิ์ คืนนี้อยู่กับฉันได้ไหม…” เธอถาม