หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 679 เงินในบัตรหนึ่งหมื่น
ตอนที่ 679 เงินในบัตรหนึ่งหมื่น
ผ่านมานานมากแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เปรมศักดิ์พูดถึงเบลล่า
เมื่อพูดถึงเธอแล้ว จิดาภาก็คิดถึงวันที่เบลล่าพูดกับเธอ เธอเงียบไปครู่หนึ่ง
“เธอว่าฉันเหมือนคนขี้แพ้ ไร้ค่าไหม?” เปรมศักดิ์ถาม
จิดาภาเงยหน้าขึ้นมองเขา “ไม่ เพราะว่าฉันรู้ว่าพี่ไม่ใช่คนอย่างนั้น!”
“แต่เรื่องของเบลล่า เป็นเรื่องจริง!” เปรมศักดิ์พูด เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องพูดเรื่องนี้กับจิดาภา แต่เขาก็สำนึกได้ว่าเรื่องระหว่างพวกเขาไม่เป็นไปไม่ได้
จิดาภาพยักหน้า “ฉันรู้!”
“รู้?” เปรมศักดิ์มองจิดาภา สายตาแฝงไปด้วยความประหลาดใจ
“ฉันเคยเจอเธอ!”
เปรมศักดิ์ประหลาดใจเพิ่มขึ้นไปอีก เขามองจิดาภาโดยไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี
“แล้วเขาไม่ได้พูดอะไรกับเธอใช่ไหม?” เปรมศักดิ์ถาม ในใจก็รู้สึกเครียดขึ้นมา เขาไม่สามารถพูดปัญหานี้ออกมาได้ ดูเหมือนว่าในความกลัวนั้นยังแฝงไปด้วยความคาดหวัง
เขาอยากรู้เหมือนกัน ว่าหลังจากที่จิดาภารู้เรื่องนี้เธอจะมีท่าทีอย่างไร
คิดไม่ถึงว่าจิดาภาจะรู้มานานแล้ว แต่เธอแสร้งทำเป็นไม่รู้เท่านั้น
“พี่ กชเป็นผู้หญิงที่ดี เธอนิสัยไม่เหมือนกับเบลล่า ฉันเชื่อว่าแค่พี่เปิดใจยอมรับเธอ พี่ก็จะรู้ว่ามันไม่เหมือนกันสักนิด” จิดาภาพูด แต่ก็ไม่ได้ตอบคำถามของเขาแบบตรงๆ
“ฉันรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดี แต่ฉันไม่ได้รักเธอ!” ไม่รักแล้วจะมีความสุขได้อย่างไร
“พี่ ความรักเริ่มมาจากความเข้าใจ ถ้าพี่เข้าใจกชพี่ก็จะเจอข้อดีของเธอ ฉันเชื่อว่า แค่พี่ลองเปลี่ยนมุมมองในใจของพี่ ศึกษากันดู พี่ก็จะมีความสุข” จิดาภาพูด
มีความสุข?
เฮ้อ…
เปรมศักดิ์เอามือข้างหนึ่งวางบนพวงมาลัย เมื่อเขาได้ยินประโยคนี้แล้ว ก็ฝืนยิ้มออกมา
“แล้วถ้าฉันจะบอกว่ามันเป็นไม่ได้ล่ะ? ฉัน…”
“พี่…”
ขณะนั้นเองเสียงโทรศัพท์ของจิดาภาก็ดังขึ้น
เมื่อเห็นเบอร์ที่โชว์บนหน้าจอ จิดาภาตกใจเล็กน้อย
เปรมศักดิ์เห็นหน้าจอโทรศัพท์ของจิดาภาสว่างขึ้น เขาจึงเหลือบมองเบอร์นั่น
จิดาภาคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยปากพูด “พี่ นี่ก็ดึกมากแล้ว ไว้เราค่อยคุยกันตอนที่มีเวลาว่างนะ ฉันไปล่ะ!” เปรมศักดิ์พยักหน้า จิดาภาเปิดประตูรถและก้าวขาลง เธอเดินพลางรับโทรศัพท์ คนที่นั่งอยู่ในรถ มองดูแผ่นหลังของจิดาภา เขากำหมัดทุบลงไปบนพวงมาลัยรถอย่างแรง พันเดช ทั้งหมดนี่ก็เพราะนายคนเดียว! ส่วนจิดาภาก็รับโทรศัพท์แล้วเดินเข้าไปในลิฟต์ “อยู่ไหน?” พันเดชถาม “เพิ่งถึงบ้านค่ะ อยู่ในลิฟต์แล้วค่ะ” “เคนบอกว่า เขาไม่ได้ไปรับคุณ” พันเดชพูด เขาเหมือนจะรับรู้อะไรบางอย่าง จิดาภาก็ไม่อยากปิดบังเขา “พี่เป็นคนมาส่งฉัน” แม้จะรู้ว่า พันเดชเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง แต่เธอก็ไม่อยากปิดบังเขา พันเดชเงียบไปครู่หนึ่ง “ผมจะกลับมะรืนนี้” “พันเดช…” “หืม?” “ฉันรักคุณ!” เธอพูดประโยคนี้ออกมา เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง เมื่อได้ยินประโยคนั้น พันเดชที่เดิมกระวนกระวายใจอยู่นั้นก็เริ่มจะคลายกังวลได้ “ผมก็รักคุณ” เขาพูดตอบ จิดาภายิ้ม “ฉันจะรอคุณกลับมา!” “อื้ม!” “ถึงบ้านแล้วหรือยัง?” เขาพูดจบประตูลิฟต์ก็เปิดออก “ถึงหน้าประตูบ้านแล้ว” จิดาภาเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ผมอยากเห็นหน้าคุณ เปิดโปรแกรมวิดีโอคอลหน่อย!” “ได้ค่ะ!” จิดาภากดวางสาย ผลักประตูและเดินเข้าไป เธอหยิบโน้ตบุ๊กและเครื่องดื่ม แล้วเดินออกไปยังห้องรับแขก เธอเปิดเครื่องโน้ตบุ๊ก ไม่ช้าใบหน้าร้ายกาจของพันเดชก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ จิดาภานั่งอยู่ เมื่อเธอเห็นใบหน้าของเขาก็หัวเราะออกมา แล้วเอ่ยปากทักทาย “ไฮ คุณพันเดช” “คิดไม่ถึงว่าคุณอยู่คนเดียวจะดูสบายใจขนาดนี้” พันเดชเอ่ยปากพูด “คุณไม่อยู่ ฉันก็มีความสุขกับตัวเอง!” “คิดถึงผมไหม?” จิดาภาพยักหน้า พันเดชมองเธอแล้วยิ้ม เขายื่นมือมาลูบหน้าจอ “ทำไงดี อยากหอมคุณจัง สัมผัสคุณ…” “คุณพันเดช… เล่นหูเล่นตากับหน้าจอคอมรู้สึกยังไงบ้าง?” จิดาภาพูด “ไม่มีความสุขเลยอะ!” จิดาภาหัวเราะ “งานคืบหน้าไปถึงไหนแล้วคะ?” “ยังต้องใช้เวลาอีกสองวัน ผมจะรีบกลับไปให้เร็วที่สุด” จิดาภาพยักหน้าหงึกๆ ทั้งคู่คุยกันผ่านวิดีโอคอลจนดึกจึงจะยอมวาง “นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณก็รีบพักผ่อนล่ะ” “อื้ม” จิดาภาหยักหน้า “คุณก็เหมือนกัน” “รอผมกลับไปนะ” จิดาภาพยักหน้าตอบ เมื่อจบจากการวิดีโอคอล จิดาภาจึงไปอาบน้ำแล้วขึ้นมาบนเตียง แม้พันเดชจะไม่ได้อยู่ข้างกาย แต่ช่วงเวลาที่ห่างกันนี้ มันกลับกระตุ้นความคิดถึงของคนทั้งคู่ จิดาภากอดผ้าห่ม ไม่นานเธอก็เคลิ้มหลับไป ด้านเปรมศักดิ์ หลังจากที่เขากลับมา เขาก็มายังห้องนอน ถอดเสื้อนอกของตัวเองวางไว้อีกด้าน ขณะนั้นเอง กชกรเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเจอเขาพอดี “กลับมาแล้วเหรอ?” เมื่อเห็นกชกรเขาก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปยังเธอ “อื้ม!” เธอสังเกตว่าเขาเงียบไป จึงเดินไปถาม “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” ได้ยินที่เธอพูด เปรมศักดิ์ก็เงยหน้าขึ้น “ไม่มีอะไร” เขาลุกขึ้น “ผมนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องที่ต้องทำ คุณนอนก่อนเลยนะ” พูดพลางก็เดินออกจากห้องไป “คุณจะไปไหน?” กชกรถาม “ห้องหนังสือ ยังมีงานนิดหน่อยที่ยังไม่เสร็จ” “แต่…” อยากจะพูดแต่ก็พูดไม่ออก อีกทั้งเรื่องแบบนี้ผู้หญิงก็ไม่ควรจะเป็นคนพูด นี่อยากบอกนะว่าเขาไม่รู้? สิ่งที่บ่าวสาวควรจะทำกันในคืนแต่งงาน เขาก็ไม่ทำ ตอนนี้ยังจะไปทำงานอีก… เห็นเปรมศักดิ์เดินออกไป กชกร ขมวดคิ้ว จะบอกว่าไม่ท้อก็เหมือนพูดโกหก แต่เธอก็ต้องให้กำลังใจตัวเอง ในเมื่อเลือกผู้ชายแบบนี้ ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา! เธอนอนพลิกไปพลิกมาบนเตียง ทำยังไงก็นอนไม่หลับ สุดท้ายเธอจึงลุกออกจากเตียงแล้วเดินออกมาจากห้อง เธอเทนมใส่แก้ว จากนั้นจึงเดินไปหาเปรมศักดิ์ในห้องหนังสือ เธอเคาะประตู จากนั้นจึงผลักประตูแล้วเดินเข้าไป เปรมศักดิ์นั่งดูหน้าจอคอม เมื่อเห็นว่าเธอเดินเข้ามา ก็รีบปิดรูปถ่ายบนหน้าจอลง “คุณมาทำไม?” “นี่ก็ดึกแล้ว ฉันเอานมมาให้คุณ” “ขอบคุณ” “ดึกมากแล้ว คุณไปนอนก่อนเถอะ เดี๋ยวผมเสร็จงานแล้วจะตามไป” เปรมศักดิ์พูด คำพูดที่เธอเตรียมมา จำใจต้องกลืนลงคอเพราะเขาพูดมาขนาดนี้ เธอมองเปรมศักดิ์ด้วยสายตาท้อใจ “งั้นก็ได้ คุณก็รีบล่ะ” “อื้ม!” เธอวางแก้วนมลง พูดอีกสองสามคำแล้วก็เดินออกจากห้องไป เธอเดินกลับมายังห้องนอน ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง เธอรู้สึกไม่สบายใจ แต่เธอก็เตือนตัวเองว่า เปรมศักดิ์เขาแค่ยุ่งอยู่กับงาน เธอควรจะสนับสนุนคนที่จริงจังกับการทำงานแบบเขา เมื่อเธอคิดได้อย่างนี้ก็ทำให้เธอสบายใจขึ้นมาก จนทำให้เธอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ เธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันต่อมา เห็นว่าข้างๆ มีร่องรอยคนนอน แต่ไม่เห็นคน เธออึ้งๆ แล้วเดินออกไป เห็นเปรมศักดิ์นั่งกินอาหารเช้าอยู่ข้างล่าง