หลงรักเมียเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 630 อยากอุ้มหลาน
ตอนที่ 630 อยากอุ้มหลาน
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ พันเดชก็หันหน้ามามองจิดาภาแล้วขยับปากพูด "มีคนบางคนรับปากผมไว้ ว่าถ้าคุณย่าฟื้นเมื่อไรก็ให้มาเป็นเจ้าภาพจัดงานแต่งงานของพวกเรา"
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้จิดาภาก็กระพริบตาปริบๆ "จริงหรอ? ใครเป็นคนพูดนะ?" จิดาภาแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร
"คนบางคนพูดไว้!" สายตานั้นมองมาที่เธออย่างมั่นใจ
"เดาว่าคนนั้นไม่ใช่ฉัน!" จิดาภาปฏิเสธ แล้วกินต่อ
คุณยายตระกูลฐิตานันทจึงเอ่ยปากพูดขึ้น "ย่าจำได้ว่า ตอนที่ย่ายังกึ่งหลับกึ่งตื่นสลึมสลืออยู่ มีคนมากระซิบข้างหูย่าว่า ถ้าย่าฟื้นขึ้นมาเมื่อไรต้องมาเป็นเจ้าภาพจัดงานแต่งงานให้หนูนะคะ……" คุณยายตระกูลฐิตานันทพูดคล้อยตาม
จิดาภา "……" มองคุณยายตระกูลฐิตานันทแล้วอึ้งอยู่อย่างนั้น "คุณย่า!"
ตอนนั้นเองพันเดชก็หัวเราะเขยิบเข้ามาใกล้จิดาภาแล้วพูดขึ้นมาว่า "ที่แท้เธอก็อยากแต่งงานกับฉันมากขนาดนี้เลยหรอเนี่ย"
เมื่อเห็นท่าทางอวดเก่งของพันเดช จิดาภาก็อดที่จะขำออกมาไม่ได้ "นายก็เลือกที่จะไม่แต่งได้นี่!"
"ทำไมต้องไม่แต่งด้วยล่ะ? พอฉันเห็นว่าเธออยากจะแต่งกับฉันมากขนาดนี้ ฉันก็ต้องแต่งสิ!" พันเดชพูด
"อย่าฝืนใจตัวเองก็เลยนะคะคุณพันเดช!"
"ไม่ฝืนใจ!"
เมื่อมองเธอ จิดาภาก็ยิ้มออกมา
พอได้เห็นท่าทีที่หวานชื่นของพวกเขาคุณยายตระกูลฐิตานันทก็โล่งใจ "ดูเหมือนว่ายัยเด็กคนนี้จะไม่ทำให้ย่าผิดหวังเลยนะ"
จิดาภากับพันเดชจึงยิ้มออกมา"ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วก็รีบหาฤกษ์กันเถอะ!" คุณยายตระกูลฐิตานันทพูดขึ้นอย่างใจร้อนเมื่อพูดจบจิดาภากับพันเดชก็ต่างอึ้งไปตามๆกันเมื่อเห็นคุณยายตระกูลฐิตานันทมีท่าทีรีบร้อนเช่นนี้"คุณย่าครับ การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่นะครับ ไม่ใช่ว่าบอกว่าจะแต่งก็แต่งได้" พันเดชพูดเมื่อพูดถึงเรื่องนี้คุณยายตระกูลฐิตานันทก็ลองคิดดูแล้วพูดขึ้น "แต่ว่า……""คุณย่าครับ วางใจได้รอผ่านช่วงนี้ไปอีกสักนิด ผมจะจัดการเองอย่างดี!" พันเดชพูดพลางหันหน้าไปมองจิดาภา ครั้งนี้เขาจะจัดงานแต่งงานของพวกเขาขึ้นอย่างไม่มีทางสะเพร่าแน่นอนเขาจะต้องจัดงานที่สมบูรณ์แบบให้กับจิดาภาแน่นอนจิดาภาก็หันไปมองพันเดชแล้วยิ้มออกมาคุณยายตระกูลฐิตานันทมองพวกเขา "โอเค ในเมื่อพวกลูกพูดกันแบบนี้แล้ว ย่าก็ไม่ว่าอะไร แต่ขออย่างนึงนะ อย่าให้ย่าต้องรอนาน!" คุณยายตระกูลฐิตานันทพูดจิดาภากับพันเดชยิ้ม"ตกลงครับตกลง แม่ แม่เพิ่งจะฟื้นเองนะก็อย่าเพิ่งมาบังคับเด็กๆแต่งงานกันเลย พวกเขาน่ะมีความคิดความอ่านเป็นของตัวเอง!" วรชิตพูดขึ้น "ก็ฉันรีบอยากจะอุ้มหลานไวๆนี่นา ฉันก็อายุปูนนี้แล้วไม่รู้จะตายวันตายพรุ่ง!""คุณย่าคะ!""คุณย่าครับ!"จิดาภากับพันเดชร้องขึ้นมาพร้อมกันคุณยายตระกูลฐิตานันทมองพวกเขาอย่างตกใจจะพูดพร้อมกันอะไรขนาดนี้ทั้งคู่มองไปทางเธอด้วยสายตาตำหนิคุณยายตระกูลฐิตานันทเอ่ยปากขึ้น "ย่าก็แค่เปรียบเทียบ……""คุณย่าคะ อย่าพูดแบบนี้อีกนะคะ ไม่อย่างงั้นพวกเราจะพาลไม่สบายใจเอาได้นะคะ!" จิดาภาพูดโดยเฉพาะเวลาที่คุณยายตระกูลฐิตานันทเพิ่งจะฟื้นมาอย่างงี้! พวกเราจึงอ่อนไหวกับเรื่องนี้มากเมื่อเห็นท่าทางของแต่ละคน คุณยายตระกูลฐิตานันทจึงเอ่ยปากขึ้นมาดื้อๆว่า "ย่ารู้แล้วๆ ไม่พูดอีกแล้วจบนะ!"เมื่อเห็นท่าทีสำนึกผิดของคุณยายตระกูลฐิตานันท พวกเขาถึงโล่งใจ "ต้องอย่างงี้สิ!"คุณยายตระกูลฐิตานันทกวาดตามองพวกเราอย่างจำใจแล้วกินอะไรไปดังนั้นช่วงเวลาที่แสนวิเศษได้ผ่านไปเช่นนี้เมื่อกินข้าวเย็นเสร็จก็ค่ำมากแล้ว จิดาภากับพันเดชก็ไม่ได้ไปไหน พวกเขาค้างที่บ้านตระกูลฐิตานันท์ การที่คุณยายตระกูลฐิตานันทกลับมาทำให้พวกเขามีความสุขไม่น้อย จึงพักที่นี่จิดาภาและตุรีย์กำลังเกลี้ยกล่อมให้คุณยายตระกูลฐิตานันทกินยา พันเดชไปห้องหนังสือ พอจิดาภาและตุรีย์เกลี้ยกล่อมให้คุณยายตระกูลฐิตานันทกินยาอย่างยากลำบอกเสร็จก็ต่างแยกย้ายเมื่อถึงหน้าห้องครัว ขณะที่กำลังจะเคาะประตูก็ได้ยินเสียงข้างในลอยออกมา"ถ้าหากข้อกล่าวหาถูกยกฟ้องอีกแล้วเธอสามารถรอดไปได้ พรุ่งนี้แกก็ไม่ต้องเสนอหน้าไปที่บริษัทอีก!" พูดพลางพันเดชก็ตัดสายทิ้งจิดาภายืนอยู่หน้าประตู แม้เธอจะไม่ได้ยินเรื่องราวเป็นมาทั้งหมดแต่เธอก็คิดออกมามันเพื่ออะไรกันเมื่อคิดได้เธอก็ผลักประตูเข้าไปพอเขาได้ยินเสียง หันหน้ากลับมาดูพบว่าเป็นจิดาภา ใบหน้าที่คร่ำเคร่งก็ผ่อนคลายลง"คุณย่าหลับแล้วหรอ?"จิดาภาพยักหน้าแล้วเข้าไปหา"ลำบากเธอแย่เลย!" พูดพลางพันเดชก็ยื่นแขนกอดจิดาภา"เมื่อกี้ฉันได้ยินนายคุยโทรศัพท์ นายคุยกับทนายหรอ?" จิดาภาถาม"เกี่ยวกับตุลยาหรอ?"พันเดชยังคงพยักหน้า "อื้ม!"พันเดชตัดสินใจเคลื่อนไหวบ้าง จิดาภาไม่ได้พูดอะไรต่อไม่ว่าตุลยาจะทำกับเธออีกกี่เรื่อง รวมถึงได้กระทำกับคุณยายตระกูลฐิตานันท เพียงแค่เรื่องที่เธอทำไว้กับกษิดิสมันก็เพียงพอที่จะเธอถูกตัดสินลงโทษแล้ว