นิยาย หมุนกระบีทะลวงสวรรค์ | Have Countless…
ตอนที่ 55 : มือปราบมารเทพกระบี่ โจว
จอมยุทธทั้ง 6 ที่ถูกช่วยเอาไว้ก็มา รวมตัวกันรอบโจวฉวนจีและแสดงความขอบคุณ
โจวฉวนจีโบกมือให้พลางพูดตอบ “เจ้าแพร่กระจายข่าวนี้ออกไปได้เลยนะว่าไอเจ้าปีศาจนี่ได้ตายไปแล้ว ให้เหล่า ผู้ที่ต้องการล้างแค้นได้สบายอกสบายใจกันซะที
ทั้ง 6 คนพยักหน้าตอบรับทันที พร้อม ด้วยสีหน้าที่ทั้งดูตื่นเต้นและเร้าใจ
ในเมื่อพวกเขาเห็นกับตาตัวเองเลยว่า เทพกระบี่โจวสังหารเยี่ยเอ้อกวาน ดังนั้นพวกเขาเลยมีหลักฐานมากพอว่าพวก เขาไม่ได้พูดโม้เกินจริง
หลังจากนั้น ด้วยการนําของจอมกระบี่ ผู้องอาจ ทั้ง 6 คนจึงได้จากไปพร้อมกับความตื่นเต้น
เจียงฉือน้อยเริ่มทายากับโจวฉวนจี เธอรู้สึกปวดใจมากเมื่อเห็นใบหน้าที่เปื้อนเลือดของเขาก่อนจะบ่นพึมพํา ออกมา “โถ ไม่นะ… เจ้ากําลังจะกลาย เป็นคนอัปลักษณ์ซะแล้วหรอเนี่ย…”
ริมฝีปากของโจวฉวนจีกระตุก เขา อยากจะโต้กลับสุด ๆ แต่ก็กลัวเหมือนกัน
เขารู้ดีว่าทักษะที่ดีที่สุดของเขานั้นไม่ ใช่วิชาดาบแต่อย่างใด แต่มันคือหน้าตาอันหล่อเหลาของเขานั่นเองเขาอาจจะ หล่อมากขนาดที่ 1000 ปีจะมีสักคนเลยทีเดียวด้วยซ้ําแล้วหน้าตาที่ดูดีของเขา จะมาพังเอาแบบนี้ได้ยังไงกัน?
ฮวงเหลี่ยนชิ้นย่อตัวลงก่อนจะเริ่มทา ยาให้โจวฉวนจีเบา ๆ เธอไม่อาจทนความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองได้เล ยถามออกมา “จริง ๆ แล้วไม่ใช่ว่าพวกเราสามารถอ้อมไปได้หรอเจ้าคะทําไมถึงอยากจะสู้ขนาดนั้นล่ะเจ้าคะ?”
เยี่ยเอ้อกวานนั้นไม่ใช่พวกที่จะหยอก เล่นด้วยได้ นั่นเพราะเขามีพวกหนุนหลังอย่างสํานักอสูรโลกันตร์อยู่
ยิ่งกว่านั้น โจวฉวนจียังได้ขอให้จอม ยุทธทั้ง 6 คนนั้นช่วยแพร่กระจายข่าวออกไปด้วยอีก ถึงมันจะเพื่อชื่อเสียงก็ เถอะ แต่เขาไม่กลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับสํานักอสูรโลกันตร์เลยรึไงกัน?
โจวฉวนจีตอบ “ที่จริงแล้วมีอยู่ 2 เห ตุผลน่ะ อย่างแรกคือดาบ ดาบเล่มนี้มัน ถูกย้อมไปด้วยพลังมารมากพอแล้ว เพ ราะงั้นเราถึงต้องกําจัดมันอย่างที่สองคือเยี่ยเอ้อกวานที่นับวันยิ่งแข็งแกร่งมา กกว่าเดิม เพราะงั้นแล้วจะไม่ให้ข้าช่วยเหล่าเหยื่อที่ถูกทําร้ายทั้ง ๆ ที่ข้าช่วยได้ได้ยังไงกันล่ะ?”
เหตุผลที่ว่ามานั้นฟังขึ้นสุด ๆ จนโน มน้าวฮวงเหลี่ยนชินและจอมกระบี่ผู้องอาจให้เชื่ออย่างสุดใจได้
แต่เจียงฉือน้อยกับกลอกตาใส่แทน พูดซะสวยหรู แต่จริง ๆ เขาก็แค่อยากได้ดาบเท่านั้นแหละ
เธออยู่ด้วยกันกับโจวฉวนจีมาตลอด ทั้งวันทั้งคืนตั้ง 9 ปี เพราะงั้นเธอจะไม่รู้จักเขาได้ไงกัน?
เธอไม่ได้บอกความจริงกับคนอื่น แต่ก ลับรู้สึกยินดีแทน
เพราะมีแค่เธอเท่านั้นที่รู้เรื่องเขามาก ที่สุดยังไงล่ะ!
โจวฉวนจีจะเปิดเผยความจริงแค่กับ เธอเท่านั้นยังไงล่ะ!
“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
เขาถามจอมกระบี่ต้องอาจที่รับสั่งเขา ให้ไปสู่โดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยซึ่งนั่นทําให้เขาพอใจมาก
พวกเขาได้ใช้เวลาด้วยกันมามากพอที่ โจวฉวนจีจะยอมรับในตัวเขาแล้ว
ในแง่ของตําแหน่ง แม้จอมกระบี่ผู้อง อาจจะเป็นทาสกระบี่ แต่จริง ๆ แล้วโจวฉวนจีนั้นมองว่าเขาคือลูกศิษย์ซะ มากกว่า
จอมกระบี่ฆ้องอาจตอบด้วยความละ อายใจ “ข้ายังอ่อนด้อยนัก ท่านได้รับบาดเจ็บก็เป็นเพราะข้าเอง”
การต่อสู้ในวันนี้ทําให้เขาได้รู้ซึ้งว่า โจวฉวนจีนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด
และอีกอย่างที่ต้องรู้ก็คือ โจวฉวนจียัง ไม่ได้ใช้ดาบที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเลยดาบราชาโลกันตร์ยังไงล่ะ!
“จากนี้ไป จงอย่าใช้เวลาทั้งหมดไป กับการฝึกวิชาดาบเพียงอย่างเดียววรยุทธ์ก็สําคัญด้วยเช่นกัน”
โจวฉวนจีเตือนเขาด้วยความจริงใจ และจอมกระบี่น้องอาจก็พยักหน้ารับอย่างจริงจัง
ขณะที่เขากําลังรักษาตัวอยู่ โจวฉวนจี ก็ใช้โอกาสนี้ถามขึ้นข้างในใจว่า “แล้วข้าจะรวมดาบเล่มนั้นได้ยังไงกันนะ?”
“จิตวิญญาณแห่งดาบจะช่วยท่านเจ้า ของดาบในการรวมดาบเองแต่มันต้องใช้เวลาดังนั้นโปรดอดทนรอด้วยครับ”
จิตวิญญาณแห่งดาบตอบกลับทันที ซึ่งมันทําให้เขานึกอะไรได้ขึ้นมา
ก่อนที่เขาจะถามต่อ “แล้วมันเป็นเรื่อง จริงรึเปล่าที่ว่าตราบใดที่มีคุณสมบัติเหมือนกันก็เอาอาวุธอะไรก็ได้ 2 ชิ้นมารว มกันได้น่ะ?”
“ไม่ใช่อาวุธทุกอย่าง มีเพียงแค่หยิบ มือเท่านั้นที่ทําได้ แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่สามารถเผยรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงได้ แต่ถ้าหากท่านเจอสมบัติที่สามารถรวมกันได้เมื่อไหร่จิตวิญญาณแห่งดาบจะ เตือนท่านเองครับ”
จิตวิญญาณแห่งดาบตอบ และมัน ทําให้เขารู้สึกผิดหวัง
เขาวางแผนเอาไว้ว่าจะรวบรวมอาวุธ และวัตถุวิเศษมาเยอะ ๆ เพื่อจะทําให้ดาบในตํานานของเขาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
แต่ความคิดของเขาก็ถูกจัดขึ้นมาทัน ที่ด้วยเสียงของจอมกระบี่ต้องอาจ “นายท่าน แล้วทําไมท่านถึงต้องเข้าร่วมการ คัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจวด้วยล่ะครับ?”
จอมกระบี่ผู้องอาจที่มักเชื่อฟังคําสั่ง และแผนการของนายท่านเสมอและน้อยครั้งนักที่เขาจะถามนายน้อยของตัว เองในเรื่องอื่นนอกเสียจากเรื่องวิชาดาบ
โจวฉวนจีจ้องมองไปทางเขาและพูด ว่า “เจ้าน่ะเชื่อฟังคําสั่งของข้ามาตลอดโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ซึ่งมันก็ช่วย แสดงให้ข้าได้เห็นแล้วว่าเจ้าน่ะเคารพข้าจริง ๆ ความจริงแล้วข้าอยากจะเข้าร่วมการคัดเลือกแห่งสวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจวไม่ใช่เพื่อเสาะหาชื่อเสียงหรือตําแหน่งในวังอะไรหรอกนะแต่เพื่อที่จะได้ฆ่าใครบางคนต่างหากล่ะ!”
แววตาของฮวงเหลี่ยนชิ้นเปล่งประ กายด้วยความตื่นเต้น
และจอมกระบี่ต้องอาจก็รู้สึกตื่นเต้นมา กด้วยเช่นกัน
ทําไมการเข้าร่วมการคัดเลือกแห่ง สวรรค์ของมหาจักรวรรดิโจวถึงจําเป็นมากสําหรับการจะได้ฆ่าใครสักคนกัน นะ?
เขาไม่ได้รู้สึกกังวลเลยสักนิด แต่กลับ รู้สึกขนลุกซู่
ชายคนนี้คงต้องการจะทําการใหญ่อะ ไรสักอย่างแน่เลย!
โจวฉวนจีหรี่ตาลงและพูดขึ้นมา “นั่นก็ คือ ราชินีแห่งมหาจักรวรรดิโจวและโจวหยาหลงยังไงล่ะ”
คนแรกน่ะเพื่อแก้แค้นให้กับท่านแม่ ของเขา ส่วนอีกคนน่ะเพื่อนฮวงเหลี่ยนชินยังไงล่ะ!
จอมกระบี่ผู้องอาจพูดพึมพําออกมา “ข้า จอมกระบี่แดนเหนือผู้องอาจ จะติดตามท่านไปด้วยอย่างแน่นอน”
เขาไม่คิดจะถามเหตุผลอะไรกับ โจวฉวนจีมากกว่านี้ แต่กลับรู้สึกว่าเขากําลังจะได้ทําบางสิ่งที่ทรงพลังมากซะ มากกว่า!
ถ้าหากพวกเขาทําสําเร็จล่ะก็ ทั่วทั้งม หาจักรวรดิโจวจะต้องสั่นคลอนเป็นแน่
หลังจากนั้น ถ้าเขายังรอดอยู่ล่ะก็ เขา ก็จะกลายเป็นนักเพนจรไปจนตายแน่!
ถ้าให้พูดกันตรง ๆ ล่ะก็ เขาก็เริ่มชิน กับการติดตามโจวฉวนจีและแม่นางทั้งสองคนแล้ว ตลอดการเดินทางนั้นสนุก มากจริง ๆ มันดียิ่งกว่าการเดินทางคนเดียวซะอีก
แม้แต่เจ้างูสีดําตัวจ้อย อาใหญ่ และ น้องสองก็ทําให้เขารู้สึกสนุกด้วย
แถมโจวฉวนจียังคอยเล่าเกี่ยวกับตํา นานและเรื่องเล่าจากอารยธรรมจีนให้กับพวกเขาฟังอีก ซึ่งบางครั้งมันก็ทําให้ เขารู้สึกสนใจมาก
เจ้างูสีดําตัวจ้อยตะโกนออกมา “เจ้า บ้าไปแล้วเรอะ! เจ้าอยากจะสังหารองค์ราชินีแห่งมหาจักรวรรดิโจวและโจวหยา หลงเนี่ยนะ? นี่เจ้ารู้รึเปล่าว่าพวกเขาน่ะแข็งแกร่งแค่ไหน?แม้แต่ราชาปีศาจญ่ หลานยังสู้ไม่ได้เลยด้วยซ้ํา!”
ปีศาจระดับ 5 กลัวอย่างงั้นน่ะหรอ
โจวฉวนจีพูดตอบอย่างดูถูกว่า “มหา จักรวรรดิโจวอะไร? ท้องฟ้าที่ข้าเห็นน่ะยังยิ่งใหญ่มากกว่ามหาจักรวรรดิโจวซะอีก”
“ข้าล่ะไม่เคยเจอใครที่อวดดีเท่าเจ้า เลยจริง ๆ !”
เจ้างูสีดําตัวเล็กจ้องไปที่เขาด้วย ดวงตาที่เล็กเท่าเมล็ดถั่วขณะที่ร้องตะโกนด้วยน้ําเสียงแปลก ๆ
ทันทีที่เจ้างูสีดําตัวเล็กพูดจบ จู่ๆ เจ้า หนูทรายสามตาก็วิ่งไปทั่วด้วยความตื่นเต้นอย่างไม่มีเหตุผล เจ้างูสีดําตัวกระ จ้อยร่อยแทบจะเป็นลมจากการที่ต้องมาถูกลากไปมาและถูกกระแทกลงพื้น มัน ถูกลากมากเสียจนบางทีก็เริ่มสงสัยเกี่ยวกับการมีชีวิตอยู่ของตัวเองแล้ว
ทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะระเบิด หัวเราะออกมา
หลังจากที่พักกันได้ครึ่งชั่วโมง ทั้งก ลุ่มก็เริ่มออกเดินทางกันต่อ
พวกเขาต่างถูกรายล้อมไปด้วย ซากศพ มันน่าขยะแขยงเกินกว่าจะอยู่ที่นี่ได้นานกว่านี้
ภายในครึ่งเดือน ข่าวก็แพร่กระจายไป ทั่วเขตชายแดนของมหาจักรวรดิโจวราวกับไฟป่า
เทพกระบโจวได้สังหารดาบกระหาย โลหิต เยี่ยเอ้อกวาน แล้ว!
ข่าวนั้นเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก ใน อาณาจักร ผู้คนส่วนมากที่อยู่ในโรงเตี้ยมมักคุยกันถึงเรื่องนี้
จอมกระบี่ผู้ทรงพลังคนหนึ่งได้ปรากฎ ตัวออกมาและทําการโค้นล้มปีศาจระดับ 4 ที่ทรงพลังผู้ซึ่งเป็นถึงองค์ชายแห่ง ราชวงศ์ปีศาจ
อีกหนึ่งคือจอมยุทธผู้ทรงพลังจาก สํานักอสูรโลกันตร์ผู้แสนจะชั่วร้าย
คําพูดเกี่ยวกับเทพกระบี่โจวที่ดูจะเกิน จริงมากไปก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วบางคนก็ถึงกับคิดว่า เทพกระบี่โจวสามารถ ต่อกรกับจอมกระบี่ผู้สูงเสี่ยวจึงหงและศิษย์ของจักรพรรดิกระบี่เสี่ยหรูโหยว ได้เลย
ที่อาณาจักรเหมันต์แดนใต้…
ณ บ้านพักของท่านแม่ทัพ ข้างในศา ลาหิน…
“ท่านพ่อเห็นมั้ย? เทพกระบี่โจวน่ะฆ่า ได้แม้แต่ดาบกระหายโลหิต เยี่ยเอ้อกวานเลยนะทั้งที่ท่านเคยแพ้ให้กับเยี่ย
เอ้อกวานมาก่อนน่ะ!”
จางเถียนเจียนจ้องเขม็งตาโต ก่อนจะ ทุบโต๊ะและพูดขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด“มารยาทเจ้าหายไปไหนหมดหัะ!”
ทหารที่อยู่ด้านข้างแอบขําอยู่น้อย ๆ จนต้องหันหน้าหนีออกข้าง
สีหน้าของจางหรูหยูเต็มไปด้วยความ ภาคภูมิใจ ราวกับว่าตัวเองเป็นเทพกระบี่โจวเอง
จางเถียนลูบคางพลางบ่นพึมพํากับตัว เองออกมา “ดูเหมือนว่าข้าคงจะประเมินเขาต่ําไปสินะ”
เขาคิดอยู่ภายในใจว่า โชคดีที่เขาไม่ ได้มีว่างขนาดนั้น
ถ้าข้าเจอเขาเข้าล่ะก็…
มันคงได้เป็นจุดจบของข้าแหง ๆ!
ณ มหาจักรวรรดิโจว ที่ค่ายทหาร…
เหมิงเทียนหลางนั่งอยู่บนที่นั่งสําหรับ แม่ทัพด้วยท่าทางที่ผ่าเผย พลางแอบฟังบทสนทนาของพวกทหาร
“ตอนนี้ในการจัดอันดับผู้มีชื่อเสียง แห่งมหาจักรวรรดิโจวเขาได้ตั้งฉายาให้กับเทพกระบี่โจวโดยเฉพาะด้วยนะ เป็น มือปราบมารเทพกระบี่โจวยังไงละ!”
หลังจากที่คิดขึ้นมาได้ ทหารนายน นก็ยื่นม้วนตําราส่งให้เหมิงเทียนหลาง
แม่ทัพเหมิงมองม้วนตํารานั้นหลังจาก ที่ได้มา
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ปิดม้วนตํารา ลงก่อนจะถอนหายใจออกมา “ช่างเป็นคนสําคัญซะจริงนะ!”
หลังจากนั้นเขาพูดขึ้นมาด้วยน้ําเสียง เยาะเย้ย “ดูเหมือนเสี่ยวจึงหงจะมีคู่แข่งซะแล้วนะตอนนี้”
ทหารนายนั้นเงยหน้าขึ้นก่อนจะถาม ด้วยความสงสัย “มีข่าวลือมากมายในหมู่ประชาชนว่าชายคนนี้จะกลายเป็นภัย คุกคามต่อตําแหน่งจักรพรรดิกระบี่เพราะเขาสามารถใช้สองจิตดาบพร้อมกัน ได้นะครับ แล้วท่านแม่ทัพท่านคิดยังไงบ้างครับ?”
เหมิงเทียนหลางจ้องเขม็งไปทางนาย ทหารก่อนจะตะโกนออกมา “เจ้ายังโชคดีนะที่อยู่ในค่ายของข้าน่ะ เจ้าคิดว่า เจ้าเป็นใครกันถึงกล้ามาดูถูกจักรพรรดิกระบี่ได้น่ะ? เจ้าน่ะรู้รึเปล่าว่ามีแม่ทัพใน กองทัพมหาจักรวรรดิโจวมากมายแค่ไหนที่เคารพนับถือจักรพรรดิกระบี่น่ะห้ะ?”
ทันใดนั้น จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมาพร้อมทั้ง รอยยิ้ม “ใช้สองจิตดาบพร้อมกันแถมยังควบคุมดาบได้ 9 เล่มอีกงั้นหรอนี่ไม่ใช่ อะไรที่จักรพรรดิกระบี่จะทําได้เลยนะ”
“สักวันนึงอาจจะมีคนที่เป็นเทพกระ บี่ในมหาจักรวรรดิโจวจริง ๆ ก็ได้
MANGA DISCUSSION