หมอผีแม่ลูกติด - บทที่ 281 รอดไปได้อย่างหวุดหวิด
บทที่ 281 รอดไปได้อย่างหวุดหวิด
ดูเหมือนว่าเขาคงไม่สามารถที่จะอยู่ร่วมกับฮ่องเต้เจียงได้หากไร้ซึ่งการเสียสละ เขานั้นรู้ดีอยู่แก่ใจว่าฮ่องเต้นั้นถึงจะเป็นคนอวดดีเพียงใดแต่เขาก็คงไม่กล้าหมายหัวเขาอย่างเช่นวันนี้แน่ เกรงว่าที่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจะต้องเป็นเพราะการชี้นำของผู้หญิงสักคนแน่
ฮ่องเต้ก็ได้มองไปที่เจียงหวายเย่ ที่หลบหลีกได้อย่างต่อเนื่อง แล้วสีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อยๆ “วันนี้ข้าขอชมหน่อยเถอะว่าองค์ชายเย่นั้นไม่สมประกอบจริงๆหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายนั้นหลอกข้าก่อน ก็อย่าโทษข้าที่โหดร้ายกับเจ้าก็แล้วกัน”
มีดในมือของเหล่านักฆ่านั้นส่องแสงเย็นน่ากลัวออกมา และมันก็ได้เข้าใกล้เฉียดเจียงหวายเย่มากขึ้นเรื่อยๆ และทุกครั้งก็พุ่งไปที่จุดตายของเขา
พวกเขานั้นต้องการเพียงชีวิตของเจียงหวายเย่ ไม่ใช่ชีวิตของพวกเขาเอง
เนื่องจากมีมือสังหารมากเกินไป แม้แต่อันอี้ยังต้องปะทะกับคนเป็นจำนวนมาก ทำให้เจียงหวายเย่ไม่สามารถที่จะฝ่าวงล้อมไปได้เลย กล้ามเนื้อของคนในหน่วยอันและหน่วยเชียนที่แฝงตัวในความมืดนั้นก็ได้เริ่มสั่นขึ้นมา
พวกเขานั้นทำได้แค่รอ….รอคำสั่งอย่างเดียวเท่านั้น
หากว่าเมื่อใดที่องค์ชายออกคำสั่ง นักฆ่าเหล่านี้ก็จะไม่ใช่ปัญหาเลย แม้ว่าสิ่งที่พวกเขาทำจะเป็นการทำลายอำนาจฮ่องเต้ พวกเขาก็ยินดีที่จะตาย
ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ เจียงหวายเย่ก็ยังไม่คิดที่จะให้คนออกมาช่วย เขาได้พยายามเบี่ยงตัวหลบออกไปด้านข้าง สีหน้าของเขานั้นซีดเผือดมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่นานนักก็เริ่มมีช่องโหว่ออกมา
“ฆ่า”
หัวหน้ามือสังหารก็ได้ออกคำสั่งออกมา แล้วตัวเขาก็ได้รีบรุดไปยังช่องโหว่ของเจียงหวายเย่ แล้วก็ปรากฏแววตาที่เย้ยหยันออกมาจากดวงตาของเจียงหวายเย่ ซึ่งเป็นสายตาที่หนาวเย็นมาก สิ่งที่เขาได้รับในวันนี้เขาจะต้องเอาคืนเป็นสองเท่าในอนาคตแน่
ในขณะที่หัวหน้านักฆ่าคิดว่าขอแค่ทีเดียวก็เรียบร้อยแล้วอยู่นั้นเอง เขาไม่คิดว่าเขาจะรู้สึกเจ็บแปลบที่หลังคอของเขาขึ้นมา จากนั้นเขาก็รู้สึกหมดเรี่ยวแรงและลงไปนอนกองที่พื้น
สถานการณ์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้ทำให้ทุกคนที่มองดูอยู่ต้องรู้สึกประหลาดใจ
แล้วที่มุมปากของเจียงหวายเย่ก็ได้เผยรอยยิ้มออกมาอย่างชัดเจน และสายตาของเขาก็ได้จับจ้องไปที่เสียงแหลมเล็กที่ดังผ่านฝูงชนออกมา
ด้วยการช่วยเหลือของหลินซีเหยียน เจียงหวายเย่ก็ได้เป็นเหมือนเทพแห่งความตาย ที่ใช้เคียวเกี่ยวคร่าชีวิตไปทีละคนก่อนที่สวรรค์จะช่วยเหลือได้ทัน
ฮ่องเต้ก็ได้ลุกขึ้นยืนและรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ เขาจึงได้ส่งสายตาไปยังคนที่อยู่รอบๆตัวเขา
แล้วเหล่าราชองครักษ์ก็ได้ค่อยๆถอยไปอย่างเงียบๆและไม่นานนักหลินซีเหยียนก็ได้โผล่ออกมา
หลินซีเหยียนก็ได้เผยรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าปลากินเหยื่อแล้ว นางจึงได้รีบตะโกนออกไป “องค์ชายอดทนเอาไว้นะ ฮ่องเต้กำลังจะส่งคนไปช่วยท่านแล้ว”
เสียงตะโกนนี้ได้ทำให้เหล่าข้าราชบริพารที่กำลังหลบอยู่ต้องหันมาดู แล้วก็เห็นหัวหน้าองครักษ์และเหล่าองครักษ์ปรากฏอยู่ในสายตาของผู้คน
เมื่ออยู่ต่อหน้าฝูงชนเช่นนี้ พวกเขาจึงทำได้แค่ยิ้มรับแล้วจากนั้นก็กล่าว “องค์ชาย พวกเราจะไปช่วยเดี๋ยวนี้”
จากนั้นพวกเขาก็ได้เข้าร่วมต่อสู้ภายใต้สายตาที่มืดมนของฮ่องเต้และส่งสายตาที่น่ากลัวออกไปเพื่อส่งคนไปช่วยเจียงหวายเย่
แต่เจียงหวายเย่กลับไม่ได้รู้สึกยินดีในเรื่องนี้เลย สมาธิของเขาตกไปอยู่ที่หลินซีเหยียน สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความกังวล และจ้องมองไปที่เสี่ยวเหยียนเอ๋อทะลุผ่านใบมืดที่แหลมคมเหล่านั้น แล้วเหงื่อเย็นๆก็ได้เริ่มไหลออกมาบนหลังของเขา
บางทีอาจเป็นเพราะเจียงหวายเย่นั้นเป็นห่วงมากจนเกินไป เหล่านักฆ่าก็มองเห็นว่าองค์ชายนั้นได้เพ่งความสนใจไปที่ชายหนุ่มคนนั้น จึงได้ส่งสายตาไปให้พรรคพวกของเขารับทราบ
แล้วทุกคนก็ได้ใช้มีดพุ่งเข้าไปแทงหลินซีเหยียน
ภายใต้สถานการณ์วิกฤติที่คาดไม่ถึงเช่นนี้ หลินซีเหยียนก็ไม่ได้กระวนกระวายแต่อย่างใด เข็มเงินในมือของนางนั้นก็เหมือนกับมีตาและพุ่งเข้าใส่คนที่เข้ามาอย่างแม่นยำ แต่ทว่าคนเหล่านี้ก็เหมือนจะเตรียมการเอาไว้อยู่แล้ว ก่อนที่ยาจะออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ พวกเขาก็ได้รีบทานยาลงไป
“เสี่ยวเหยียนเอ๋อ!!”
ดวงตาของเจียงหวายเย่ก็ได้หนาวเย็นขึ้นมา แล้วในเวลานี้เขาไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้ว เขาก็ได้พุ่งตัวออกมาแล้วยืนมือปกป้องหลินซีเหยียน กำลังภายในที่แข็งแกร่งของเขาก็ได้สลัดผู้คนรอบตัวเขาหลุดออกไปทันที
“เขาหลอกข้าจริงๆ”
เขาตบไปที่บัลลังก์มังกรนั้น และสีหน้าขององค์ฮ่องเต้นั้นก็ได้ไม่ดีอย่างมาก ผู้คนที่มองออกก็จะเห็นว่าฮ่องเต้นั้นต้องการที่จะฆ่าองค์ชายเย่ได้อย่างชัดเจน
มีดเหล่านั้นก็ไม่ได้โดนตัวหลินซีเหยียน แต่ได้เฉือนเข้าไปที่แขนของเจียงหวายเย่ และบาดแผลเหล่านั้นก็เต็มไปด้วยเลือดสีแดงเข้ม
“พิษ!”
หลินซีเหยียนก็ได้รีบปิดกั้นหัวใจของเจียงหวายเย่ด้วยเข็มเงิน ดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจและจ้องไปที่เจียงหวายเย่ “ท่านถูกพิษร้ายแรงอยู่นะ ท่านเอาตัวเข้าขวางข้าทำไม?”
หยิบเขาขวดยาที่อยู่ข้างเอวของนางออกมาแล้วทาลงไปที่แผลของเจียงหวายเย่ เพื่อหวังให้ยับยั้งผลของยาพิษ
ในเวลานี้เหล่ามือสังหารก็ได้ถูกจัดการจนหมดแล้ว แล้วเหล่าขุนนางก็ได้พากันออกมาแล้วกล่าวชื่นชม “องค์ชายเย่สมกับที่เป็นเทพสงครามของรัฐเจียงจริงๆ วรยุทธ์ของเขานั้นหาคนที่จะต่อกรด้วยไม่ได้จริงๆ”
แล้วในขณะนั้นเอง เจียงหวายเย่ก็ได้พ่นลมออกมาจากจมูกก่อนที่จะหมดสติไปที่ตัวของหลินซีเหยียน หลินซีเหยียนนั้นไม่อาจที่จะทานน้ำหนักของเขาได้และทรุดลงไปที่พื้น
หลังจากนั้นไม่นานนัก แล้วก็มีรองเท้าสีเหลืองทองปรากฏตรงหน้านาง ซึ่งมีลายมังกรอยู่ที่รองเท้านั้นแสดงให้เห็นถึงความน่าเกรงขาม
“ฝ่าบาท ได้โปรดช่วยตามหมอหลวงมาด้วยพ่ะย่ะค่ะ” หลินซีเหยียนก็ได้เงยหน้าขึ้นมาแล้วพูดด้วยเสียงทุ้มๆอย่างจงใจ
แต่ใครจะไปคิดว่าฮ่องเต้เจียงจะกลับพ่นลมออกทางจมูก “ฮึ องค์ชายเย่นั้นทรงพลังอยู่แล้ว ลำพังพิษแค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก”
ทันทีที่พูดออกมาเช่นนี้ หลินซีเหยียนก็ได้โมโหขึ้นมา “ฝ่าบาท องค์ชายเย่นั้นเดิมทีมีพิษที่ร้ายแรงอยู่ในตัวของเขาอยู่แล้ว ในเวลานี้หากเขาถูกพิษเข้าไปอีก พิษในร่างก็จะปะทุออกมา แล้วองค์ชายก็จะตายได้ในทันทีนะพ่ะย่ะค่ะ”
“องค์ชายเย่นั้นออกจะแข็งแรงขนาดนี้ จะไปมีพิษร้ายแรงอยู่ในตัวของเขาได้อย่างไร เจ้าคิดจะหลอกข้าอย่างนั้นเหรอ?”
หลินซีเหยียนที่ยังไม่ทันจะได้โต้ตอบอะไร จู่ๆร่างกายของเจียงหวายเย่ก็ได้แข็งทื่อขึ้นมาแล้วจากนั้นเลือดสีดำก็ได้ไหลออกมาจากปากของเขาอย่างต่อเนื่อง
เจียงหวายเย่ก็ได้เปิดปากของเขาอย่างยากลำบากแล้วพูดออกมาด้วยเสียงอ่อยๆ “ถ้าวันนี้องค์ชายไม่รอด เจ้าจะต้องไปปลดคนในวังรัตติกาลให้ออกจากที่นั่น แล้วบอกพวกเขาว่าการตายของเรานั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับฮ่องเต้”
“องค์ชาย ฮ่องเต้ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือท่านอย่างชัดเจนเช่นนี้ ทำไมถึงท่านยังจะต้องการปกป้องเขาอีก?”
น้ำตาของหลินซีเหยียนก็ได้พรั่งพรูออกมาด้วยความกลัวว่าจะต้องเสียเจียงหวายเย่ไป นางนั้นรู้ดีว่านี่เป็นแค่การแสดง แต่ก็ยังเจ็บปวดหัวใจของนางอยู่ดี
เมื่อได้ยินคำพูดที่น่าประทับใจของเจ้านายกับลูกน้องเช่นนี้แล้ว ฮ่องเต้ก็ได้คิ้วขมวดขึ้นมา จากนั้นก็ได้มองไปที่กาวกงกงอย่างลังเลใจ แล้วในชั่วขณะต่อมาเขาก็ได้กล่าว “ยังไม่รีบไปตามหมอหลวงมาอีกเรอะ”
ถึงแม้ว่าในใจของเขานั้นอยากที่จะให้เจียงหวายเย่ตาย แต่เขาจะต้องมาตายด้วยมือของเขาไม่ได้
ไม่นานนักภายใต้การพามาของกาวกงกง หมอหลวงก็ได้คุกเข่าลงต่อหน้าองค์ฮ่องเต้ ทันทีที่เขาคุกเข่าลงเพื่อถวายบังคมอยู่นั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงที่ไม่ดีของฮ่องเต้ดังขึ้นมา
“รีบไปตรวจดูอาการขององค์ชายเย่เร็วๆเข้า”
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” แล้วหมอหลวงก็ได้คุกเข่าลงตรงหน้าเจียงหวายเย่และยื่นแขนออกมาจับชีพจรของเจียงหวายเย่ หลังจากที่ผ่านไปพักใหญ่ เขาก็ได้ทรุดลงไปนั่งกับพื้นด้วยความตกใจ
ฮ่องเต้ก็คิ้วขมวดเมื่อเห็นเช่นนั้น แล้วเขาก็คิดขึ้นมาในใจของเขา หรือว่าเจียงหวายเย่นั้นกำลังจะตายจริงๆ?
“บอกมา อาการขององค์ชายเย่เป็นอย่างไร?”
หมอหลวงก็ได้อึกอักไปชั่วขณะ เมื่อได้ยินที่องค์ฮ่องเต้พูดตวาดใส่เขาอย่างอารมณ์ไม่ดี
หมองหลวงก็ได้กลืนน้ำลายลงไปแล้วกล่าวอย่างกลัวๆ “องค์…องค์ชายเย่ ผู้น้อยเกรงว่า….เกรงว่าจะช่วยเขาไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”
“อะไรนะ? เจ้าตรวจอาการดูอีกทีซิ”
ฮ่องเต้ก็ได้คิ้วขมวดขึ้นมาแล้วให้กาวกงกงส่งคนไปตามหมอหลวงมาอีก แสดงให้เห็นว่าเขาไม่เชื่อชายที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างชัดเจน
เขาไม่อยากที่จะเชื่อว่า สิ่งที่เขาบอกนั้นเป็นความจริง