ย้อนกลับไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ฤดูที่ทุกคนกลาวขานในนามฤดูแห่งการเริ่มต้นใหม่ นาโอยะกับโคยูกิได้พานพบกันครั้งแรกในช่วงเวลานั้น
“เอ่อ ผู้หญิงดูจะลำบากใจอยู่ คุณช่วยปล่อยเธอไปทีได้ไหม?”
“ค-ใครน่ะ? ต้องการอะไรจากฉัน?”
“…!”
ณ สถานที่รอบนอกย่านร้านค้าช่วงพระอาทิตย์ตก ทิวทัศน์ของเมืองเปลี่ยนเป็นสีส้ม นาโอยะกำลังยืนอยู่ตรงกลางระหว่างชายหญิงทั้งสอง ทำไมเรื่องราวมันถึงลงเอยแบบนี้? คำอธิบายนั้นง่ายมาก นั่นก็เพราะนาโอยะเห็นทั้งสองคนขณะกำลังทำความสะอาดอยู่ที่หน้าร้านพาร์ทไทม์นั่นเอง
ฝ่ายหญิงสวมชุดเครื่องแบบโรงเรียนเดียวกับนาโอยะ เธอมีผมสีขาวเงินและมันเงายาวจรดสะโพก นาโอยะบอกไม่ได้ว่าหน้าตาเธอเป็นอย่างไรเพราะเห็นแค่จากด้านหลัง แต่ที่แน่ๆ เธอกำลังปล่อยบรรยากาศที่ดูวุ่นวายออกมาอยู่
ส่วนอีกคนที่อยู่ข้างเธอนั้นเป็นผู้ชายใส่สูท ทรงผมของเขาถูกย้อมไปด้วยสีสันฉูดฉาดและมีรอยเจาะที่หู ดูเหมือนว่าเขากำลังจีบผู้หญิงคนนี้อยู่ แต่แทนที่ฝ่ายหญิงจะรู้สึกเขินที่โดนจีบ น้ำเสียงของเธอกลับดูกลัวและสับสน
(นั่นเขากำลังจีบเธออยู่ใช่ไหม…)
เมื่อดูจากองค์ประกอบทั้งหมดนาโอยะก็ได้ข้อสรุปและเข้ามาแทรกระหว่างทั้งสองคน นาโอยะสัมผัสได้ทันทีว่าฝ่ายผู้หญิงรู้สึกตึงเครียดยิ่งกว่าเดิมเมื่อเขาเดินเข้ามา แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่ควรจะไปสนใจ
“คุณช่วยหยุดทำแบบนี้ที่หน้าร้านของเราได้ไหม? ถ้าเกิดดื้อดึงไปกว่านี้ผมจะแจ้งตำรวจนะ”
“ฮ่าๆๆ ก็ไม่รู้หรอกว่าอะไรทำให้นายเข้าใจไปแบบนั้น อันที่จริงฉันไม่ได้ทำอะไรที่น่าสงสัยเลยนะ”
นาโอยะจ้องไปยังชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างสุดความสามารถ แต่น่าแปลกที่เขากลับยิ้มรับและยื่นนามบัตรของตัวเองส่งมาให้กับนาโอยะ ดูจากการ์ดแล้วดูเหมือนเขาจะเป็นโปรดิวเซอร์ของธุรกิจบันเทิงประเภทหนึ่ง
“พอดีฉันกำลังมองหานางคนใหม่มาขึ้นปกนิตยสารของเราน่ะ ถ้าเกิดเป็นเธอคนนี้ฉันว่ามันต้องออกมาปังแน่ๆ”
“นั่นเป็นเรื่องโกหกที่คุณเพิ่งคิดขึ้นเมื่อกี้สินะ?”
“…หา?”
ชายคนนั้นขมวดคิ้ว แต่นาโอยะก็ทำเป็นไม่สนใจ
นาโอยะมองตรงเข้าไปในดวงตาของชายคนนั้นและอธิบายคำพูดของเขา
“คุณไม่ได้เป็นแมวมองจากที่ไหนทั้งนั้น ทั้งหมดที่คุณทำก็แค่ต้องการจะพาผู้หญิงคนนี้ไปกับคุณเท่านั้นแหละ”
“น-ไหนหลักฐา—”
“ของแบบนั้นแค่มองดูก็รู้แล้ว ต่อให้จะพยายามเล่นละครขนาดไหน มนุษย์เราก็ซ่อนปฏิกิริยาร่างกายตัวเองไม่ได้หรอก”
สำหรับนาโอยะท่าทางของชายคนนี้ดูออกง่ายมาก รูม่านตาของเขาเปิดมากกว่าปกติ ลมหายใจถี่ เสียงพูดตะกุกตะกัก ริมฝีปากกระตุก แถมยังมีหยดเหงื่อเม็ดเล็กๆ รินอยู่บนหน้าผากของเขาทำให้ทุกอย่างชัดเจนเกินไปด้วยซ้ำ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลทั้งหมดนี้นาโอยะก็ไม่มีปัญหาในการเข้าถึงความจริง
“ความจริงคุณเป็นแค่นักศึกษามหา’ลัยสินะ? ถ้าให้เดาน่าจะมาจากคันไซ คุณคงเอาแต่เที่ยวเตร่ไปวันๆ จนพ่อแม่ตัดเงินที่ส่งมาให้ใช่ไหมล่ะ?”
“ร-รู้ได้ยัง—!”
ใบหน้าของชายคนนั้นขาวซีด
นาโอยะคาดเดาที่มาของชายคนนี้ได้จากสำเนียง กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ที่ลอยแตะจมูกมาจากท่อนบน รวมไปถึงชุดสูทโทรมๆ ที่เขาใส่ เห็นได้ชัดว่านาโอยะพูดได้ตรงเผง ดังนั้นท่าทางของชายผู้นี้จึงตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด นั่นเป็นเหตุผลที่นาโอยะยังคงไม่ยอมแพ้และรุกคืบต่อ
“คุณมาได้แค่นี้แหละ ท่าทางแบบนั้นไม่มีผู้หญิงคนไหนจะไปกับคุณหรอก… ก่อนจะยื่นนามบัตรปลอมๆ แบบนั้นมาให้ ทำไมคุณถึงไม่ไปปรับปรุงภาพลักษณ์ตัวเองมาก่อนล่ะ?”
“ว-ว่าไงนะไอ้หัวขวดนี่!”
ชายคนนั้นคำรามพร้อมกับคว้าคอเสื้อนาโอยะ
นาโอยะได้ยินเสียงร้องแผ่วเบาดังออกมาจากด้านหลัง แต่กระนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้เขาหวั่นใจนัก
“อย่าอวดดีนักนะโว้ยไอ้เด็กเวร! นี่เอ็งอยากเจ็บตัวมากนักใช่ไหม!”
“ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องแบบนั้นหรอกนะ…ว่าแต่คุณรู้ไหม?”
“…รู้อะไร?”
“ผมทำงานอยู่ที่ร้านหนังสือเก่านี้น่ะ เมื่อเร็วๆ นี้รอบๆ มีแต่ปัญหา เพราะงั้นเราเลยติดกล้องวงจรปิด”
นาโอยะขยับคางของตนไปที่ร้านหนังสืออากาเนยะ
ในตรงนั้น เลนส์ของกล้องรักษาความปลอดภัยที่อยู่ถัดจากป้ายโฆษณาได้ชี้ตรงมาที่พวกเขา วินาทีที่ชายคนนั้นเห็นมันสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนสีอีกครั้ง เมื่อเห็นดังนั้นนาโอยะก็แสยะยิ้ม
“ถ้าเกิดต่อยผมที่นี่ ภาพที่อยู่ในกล้องตัวนั้นจะส่งถึงมือตำรวจโดยตรงแน่ๆ แต่ถ้าคุณไม่สนก็เอาเลย”
“…………ชิ!”
ชายคนนั้นผลักนาโอยะออกและเดินจากไปอย่างมึนเมา
นาโอยะมองดูเขากระทืบพื้นจากไปพร้อมจัดคอเสื้อตัวเองใหม่
“ฟู่ว~ ถึงจะเป็นแค่ของปลอมแต่ก็ยังดีที่มีมันอยู่”
นาโอยะรู้สึกดีใจที่ได้รบเร้าผู้จัดการร้านไว้ก่อนหน้านี้
“ค-คือว่า…”
“อา ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วนะ”
นาโอยะได้ยินเสียงกลืนลมหายใจดังมาจากด้านหลัง เขาตั้งใจจะหันกลับมาปลอบผู้หญิงคนนั้น แต่มีเสียงแหบห้าวเรียกเขาออกมาจากภายในร้านเสียก่อน
“ซาซาฮาระคุง! ถึงจะกะทันหันไปนิดแต่ช่วยออกไปส่งของให้หน่อยได้ไหม! พอดีตอนนี้ฉันปลีกตัวออกไปจากร้านไม่ได้น่ะ!”
“ได้เลยคร้าบ! เดี๋ยวผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ! ส่วนเธอตอนกลับบ้านก็ระวังตัวดีๆ นะ”
“อ๊ะ…!”
สุดท้ายนาโอยะก็ไม่สามารถยืนยันใบหน้าของอีกฝ่ายและกลับเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกอารมณ์ดีหลังได้ทำประโยชน์เพื่อสังคม
“ซาซาฮาระคุง…สินะ?”
ด้วยเหตุนี้นาโอยะจึงไม่ได้นึกฝันว่าผู้หญิงที่ตนช่วยเอาไว้จะพึมพัมชื่อของเขาพร้อมกับเอามือประสานไว้ที่หน้าอก
MANGA DISCUSSION