หนี้รัก วิวาห์จำเป็น - ตอนที่ 140 เริ่มทุกอย่างใหม่ทั้งหมด
การเดินทางตลอดทางของเหอหลวนเล่อนั้นนับได้ว่าเป็นการกวนจากเจี่ยนซวงโดยสิ้นเชิง เหอหลวนเล่อได้อธิบายให้กับเจี่ยนซวงแล้วว่าอะไรคือประเทศผู้หญิง ก่อนจะเหอหลวนเล่อนั้นต้องเล่าเรื่องไซอิ๋วต่อ เจี่ยนซวงเคยฟังเรื่องไซอิ๋วจากเจี่ยนอี๋นั่วมาบ้างแล้ว เธอฟังไปด้วยแล้วยังพูดคุยกับเหอหลวนเล่อไปด้วย
"คุณแม่เล่อเล่อคะ ละมุดอร่อยมากใช่มั้ยคะ มันอร่อยกว่าลูกพีชมั้ยคะ? รสชาติมันเหมือนยาอายุวัฒนะของคนแก่มั้ยคะ? แล้วหมูเปรี้ยวหวานหอมเหมือนที่เขาว่ากันรึเปล่าคะ?" เจี่ยนซวงลงรถ เธอจับมือของเหอหลวนเล่อเอาไว้ละยังถามรื่อยๆ
เหอหลวนเล่อถูกถามจนเธอปวดหัวไปหมดแล้ว เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะพูดด้วยสีหน้าข่มขื่นว่า : "ซวงซวง ปล่อยคุณแม่เล่อเล่อไปเถอะนะคะ!"
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มก่อนจะพูดกับเจี่ยนซวงว่า : "ชวงชวง หยุดกวนคุณแม่เล่อเล่อได้แล้วค่ะ"
เจี่ยนซวงเม้มปากก่อนที่จะหันไปถามเหอหลวนเล่อด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิดเสียงเบาๆ : "คุณน้าเล่อเล่อคะ หนูน่ารำคาญหรอคะ?"
เหอหลวนเล่อพยแพ้ให้กับดวงตาที่ไร้เดียงสาของเจี่ยนซวงทันที เพียงเหอหลวนเล่อเห็นสายตาแบบนี้ เธอก็รีบส่ายมือของเธอทันที ก่อนจะพูดอย่างเลิ่กลั่กไปว่า : "ไม่ได้รำคาญนะคะ อี๋นั่ว เธอห้ามสอนซวงซวงทำแบบนี้อีกนะ ซวงซวงนี่จะฉลาดไปแล้ว มาค่ะ ซวงซวงอยากรู้อะไรอีก? ถ้าคุณแม่เล่อเล่อรู้คุณแม่จะเล่าให้ชวงชวงฟัง"
เจี่ยนซวงรีบยกยิ้มขึ้นมาทันทีก่อนที่จะถามเหอหลวนเล่อเกี่ยวกับเรื่องสัพเพเหระอีกครั้ง จนเจี่ยนซวงถูกมาที่ร้านอาหารระดับไฮคลาสแห่งหนึ่ง เมื่อเจี่ยนซวงเห็นบนโต๊ะมีอาหารและขนมหวานมากมายอยู่ เจี่ยนซวงก็ปิดปาก ไม่ถามอะไรอีกเลย ก่อนที่จะตะโกนเสียงดังว่า : "ว้าว……"
เจี่ยนอี๋นั่วเองก็ไม่ได้คิว่าเหอหลวนเล่อนั้นจะจัดเตรียมอาหารมากมายขนาดนี้ให้กับพวกเธอ เธอหันหน้าไปมองเหอหลวนเล่อก่อนจะพูดว่า : "เธอจัดเตรียมไว้มากเกินไปนะ มีแค่เราไม่กี่คนเองนะ?"
เหอหลวนเล่อยิ้ม : "ไม่หรอก ไมเห็นเยอะเลย หลายปีมานี้พวกเธอลำบากกันมากมากพอแล้ว ฉันคิดตลอดว่าควรจะเตรียมอาหารให้พวกเธอเยอะๆ ก็เลยยิ่งสั่งยิ่งเยอะเข้าไปอีกน่ะ คิดซะว่ากินเพื่อฉันแล้วกันนะ เธออย่าลืมสิ เธอยังติดค้างเรื่องชากับฉันอยู่นะ?"
เจี่ยนอี๋นั่วถอนหายใจก่อนจะขอบคุณเหอหลวนเล่อด้วยความจริงใจ : "ขอบคุณนะ ฉันโชคดีมากๆที่ได้รู้จักเธอ แล้วก็ได้เป็นเพื่อนกับเธอ"
เหอหลวนเล่อได้รับการยอมรับจากเจี่ยนอี๋นั่วเช่นนี้แล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงขึ้นมา เธอก้มหน้าลงเล็กน้อยพร้อมกับใบหน้าที่แดงแจ๋ของตนเอง ก่อนจะพูดขึ้นว่า : "เธอชมฉันอย่างนี้ฉันอายนะเนี่ย วันนี้ฉันอุตส่าห์เลี้ยงต้อนรับเธอขนาดนี้แล้ว ไม่เมาไม่กลับนะ!"
เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้าเบาๆ ก่อนเธอจะมองเจี่ยนซวงที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขจนหน้าของลูกน้อยแดงไปหมดนั้นปีนขึ้นไปบนเก้าอี้แล้งมองอาหารตรงหน้า เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะก่อนจะพูด : "ซวงซวงนั่งลงเลยค่ะ อย่าไปยืนบนเก้าอี้แบบนั้น"
เจี่ยนซวงรีบปีนลงมาจากบนเก้าอี้ช้าๆ จากนั้นก็เช็ดรอยเท้าของตัวเองบนเก้าอี้อย่างตั้งใจ จากนั้นจึงค่อยวิ่งไปข้างๆคนเป็นแม่ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า : "หม่าม้าคะ ของน่าอร่อยเยอะมากเลยค่ะ"
เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยรอยยิ้ม : "ค่ะ แบบนี้ซวงซวงต้องขอบคุณแม่เล่อเล่อแล้วมั้ยน้า?"
เจี่ยนซวงรีบพูดขอบคุณขึ้นมาทันที : "ขอบคุณมากๆค่ะคุณแม่เล่อเล่อ"
เหอหลวนเล่อพูดด้วยรอยยิ้ม : "รีบกินกันเถอะ เราสามคนกินอาหารมื้อนี้ให้อร่อยกันเลยนะ"
เจี่ยนอี๋นั่วลืมไปแล้วว่าเธอนั้นได้กินอาหารอย่างนี้นานแค่ไหนแล้ว ถึงแม้ว่าเจี่ยนซวงนั้นจะกินเก่งมากๆ แต่ตอนที่นั่งอยู่บนรถนั้นเธอใช้เอเนอจี้ของเธอมากเกินไป เจี่ยนซวงจึงกินแค่ขนมหวานไปไม่กี่อย่าง และดื่มน้ำซุปไปนิดหน่อยเท่านั้นก็หลับไปแล้ว เจี่ยนอี๋นั่ววางเจี่ยนซวงบนเก้าอี้ข้างๆเธอ มือข้างนึงของเธอตบลูกเบาๆเพื่อเป็นการกล่อม มืออีกข้างของเธอถือแก้วเหล้ามาดื่ม
"เจี่ยนอี๋นั่ว เธอเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บนะ อย่าเพิ่งดื่มเยอะเลย อย่าไปฟังที่ฉันพูดเมื่อกี้เลย เมื่อกี้ฉันคึกน่ะ เลยลืมว่าร่างกายของเธอบาดเจ็บมา ฉันน่ะไม่เมาไม่กลับ ส่วนเธอก็แล้วแต่เธอแล้วกันนะ" เหอหลวนเล่อคาวแอลกอฮอล์ออมาพร้อมกับพูดยืดยาด
เจี่ยนอี๋นั่ส่ายหัวไปมา : "ฉันรู้ลิมิตของฉันหน่า เธอไม่ต้องห่วงหรอก ฉันอยาดื่มเหล้าสักหน่อย นานแล้วที่ฉันไม่ได้ดื่มมัน"
"ใช่ไง พลาดไปแล้วถึงได้รู้ค่าของมัน ตอนนี้เธอจะรู้สึกว่ามันอร่อย เพราะว่าเธอไม่ดื่มมันมานาน ถ้าอย่างฉันนะ พาแขกไปดื่มทุกวัน ในงานเลี้ยงก็ต้องดื่ม ดื่มในงานเสร็จ กลับบ้านไปก็ดื่มอีกสองสามแก้ว เธอก็จะไม่คิดว่าเหล้ามันอร่อยแบบนี้หรอก" เหอหลวนเล่อพูดพร้อมกับรอยยิ้มของเธอ
เหอหลวนเล่อยิ้มไปยิ้มมา ก่อนที่จะร้องไห้ออกมาอย่างอดไม่ได้ : "อี๋นั่ว หลายปีที่ผ่านมานี่มันวันอะไรกันหรอ? เธอต้องลำบากมากมายขนาดนี้ แล้วเหลิ่งเซ่าถิงล่ะ? ไปแต่งงานแล้วยังมีลูกชายด้วยกันอีก! เธอไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เขารวยแค่ไหน! เขารวยยิ่งกว่าเมื่อก่อนอีกนะ! คนในเมืองนี้ต่างก็รู้กันหมด ว่าสามารถระรานตระกูลเหลิ่งได้ แต่ไม่สามารถทำกับเหลิ่งเซ่าถิงได้! แต่เขาก็ปล่อยให้เธอต้องติดคุกตั้งนาน ถึงแม้ว่าไม่มีความรู้สึกแบบนั้นกับเธอแล้วก็เถอะ แต่เขาทนปล่อยให้ซวงซวงอยู่ในนั้นด้วยได้ยังไงกัน? เขามีความสามารถมากกว่าฉัน ถ้าเขาอยากจะรวจสอบเรื่องนี้ เธอก็ได้รับการพิจารณาคดีใหม่แน่นอน เพียงแค่เขาเชื่อเธอ!"
เหอหลวนเล่อพูดถึงตรงนี้เธอก็ตะคอกออกมาอย่างเยือกเย็น : "ประธานเหลิ่ง…..เขาคือตัวอะไรกันแน่? หรือจะเป็นพวกได้ใหม่แล้วลืมของเก่า! แม้แต่ผู้หญิงของตัวเองกับลูกสาวก็ไม่ต้องการแบบนี้! ฉันต้องตาบอดแน่ๆเลยที่ชอบผู้ชายอย่างนั้นได้!"
ณ คฤหาสน์แห่งหนึ่งที่อยู่อีกเมืองหนึ่ง จางหมินที่ได้ยินคำด่าของเหิหลวนเล่อผ่านทางเครื่องเล่นเสียง จางหมินหันหน้าไปมองเหลิ่งเซ่าถิงที่อยู่ข้างๆเขา ก่อนจะพูด : "ท่านประธานเหลิ่งครับ ยังจะเปิดต่อมั้ยครับ?"
เหลิ่งเซ่าถิงพยักหน้าก้อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเข้มของเขา : "เปิดต่อไป ที่เธอพูดไม่ได้ผิดนี่"
จางหมินหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะเปิดเครื่องเล่นเสียงจากร้านอาหารระดับไฮคลาสนั้น ตอนนี้เหลิ่งเซ่าถิงรู้วิธีการเข้าถึงคน และเขาก็สามารถเข้าใจเจี่ยนอี๋นั่วได้อย่างวางใจ
เหลิ่งเซ่าถิงฟังเสียงของเจี่ยนอี๋นั่วจากเครื่องเล่นเสียงนั้น เสียงของเธอนั้นใจเย็นมากกว่าเดิม อาจจะเป็นเพราะว่าไม่ได้เจอกันนานแล้ว…….
เหลิ่งเซ่าถิงก้มหน้าลงก่อนจะลูบภาพของเจี่ยนอี๋นั่วที่อยู่ในมือของเขาเบาเบา รูปนั้นเป็นเพียงรูปขนาดหนึ่งนิ้วเท่านั้น เขาเก็บมันไว้ในกระเป๋าและรูปในนี้ก็ถูกรูปภาพครอบครัวของเขากับกู้เค่อหลันทับเอาไว้ด้วย ในตอนที่เขารู้สึกทนต่อไปไม่ไหวหรือไม่สามารถทำอะไรหรืออยู่ต่อไปได้ เขาก็จะหยิบรูปของเจี่ยนอี๋นั่วขึ้นมาดู และเหลิ่งเซ่าถิงถึงจะอยู่ต่อไปได้
เหลิ่งเซ่าถิงนั่งบนเก้าอี้พร้อมกับมองเจี่ยนอี๋นั่วที่ถอนหายใจอยู่แล้วเธอก็พูดขึ้นมาว่า ; "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันรักคนอย่างเขาได้ยังไง……"
มือของเหลิ่งเซ่าถิงนั้นสั่นไปหมด รวมถึงปากของเขาด้วย เขารีบลุกขึ้นก่อนจะพูด : "ปิดเครื่องเล่นเสียงนั้นซะ"
เหลิ่งเซ่าถิงกลัวว่าเจี่ยนอี๋นั่วจะพูดว่าเธอเกลียดเขา เขารู้ดีว่าหลายปีมานี้เจี่ยนอี๋นั่วนั้นลำบากมากแค่ไหน เขาเข้าใจว่าเจี่ยนอี๋นั่วต้องทนทุกข์ขนาดไหน นั่นคือคำพูดของเขา : "ฉันเจอกับปัญหาอยู่ ฉันอยากปกป้องเธอ ฉันเลยต้องทำแบบนี้" แค่นี้ก็คงจะเข้าใจ
เหลิ่งเซ่าถิงได้ยินเยี่ยหมิงจูรายงานเขา ตอนที่เจี่ยนอี๋นั่วรู้ว่าเธอท้องนั้น เธอถึงได้บอกเขา หลังจากนั้นเจี่ยนอี๋นั่วก้ไม่บอกอะไรกับเขาอีกเลย แม้แต่เจี่ยนชวงถามเจี่ยนอี๋นั่วว่าพ่อของตนคือใคร เจี่ยนอี๋นั่วก็ไม่เคยพูดแม้แต่ชื่อของเขาให้ลูกฟังเลย
พอมาคิดๆดูแล้ว นี่มันก็ผ่านมาสี่ปีแล้ว เหลิ่งเซ่าถิงไม่รู้เลยจริงๆว่าความรู้สึกของเจี่ยนอี๋นั่วที่มีต่อเธอนั้นมันเหลือมากน้อยแค่ไหน บางทีเจี่ยนอี๋นั่วอาจจะตัดใจจากเขาไปแล้วก็ได้ ในตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกันนั้น ไม่เคยจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีคีวามสุขเลยสักครั้ง บางทีเจี่ยนอี๋นั่วอาจจะลืมเขาไปตั้งนานแล้วก็ได้
เหลิ่งเซ่าถิงพูดถึงตรงนี้เขาก้ถอนหายใจออกมาทันที พร้อมกับใบหน้าของเขาที่ซีดลงเรื่อยๆ
จางหมินขมวดคิ้วแล้วมองไปที่เหลิ่งเซ่าถิง ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงดทนต่ำว่า : "ท่านประธานครับ แผลของคุณเปิดอีกแล้วหรอครับ?"
เหลิ่งเซ่าถิงส่ายหน้า : "ไม่นี่ ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันโอเคดี ไม่เคยโอเคเท่านี้มาก่อนด้วย….."
เพราะเธอกลับมาแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีโอกาสได้พบกันก็ตาม ถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดเขามากแค่ไหน แต่เขาก็ได้ฟังเสียงของเธอ ได้เห็นรูปลักษณ์ของเธอในตอนนี้ก็พอแล้ว เขาดิ้นรนมาตลอดสี่ปี ตอนนี้เขาทำสำเร็จไปแล้วส่วนหนึ่ง ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเจี่ยนอี๋นั่วพบเจอเรื่องที่เสี่ยงชีวิตในเรือนจำแบบนั้น เหลิ่งเซ่าถิงก็คงไม่สามารถทำให้เจี่นอี๋นั่วพ้นโทษออกมาได้
บางทีอาจจะต้องรออีกสองปี รอให้ถึงวันที่เหลิ่งเซ่าถิงสามารถควบคุมทุกอย่างได้ แต่เขาทนรอไม่ไหวแล้ว เพียงได้ยินการรายงานเกี่ยวกับเจี่ยนอี๋นั่ว เขาก็อดทนที่จะให้เจี่ยนอี๋นั่วอยู่ในเรือนจำนั้นอีกต่อไปไม่ได้แล้ว
เจี่ยนอี๋นั่วที่อยู่ในร้านอาหารระดับไฮคลาสในตอนนี้ ฟังเหอหลวนเล่อบ่นพึมพำเกี่ยวกับเรื่องของเหลิ่งเซ่าถิงไปด้วย เธอก็อดที่จะไม่ยิ้มไม่ได้ เธอยื่นมือออกมาก่อนที่จะรินเหล้าให้ตัวเอง
เธอเกลียดเหลิ่งเซ่าถิงมั้ยเหรอ? เธอไม่เกลียดหรอก เธอก็แค่ผิดหวังในตัวเขา เธอไม่ได้ผิดหวังที่เหลิ่งเซ่าถิงไม่สามารถปกป้องเธอให้ดีกว่านี้ เธอได้เห็นวิธีต่างๆของตระกูลเหลิ่งมาแล้ว เหลิ่งเซ่าถิงอยากจะทำสงครามกับคนพวกนั้น เขาเลยต้องตัดความสัมพันธ์ของเขากับเธอทิ้ง แล้วตอนนั้นเหลิ่งเซ่าถิงก็ไม่สามารถหาที่ซ่อนที่ปลอดภัยให้กับเธอได้
แม้แต่เพื่อนของเหลิ่งเซ่าถิงที่เขาอยากปกป้องยังถูกฆ่าเลย ในตอนนั้นเหลิ่งเซ่าถิงคงสับสนในความสามารถของเขาเป็นอย่างมาก ดังนั้นเหลิ่งเซ่าถิงจึงตัดความสัมพันธ์ของตัวเองกับเจี่ยนอี๋นั่ว มันเป็นวิธีการปกป้องเจี่ยนอี๋นั่วที่ดีที่สุดในตอนนั้น
เจี่ยนอี๋นั่วเข้าใจเหลิ่งเซ่าถิงอย่างดี เธอเองก็มีคนที่เธออยากปกป้องเหมือนกัน เธอเข้าใจความรู้สึกที่ไม่ว่าจะพาคนที่เธออยากปกป้องไปไว้ที่ไหนก็ไม่วางใจ เพราะกลัวว่าตัวเองจะทำให้เขาลำบากใจ ตั้งแต่ที่เธอมีลูกแล้ว ความรู้สึกแบบนี้มันก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่เจี่ยนอี๋นั่วผิดหวังในตัวของเหลิ่งเซ่าถิงคือการที่เหลิ่เซ่าถิงแต่งงานแล้วไปมีลูกกับหญิงอื่น ในตอนนั้นเจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นยัยหน้าโง่คนนึง เหมือนเมื่อก่อนที่เธอเคยเปิดประตูโรงแรมแห่งนึงแล้วเจอเหลิ่งเซ่าถิงกับกู้เค่อหยิงนอนอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
เธอทำได้ แต่เธอแค่ยอมแพ้ เธออยากเอาเหลิ่งเซ่าถิงจากเบื้องลึกในใจของเธอทิ้งซะ แล้วก็นำเอาหัวใจที่มีบาดแผลของเธอนั้นมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เหลิ่งเซ่าถิงไม่เข้าใจเธอเลย แต่อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าเธอเป็นคนที่แข็งแกร่งมากๆ ในตอนที่เธอเสียพ่อแม่ของตัวเองไปเธอก็สามารถผ่านมันไปได้
ตอนที่เธอต้องอยู่ในเรือนจำเธอก็สามารถผ่านมันไปได้ เสียลูกชายไปคนหนึ่งเธอก็ยังผ่านมันมาได้อีก
ตอนนี้ก็เหลือแค่พยายามที่จะไม่รักคนอย่างเหลิงเซ่าถิงก็เท่านั้น ทำไมเธอจะทำมันไม่ได้ล่ะ?
ทุกอย่างมันควรจะเริ่มใหม่ทั้งหมด