สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 35 ฉันคุ้นเคยกับพล็อตแบบนี้เป็นอย่างดี
บทที่ 35 ฉันคุ้นเคยกับพล็อตแบบนี้เป็นอย่างดี
บทที่ 35 ฉันคุ้นเคยกับพล็อตแบบนี้เป็นอย่างดี
“ผู้หญิงคนไหน? เธอชื่ออะไร?”
“ผมไม่รู้ครับ” สวีต้าหลินตอบอย่างหมดแรง “ผมรู้แค่ว่าเธอแซ่จ้าว ลูกน้องของเธอเรียกเธอว่าคุณจ้าว เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากเลยครับ”
“สวีต้าหลิน ถ้าแกปิดบังความจริง แกจะถูกเพิ่มข้อหาด้วยนะ!” เจ้าหน้าที่หลินตบโต๊ะอย่างแรง เสียงดังก้องสะท้อนในห้องแคบ ๆ ทำให้บรรยากาศน่ากลัวมากขึ้น
สวีต้าหลินร้องไห้ออกมาด้วยความขวัญเสีย “ผมไม่รู้ครับ ผมไม่รู้จริง ๆ! ผมแค่ได้รับเงินมาให้ทำตามที่เธอสั่ง แต่เธอไม่ได้อธิบายอะไรกับผมเลย”
เจ้าหน้าที่หลินสอบปากคำอยู่พักใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลเพิ่มเติม เขาจึงสั่งให้ลูกน้องพาตัวสวีต้าหลินไปขังเอาไว้ ก่อนที่ตัวเองจะเดินออกมาจากห้องสอบสวน
“คุณลู่”
ลู่ฉิวเยว่กับฉินซือหันมองหน้ากัน หญิงสาวถามด้วยความตึงเครียดว่า “เจ้าหน้าที่หลิน สอบปากคำเสร็จแล้วหรอคะ?”
เจ้าหน้าที่หลินพยักหน้า “ไม่ทราบว่าคุณรู้จักผู้หญิงที่ชื่อจ้าวซูซินไหมครับ?”
จ้าวซูซิน?
ลู่ฉิวเยว่ส่ายหน้า เธอไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน และไม่น่าจะมีผู้หญิงรอบตัวเธอคนไหนให้เงินสวีต้าหลินได้มากขนาดนั้น
คนธรรมดาไม่มีทางจ่ายเงินนับพันหยวนเพื่อจ้างใครสักคน เพราะเงินจำนวนหลักพันหยวนในยุคสมัยนี้คือสิ่งที่หาได้ยาก
กลับกลายเป็นว่าฉินซือชะงักไปทันทีเมื่อได้ยินชื่อนั้น จ้าวซูซิน? จะเป็นเธอไปได้อย่างไร?
แต่ถ้าเป็นเธอจริง ๆ ทุกอย่างก็มีคำตอบแล้ว
จ้าวซูซินเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลจ้าว ตระกูลของพวกเขารู้จักกันมาช้านาน จ้าวซูซินจึงเติบโตขึ้นมาพร้อมกับฉินซือ พวกเขาเรียนโรงเรียนเดียวกันตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงมัธยมปลาย
แต่เพราะว่าฉินซือไม่ได้ชอบเธอ ช่วงหลังเขาถึงทำตัวห่างเหินออกมา และทุกครั้งจ้าวซูซินก็มักจะแสดงความไม่พอใจเสมอที่เขาปฏิเสธเธอ แต่ฉินซือไม่คิดเลยว่าจ้าวซูซินจะร้ายกาจถึงกับทำเรื่องเลวร้ายพวกนี้ได้จริงๆ เพียงเพื่อจะแก้แค้นเขา จ้าวซูซินถึงกับยอมทำผิดกฎหมายเพื่อใส่ความลู่ฉิวเยว่เชียวหรือ?
ก่อนหน้านี้ เขาเข้าใจว่าจ้าวซูซินเป็นคนร้ายกาจ แต่ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่านอกจากเธอจะร้ายกาจและไร้สมองแล้ว เธอยังเป็นคนโหดร้ายและเห็นแก่ตัวอีกด้วย
ฉินซือมีสีหน้าเย็นชาขึ้นมาทันที
“ผมรู้ครับว่าเธอเป็นใคร ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ” เขาพูดกับลู่ฉิวเยว่ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ลู่ฉิวเยว่เงยหน้าขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง เขารู้จักผู้หญิงคนนั้นด้วยหรอ?
“ต้องรบกวนคุณฉินมาให้ปากคำหน่อยนะครับ”
…
ในเวลาเดียวกันนี้ ณ บ้านตระกูลจ้าว ข่าวเรื่องการจับกุมตัวสวีต้าหลินรู้มาถึงหูของจ้าวซูซินในที่สุด
ใช้การไม่ได้!
เธอโกรธแค้นจนเตะโต๊ะล้มคว่ำ เสียงโครมครามที่ดังขึ้นทำให้แม่ของเธอที่อยู่ชั้นล่างตกใจ
“เกิดอะไรขึ้น?” หญิงวัยกลางคนวิ่งขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก เธอจ้องมองบุตรสาวด้วยสายตาวิตกกังวล
“แม่จ๋า!” จ้าวซูซินร้องไห้ออกมา น้ำตาไหลด้วยความเศร้า
เธอรักฉินซือมาหลายปีแล้ว เธอคอยวิ่งตามเขาทุกวัน แค่อยากจะให้เขาหันมามองเธอบ้าง
แต่น่าเสียดายที่ฉินซือไม่เคยสนใจเธอเลย ทุกครั้งเขาจะปฏิเสธเธออย่างไร้ความเมตตา
จ้าวซูซินเข้าใจว่าเขาคงยังไม่อยากมีใคร เธอเชื่อมั่นว่าฉินซือจะต้องชอบเธอเหมือนกันอย่างแน่นอน เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้างกายเขาไม่เคยมีผู้หญิงคนอื่นเลยนอกจากเธอ
แต่หลายเดือนที่ผ่านมา ฉินซือมักจะเดินทางไปดูงานที่ชนบททางตอนใต้เสมอ และทุกครั้งเขาก็จะอารมณ์ดีมาก ส่วนจ้าวซูซินรู้สึกเหมือนตกไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง เธอมองดูก็รู้ว่ามีปัญหาเกิดขึ้นแล้ว จึงรีบจองตั๋วเดินทางลงใต้ทันที…
จ้าวซูซินแอบไปสืบดูและได้รู้ว่าฉินซือไปหลงรักผู้หญิงคนหนึ่งจริง ๆ จ้าวซูซินไม่เคยเห็นเขายิ้มอย่างมีความสุขเท่านี้มาก่อน เธอไล่ตามเขามาหลายปี แต่สุดท้ายเขากลับไปไล่ตามผู้หญิงคนอื่น
จ้าวซูซินถึงกับพบว่าฉินซือแอบยืนมองลู่ฉิวเยว่อยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของร้านโร่วเจียโม๋อยู่หลายครั้ง
จ้าวซูซินโกรธจนตัวสั่น เธอตัดสินใจที่จะสั่งสอนบทเรียนนางแพศยาคนนั้น เธอจึงจ่ายเงินว่าจ้างอดีตคู่หมั้นของลู่ฉิวเยว่ที่มีชื่อว่าสวีต้าหลิน
“แต่ฝิ่นเป็นของผิดกฎหมายนะลูก! ลูกไปเอาฝิ่นมาจากไหน? จ้าวซูซิน ทำไมลูกถึงทำแบบนี้!” เมื่อฟังคำสารภาพจากลูกสาวจบ หญิงวัยกลางคนก็คำรามออกมาด้วยความปวดหัว
“แม่คะ หนูแค่โกรธมากไปหน่อย”
จ้าวซูซินได้แต่นั่งกอดเข่าร้องไห้ เสียงร้องไห้ของเธอทำให้ผู้เป็นแม่ใจอ่อนลง จ้าวซูซินเป็นเพียงลูกสาวคนเดียวของพวกเขา ทั้งพ่อและแม่ต่างก็ดูแลเธอราวกับไข่ในหิน ไม่มีทางปล่อยให้เธอทำสิ่งใดผิดกฎหมายเด็ดขาด
หญิงวัยกลางคนลูบแผ่นหลังจ้าวซูซินอย่างแผ่วเบา ก่อนจะพูดว่า “เดี๋ยวแม่จะจัดการเรื่องนี้เอง ลูกไม่ต้องห่วง”
…
“เธอคือลู่ฉิวเยว่ใช่ไหม?”
ในบ่ายวันเดียวกันนี้เอง ลู่ฉิวเยว่กำลังยุ่งอยู่ในร้านเล็ก ๆ ของเธอ ตอนที่เธอได้ยินเสียงเรียก เธอก็หันไปมองด้วยความประหลาดใจ “เรียกฉันเหรอคะ?”
อีกฝ่ายสวมใส่ชุดกระโปรงหรูหรา ใส่เครื่องประดับราคาแพง ท่าทางหยิ่งยโส
คงเป็นพวกคุณผู้หญิงจากตระกูลร่ำรวยสักคน
แม่ของจ้าวซูซินจ้องมองเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ข้างกายด้วยความรังเกียจ เธอนำผ้าเช็ดหน้าออกมาขัดถูเก้าอี้อยู่หลายรอบ ก่อนที่จะนั่งลงไปด้วยสีหน้าขยะแขยงเกินบรรยาย
ลู่ฉิวเยว่ขมวดคิ้ว รู้สึกเหมือนอีกฝ่ายมาที่นี่เพื่อจับผิด
หลังจากนั้น หญิงวัยกลางคนก็ควักธนบัตรปึกใหญ่ออกมาจากกระเป๋าของเธอและวางลงบนโต๊ะเสียงดังปัง
ลู่ฉิวเยว่สะดุ้งโหยง เธอคุ้นเคยกับพล็อตแบบนี้เป็นอย่างดี มันมีอยู่ในนิยายทุกเรื่องที่เธออ่าน แต่เธอไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งตนเองจะต้องมาพบเจอในชีวิตจริง
แต่รอบตัวเธอไม่มีคนรวยระดับนี้ นอกจากฉินซือผู้หญิงคนนี้คงเป็นแม่ของเขาใช่ไหม?
ลู่ฉิวเยว่จ้องมองด้วยความสงสัย แต่ก็คิดว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีหน้าตาเหมือนฉินซือเลย
หรือว่าคุณป้าคนนี้ต้องการจะ…
“เธอรับเงินก้อนนี้ไปซะ ถือว่าเป็นค่าชดเชย แล้วเรื่องฝิ่นที่เจอในร้านเธอก็ถือว่าเลิกแล้วต่อกันไปเถอะ” แม่ของจ้าวซูซินพูดขึ้นมาทันที
ลู่ฉิวเยว่รู้ได้โดยทันทีว่าคุณป้าคนนี้คงมาจากครอบครัวของจ้าวซูซิน
ไม่ต้องสงสัยเลย
ในเมื่ออีกฝ่ายเปิดฉากมาแบบนี้ ลู่ฉิวเยว่ก็ไม่เกรงใจแล้วเช่นกัน “จ้าวซูซินเป็นอะไรกับคุณคะ?”
“ลูกสาว”
ลู่ฉิวเยว่ไม่แปลกใจเลยสักนิด “คุณป้าคะ แบบนี้มันง่ายเกินไปหน่อยไหม ลูกสาวป้าเล่นเอาฝิ่นมายัดในร้านหนู มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยนะ คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ต้องถูกจับกุมแล้วก็ขังคุกค่ะ”
ฝิ่นถือเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย ทางรัฐบาลออกกฎห้ามไม่ให้ใช้ฝิ่นประกอบอาหาร นี่คือความผิดร้ายแรง ลู่ฉิวเยว่ถึงกับถูกตำรวจเรียกตัวไปสอบปากคำ แล้วเธอจะปล่อยให้เรื่องนี้จบง่าย ๆ ได้อย่างไร?
“เรื่องนั้นเธอไม่ต้องยุ่งหรอก แค่รับเงินไว้แล้วอยู่เงียบๆก็พอ ส่วนที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการเอง” แม่ของจ้าวซูซินลุกขึ้นยืนและถือกระเป๋า จากนั้นจ้องมองลู่ฉิวเยว่ด้วยสายตาดูถูกดูแคลน
ถ้าเธอไม่กลัวว่าฉินซือจะเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ เธอไม่มีทางมาที่นี่เด็ดขาด
ลู่ฉิวเยว่อย่างนั้นหรือ?
เด็กสาวบ้านนอกคนหนึ่งจะมาเปรียบเทียบกับลูกสาวสุดที่รักของเธอได้อย่างไร?
ลู่ฉิวเยว่หัวเราะเยาะและจ้องมองตอบกลับไปด้วยแววตาเย็นชา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงรังเกียจว่า “ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่คุณป้าเอาเงินกลับไปเถอะ”
ฉินซือเริ่มสร้างธุรกิจของตัวเองตั้งแต่ยังหนุ่ม เขามีเล่ห์เหลี่ยมทางธุรกิจแพรวพราว และแน่นอนว่านอกจากฉินซือจะเป็นนักธุรกิจที่มีพรสวรรค์แล้ว เขายังมีตระกูลใหญ่คอยหนุนหลังอยู่อีกด้วย
ถ้าจ้าวซูซินได้เป็นคนรักของฉินซือ สถานะของตระกูลจ้าวก็จะยิ่งสูงส่งมากขึ้น แล้วแผนการที่พวกเขาวางเอาไว้ก็จะสำเร็จอย่างราบรื่น
เพียงแต่ว่าการที่คุณนายจ้าวมาที่นี่ด้วยตนเอง ทำให้ลู่ฉิวเยว่ประหลาดใจมากจริง ๆ
ยังมีอะไรที่เธอไม่รู้อีกหรือเปล่านะ?