สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 106 ฉินเหนียนขโมยห่อเครื่องปรุง
บทที่ 106 ฉินเหนียนขโมยห่อเครื่องปรุง
ลู่ฉิวเยว่ส่ายหน้า เธอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “การช่วยเหลือตำรวจรักษาความสงบของสังคมคือหน้าที่ของพลเมืองดีอยู่แล้วค่ะ แต่ว่า…ไม่ทราบว่าใครเป็นคนใส่ร้ายโรงงานของเราเหรอคะ?”
”ขอโทษด้วยครับ พวกเราไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้” นายตำรวจวัยกลางคนปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเย็นชา เนื่องจากตำรวจมีหน้าที่คอยปกป้องผู้ที่แจ้งเบาะแสอยู่เสมอ “แต่คุณลู่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ในเมื่อนี่เป็นการให้ข้อมูลเท็จ เราก็จะสั่งสอนคนที่แจ้งเบาะแสอย่างแน่นอน”
”ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณคุณตำรวจมากนะคะ” ลู่ฉิวเยว่กับฉินซือหันมองหน้ากัน ถึงเธอจะไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน แต่เธอก็พอจะเดาได้แล้วว่าเป็นใคร
ในบรรดากลุ่มคนที่ลู่ฉิวเยว่ไปมีเรื่องขัดแย้งด้วยนั้น มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีเงินมากพอจะจ้างคนงานในโรงงานของเธอให้ทำเรื่องชั่วร้ายเช่นนี้ และเรื่องทั้งหมดนี้ก็เกิดขึ้นในระหว่างที่เธอมีปัญหากับเฉิงซู
เธอไม่รู้เลยว่าฉินเหนียนรู้ตื้นลึกหนาบางในเรื่องนี้มากเท่าไหร่
ลู่ฉิวเยว่ยกมือถูคางอย่างใช้ความคิด
วันต่อมา พ่อของเธอก็ประกาศข่าวดีในตอนบ่ายตามคำแนะนำของลู่ฉิวเยว่
”เนื่องจากช่วงนี้โรงงานของเราโชคไม่ดี ฉันก็เลยสั่งอาหารรอทุกคนอยู่ที่ร้านอาหาร พวกเราไปกินอะไรดี ๆ กันเถอะ”
”ขอบคุณมากครับ เถ้าแก่ ขอบคุณคุณหนูด้วยครับ!” ทุกคนดีใจมากที่ได้ยินว่าตนเองจะได้รับประทานอาหารมื้อพิเศษ พวกเขาจึงยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
กลุ่มคนเดินตรงไปที่ร้านอาหารอย่างเป็นระเบียบ
ลู่ฉิวเยว่เลือกร้านอาหารร้านนี้เองกับมือ มันไม่ใช่ร้านอาหารของเธอ
เธอไม่อยากให้คนพวกนี้รู้ว่าร้านอาหารของเธออยู่ที่ไหน ถ้าคนงานรู้ว่าร้านอาหารของเธออยู่ที่ไหน พวกเขาก็อาจจะมาขออาหารกินโดยไม่ยอมจ่ายเงินเอาได้ และนั่นก็จะทำให้เธอรับมือได้ยาก ร้านอาหารของลู่ฉิวเยว่ในตอนนี้จ้างพนักงานเสิร์ฟเป็นจำนวนมาก จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมาเลี้ยงดูคนงานเหล่านี้แบบฟรี ๆ อีก
”ทุกคนกินได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ!” ลู่ฉิวเยว่สั่งอาหารชุดใหญ่รอคนงานอยู่ก่อนแล้ว โต๊ะกลมตัวใหญ่ภายในร้านมีอาหารหน้าตาน่ารับประทานวางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด
ในช่วงหลัง ไม่ว่าพนักงานในโรงงานของเธอจะทำงานอยู่ในตำแหน่งใด ต่างก็ต้องทำงานหนักในทุก ๆ วัน ลู่ฉิวเยว่จึงอยากจะใช้โอกาสนี้เลี้ยงขอบคุณพวกเขา
กลุ่มคนงานจะเคยรับประทานอาหารหลากหลายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? แม้แต่ตอนตรุษจีน อาหารที่บ้านก็ยังไม่เยอะเท่านี้เลย และส่วนใหญ่มันก็จะเป็นแต่ผัดผักเท่านั้น แต่วันนี้ ไม่ว่ามองไปที่จานอาหารจานใด พวกเขาก็จะพบกับเนื้อสัตว์ชุ่มฉ่ำ รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งสดใสมากขึ้น พวกเขาเอาแต่ชื่นชมสองพ่อลูกตระกูลลู่ที่เป็นเจ้านายที่ดีเหลือเกิน
ลู่ฉิวเยว่ตัดสินใจสั่งสุราชั้นดีออกมาเลี้ยงคนงาน ในเมื่อนี่ก็เป็นตอนบ่ายแล้ว ทุกคนไม่ต้องกลับไปทำงานต่อ ถึงเมาบ้างก็ไม่เป็นไร
ระหว่างที่สังสรรค์กันมาได้ครึ่งทาง พ่อของลู่ฉิวเยว่ก็เริ่มเมาแล้ว สองแก้มเป็นสีแดง ชายวัยกลางคนมึนงง หยิบห่อเครื่องปรุงออกมาจากในกระเป๋า
คนงานในโรงงานเห็นห่อเครื่องปรุงอยู่ในทุกๆ วัน พวกเขาจึงไม่ได้คิดอะไร เพราะอาหารบนโต๊ะน่าสนใจมากกว่า
แต่ดวงตาของฉินเหนียนเป็นประกายขึ้นมาทันที ชายวัยกลางคนวางห่อเครื่องปรุงนั้นลงบนโต๊ะเสียงดังตุบ นั่นหมายความว่าเครื่องปรุงในห่อยังไม่ผ่านการบดละเอียด ถ้าเขาสามารถขโมยมันมาได้…
ฉินเหนียนกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว ครั้งที่แล้ว เฉิงซูบอกว่าถ้าเขาช่วยเอาสูตรลับของลู่ฉิวเยว่มาให้เธอได้สำเร็จ เธอก็จะให้รางวัลเขาอย่างงาม!
นั่นหมายถึงเงินจำนวนมหาศาล!
”วันนี้พวกเราต้องขอบคุณเถ้าแก่จริง ๆ ครับ ในชีวิตผมไม่เคยกินอาหารดี ๆ แบบนี้มาก่อน ผมขอดื่มอวยพรให้กับเถ้าแก่ลู่ก็แล้วกัน ผมขอให้โรงงานของเราจงเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป!” ดวงตาของฉินเหนียนเป็นประกายด้วยความชั่วร้าย เขายกแก้วสุราขึ้นสูงและพูดกับพ่อของลู่ฉิวเยว่ที่อยู่ในอาการเมามายอย่างเห็นได้ชัด
วันนี้เป็นวันดี พ่อของลู่ฉิวเยว่ไม่เคยปฏิเสธการดื่มจากคนงาน เขารับแก้วสุราจากคนงานไปดื่มหมดในอึกเดียวทุกครั้ง
ยังไม่ทันไร พ่อของลู่ฉิวเยว่ก็เมาหลับหมดสติอยู่ที่โต๊ะอาหารนั่นเอง
ฉินเหนียนยังคงยื่นส่งแก้วสุราให้แก่คนอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบรรดาพนักงานหญิงที่คออ่อนอยู่แล้ว หลังจากดื่มเพียงไม่กี่แก้ว พวกเธอก็ฟุบหลับหมดสติไปทันที
เมื่อเห็นว่าบรรดาคนงานที่อยู่ที่โต๊ะทยอยหลับลงไปทีละคน ฉินเหนียนก็พยายามไม่แสดงอาการตื่นเต้นออกมาอย่างสุดความสามารถ ภารกิจของเขาสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง และตัวของเขาก็อยู่ในอาการมึนเมาเช่นกัน
แต่ว่า…ฉินเหนียนแกล้งชำเลืองมองไปที่ลู่ฉิวเยว่ซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาไม่คุ้นเคยกับผู้หญิงคนนี้ จึงไม่มีเหตุผลที่เขาจะไปชวนเธอดื่ม ยิ่งไปกว่านั้น ลู่ฉิวเยว่ยังดูเป็นคนดุร้ายที่ไม่น่าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ถึงเขาจะคุ้นเคยกับเธอ เขาก็คงไม่กล้าถือแก้วสุราเข้าไปหาเธออยู่ดี
แล้วเขาควรทำอย่างไรดีนะ?
ฉินเหนียนพบเจอกับปัญหาเข้าให้แล้ว แผนการที่เขาวางเอาไว้สำเร็จแล้วครึ่งทาง เขาไม่มีทางยกเลิกกลางคันเด็ดขาด
แต่ในจังหวะที่เขากำลังยกมือเกาหัวเพื่อหาเหตุผลที่จะส่งตัวลู่ฉิวเยว่กลับออกไปนั้นเอง อยู่ดี ๆ เธอก็ลุกขึ้น ดวงตาหรี่ปรือ ลักษณะเหมือนคนง่วงนอน
”ฉันเหนื่อยแล้ว ขอตัวกลับไปพักผ่อนก่อนนะ ฉินเหนียน คุณอยู่ที่นี่ พอทุกคนสร่างเมาแล้วก็ช่วยพากลับโรงงานด้วยล่ะ” ลู่ฉิวเยว่โบกมือ โรงงานอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ การส่งคนงานทั้งหมดกลับไปไม่ใช่เรื่องใหญ่ ฉินเหนียนย่อมทำได้เพียงลำพังอยู่แล้ว
”ได้เลยครับ! คุณหนูไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะคอยดูแลพวกเขาให้ดีเอง!” ฉินเหนียนยิ้มออกมา ดวงตาเป็นประกายด้วยความประหลาดใจ
ลู่ฉิวเยว่แอบหัวเราะเยาะอยู่ในใจ แต่สีหน้าของเธอไม่เปลี่ยนแปลง เธอเดินออกมาจากร้านอาหารอย่างช้า ๆ
เมื่อหญิงสาวเดินจากไปแล้ว ฉินเหนียนก็ยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้นสุดขีด เขาหันมองรอบตัว เอื้อมมือไปหยิบห่อเครื่องปรุงขึ้นมาจากโต๊ะอาหาร
ช่างคุ้มค่ากับความพยายามของเขาจริง ๆ!
ฉินเหนียนอยากจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาให้สะใจ
เขาเก็บห่อเครื่องปรุงเข้าใส่กระเป๋าของตนเอง ก่อนจะทำตามคำสั่งของลู่ฉิวเยว่ คอยดูแลและส่งคนงานทั้งหมดกลับโรงงาน
ฉินเหนียนแน่ใจว่าต่อให้ลู่ฉิวเยว่กลับมาอีกครั้ง เขาก็สามารถอ้างได้ว่าห่อเครื่องปรุงหล่นหายไประหว่างทาง และทุกคนก็กำลังเมามาก จะมีใครมาชี้ตัวเขาได้อย่างไร!
ในคืนนั้น เมื่อกลับมาจากโรงงาน เขาก็รีบร้อนไปที่บ้านของเฉิงซูพร้อมกับห่อเครื่องปรุง
”แน่ใจนะว่านี่เป็นห่อเครื่องปรุง?” เฉิงซูจ้องมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้ามตนเองด้วยความสงสัย ลู่ฉิวเยว่เป็นจิ้งจอกสาวเจ้าเล่ห์ จะยอมให้คนอื่นขโมยของสำคัญแบบนี้มาง่าย ๆ ได้อย่างไร?
นี่อาจจะเป็นกับดักก็ได้!
ฉินเหนียนพยักหน้ายืนยันด้วยความมั่นใจ “ใช่แน่นอนครับ ผมเอามาจากตัวลู่ชางหลินด้วยตัวเอง มันจะเป็นของปลอมได้ยังไง?”
เอามาจากตัวลู่ชางหลินอย่างนั้นเหรอ?
เฉิงซูยิ้มกว้างโดยทันที ถ้าอย่างนั้นก็พอมีทางเป็นไปได้ เธอเคยเห็นพ่อแม่ของลู่ฉิวเยว่มาแล้ว พวกเขาเป็นคนจริงใจใสสะอาด ไม่ได้เจ้าเล่ห์มากเหลี่ยมเหมือนลูกสาวเลย
”ห่อเครื่องปรุงห่อนี้มีมูลค่าเท่ากับ 1,000 หยวน!” ฉินเหนียนเห็นดวงตาของหญิงเจ้าของบ้านเป็นประกายระยิบระยับ เขาจึงรีบพูดออกมาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว
หลังจากได้รับห่อเครื่องปรุงสุดล้ำค่า เฉิงซูก็อารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่ง เธอจึงยินดีจ่ายให้เขาอย่างไม่มีปัญหา
”แต่ว่า…” เฉิงซูทำหน้าตาเคร่งเครียดขึ้นมาในทันที “เธอต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเรานะ ห้ามบอกคนอื่นเด็ดขาด รู้ใช่ไหม?”
การขโมยของแบบนี้ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ลูกน้องของเธอเพิ่งจะโดนตำรวจตักเตือนไปเมื่อวานนี้เรื่องที่ให้ข้อมูลเท็จ ถ้าตำรวจรู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเธออีก เฉิงซูคงไม่สามารถรอดพ้นความผิดไปได้ง่าย ๆ
ฉินเหนียนหัวเราะออกมาด้วยความดีใจเพราะได้รับเงิน 1,000 หยวน ดังนั้นเขาจึงสาบานว่าตนเองจะรูดซิปปากให้สนิท “ไม่ต้องห่วงเลยครับ ผม ฉินเหนียน ไม่เคยทำงานผิดพลาดอยู่แล้ว ต่อให้ลู่ฉิวเยว่รู้เรื่องนี้ ผมก็จะยอมพลีชีพรับผิดแทนคุณเอง!”
เฉิงซูหัวเราะออกมาด้วยความเย็นชา “งั้นก็ดีแล้ว!”
เธอดูถูกผู้ชายคนนี้เป็นอย่างยิ่ง เขาหลอกง่ายไม่ต่างจากเด็กสามขวบ ผิดกับลู่ฉิวเยว่ที่เจ้าเล่ห์ราวกับนางจิ้งจอกพันปี
ทันทีที่ฉินเหนียนเดินทางกลับไป เฉิงซูก็แทบรอไม่ไหวแล้วที่จะเอาห่อเครื่องปรุงไปที่โรงงาน