สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 181 ความโกรธของราชางู
บทที่ 181 ความโกรธของราชางู[รีไรท์]
บทที่ 181 ความโกรธของราชางู[รีไรท์]
ก่อนหน้านี้ ราชางูเซียงซีเห็นด้วยตาของตัวเองว่าใบไม้ที่วนรอบตัวฉู่เหินค่อย ๆ ลอยมาหาตนเองอย่างช้า ๆ ร่างกายของเขานั้นเปราะบางอยู่แล้ว ทำให้ใบไม้เหล่านี้สามารถทะลุร่างของมันได้อย่างง่ายดายไร้อุปสรรค
1 แผ่น, 10 แผ่น, 100 แผ่น, 1000 แผ่น อะไรที่เรียกว่าพันมีดหมื่นแล่* ตอนนี้ราชางูเซียงซีเองก็กำลังมีประสบการณ์แบบนั้นอยู่เหมือนกัน ยิ่งมีใบไม้ทะลุร่างของเขาไปมากเท่าไหร่ ความเจ็บปวดในจิตใจก็ทำให้เขารู้ว่าวิธีการลงโทษแบบพันมีดหมื่นแล่เป็นอย่างไร
แม้ว่าเขาจะหลับตาลงไปอย่างอ่อนแรง แต่ในใจของราชางูก็ยังคงกู่ร้องออกมา “ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้…”
ไม่มีใครอธิบายได้ทั้งนั้น ราชางูเซียงซีได้แต่โทษตัวเอง เขาไม่เข้าใจวิถีแห่งวรยุทธ์ เมื่อมีการเรียนรู้วิชายุทธ์ก็จะมีคลื่นพลังแม่เหล็กรอบตัวพร้อม ๆ กับแก๊สมากมายที่ไหลผ่านออกมา และนี่ก็นับเป็นสิ่งที่สวรรค์และโลกประทานมาเพื่อปกป้องผู้ที่รู้แจ้งเท่านั้น!
บอกได้เลยว่าบางส่วนของสนามแม่เหล็กนี้ถูกก่อตัวขึ้นด้วยพลังแห่งสวรรค์และโลก ส่วนเล็ก ๆ เองก็มาจากส่วนหนึ่งของพลังฉู่เหินด้วยเช่นกัน ดังนั้นราชางูเซียงซีจึงต้องแพ้พ่ายไป ช่างน่าสังเวชจริง ๆ ถ้าเขาบอกความจริงไปก็คงจะทำให้อีกฝ่ายโมโหมากเลยทีเดียว
หลังจากที่ตัวของราชางูเซียงซีถูกผ่าออก พิษของเขาก็เริ่มกระจายออกมา เมื่อเห็นแบบนั้นเจ้าแมวนพเวทย์ก็กระโดดด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับขยายตัวมันเองดูดกลืนพิษทั้งหมด
พิษของราชางูเซียงซีถูกดูดกลืนไปจนร่างกายของเจ้าแมวเริ่มแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก ครั้งที่แล้วมันยังไม่มีพิษในร่างกายเลยตอนนี้มันจึงพอใจเป็นที่สุด ก่อนที่มันจะมองไปยังสัตว์อีกสองตัวที่อยู่รอบ ๆ อย่างอวด ๆ จากนั้นก็ค่อยหมุนตัวและนอนหลับไป
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ฉู่เหินก็ตื่นจากการรู้แจ้งของพลังกิเลน แต่พอเขาลืมตาขึ้นมา ชายหนุ่มก็เห็นว่าราชางูเซียงซีนั้นตายไปแล้ว ซึ่งเมื่อได้ยินคำอธิบาย เขาก็ต้องถอนหายใจออกมา
หลังจากนั้นฉู่เหินก็เก็บแมวและหุ่นเชิดฉู่เฟิงเข้าสู่แหวนของเขา เขาได้นำทั้งเสือและแรดไปจากที่นี่พร้อมกันด้วย การตายของงูตัวนี้ทำให้ฉู่เหินขจัดความเจ็บปวดใจส่วนหนึ่งออกไปได้ แต่เขาก็ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เลวร้ายกว่ากำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เพราะราชางูคนก่อนเองก็เป็นอาจารย์ของมัน แถมยังได้ข่าวการตายของราชางูคนนี้แล้วด้วย
…
ลึกเข้าไปในภูเขาอู๋หลิง ทางตะวันตกของหูหนาน ที่ป่าเขียวขจีอันบริสุทธิ์ มีวัชพืชอยู่ทุกหนทุกแห่งแถวนี้และมีกระท่อมหญ้า 3 อันเล็ก ๆ ในพุ่มวัชพืช ซึ่งหากมีใครผ่านมาเห็นคนผู้นั้นจะต้องหวาดกลัวแน่นอน
รอบ ๆ กระท่อมทั้งสามนี้มีงูพิษอยู่ทุกแห่ง ภายใต้ชายคาของหญ้าและในต้นไม้มีพวกมันอยู่เกือบทุกที่
ถ้ามองไกลออกไปจะเห็นชายแก่ผมสีเทาหนวดขาวนั่งอยู่กลางกระท่อมนี้ ท่าทางของเขาดูใจดีแต่มีงูล้อมรอบอยู่แบบนี้ ถ้าคนธรรมดาเห็นฉากนี้พวกเขาคงจะกลัวจนตายแน่ ๆ!
ชายแก่นั่งขัดสมาธิพลางลืมตาขึ้น ความโกรธก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา “แกกล้ามากที่มาเอาชีวิตลูกศิษย์ฉันไป! ถึงฉันจะไม่รู้ว่าแกเป็นใคร ไม่รู้ว่าแกอยู่ไหน แต่ฉันจะตามล่าแก ต่อในแกหนีไปจนสุดหล้าฟ้าเขียว ตาแก่คนนี้จะตามจับแกมาฉีกเป็นชิ้น ๆ!”
ชายชราพูดพลางปล่อยลมหายใจพิษออกมา สัตว์ร้ายที่อยู่ภายในตัวเขาช่างน่ากลัวยิ่ง เกรงว่าแม้แต่พลังของขั้นเต๋าคนอื่น ๆ ต้องสั่นคลอนต่อเขาคนนี้!
…
ทางฉู่เหินนั้น เขาไม่รู้แม้แต่น้อยว่าตัวเองได้ไปยั่วยุให้ราชางูเฒ่าที่แสนน่ากลัวเข้าเสียแล้ว ตาแก่คนนี้มีพลังมากมายที่ไม่ใช่แค่ควบคุมพิษ แต่เขายังมีวิชาที่เก่งกาจเสียจนทำให้ฉู่เหินเทียบไม่ติด แม้แต่วิชากิเลนของเขาก็ยังไม่สามารถเทียบได้
โดยไม่ทันรู้ตัว ฉู่เหินก็ออกมาจากภูเขานั่นแล้ว ตอนนี้เขากำลังจะไปที่เมืองหยุนหลิงเพื่อพาพ่อของซวี่เหลียงกลับมาด้วยวิธีใดก็ได้ ทว่าตอนที่เขากำลังจะกลับไป ทว่าเจ้าแรดเขาเดียวและเสือตัวใหญ่กลับเลือกที่จะไม่ตามไปด้วย เห็นแบบนั้นฉู่เหินก็เริ่มสงสัย
หลังจากพูดคุยกันครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็เข้าใจความตั้งใจของสัตว์ทั้งสอง มันมีที่ซึ่งห่างออกไปหลายร้อยไมล์ ในเทือกเขาที่มีพรมแดนติดกับมณฑลหูหนานทางตะวันตก สัตว์ทั้งสองนั้นพบสุสานโบราณโดยไม่ได้ตั้งใจ และจากสุสานอันยิ่งใหญ่นี้ พวกมันรู้สึกถึงบรรยากาศที่แข็งแกร่งของพลังดวงดาว แต่มีกับดักอยู่นับไม่ถ้วนในสุสานนี้และสัตว์ทั้งสองเพียงก้าวเข้าไปไม่กี่ก้าวเท่านั้นและถอยกลับออกมา
ดังนั้นทั้งสองจึงหวังให้ฉู่เหินไปสำรวจสุสานนี้พร้อมกัน แต่ตอนนี้ฉู่เหินเดินกลับมีธุระต้องไปทำด้านนอก ไม่ว่าจะยังไงก็ตามพวกมันก็ต้องรอให้ฉู่เหินทำธุระส่วนตัวให้เสร็จก่อนถึงจะไปสำรวจด้วยกันได้
จริง ๆ แล้วเจ้าสองตัวนี้ก็อยากจะไปพรัอมกับฉู่เหิน แต่ว่าเขามีเรื่องที่ต้องสะสางมากมาย ดังนั้นพวกมันจึงเลือกที่จะฝึกฝนตนเองอยู่ที่นี่จนกว่าจะเข้าสู่ระดับที่เก่งกาจกว่านี้ได้
ถ้าพวกมันเก่งขึ้นกว่านี้ นั่นหมายความว่าพวกมันจะมีโอกาสสำรวจสุสานได้สำเร็จมากขึ้น เจ้าเสือแบกฉู่เหินไปส่งที่ตีนเขาและโบกมือลา จากนั้นฉู่เหินก็เดินทางเข้าสู่เขตเมืองหลวง
เมืองหยุนหลิงนั้นไม่ใช่แค่มีทิวทัศน์สวยงาม แต่ก็ยังมีทรัพยากรมากมาย นี่เป็นสถานที่ที่ดี ทว่าสภาพอากาศที่นี่ตอนหน้าร้อนมันค่อนข้างจะทนไม่ไหวเหมือนกัน และนั่นก็ทำให้เม็ดเหงื่อผุดไหลตามใบหน้าของฉู่เหินระหว่างที่เดินทาง
ฉู่เหินมาถึงเขตชุมชนและได้รับสายจากซ่างกวงชิงเฟิง เสียงปลายสายบอกมาว่าพ่อของซวี่เหลียงได้รับการช่วยเหลือแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อน สภาพของเขาค่อนข้างจะแย่ มีทั้งกระดูกหักมากมายและเส้นเอ็นฉีกขาด ฟังดูร้ายแรงมากทีเดียว หากแต่ฉู่เหินกลับไม่ค่อยเป็นกังวลเท่าไหร่นัก
ฉวนหยุนหลิง คือ ศาสตราจารย์เฉพาะทางด้านจิตเวชที่เก่งกาจที่สุดของที่นี่ ถ้าเป็นเขาแล้วละก็ ยังไงก็รักษาให้หายได้แน่ แต่จะหายดีตอนไหนก็ไม่มีใครตอบได้ทั้งนั้น
ฉู่เหินคิดว่าโรคทางจิตไม่มีทางหายได้ในเวลาอันสั้น เขาได้แต่ถอนหายใจก่อนที่จะโบกรถเพื่อไปยังโรงพยาบาล แต่ทว่า ก่อนที่เขาจะขึ้นรถไปก็มีเสียงเรียกหาเขา!
“พี่ชายคนนั้นน่ะ ช่วยหยุดสักครู่ได้ไหมคะ!”
เมื่อมองไปเขาก็พบกับเด็กสาวอายุประมาณ 18-19 ปี อายุน่าจะใกล้เคียงกับหวงลี่ลี่ แต่เด็กสาวคนนี้สวยและน่ารักกว่ามาก อีกทั้งยังดูมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมทรงหางม้าที่ทำให้เธอดูเต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉง
“สาวน้อย เธอเรียกฉันเหรอ?” ฉู่เหินถามด้วยความประหลาดใจ เพราะเขารู้ว่าเขาและอีกฝ่ายไม่รู้จักกันเลย
“พี่ชาย เราคุยกันหน่อยได้ไหมคะ?” เด็กสาวถามราวกระซิบ ทำอย่างกับว่าเรื่องที่จะคุยนั้นไม่อาจเปิดเผยออกไปได้
“ได้สิ แล้วพวกเราจะคุยอะไรกันล่ะ” ฉู่เหินกล่าวขอโทษแท็กซี่ออกไปก่อนที่จะยิ้มให้กับเธอ
“พี่ชาย ฉันรู้ว่าพี่มีคำสาปของราชางูอยู่ มันอันตรายมากถ้าไม่เอามันออกตอนนี้! ไม่งั้นราชางูคนก่อนเขาจะต้องมาตามเอาชีวิตพี่ชายแน่ๆ” เด็กสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
ฉู่เหินตัวสั่นที่ได้ยินประโยคนี้ เขาเชื่อในสิ่งที่เด็กคนนี้พูดแน่ ๆ เพราะไม่มีทางที่ใครในที่นี้จะรู้ว่าเขาไปจัดการราชางูมาหรอก
“เธอเป็นใครน่ะ? ทำไมถึงรู้เรื่องนั้น?” ฉู่เหินมองเด็กสาวด้วยความระแวง ถ้าอีกฝ่ายเล่นตุกติกเขาจะได้ใส่ไม่ยั้งมือเลย
“พี่ชาย ไม่ต้องห่วงไปหรอก พี่อาจจะไม่รู้ว่าราชางูน่ะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม หนึ่งดีและหนึ่งเลว แต่สุดท้ายแล้วพวกมันก็เป็นปีศาจอยู่ดี! ดังนั้นพวกเราจะต้องไปกำราบพวกมัน!”
*พันมีดหมื่นแล่(千刀万剐) เป็นวิธีการประหารของชาวจีนสมัยโบราณ ซึ่งประหารโดยค่อยแล่เนื้อนักโทษออกเป็นชิ้นๆ