สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 41
วันเวลาผันผ่านทุกชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป หยางจื่อถงออกเดินทางไปยังเมืองฉางเจิ้งพร้อมกับทหารจำนวนหนึ่ง เพื่อไปทำหน้าที่เป็นรั้วของชาติ ซึ่งตอนนี้ที่นั่นกำลังมีเรื่องขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่ของทางการและชนกลุ่มน้อย ส่วนเหม่ยหวาก็กลับมาทำไร่ทำสวนช่วยบิดามารดา ใช้ชีวิตเป็นสตรีบ้านนอกเหมือนเช่นเคย หากแต่ช่วงหลังมานี้มีคุณชายจากสกุลไห่เทียวมาขายขนมจีบที่บ้านอยู่บ่อย ๆ เพื่อหวังว่าจะให้นางใจอ่อนยอมเปิดใจให้ อาศัยช่วงจังหวะที่สหายรักออกไปทำหน้าที่ยังต่างเมือง
ช่วงหลังมานี้เหม่ยหวาหน้ามืดบ่อยผิดปกติ นางมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เมื่อได้กลิ่นอาหารที่เคยชอบกลับรู้สึกเหม็น รู้สึกว่าตัวเองมีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น ความผิดปกตินี้ทำให้ผู้เป็นมารดาเริ่มสงสัย เพราะนางเคยมีอาการเช่นนี้เมื่อครั้งที่ตั้งท้องลูกทั้งสองคน
“เหม่ยเหมย เจ้าเข้าไปพักผ่อนในบ้านก่อนเถอะ สีหน้าเจ้าดูไม่ค่อยดีเลย” หานลู่ซวนวางมือจากการกำจัดต้นวัชพืชจากไร่ข้าวโพด เดินเข้ามาหาบุตรสาวที่กำลังนั่งเอาหมวกพัดที่ใบหน้าเพื่อระบายความร้อน หลังจากรู้สึกหน้ามืดจะเป็นลมจนต้องนั่งพัก
“นั่งพักสักประเดี๋ยวคงจะหายเจ้าค่ะท่านแม่”
“ช่วงนี้เจ้าไม่สบายบ่อย แม่ว่าเจ้าไปหาหมอในเมืองดีไหม”
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านแม่ เปลืองเงินเปลืองทองเปล่า ๆ ข้ายังไหว”
“แม่ว่าอาการของเจ้ามันเหมือน…”
“เหมือนอะไรเจ้าคะ”
“เหมือนคนกำลังท้อง รอบเดือนเจ้ายังมาอยู่ใช่ไหม”
“รอบเดือนข้า…”
คำกล่าวของมารดาทำให้นางอึ้งไปชั่วขณะ นางไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนว่ามันมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ พยายามนึกว่ารอบเดือนของนางมาครั้งล่าสุดตอนไหน จริง ๆ ด้วยรอบเดือนไม่มาตั้งแต่วันนั้นที่นางเป็นของนายท่าน เมื่อคิดว่าใช่เป็นแน่แท้ใบหน้านางยิ่งซีดเซียวขึ้นไปอีก เงยหน้าสบตามารดาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ นางกำลังจะร้องไห้ที่ทำให้มารดาต้องผิดหวังและเสียใจ
“เป็นอย่างที่แม่เข้าใจใช่ไหมเหม่ยเหมย”
“เจ้าค่ะ ฮึก รอบเดือนข้าไม่มาจริง ๆ ข้าผิดไปแล้วท่านแม่ ได้โปรดลงโทษข้าด้วยเถอะเจ้าค่ะ”
“แม่จะลงโทษเจ้าทำไมกัน การที่เจ้าจะมีลูกมันเป็นเรื่องดีต่างหากเล่า”
“แต่ข้าทำให้ท่านพ่อท่านแม่ต้องอับอายขายขี้หน้า หากคนอื่นรู้ต้องนินทาบ้านเราเสีย ๆ หาย ๆ ข้าไม่อยากให้ท่านพ่อกับท่านแม่ต้องเสียใจเพราะข้า ฮือ ๆ”
“ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง พ่อกับแม่ไม่สนใจคำพูดของคนอื่น ขอแค่เจ้าอย่าวิตกจนเกินไป รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีเพราะตอนนี้เจ้าไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกแล้วนะ”
“ข้าขอโทษ ฮือ ๆ ข้าผิดเองที่ใจง่ายให้ท่านแม่ทัพ”
“อย่าโทษตัวเองเลยเหม่ยเหมย หากเจ้าอยากให้ท่านแม่ทัพรับผิดชอบ แม่จะพาเจ้าไปพบฮูหยินที่จวน ท่านเป็นคนจิตใจดีมีเมตตา แม่เชื่อว่าท่านจะรับเจ้าเข้าจวนในฐานะสะใภ้แน่นอน”
“ไม่เจ้าค่ะท่านแม่ ข้าจะไม่กลับเข้าไปในจวนนั้นอีก แม้ว่าฮูหยินจะยอมต้อนรับข้ากับลูก แต่ถึงอย่างไรวันหน้าหากท่านแม่ทัพกลับมาแล้วคงต้องแต่งกับคุณหนูหมิงซวนอยู่ดี จะต้องมีทายาทสืบสกุลด้วยกัน พอถึงตอนนั้นข้ากับลูกก็จะเป็นเพียงแค่ส่วนเกินเท่านั้น
“หากมันเป็นการตัดสินใจของเจ้าแม่ก็ไม่ขัด เราจะช่วยกันเลี้ยงดูเด็กคนนี้ให้เติบโตขึ้นมาเป็นคนเก่งและดีนะ”
“ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้เกิดเป็นลูกของท่านพ่อท่านแม่ ฮือ ๆ”
เหม่ยหวารีบโผเข้ากอดมารดาด้วยความซาบซึ้งใจ ในวันที่นางมีปัญหาในชีวิตมากมาย คนที่คอยอยู่ข้าง ๆ ไม่เคยห่างไปไหนก็คือคนในครอบครัว หากไม่มีพวกท่านป่านนี้นางคงจะนั่งทุกข์ใจไม่รู้จะหาทางออกให้กับชีวิตอย่างไรดี
“ข้ายินดีที่จะรับเด็กในท้องเจ้าเป็นลูก”
เสียงของผู้มาใหม่ทำให้คนที่กำลังสวมกอดกันรีบผละตัวออกมา หันไปมองยังต้นเสียงด้วยความตกใจ
“คุณชายซุนไห่!”
“ข้าได้ยินหมดแล้ว ข้ายินดีด้วยนะเหม่ยเหมย”
“ท่านไม่รังเกียจข้างั้นหรือเจ้าคะ ข้ามิใช่หญิงสาวพรหมจรรย์ แถมยังมีพันธะติดตัวมาด้วย หากชาวบ้านรู้เข้าคงเอาไปนินทาเสีย ๆ หาย ๆ นะเจ้าคะ”
“ข้าไม่เคยรังเกียจเจ้า ข้ายินดีรับผิดชอบชีวิตเจ้ากับลูกนะเหม่ยเหมย”
“มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกเจ้าค่ะ ข้ามิอาจเอาเปรียบท่านได้ สตรีที่คู่ควรกับท่านมีมากมายนัก แล้วทำไมท่านถึงไม่มองพวกนาง ข้าไม่มีอะไรที่คู่ควรกับท่านเลยสักนิด”
“ข้าไม่สน ขอแค่เป็นเจ้าข้าก็พอใจแล้ว”
“กลับไปเถอะเจ้าค่ะคุณชาย เรื่องของเรามันไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว ข้ากับลูกขอใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างสงบ หากท่านรักข้าขอร้องอย่ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตข้าอีก ข้าขอร้อง”
“โธ่ เหม่ยเหมย ทำไมเจ้าใจร้ายกับข้าถึงเพียงนี้” สีหน้าซุนไห่เศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด ความพยายามทั้งหมดที่ทำมามันไม่เคยได้ผลแม้แต่น้อย นางผู้นี้จิตใจแข็งแกร่งดุจหินผา เด็ดเดี่ยวหามีผู้ใดเปรียบได้ เคยคิดว่าหากไม่มีหยางจื่อถงจะเอาชนะใจนางได้แต่ไม่ใช่เลย เขายอมแพ้แล้วจริง ๆ ยอมความเด็ดเดี่ยวของนางผู้นี้
“หากข้ายอมรับมิตรไมตรีจากท่านนั่นสิถึงเรียกว่าใจร้าย ข้าอยากให้ท่านมีฮูหยินที่คู่ควร พร้อมจะเชิดหน้าชูตาตระกูลซุน สักวันท่านจะเข้าใจข้าเจ้าค่ะคุณชาย”
“ข้าคงไม่อาจเปลี่ยนใจเจ้าได้จริง ๆ สินะ ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องกลับแล้ว ดูแลตัวเองให้ดีนะข้ายังเป็นห่วงเจ้าเสมอ”
“ขอบพระคุณเจ้าค่ะคุณชาย ขอให้คุณชายโชคดีเจ้าค่ะ”
สิ้นบทสนทนาเหม่ยหวาก็ก้มหน้าร้องไห้จนมารดาต้องรีบดึงตัวนางมาสวมกอดเพื่อปลอบใจ ส่วนซุนไห่ก็เดินคอตกออกไปจากตรงนั้น รู้สึกสิ้นหวังกับชีวิตเหลือเกิน บัดนี้เขาเข้าใจความรู้สึกของสหายเป็นอย่างดีแล้ว ความเจ็บปวดจากความรักที่ไม่สมหวังนั้นมันเป็นอย่างนี้เอง