สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย - บทที่ 1096 ตอนพิเศษ (3)
บทที่ 1096 ตอนพิเศษ (3)
บทที่ 1096 ตอนพิเศษ (3)
“นางเป็นคนของข้า” ลู่ฉาวจิ่งเอ่ย “พวกท่านคิดจะฉุดหญิงสาวชาวบ้านหรือ?”
“ถุย! การแต่งงานเป็นคำสั่งของบิดามารดา วาจาของแม่สื่อ ข้าเป็นแม่นาง ข้าบอกว่าจะแต่งนางให้ผู้ใดก็แต่งให้ผู้นั้น นอกจากนี้ คหบดีจางส่งสินสอดมาเมื่อครึ่งเดือนก่อน ข้าก็รับปากแล้ว เจ้านับเป็นอะไร? ทาสผู้หนึ่งที่นางซื้อมา หน้าตาอัปลักษณ์กลับวาดฝันเสียสวยหรู!”
“ข้าแต่งให้เขาแล้ว” หลิวจิ่วจู๋เอ่ย “พวกท่านทำเช่นนี้จะถูกฟ้อง”
“ได้สิ เช่นนั้นก็ไปฟ้อง” คหบดีจางมองหลิวจิ่วจู๋อย่างหื่นกระหาย “นายอำเภอเป็นพี่ชายภรรยาของข้า ข้าอยากจะรู้นักว่าเขาจะช่วยเจ้าหรือช่วยข้า”
“สถานการณ์ในยามนี้ ราชสำนักตรวจสอบเข้มงวด หากนายอำเภอฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของตน ไม่รู้ว่าตำแหน่งนายอำเภอนั้นของเขาจะรักษาไว้ได้หรือไม่?” ลู่ฉาวจิ่งเอ่ย “ผู้ตรวจการกระทำการยุติธรรมไม่เห็นแก่หน้าใคร คิดว่าคงยินดีที่จะช่วยเราจัดการคดีนี้”
“เช่นนั้น ข้าก็จะทำให้พวกเจ้าออกจากประตูนี้ไปไม่ได้” คหบดีจางโบกมือ จิตสังหารฉายชัดอยู่ในแววตา
ทาสผู้หนึ่ง คิดจะฆ่าก็ฆ่าได้
ที่นี่สวรรค์สูงเกินเอื้อมฮ่องเต้ห่างไกล ถึงแม้จะฆ่าทาสไปสักสองสามคน คิดจะลบร่องรอยก็ง่ายดายยิ่ง
คหบดีจางเป็นคนสำคัญของที่นี่ เรื่องพรรค์นี้ก็ทำมาไม่น้อย ตอนนี้เขาไม่สนใจจะพูดพร่ำเพรื่อ สั่งให้พวกอันธพาลจัดการสวะที่นอนอยู่บนเตียงทันที
อันธพาลหลายคนนั้นเดินเข้าไปหาลู่ฉาวจิ่ง
คนเหล่านี้ช่วยคหบดีจางฆ่าคนมาไม่น้อย แต่ละคนล้วนเลวทรามต่ำช้า
หลิวจิ่วจู๋ยืนขวางหน้าลู่ฉาวจิ่ง “พวกเจ้ามีอะไรก็มาหาข้า ไม่เกี่ยวกับเขา”
ถึงตอนนี้ หญิงสาวเห็นแล้วว่าการต่อต้านของตนช่างไร้ประโยชน์ ไม่อยากดึงลู่ฉาวจิ่งเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างมากไปกับพวกเขาก็คงจบเรื่อง ส่วนในภายหน้า…
นางไร้หนทาง
คหบดีจางเปลี่ยนสตรีไปมากมายหลายคน การตายของสตรีเหล่านั้นช่างน่าเวทนา หากนางแต่งไป คงไม่อาจมีชีวิตรอด ยังไม่สู้ตายอย่างไร้มลทิน
ลู่ฉาวจิ่งดึงหลิวจิ่วจู๋ไปด้านข้าง ครั้นอันธพาลเหล่านั้นเหวี่ยงหมัดลงมา เขาก็ต่อยออกไป
พลั่ก!
ภาพนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป กระทั่งเขาจัดการกับอันธพาลคนแรกแล้ว อันธพาลคนที่สองและคนที่สามก็ตามไปติด ๆ
พลั่ก! พลั่ก!
อันธพาลผู้หนึ่งถูกต่อยเข้าที่หน้าอกหนึ่งที ถึงกับกระอักเลือดออกมา
อันธพาลอีกผู้หนึ่งมีเสียงกระดูกลั่นดังกร๊อบ แขนหักในทันที
คหบดีจางตกตะลึง “พวกเจ้าเข้าไปพร้อมกัน”
อันธพาลที่เหลือเริ่มหวาดกลัวเล็กน้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม พวกเขาติดตามคหบดีจาง กินดีอยู่ดีมามาก หากไม่ฟังคำสั่งเขา ภายหน้าเกรงว่าจะไม่มีชีวิตที่ดีได้อีก
ในยามนี้จำต้องกัดฟันทนแล้ว
ขาของลู่ฉาวจิ่งบาดเจ็บสาหัสจึงลุกจากเตียงไม่ได้
มิฉะนั้น คนเหล่านี้คงถูกเขาโยนออกไปตั้งนานแล้ว
เพียงแต่แม้จะเป็นเช่นนั้น ฝีมือของเขาก็ยังทำให้คนพวกนี้หวาดกลัว
หลิวจิ่วจู๋มองลู่ฉาวจิ่งด้วยความชื่นชม
ร้ายกาจยิ่งนัก!
นางซื้อลู่ฉาวจิ่งมา ล้วนเป็นเพราะเห็นว่าเขาน่าสงสารเกินไป ถูกกักขังอยู่ในกรง ทั้งยังจะถูกขายไปเป็นทาสในทะเลทราย
หยิงสาวนึกไม่ถึงว่าจะซื้อผู้ช่วยชีวิตคนหนึ่งมาได้
หลิวจิ่วจู๋รู้สึกว่าตนโชคดีไม่เลวขึ้นเรื่อย ๆ การซื้อลู่ฉาวจิ่งมานับว่าเป็นการกระทำที่ฉลาดที่สุด เพราะฝีมือเขาดีเพียงนั้น หากเขาคิดจะทำร้ายนาง เดิมทีนางก็ไม่สามารถต่อต้านได้เลย
“พวกท่านยังไม่ไปอีกหรือ?” หลิวจิ่วจู๋เริ่มมั่นใจขึ้นมา เสียงที่กล่าวออกไปก็ดังขึ้นตามไปด้วย
อวี้ซื่อหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว
นังของเสียเงินผู้นั้น นึกไม่ถึงว่าจะซื้อยอดฝีมือกลับมา
นางถอยไปข้างหลัง พยายามทำให้ตัวเองกลายเป็นธาตุอากาศ
ลู่ฉาวจิ่งหยิบเทียนที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมา มันเป็นเทียนที่เขาขว้างใส่นางเมื่อวานนี้ ชายหนุ่มขว้างมันไปทางอวี้ซื่อ
อวี้ซื่อถูกโจมตีเข้าที่กลางอก พลันส่งเสียงเจ็บปวดออกมา
“โอ๊ย…”
ร่างกายทรุดล้มลงไปข้างหลัง ตกลงไปในแอ่งโคลนพอดิบพอดี
“ฟังให้ชัดเจน นางเป็นภรรยาข้า หากพวกเจ้ามารังควานนางอีก นั่นจะไม่ใช่เพียงโดนทุบตีแล้ว พอดีข้าไม่ได้ฆ่าคนมานาน พวกเจ้าลองดูได้ว่า ดาบของพวกเจ้าหรือดาบของข้าจะเร็วกว่ากัน”
ท่าทีของลู่ฉาวจิ่งยามนี้…
คิ้วหนา ดวงหน้าซีดเซียว ยามจงใจโหดเหี้ยมขึ้นมายังมีเค้าของฆาตกรฆ่าคนตาไม่กะพริบอยู่มากจริง ๆ
ดังคำกล่าวที่ว่า ‘ตัดสินคนจากหน้าตา’ หน้าตาเขาในตอนนี้ มีรังสีอำมหิตหลายส่วนจริง ๆ
คหบดีจางจ้องมองลูกน้องไร้ประโยชน์ของตน จากนั้นจึงหันกลับไปมองอวี้ซื่อด้วยความโมโห
“หากข้าเป็นท่าน ตอนนี้ควรให้นางคืนสินสอดสอดกลับไป ไม่เช่นนั้น คนไม่ได้ เงินก็จะไม่ได้” ลู่ฉาวจิ่งกล่าวเสียงเย็น “คนผู้นี้เป็นของข้า คิดจะชิงคนไปจากข้า นั่นก็ต้องดูว่าชีวิตท่านยืนยาวพอหรือไม่แล้ว”
“คหบดีจาง ท่านอย่าไปฟังเขาเลย เขาก็แค่คนพิการผู้หนึ่ง…” อวี้ซื่อเห็นสีหน้าไม่ปรานีของคหบดีจาง จึงมองเขาที่กำลังเดินเข้ามาหาด้วยความหวาดกลัว “นายอำเภอเป็นพี่ชายภรรยาของท่าน ท่านให้นายอำเภอจับเขาไป”
“คหบดีจางเป็นคนฉลาด ควรกระจ่างแจ้งว่าการล่วงเกินผู้ที่ไม่ควรล่วงเกินเพื่อเงินเล็กน้อยเพียงสิบตำลึงเป็นเรื่องได้ไม่คุ้มเสีย ยิ่งกว่านั้น ผู้ใดรับเงินไป ท่านก็ควรไปทวงคืนจากคนผู้นั้น”
คหบดีจางกระชากเสื้อผ้าของอวี้ซื่อ
“เงินเล่า?”
“ข้า ข้า ข้าไม่มีเงิน” อวี้ซื่อตื่นกลัว เอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกัก
“ได้ยินว่าลูกชายเจ้าแต่งสตรีผู้หนึ่ง เช่นนั้นก็นำนางมาชดใช้!” คหบดีจางเอ่ยอย่างเกรี้ยวกราด “พวกสวะ ไปจับคนที่บ้านยายแก่ผู้นี้ประเดี๋ยวนี้”
“ไม่ได้! ไม่ได้นะเจ้าคะ!” อวี้ซื่อตกใจ “นั่นเป็นลูกสะใภ้ของข้า”
ตอนนี้คหบดีจางกำลังโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ เขาจะสนใจความเป็นความตายของนางได้อย่างไร? เดิมทีเขาก็เป็นคนใจคอโหดเหี้ยม บัดนี้กลับต้องเผชิญกับเคราะห์ร้าย ย่อมต้องใช้ผู้อื่นกอบกู้ศักดิ์ศรีของตนคืนมา
ลูกสะใภ้ของอวี้ซื่อผู้นี้เป็นบุปผาลือชื่อของที่นี่ผู้หนึ่ง ไม่เช่นนั้นคงไม่ขอสินสอดทองหมั้นราคาสูง
อวี้ซื่อไล่ตามคหบดีจางออกไป
“ไม่… ไม่ได้นะ…” นั่นเป็นชีวิตของลูกชายนาง หากลูกชายนางรู้เข้า ต้องแตกหักกับนางเป็นแน่
ถึงแม้อวี้ซื่อจะไม่ชอบนางจิ้งจอกน้อยผู้นั้นเช่นกัน ทว่าลูกชายกลับต้องใจ นางจึงทำได้เพียงแต่งสะใภ้ผู้นั้นเข้าบ้าน เพื่อแต่งสตรีผู้นั้นมา นางถึงกับต้องขายหลิวจิ่วจู๋ให้กับคหบดีจาง
อวี้ซื่อเป็นแม่เลี้ยง แม่เลี้ยงก็เป็นแม่เช่นกัน หญิงชราผู้นั้นตายแล้ว นางมีสิทธิ์ตัดสินใจในการแต่งงานของนาง นึกไม่ถึงว่านังเด็กสารเลวนั่นปกติขี้ขลาดรังแกได้ง่าย คราวนี้กลับต่อต้านถึงเพียงนี้
หลิวจิ่วจู๋มองดูผู้คนพวกนั้นวิ่งออกไป
บนพื้นยังมีรอยเลือด กลิ่นเลือดคละคลุ้งอยู่ในอากาศ
แม่นางน้อยกะพริบตาปริบ ๆ “พวกเขาไปอย่างนี้เลยหรือ?”
คหบดีจางเป็นเจ้าถิ่นที่นี่ แต่ไรมาไม่เคยมีเป้าหมายใดของเขาที่ไม่สำเร็จ คราวนี้นึกไม่ถึงว่าจะกำจัดอีกฝ่ายได้แล้วจริง ๆ
“แน่นอนว่าคนชั่วต้องถูกคนชั่วด้วยกันลงโทษ ใช้ความรุนแรงต่อสู้กับความรุนแรงต่อคนธรรมดาแล้วไม่ใช่เรื่องดี แต่กับคนชั่วเหล่านี้ใช้ได้ดีที่สุด” ลู่ฉาวจิ่งเอ่ย “เพียงแต่ เจ้ายังคงระวังสักหน่อย อย่าได้ตกไปอยู่ในมือพวกเขา…”
“ไม่เป็นไร มีเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ!” หลิวจิ่วจู๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านย่าข้ามักจะบอกว่าข้าโชคดี ตอนนี้ดูเหมือนว่าท่านย่าจะพูดถูก”
เพียงแค่ซื้อคนผู้หนึ่งกลับมาส่ง ๆ ก็เป็นถึงยอดฝีมือ
ลู่ฉาวจิ่ง “…”
สาวน้อยผู้นี้โง่เขลายิ่ง
เขายังจะอยู่ที่นี่หรือ?
คงไม่ใช่นางยังต้องการแต่งให้เขาจริง ๆ กระมัง?
ช่างเถิด คิดว่านางคงพยายามหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ หลังจากอาการบาดเจ็บที่ขาของเขาหายดีแล้ว ค่อยหาหลักแหล่งให้นางไปอยู่ที่อื่น นี่ก็นับว่าเป็นการตอบแทนน้ำใจนางแล้ว