สามีเถื่อน ซีรีส์ชุด ชุด The Billionaire demon's virgin mistress Erotica Vol.2 - ตอนที่ 11
แสงไฟสีเหลืองนวลที่ติดอยู่ตามขอบผนังปูนยังคงให้ความสว่างเหมือนเดิมและมันก็ช่วยให้หล่อนสามารถมองเห็นทางเดินได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
วรันธารากระชับกระเป๋าเดินทางในมือแน่น เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดภายในอุ้งมือมากมายทั้งๆ ที่อากาศในตอนนี้ไม่ได้ร้อนอบอ้าวเลยสักนิด มันหนาวเหน็บเสียมากกว่า
หล่อนต้องไปจากที่นี่… ต้องรีบไปให้เร็วที่สุด ก่อนที่หน้ากากแห่งคำโกหกจะถูกกระชากออกด้วยมือของเควิน คาสโตรเซ่น ผู้ชายที่ฉลาดล้ำลึกคนนั้น
“อีกนิดเดียว…”
หญิงสาวพึมพำเบาๆ ในลำคออย่างให้กำลังใจตัวเอง ขณะที่สองเท้าก้าวไปข้างหน้าด้วยความรีบเร่ง มือเล็กข้างหนึ่งยกขึ้นจับชายผ้าคลุมหน้าเอาไว้แน่น เมื่ออีกไม่เกินสองร้อยเมตรจะถึงป้อมยามที่มีผู้ชายตัวใหญ่โตถึงสามคนยืนเฝ้าอยู่
“จะรีบไปไหนล่ะครับ… คุณยาย…”
เสียงคุ้นหูแต่แสนจะกระด้างดังอยู่ด้านหลังไม่ไกลนัก เท้าบอบบางของ วรันธาราชะงักกึก สรรพางค์กายสั่นเทาราวกับกำลังอยู่ท่ามกลางพายุร้าย
หล่อนจำได้ดี… จำเสียงทุ้มที่เจือเอาไว้ด้วยความเย่อเหย่อหยิ่งแบบนี้ได้ดี จะเป็นใครไปได้ล่ะถ้าไม่ใช่…
“คุณ… เควิน…” กระเป๋าเดินทางในมือร่วงลงกองกับพื้น พร้อมๆ กับสองเท้าที่ซอยถี่ระรัวเพื่อจะหนีออกไปให้พ้นจากคฤหาสน์หลังงาม แต่มัจจุราชที่ไล่ตามหลังมากลับไม่ยอมให้หล่อนทำได้สำเร็จ
“โอ๊ย… ปล่อย… ปล่อยฉันนะคะ”
ไม่ช้าร่างเล็กของหล่อนที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในคราบของหญิงชราแล้วก็ตกอยู่ในเงื้อมือของเควินในที่สุด
“ปล่อย… ปล่อยสิคะ”
หล่อนดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ และก็พยายามอย่างใหญ่หลวงที่จะซ่อนใบหน้าเอาไว้ใต้ผ้าคลุม
“เกิดอะไรขึ้นหรือครับคุณเคน” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ยินเสียงก็รีบวิ่งเข้ามาสมทบ
“ไม่มีอะไรหรอก พวกนายกลับทำหน้าที่ของตัวเองเถอะ”
“แต่…”
“ทางนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
เมื่อนายจ้างยืนยันหนักแน่น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสามคนจึงจำต้องล่าถอยออกไป
และก็ทิ้งให้หล่อนเผชิญหน้ากับจอมมารร้ายอย่างเควิน คาสโตรเซ่นตามลำพัง
“ทีนี้ก็ถึงเวลากระชากหน้ากากแล้วล่ะ”
“คุณพูดบ้าอะไร ปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ”
เขาปล่อยจริงๆ นั่นแหละ แต่ปล่อยหล่อนให้หงายหลังลงกับพื้นอิฐ มือของหล่อนก็มัวแต่พะวงอยู่กับการรับน้ำหนักตัวเอง ทำให้ปล่อยผ้าคลุมหน้าหลุดร่วงไปโดยไม่ทันระวัง และแน่นอนว่าเควินได้เห็นหน้าตาที่แท้จริงของหล่อนอย่างชัดเจน
“นึกเอาไว้แล้วเชียว ว่ามันต้องเป็นแบบนี้”
วรันธาราหน้าซีดเผือด ตอนนี้ความลับไม่เหลืออะไรให้ผู้ชายตรงหน้าค้นหาอีกแล้ว เพราะเขาเห็นทุกอย่าง
“ฉัน… ฉัน…”
กรามแกร่งสีเขียวที่มีไรหนวดขึ้นสวยงามขบกันแน่น ดวงตาคมกริบที่เคยเป็นสีน้ำเงินอมดำยามนี้ลุกเป็นไฟ
เขากำลังโกรธ กำลังเดือดดาลสุดขีด
“เธอคุณเป็นใครกันแน่?!”
“ฉัน…” วรันธาราไม่เคยหวาดกลัวสิ่งใดเท่าอารมณ์ของเควินมาก่อนเลย หล่อนตัวสั่น ลมแทบจับ
“ฉัน… ฉันขอโทษ ฉัน… ขอโทษ…” หล่อนพยายามยกมือไหว้วิงวอนเขา แต่เขาไม่ให้มันกับหล่อนเลย
“ฉันผมถาม หูแตกหรือไง เธอคุณเป็นใคร?!”
“ฉัน… ฉันอยากได้งานทำ ก็เลย… ก็เลย…”
หล่อนรู้ว่าเขาเกลียดนักข่าวมาก หล่อนจึงไม่อาจจะบอกความจริงออกไปได้ แต่กระนั้นก็ไม่อาจจะปกปิดเขาได้นาน เมื่อไม่ช้าเควินก็กระชากร่างของหล่อนให้ลุกขึ้นยืนเผชิญหน้า พร้อมกับคลำร่างกายของหล่อนเพื่อหาโทรศัพท์มือถือ และแน่นอนว่าเขาเจอมัน
“อย่า… เอาคืนมานะ”
“คิดว่าฉันผมจะโง่ ขนาดยอมให้คุณเธอเข้ามาหลอกถึงถิ่นได้ง่ายๆ หรือ แม่นักข่าวคนสวย…”
“คุณรู้…?!”
ใบหน้าของเควินมีรอยยิ้มหยัน แต่ดวงตาของเขายังลุกเป็นไฟเหมือนเดิม
เขากำลังโกรธจัด!
“ก็แค่สันนิษฐาน แต่การเช็คโทรศัพท์ของคุณเธอ จะทำให้ฉันผมรู้ความจริงทุกอย่าง จริงไหม”
คนฟังหน้าซีดเผือด “เอาคืนมานะคะ ฉันบอกว่าเอาโทรศัพท์ของฉันคืนมา”
เควินไม่ให้ เขาจับแขนกลมกลึงทั้งสองข้างของวรันธาราไพล่หลังเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ในขณะที่มืออีกข้างกำลังเลื่อนดูโทรศัพท์มือถือของหญิงสาว
“ฉันจะแจ้งตำรวจ ถ้าคุณไม่คืนโทรศัพท์มาให้ฉันเดี๋ยวนี้”
มุมปากสวยของเควินยกสูงเป็นรอยยิ้มหยัน “อย่าเอาตำรวจมาอ้าง เพราะโทษตามกฎหมายของคุณหนักหนากว่าของผมมาก หรือว่าคุณไม่รู้จักกฎหมายล่ะ คุณวรันธารา”
“คุณ…”
หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อเควินเรียกชื่อของหล่อนได้อย่างถูกต้อง
“คุณ… รู้ชื่อฉันได้ยังไงคะ”
เควินแค่นยิ้ม นัยน์ตาเลือดเย็นน่ากลัว “ก็หัวหน้าของคุณเรียกคุณแบบนี้ไม่ใช่หรือ นี่ไง… ในไลน์น่ะ”
คนฟังหน้าซีดแล้วซีดอีก คราวนี้ดิ้นไม่หลุดอีกแล้ว “ฉัน… ฉันจะลบรูปคุณออกให้หมด แล้วเราจบกัน…”
“คงไม่ได้หรอกมั้งคุณนักข่าว คุณส่งรูปของผมออกไปแล้วนี่”
“แต่… แต่ฉันจะโทรไปบอกหัวหน้า… ให้ลบรูปถ่ายคุณทิ้ง ฉันทำได้นะคะ ได้โปรด… ให้โอกาสฉัน… โอ๊ย…”
หญิงสาวร้องอุทานด้วยความเจ็บระบมเมื่อถูกคนตัวโตกระชากเข้ามาปะทะอกกว้างอย่างไร้ความเมตตา
“ฉันเจ็บนะ ปล่อย”
“เจ็บหรือ…?”
เขาถามกลับ ก่อนจะทำในสิ่งที่หล่อนต้องตกใจมากยิ่งขึ้น เพราะเครื่องมือสื่อสารของหล่อนถูกพ่อเจ้าประคุณปาลงพื้นจนแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี
“ว๊ายยยย…” วรันธารามองคนกระทำป่าเถื่อนอย่างโมโห “คุณทำแบบนี้ได้ยังไงกัน คุณทำลายร้ายทรัพย์สินส่วนตัวของฉันทำไม”
“ถามจริงๆ เถอะ ไม่รู้ตัวเลยหรือว่าทำอะไรผิด”
เขาก้มหน้าต่ำลงมาหา ปลายจมูกโด่งเป็นสันสวยงามแทบจะชนเข้ากับใบหน้าของหล่อนเลยทีเดียว
แม้จะอยู่ในอารมณ์หวาดหวั่น หวาดกลัว แต่หัวใจก็อดที่จะสั่นไหวเพราะความชิดใกล้ไม่ได้
“ฉัน… ฉันก็แค่ถ่ายรูปคุณ”
“แล้วมันผิดหรือเปล่าล่ะ”
หล่อนช้อนตาขึ้นมองเขา ก่อนจะวิงวอน “ฉันรู้ว่าคุณเกลียดนักข่าวมาก แต่ฉันมีความจำเป็นต้องเข้ามาขโมยถ่ายรูปของคุณ ฉัน… ฉันขอโทษนะคะ ต่อไปฉันจะไม่ทำอีกแล้ว”
“ไม่มีโอกาสสำหรับพวกเห็นแก่ตัวอย่างคุณอีกแล้วล่ะ”
“ว๊ายยยย…”
ร่างของวรันธาราถูกจับขึ้นพาดบ่าทรงพลัง ก่อนจะถูกแบกกลับเข้าไปในคฤหาสน์คาสโตรเซ่นอีกครั้ง
“คุณจะทำอะไร ปล่อย… ปล่อยฉันลงไปนะ”
“ก็อยากได้รูปผมนักไม่ใช่หรือ จะมอบให้แบบเอ็กซ์คลูซีฟเชียวแหละ” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยโทสะ ความกรุ่นโกรธ
“ฉัน… ฉันไม่เอาแล้ว ไม่อยากได้แล้ว” หล่อนพยายามวิงวอน “ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันขอร้องล่ะ ว๊ายยย…” วรันธารากรีดร้องอย่างตกใจ เมื่อร่างของตัวเองถูกโยนลงบนเตียงกว้างของเควิน เตียงที่หล่อนแอบลูบคลำเมื่อตอนสาย ยามที่ขึ้นมาทำความสะอาด เตียงที่หล่อนแอบจินตนาการว่าได้ใช้ร่วมกับเจ้าของห้อง
“มันสายไปแล้วล่ะ คุณจะต้องได้รับบทเรียนอย่างสาสม”
พ่อเทพบุตรสุดหล่อเดินกลับไปล็อกประตูห้อง ก่อนจะเดินมาหยุดที่หน้าเตียงกว้างอีกครั้ง
“คุณ… จะทำอะไรน่ะ”
หญิงสาวหน้าตาซีดเผือด มองเควินที่ตอนนี้ดูน่ากลัวเหลือเกินอย่างตื่นตระหนก
“ผมจะจัดการกับคุณก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยไปจัดการกับป้าเดซี่ เพราะผมมั่นใจว่าป้าเดซี่จะต้องรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี”
แม้จะหวาดกลัวแต่ก็ไม่ต้องการให้ผู้มีพระคุณอย่างป้าเดซี่ต้องมาเดือดร้อนด้วย
“ป้าเดซี่ไม่รู้เรื่อง ถ้าจะลงโทษก็ทำที่ฉันคนเดียวเถอะ”
เควินแค่นยิ้มหยัน กระชากเสื้อนอนสีเข้มของตัวเองออกจนกระดุมขาดกระเด็น แผงอกกว้างที่แน่นหนั่นไปด้วยกล้ามเนื้อพุ่งเข้าใส่หน้าของวรันธาราอย่างจัง จนหญิงสาวอดที่จะมองตาค้างไม่ได้ เขาสวยงาม สมบูรณ์แบบแม้กระทั่งในยามที่กำลังเกรี้ยวกราด
“ถ้าคุณเธอยอมรับผิดคนเดียว โทษที่จะได้รับจะหนักขึ้นเป็นสองเท่า”
วรันธาราหวาดกลัวจนน้ำตาซึมแต่ก็จำต้องก้มหน้ายอมรับความผิดพลาดของตัวเอง “ฉัน… ยินดียอมรับความผิดคนเดียว ได้โปรดอย่าทำอะไรป้าเดซี่เลย ฉันผิดคนเดียวจริงๆ ค่ะ”
เควินโน้มกายที่ด้านบนเปลือยเปล่าลงมาหาช้าๆ แต่ด้วยกิริยาไม่ต่างจากท่าทางของราชสีห์ที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อ หญิงสาวถดถอยหลังหนีลนลาน หวาดกลัวจนน้ำตาไหล
“อย่า… ฆ่าฉันเลยนะคะ ได้โปรดเถอะ”
“ผมไม่ฆ่าคุณหรอก วรันธารา”
“ไม่ฆ่า… แล้วคุณจะทำอะไรฉันคะ”
รอยยิ้มเลือดเย็นยังคงเกลื่อนใบหน้าหล่อลากดินเหมือนเหมอืนเดิม แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือสายตาของเควิน ไฟในดวงตาคมกริบมันไม่ใช่ไฟโทสะเพียงอย่างเดียวอีกแล้ว แต่มันมีไฟอีกอย่างลุกโชนอยู่ในนั้น ไฟที่หล่อนได้เห็นก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“นอนกับคุณยังไงล่ะ”
“ห๊า!”
“ผมฉันรู้ว่าคุณเธออาจจะดีใจ แต่ผมฉันอยากจะบอกคุณเธอเอาไว้นะว่าไม่ควรจะดีใจ เพราะผมฉันจะไม่ปรานีคุณเธอแม้แต่น้อย”
คำพูดทระนงของเขาทำให้แก้มนวลที่ซีดเผือดมาเป็นเวลานานแดงระเรื่อ
“ฉัน… ฉันไม่ได้ดีใจ และที่สำคัญ… ฉันจะไม่ยอมนอนกับคนเถื่อนอย่างคุณด้วย หลีกไปนะ ฉันจะออกไปจากที่นี่”
เขาไม่หลบไม่หลีก แถมยังโน้มตัวเข้ามาหามากขึ้นเรื่อยๆ ใกล้ชิดจนหล่อนได้กลิ่นกายแสนเซ็กซี่ของเขาเต็มจมูก
“เสียใจด้วยแม่นักข่าวใจกล้า ที่นี่เข้ายากแค่ไหน การออกไปจากที่นี่ก็จะยากมากกว่าเป็นร้อยเท่า”
“คุณจะขังฉันไว้ที่นี่ไม่ได้นะคะ”
“ผมฉันทำได้สิ คอยดูก็แล้วกัน”
“แต่… แต่คุณไม่มีสิทธิ์รังแกร่างกายของฉัน”โต้แย้งไปแก้มก็แดงไปเพราะความขัดเขินระคนอับอาย