สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 347 ลูกของหยุนเคอ
ตอนที่ 347 ลูกของหยุนเคอ
เจ้าเมืองหลงเห็นว่าตนล่อลวงเฉินเจียวเจียวได้สําเร็จจึงหยิบเหรียญเงินออกมาจากแขนเสื้อ
“บัดนี้เจ้าคงไม่มีเงินไปฟูเฉิงใช่หรือไม่? ข้าจะให้เงินค่าเดินทางแก่เจ้า ทว่าสิ่งหนึ่งที่เจ้าต้องจําไว้ให้ดีคือหากเจ้ากล้าทําร้ายหยุนเวียนเถียนแม้เพียงปลายก้อย ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่เข้าใจไหม?”
เมื่อได้ยินดังนั้นเฉินเจียวเจียวก็ตื่นตัวทันที นางเงยหน้าขึ้นมองเจ้าเมืองหลง “ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการทําร้ายหยุนเถียนเถียนแล้วเหตุใดเจ้าถึงต้อง การทําเรื่องเช่นนี้? หรือว่าเจ้าต้องการท่าลายความสัมพันธ์ของพวกเขาเพราะต้องการตัวหยุนเถียนเถียน แม้นางจะดูงดงามนักทว่าวัยของนางนับเป็นลูกสาวของเจ้าได้เลยนะ”
เมื่อเจ้าเมืองหลงเห็นว่าเฉินเจียวเจียวเริ่มล้ําเส้นถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของตน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที “อย่าถามในสิ่งที่เจ้าไม่จําเป็นต้องรู้! หากเจ้าไม่อยากทําแล้วก็ตามใจ ใบหน้าของหยุนเคอหล่อเหลาเช่นนั้นแน่นอนว่ามีสตรีอีกมากมายที่เต็มใจจะทําตามแผนการนี้!”
สีหน้าของเจ้าเมืองหลงที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันทําให้เฉินเจียวเจียวตกใจ ในที่สุดนางจึงไม่กล้าซักถามสิ่งใดอีก แม้ว่านางจะไม่ค่อยพอใจนักที่ตนไม่ได้รับอนุญาตให้ทําร้ายหยุนเถียนเถียนได้ ทว่านางก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น
“ทําสิ! แน่นอนว่าข้าจะทํา ตราบใดที่ทําให้หยุนเกียนเถียนไม่มีความสุขได้ ไม่ว่าจะให้ทําอะไร ข้าก็ยอมทุกอย่าง”
เจ้าเมืองหลงเยาะเย้ย “ข้าคิดว่าสําหรับเจ้าแล้วการทําให้หยุนเสียนเถียนไม่มีความสุขไม่ใช่สิ่งสําคัญหรอก แท้จริงแล้วในหัวใจของเจ้าต้องการจะจับหยุนเคอทําสามีต่างหากข้าพูดถูกหรือ ไม่?”
เฉินเจียวเจียวรู้สึกว่าความคิดอันมืดมนที่สุดในกันบึงหัวใจของนางถูกอ่านอย่างแตกฉาน นางจึงรู้สึกเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย ทว่าหากเทียบกับชีวิตที่ต้องอยู่อย่างอัปยศเช่นนี้แล้ว การทําเรื่องน่าละอายก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงนัก
เจ้าเมืองหลงไม่ได้กล่าวคําใดทว่าเดินจากไปทันที
เฉินเจียวเจียวรู้สึกมั่นใจในแผนการนี้อย่างประหลาด นางโยนเสื้อผ้าทั้งหมดลงในลําธารแล้วปล่อยให้มันลอยไปตามน้ํา
เฉินเจียวเจียวสูดอากาศเย็นเข้าเต็มปอดแล้วหันไปมองทางทิศที่บ้านของตนตั้งอยู่ ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่เหลียวหลังกลับไปมองอีก หากอยู่ที่นี่แล้วต้องมาทําตัวเป็นขี้ข้าคอยรับใช้คนอื่น ข้าขอออกไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า”
เมื่อเฉินเจียวเจียวลงจากรถม้าแล้วนางก็เดินโซเซไปที่ฟูเฉิงอีกครั้ง คราวนี้นางไม่ได้มาอย่างงดงามเหมือนคราวก่อนอีกแล้ว นางหยิบน้ําพริกอันเผ็ดร้อนออกมาถูใต้ตาของตน
น้ําตาของนางไหลออกมาทันที่ส่งผลให้ดวงตาของนางกลายเป็นสีแดงก่า
หยุนเถียนเถียนกับหยุนเคอกําลังจะออกไปหารัฐทายาท ทว่าเมื่อออกมาถึงประตูหน้าบ้านพักของนายน้อยหลี่ก็พบว่ามีใครบางคนขวางไว้
คนคนนั้นก็คือเฉินเจียวเจียวนั่นเอง ท้องโย้ของนางทําให้ผู้คนถึงกับรู้สึกหวาดเสียวเมื่อเห็นนางคุกเข่าลงกับพื้นด้วยน้ําตานองหน้า
“แม่นางหยุน เจ้าคนเดียวเท่านั้นที่ช่วยเราสองแม่ลูกได้!”
หยุนเกียนเกียนยกยิ้ม “ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เองเฉินเจียวเจียว! เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่นี่? เวลานี้เจ้าควรจะอยู่กับหลี่เฟิงไม่ใช่หรือ?”
เฉินเจียวเจียวไม่สนใจหยุนเกียนเถียนทว่าสายตาของนางแอบเล็งไปยังหยุนเคอ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดใต้ตาเพิ่ม ยิ่งเช็ดด้วยผ้าที่ชุบน้ําพริกเช่นนี้ก็ยิ่งทําให้ตาของนางยิ่งแดงก่ำกว่าเดิมพร้อมน้ําตาที่ไหลออกมามากขึ้น
“เจ้ากาลังพูดเรื่องอะไร ร้องไห้หนักถึงเพียงนี้จะทําให้คนเข้าใจผิดว่าข้ารังแกเจ้า”
เฉินเจียวเจียวสะอึกสะอื่นเสียจนแทบหายใจไม่ออก นางคิดในใจว่าเผลอใส่น้ําพริกในผ้าเช็ดหน้าเยอะเกินไปหน่อยหรือไม่? เหตุใดน้ําพริกจึงแสบร้อนถึงเพียงนี้? นางเริ่มเกรงว่ามันจะส่งผลร้ายต่อดวงตาของนาง
“แม่นางหยุน ข้าแค่มาเพื่อขอร้องเจ้าให้เมตตาเราสองแม่ลูก หยุนเคอคงจะสับสนเพราะเจ้า เขาจึงตัดสินใจทอดทิ้งข้ากับลูกเช่นนี้!”
หยุนเสียนเถียนไม่เข้าใจ นางจึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า “เจ้าหมายความว่าอย่างไร? หยุนเคอไปทิ้งเจ้าเมื่อไหร่กัน? เหตุใดข้าจึงไม่รู้เรื่องนี้? เจ้าไม่ได้แต่งงานกับหลี่เฟิงหรอกหรือ?”
เฉินเจียวเจียวร้องไห้ก่อนจะตะโกนต่อหน้าผู้คน “ก็เจ้าเองไม่ใช่หรือที่บังคับให้ข้าแต่งงานกับหลี่เฟิง? แม่นางหยุน เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจว่าตอนนั้นข้าท้องกับหยุนเคอ เขาเองที่เป็นคนมอบสูตรเนื้อตากแห้งของเจ้าให้ข้าแล้วขอให้ข้าขายสูตรนั่นให้หลี่เฟิง!”
“ข้าไม่รู้ว่าสูตรนั้นเป็นของปลอมที่เจ้าทําไว้หลอก สุดท้ายข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากต้องแต่งงานกับหลี่เฟิง ทว่าข้ามีลูกกับหยุนเคอก่อนหน้านั้นแล้ว แม่นางหยุน…ข้ารู้ตัวว่าทําผิดจึง สมควรได้รับโทษเช่นนั้นทว่าเด็กคนนี้ยังคงไร้เดียงสา!”
การแสดงอันสมบทบาทถึงเพียงนี้เรียกความเห็นอกเห็นใจจากเหล่าชาวบ้านที่มามุงดูได้เป็นอย่างดี หยนเถียนเถียนเย้ยหยันในใจ บัดนี้นางรู้แล้วว่าเฉินเจียวเจียวมาที่นี่เพื่อเสแสรั้งหาเรื่องโจมตีนางอีกครั้ง
ทว่าเด็กในท้องของนางไม่ใช่ลูกของหยุนเคอแน่นอน เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายสตรีผู้หนึ่งกลับกล้าบอกว่าตนท้องกับชายผู้หนึ่งแม้ว่านางจะแต่งงานกับชายอีกคนก็ตาม
ไม่มีใครอยากสาวไส้ให้กากินด้วยการประจานตัวเองโดยไม่มีเหตุผล ดังนั้นทุกคนจึงคิดว่าสิ่งที่สตรีผู้นี้พูดเป็นความจริง
แน่นอนว่าบัดนี้สายตาของทุกคนต่างจ้องมองมาที่หยุนเคออย่างไม่พอใจ ราวกับว่าเขาเป็นคนชั่วร้ายที่ทอดทิ้งภรรยาและลูกของตัวเอง
ร่างกายของหยุนเคอราวกับมีพลังมืดแผ่ซ่านออกมาปกคลุม รังสีอํามหิตของเขาทําให้ผู้คนที่ยืนอยู่รอบ ๆ หลายคนถอยห่างออกไป
“เฉินเจียวเจียว เจ้าคิดว่าชีวิตของเจ้าดีเกินไปหรือจึงมายั่วยุพวกเราเช่นนี้! เจ้าคิดว่าหยุนเคอเป็นคนโง่เขลาหรือ? หากต้องเลือกระหว่างข้ากับเจ้า บุรุษมีปัญญาหน้าไหนจะทิ้งสตรีผู้งดงามถึงเพียงนี้ไปมีลูกกับผู้หญิงในชุดผ้าขี้ริ้วเช่นเจ้า?”
สตรงดงามผู้นี้ไม่อาจคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป ท้ายที่สุดแล้วหยุนเกียนเถียนก็แสดงสีหน้าเกรี้ยวกราดออกมาหลังจากไม่ได้ทําสีหน้าเช่นนี้มานานแล้ว แม้ว่าจะบันดาลโทสะทว่าใบหน้าของนางก็ยังคงดูงดงามนัก
ความเกลียดชังฉายแววในดวงตาของเฉินเจียวเจียว บัดนี้นางรู้สึกอิจฉาความงามของหยุน เถียนเถียนจนรอแทบไม่ไหวที่จะดึงกรรไกรออกมาทําลายใบหน้างามนั่นด้วยมือของนางเอง
ทว่าเมื่อนึกถึงตอนที่นางเคยได้รับความทุกข์ทรมานถึงสองสามวันด้วยน้ํามือของหยุนเถียนเถียนมาก่อน นางก็รู้ตัวดีว่าตนไม่อาจสู้กําลังของสตรีผู้นี้ได้
“หยุนเคอ มันเป็นเรื่องจริง เจ้าลืมไปแล้วอย่างนั้นหรือว่าเด็กคนนี้คือลูกของเจ้า? แม่นางหยุน… เจ้าไม่เคยเป็นแม่คนจึงไม่รู้หรอกว่าลูกมีความสําคัญถึงเพียงไหน! แม้ว่าข้าจะไม่อยากสู้กับ เจ้าทว่าเพื่อลูกแล้วข้าจึงต้องสู้!”
หยุนเถียนเถียนรู้สึกราวกับว่ามีไฟอันร้อนแรงแผดเผาอยู่ในใจ ไม่ว่าหมาหรือแมวจะกวนประสาทนางถึงเพียงไหนก็ยังไม่อาจทําให้นางเดือดดาลได้ถึงเพียงนี้
ทว่าใบหน้าของหยุนเกียนเถียนกลับยิ้มแย้มอย่างสดใส “เฉินเจียวเจียว เจ้าไม่ได้แต่งหน้าก่อนออกจากบ้านมาหรือ? ข้าคิดว่าพ่อแม่ของเจ้าที่อุตส่าห์ทํางานหนักเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูเจ้าคงไม่รู้ว่าลูกสาวของตนออกมาทําเรื่องไร้ยางอายนอกบ้านเช่นนี้ใช่หรือไม่?”
“เจ้าบอกว่าเด็กในท้องของเจ้าเป็นลูกของหยุนเคอ เจ้ามีหลักฐานหรือไม่? หยุนเคอปฏิเสธเจ้าตั้งแต่ตอนที่เจ้ามาเสนอตัวให้เขาถึงที่ ทุกคนในหมู่บ้านเทพธิดาต่างก็รู้เรื่องนี้ดี เช่นนี้แล้วเขาจะกล้าไปนอนกับผู้หญิงไร้ยางอายเช่นเจ้าได้อย่างไร?”
“เจ้ายังบอกอีกด้วยว่าเขาเป็นผู้ขโมยสูตรเนื้อตากแห้งของข้าแล้วขอให้เจ้าขายให้หลี่เพิ่งถามหน่อยว่ามีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเจ้าพยายามขโมยสูตรลับนั่นมาสองครั้งแล้วทว่าไม่สําเร็จ?”