สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 316 ไม่อาจยอมรับ
ตอนที่ 316 ไม่อาจยอมรับ
หยุนเคอขมวดคิ้วแน่นก่อนคํารามออก “ไอ้บัดซบ บอกมาว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
อีกฝ่ายถึงกับถอนหายใจออกมาช้า ๆ ก่อนจะรวบรวมความกล้าแล้วค่อยกล่าวคําออก
“แม่นางหยุนได้พบกับท่านจาวเมืองหลงที่สวนหลังบ้านของท่านนายอําเภอ อีกฝ่ายบอกกล่าวว่านางอาจจะเป็นบุตรสาวขององค์จักรพรรดิกับหยุนจึงเอ่อ… เมื่อแม่นางหยุนได้ยินเช่นนั้น นางจึงตั้งใจจะหย่าร้างกับท่าน!”
หยุนเคอถึงกับตื่นตระหนกก่อนจะแค้นเสียงออกจากลําคอ “จะพูดสิ่งใดออกก็จงระวังวาจาไว้เสียบ้าง มันไม่ใช่เรื่องตลกที่สามารถพูดกล่าวได้ราวกับการกินข้าว!”
อีกฝ่ายถึงกับมึนงงและรีบอธิบายต่อ “ย่อมเป็นเรื่องจริง! ท่านจาวเมืองหลงเป็นองครักษ์ขององค์จักรพรรดิในปักกิ่งเมื่อเวลานั้น มิฉะนั้นตระกูลของเขาย่อมไม่มีอํานาจมากมายเช่นนี้แน่ สิ่งที่เขาพูดกล่าวย่อมมีเค้าโครงความจริง ตอนนี้แม่นางหยุนเกรงว่านางจะเป็นเจ้าหญิงของท่านมิได้แล้ว นางอาจจะเป็นเพียงน้องสาวของท่านเท่านั้น!”
ใบหน้าของมู่หรงหยุนเคอถึงกับมืดมน ท่านพ่อมิใช่คนมากตัณหา แม้ว่าเขาจะชื่นชอบความงามของสตรีตั้งแต่แรกพบ แต่ก็มิใช่คนที่ต้องการครอบครองทุกสิ่งอย่างไว้
หากหยุนจึงเอ่อได้รับความโปรดปรานจากพระบิดาและตั้งครรภ์กับเขา หยุนจึงเอ่อย่อมไม่มีทางจบชีวิตลงที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ห่างไกลความเจริญเช่นนี้แน่ มันต้องมีเรื่องราวอื่นที่จะไม่อาจสืบทราบ
มู่หรงหยุนเคอคิดไปมาอย่างรอบคอบ แต่ก็ยังไม่ถึงเหตุผลอันใดอื่นซ่อนไว้
“ข้าก็เพียงสงสัยเท่านั้น อย่างไรแล้วพวกเราไม่เคยรู้เลยว่าท่านจ้าวเมืองหลงเป็นคนเช่นไร อีกทั้งเราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นองครักษ์ของผู้ใดกันแน่ แล้วการที่เขามาบอกกล่าวกับนางเช่นนี้ มันไม่บังเอิญไปหน่อยงั้นหรือ?”
จีนเหยียนได้ยินอย่างนั้นจึงกล่าววาจาออกมาอย่างน่ารับฟัง “องค์ชาย ท่านลองคิดดูเถิด ว่าระหว่างพวกเรานั้นไม่มีความเกลียดชังต่อกัน ทั้งท่านและท่านจ้าวเมืองหลง แต่เหตุใดเขาจึงกล้ากล่าวใส่ร้ายท่านเช่นนั้น หรือเขาเพียงพูดจาเพื่อความสนุกสนาน?”
“เหตุใดองค์ชายจึงไม่มองความจริงของเรื่องนี้ดูบ้าง แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะทําเช่นไรกับแม่นางหยุนต่อ”
มู่หรงหยุนเคอนิ่งเงียบอย่างไตร่ตรองอยู่สักครู่หนึ่ง เขาไม่รู้เลยว่าควรสวดมนต์บทใดเพื่อให้หญิงสาวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับตน หรือเขาควรภาวนาให้นางเป็นน้องสาวของเขาซะให้จบเรื่อง?!
แม้เขาจะต้องการให้นางเป็นภรรยาของตนมากเพียงใด แต่หลังจากความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผย มันจะเป็นสิ่งที่ทั้งคู่รับได้งั้นหรือ?
มู่หรงหยุนเคอถึงกับกุมขมับไว้อย่างแน่นหนา กรามทั้งสองข้างสบกันแน่นเพื่อระบายความเครียดออก
“รีบไปตรวจสอบเร็วเข้า มันเกิดอะไรขึ้นกับนางสนมหยุนจึงเอ่อเมื่อสิบปีหรือสิบห้าปีที่แล้ว! ข้าไม่คิดว่านางจะละม้ายคล้ายท่านพ่อ แต่ยังไงซะใบหน้านางก็ยังคล้ายคลึงกับเจ้าชายอวี่หยางเสียมากกว่า!”
หยุนเคอพยายามตั้งสติและรวบรวมสมาธิ หยุนเถียนเถียนคล้ายคลึงกับเจ้าชายอวหยางไม่น้อย หากเป็นเช่นนี้ก็คงยอดเยี่ยมนัก เพราะนางจะกลายเป็นหญิงสาวสูงศักดิ์ในทันทีและเสียงการคัดค้านเรื่องแต่งงานจะลดน้อยลงไปแน่นอน
สําหรับสถานะคนสนิทของเจ้าชาย อย่างน้อยพวกเขาทําได้เพียงดูแลและสนับสนุนการตัดสินใจอีกฝ่ายเท่านั้น ส่วนเรื่องที่หญิงสาวจะคู่ควรกับเจ้าชายหรือไม่ ทั้งหมดล้วนแต่เป็นการตัดสินใจของเจ้าชายทั้งสิ้น
“ถ้าอย่างนั้นข้าจะกลับไปที่ปังกิ่งเพื่อตรวจสอบเบาะแสที่เราได้!”
มู่หรงหยุนเคอเผยแววตาเกรี้ยวกราดก่อนจะกล่าวคํา “เรื่องนั้นสามารถตรวจสอบได้ในภายหลัง สิ่งที่สําคัญที่สุดในตอนนี้คือการคุ้มครองเจ้าหญิงของเจ้า! ข้าไม่เคยนึกไว้ใจจ้าวเมืองหลงแม้สักวินาที ยังไงซะเจ้าต้องปกป้องนางให้รอดพ้นจากอันตรายทั้งหมด!”
จิ้นเหยียนขอตัวออกไปอย่างเงียบ ๆ เขาปล่อยให้มู่หรงหยุนเคอนั่งอยู่คนเดียวเพื่อปรับสภาพอารม ส่วนเรื่องหยุนเถียนเถียนนั้นหยุนเคอยังไม่ทราบเรื่องราวทั้งหมดอย่างแท้จริง เช่นนี้เขาจะกล้าคิดฉวยโอกาสทําลายความบริสุทธิ์ของนางได้เช่นไร? แต่เขาก็ย่อมไม่ยอมให้ผู้อื่นเขามาฉกฉวยโอกาสนี้เช่นกัน!
ตอนนี้เขาเพียงต้องการข่าวสารที่แท้จริงเท่านั้น อีกทั้งหยุนจึงเอ่อคงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับตัวเขาทั้งสิ้น หยุนจึงเอ๋อคงจะมีสัมพันธ์กับท่านพ่อมาเนิ่นนาน แต่ถูกราชาอวหยางฉกตัวนางไป แล้วหญิงสาวคนนั้นจะเป็นบุตรสาวของท่านพ่อได้อย่างไรกัน?
แต่เรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นเพียงการสมมตินิษฐานเท่านั้น ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่พบหนทางที่เป็นไปได้
แต่ถึงอย่างไรตอนนี้หญิงสาวก็ยังอยู่ในสํานักงานปกครอง และมีจางชิงเฟิงเคียงข้าง…
ไม่ได้! ไม่ว่าอย่างไรหยุนเคอก็ไม่อาจเก็บงําความสงสัยนี้ไว้ได้ เขาจึงลุกขึ้นและพุ่งตรงไปที่สํานักงานปกครองอย่างเร่งรีบ!
ทันทีที่มาถึงสํานักงานปกครอง หยุนเคอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เขาไม่รู้เลยว่าควรจะพูดอะไรกับนาง แล้วก็ไม่แน่ใจว่านางคือบุตรสาวขององค์ชายอวี่หยางหรือไม่… แล้วการบอกกล่าวเรื่องทั้งหมดออกไปเป็นการตอกย้ําความสิ้นหวังให้กับนางหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม เขาเห็นว่าดวงตาของหยุนเถียนเถียนค่อนข้างแดงก่ําเล็กน้อย เพียงเท่านี้หัวใจของเขาพลันบีบรัดอย่างเจ็บปวด!
ชายหนุ่มกระโดดมายืนตรงหน้าและไม่รู้ว่าควรจะพูดกล่าวคําใดออก เขาทําได้เพียงถอนหายใจยาวเหยียดอย่างหดหูเท่านั้น
“สาวน้อย เจ้ามีสิ่งใดที่ยังไม่ได้บอกกล่าวกับข้าหรือไม่? ตอนนี้เรื่องราวทั้งหมดยังไม่ถูกตรวจสอบ พวกเราทําได้เพียงเท่านี้ อีกทั้งข้ารู้ดีว่าตัวเองเป็นใคร และข้าก็เป็นผู้ชาย เจ้าคิดอยากให้ข้าแก้ไขสิ่งใดหรือไม่?”
หัวใจของหยุนเถียนเถียนแทบจะพังทลายลงเมื่อได้ยินประโยคนั้น
น้ําตาไหลออกราวกับเขื่อนแตกไหลอาบแก้มขาวทั้งสองข้าง
หยุนเคอเห็นอย่างนั้นยิ่งร้อนใจ เขาไม่รู้ว่าควรทําอย่างไรกับหญิงสาวที่กําลังร้องไห้อยู่ตรงหน้านี้
“เจ้าไม่ร้องไห้ได้หรือไม่? รอให้ข้าตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมดเสร็จสิ้นก่อนเถิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่! เจ้าเป็นสตรีที่เก่งกาจและฉลาดกว่าผู้ใด แต่วันนี้กลับถูกจ้าวเมืองหลงปั่นหัวได้ง่าย ๆ งั้นหรือ?”
หยุนเถียนเถียนหยุดร้องไห้ทันที นางเผยแววตาเกรี้ยวกราดบนใบหน้าที่เปรอะเปื้อน
“นี้ท่านหมายความว่าอย่างไร? ท่านคิดว่าจ้าวเมืองหลงมีเหตุผลใดจึงต้องหลอกลวงข้า?”
มู่หรงหยุนเคอถึงกับหมดหนทาง “แล้วเจ้าคิดว่าข้าต้องโกหกเจ้าเพื่อสิ่งใด? แม่ไม่รู้ว่าผลลัพธ์ มันจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เจ้าคิดจะทําตอนนี้ข้าไม่อาจยอมรับได้! สาวน้อย เจ้ามีเหตุผลเสมอ โปรดคิดทบทวนเรื่องเหล่านี้อีกครั้งได้หรือไม่?”
หยุนเถียนเถียนยิ่งโกรธมากขึ้น “ตอนนี้ท่านก็ยังสับสนอยู่เช่นเดิม ถ้าหากเปิดเผยเรื่องราวทุกสิ่งแล้ว ถึงตอนนั้นพวกเราอาจจะไม่มีทางเลือกที่ดีนัก เช่นนี้ควรจะตัดสัมพันธ์กันนับตั้งแต่ตอนนี้!”
“เอาล่ะ เราควรจะเป็นพี่น้องกัน! แต่ถึงอย่างไร ข้าก็ไม่คิดว่าพระบิดาของข้าจะเป็นคนเช่นนั้น จากนี้ไปข้ากับเจ้าเหลือสถานะเพียงพี่น้อง แต่เมื่อเรื่องราวทั้งหมดถูกตรวจสอบโดยละเอียดและมันไม่ใช่ความจริง หยุนเถียนเถียน เจ้าจะต้องกลับมาเป็นเจ้าหญิงของข้าเช่นเดิม!”
หยุนเถียนเถียนถึงกับตื่นตระหนก นางรู้ดีว่าหัวใจของหยุนเคอมีเพียงนางเท่านั้น แต่สิ่งนี้ก็ทําให้นางเจ็บปวดไม่น้อยเช่นกัน! หากไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างสตรีอื่นเข้ามาพัวพัน การต้องอยู่กินกับเขาไปตลอดชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นนัก!
หยุนเถียนเถียนเพียงพยักหน้ารับ หยุนเคอผ่อนคลายลมหายใจออกอย่างโล่งอก เพราะอย่างไรแล้วเขาก็ไม่มีวันเชื่อว่าทั้งสองเป็นพี่น้องกัน!