ยี่สิบนาทีต่อมา มัทนาก็วิ่งกระหืดกระหอบมาที่รถ โดยมีแมทธิวยืนพิงตัวรถสปอร์ตคันงามรออยู่ เมื่อเห็นหล่อน เขาก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมองก่อนจะเค้นเสียงเข้มงวดออกมา
“แม่คุณนายสายประจำ”
หล่อนมาหยุดหอบแฮกๆ ตรงหน้าเขา “นาฬิกานายเร็วไปน่ะสิ ฉันมาตรงเวลานะ”
แมทธิวส่ายหน้าอย่างไม่อยากเถียงต่อ ก่อนจะมองชุดเชยๆ ที่มัทนาใส่มา
“ชุดนี้ซื้อมาจากตลาดนัดเหรอ”
“อะไรของนาย” หล่อนเหลือบตามองร่างกายของตัวเองตามสายตาคมกล้าของแมทธิว
“เชยสะบัด”
“ออกจะสวย” เมื่อรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร หล่อนจึงโต้เถียง แมทธิวส่ายหน้าอีกครั้ง ก่อนจะเปิดประตูรถให้
“ขึ้นรถได้แล้ว ฉันหิว”
“แต่ฉันยังไม่หิว” หล่อนแกล้งทำเป็นยืนโอ้เอ้ จนเขาต้องโน้มตัวลงมาหา และทำเสียงดุดันระคนกระเส่าใส่
“ถ้าไม่รีบ ฉันอาจจะกินเธอในรถก่อนกินอาหาร”
หล่อนหน้าตาตื่น รีบกระโจนขึ้นรถทันที แมทธิวลอบหัวเราะอย่างขบขัน ก่อนจะเดินไปขึ้นรถและขับออกไป
“นายจะพาฉันไปกินที่ไหนเหรอ”
“เดี๋ยวก็รู้เองน่ะ” คนขับรถพูดขึ้นอย่างรำคาญ
“ก็ฉันอยากรู้นี่ว่ามันจะอร่อยถูกปากฉันหรือเปล่า”
แมทธิวที่ขับรถอยู่เอียงหน้ามามอง “แล้วเธออยากกินอะไรล่ะ ฉันจะได้พาไป”
มัทนาระบายยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาเป็นประกาย “แน่ใจนะว่านายจะตามใจฉันน่ะ”
“ตอนนี้ฉันจะตามใจเธอ แต่บนเตียง…เธอต้องตามใจฉัน”
อีตาบ้า ยังจะวกมาเรื่องนี้อีกจนได้นะ
“ฉันขัดใจนายไม่ได้อยู่แล้วนี่”
แมทธิวระบายยิ้ม “จะกินที่ไหนก็บอกมาแล้วกัน จะพาไปกิน โอเคไหม”
“อืม”
มัทนาตอบรับและอมยิ้มอย่างพึงพอใจ
เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาที รถสปอร์ตหรูก็มาจอดที่หน้าร้านส้มตำข้างทางร้านโปรดปรานของมัทนา
“เธอให้ฉันจอดรถที่นี่ทำไม”
“ก็ถึงแล้วไง” หล่อนอมยิ้มใส่คนทำหน้าแปลกใจ “ร้านที่ฉันอยากกินน่ะ”
แมทธิวมองออกไปนอกรถ ก่อนจะหันมาทำหน้าแหยๆ ใส่หล่อน
“มันจะกินได้แน่เหรอมัทนา”
“ฉันกินมาตั้งแต่เด็ก ถ้ากินไม่ได้ป่านนี้ฉันตายไปแล้ว ไม่ได้มาอยู่ให้นายรังแกแบบนี้หรอก” หล่อนพูดจบก็ก้าวลงไป และเมื่อหันมามองแมทธิวแล้วเขายังไม่ลงจากรถ หล่อนจึงต้องเดินอ้อมมาเคาะกระจกรถอีกครั้ง “ลงมาสิ ไหนว่าจะเป็นเจ้ามือไงล่ะ”
แมทธิวมองออกไปนอกรถยังร้านที่มัทนาพามากินอย่างชั่งใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือก จำต้องก้าวลงไป
“ว้าว พี่มัท แฟนเหรอคะ หล่อเชียว”
มัทนายังไม่ทันตอบลูกสาวเจ้าของร้านส้มตำ แมทธิวก็เอามือมารวบเอวคอด ก่อนจะตอบเสียเอง
“สามีครับ ผมเป็นสามีของมัทนา”
“นี่นาย…” หล่อนหันไปทำตาดุใส่เขา แต่แมทธิวไหวไหล่อย่างไม่สนใจ
“หรือมันไม่จริงล่ะ” เขาก้มลงกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู มือที่รวบอยู่รอบเอวก็แสดงความเป็นเจ้าของด้วยการลูบขึ้นลงไปมา หล่อนได้แต่เม้มปากและยิ้มเจื่อนๆ ให้คนถาม
“หนูอิจฉาพี่มัทจังได้ผัวหล่อราวกับเทพบุตร หาให้หนูสักคนได้ไหมคะพี่มัท”
หล่อนเดินมานั่งโต๊ะแล้วลูกสาวเจ้าของร้านยังตามติดมายืนใกล้ๆ แถมสายตาก็ทอดมองไปที่แมทธิวตลอดเวลา
มัทนารู้สึกไม่พอใจ “พี่คงช่วยไม่ได้หรอก เกรซคงต้องหาเอาเอง แต่พี่ว่าอายุเท่าเกรซน่าจะคิดเรื่องเรียนก่อนอันดับแรกนะจ๊ะ เรื่องแฟนเอาไว้เรียนจบก่อนดีกว่า”
“นังเกรซมันก็ระริกระรี้แบบนี้ตลอดนั่นแหละ นี่ยังไม่รู้เลยว่ามันจะเรียนจบก่อนมีผัวหรือเปล่า” เจ๊น้อยเจ้าของร้านส้มตำเดินเข้ามาร่วมวงสนทนาพร้อมกับยื่นเมนูอาหารให้
“แม่น่ะ พูดซะฉันไม่เหลือความดีเลย ไปดีกว่า” แล้วเกรซก็เดินหายออกไป เจ๊น้อยส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา
มัทนาระบายยิ้มบางๆ “เกรซยังเด็กน่ะค่ะ คงต้องค่อยๆ สอนกันไป แต่มัทว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะคะ”
“เจ๊ก็ภาวนาขอให้เป็นอย่างที่หนูมัทพูดนั่นแหละ ว่าแต่วันนี้กินอะไรดี แล้วสามีหนูมัทกินเผ็ดได้เหรอ” เจ๊น้อยมองไปที่ฝรั่งหน้าหล่อตัวโตด้วยความเป็นกังวล
มัทนาแทบซ่อนยิ้มไม่อยู่ “กินได้อยู่แล้วค่ะเจ๊ เอาแซบแบบมหา’ลัยเลยนะคะ”
“แน่ใจนะหนูมัท”
“แน่ใจสิคะ” มัทนาพยักหน้ารับ ปรายตามองคนตัวโตที่นั่งทำหน้างงๆ อย่างสะใจ
“แล้ววันนี้กินอะไรดีล่ะ”
“เหมือนเดิมค่ะ เอามาทุกอย่างเลย วันนี้มัทมีเจ้ามือ” หล่อนหันไปมองแมทธิว “จริงไหมคะ”
แมทธิวพยักหน้ารับ “อืม สั่งเลย ฉันจ่ายเอง”
“งั้นตามนั้นเลยจ้ะเจ๊”
เจ๊น้อยยิ้มกว้าง ก่อนจะรีบเดินไปทำอาหารให้ตามที่มัทนาต้องการ และเมื่ออยู่กันตามลำพัง แมทธิวก็อดเอ่ยถามสิ่งที่คาใจสงสัยกับมัทนาไม่ได้
“แซบมหา’ลัยคืออะไรเหรอมัทนา”
มัทนาอมยิ้ม ดวงตาแพรวพราว คาดหวังกับผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับแมทธิว
“เดี๋ยวนายก็รู้น่า”
นายเสร็จฉันแน่ แมทธิว มาเลซาสโซ!
ช่วงเวลาอาหารผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับความอึ้งทึ่งเสียวที่เกิดขึ้นกับหล่อน
ไม่น่าเชื่อว่าแมทธิวจะสามารถกินเผ็ดได้เก่งขนาดนี้ เขาไม่บ่นฟูมฟายอะไรเลย กินได้ทุกอย่าง แม้ว่าจะจิบน้ำเป็นว่าเล่นก็ตาม หล่อนเสียอีกที่เผ็ดจนลิ้นพอง
“นี่นายไม่เผ็ดจริงๆ เหรอ” เมื่อขึ้นมาอยู่บนรถด้วยกัน หล่อนก็อดที่จะถามไถ่ในสิ่งที่สงสัยออกไปไม่ได้
“เผ็ด”
“อ้าว เผ็ดแล้วทำไมนายกินได้ล่ะ” หล่อนสงสัยหนักขึ้นไปอีก
เขาตวัดตาคมกริบมองมา “ก็เธออยากให้ฉันเผ็ดตายไม่ใช่เหรอ ฉันก็จัดให้สมใจไง แต่เสียดายที่ฉันยังไม่ตาย”
หล่อนอดสำนึกผิดไม่ได้เมื่อเห็นปากของเขาแดงก่ำ จมูกโด่งสวยก็แดงเช่นกัน นี่หล่อนเล่นบ้าอะไรนะ
“ฉันก็แค่…”
“อย่าแก้ตัว”
“อุ๊ย…”
หล่อนอุทานได้แค่นั้น เขาก็โน้มตัวเข้ามาหา มือใหญ่สอดรองที่ใต้ท้ายทอย ก่อนจะประกบปากลงมาหาอย่างหนักหน่วง จูบขยี้บี้คลึง ล้วงลิ้นเข้ามาภายใน กิริยาของเขาเต็มไปด้วยการลงทัณฑ์ที่แสนดุดัน ถ่ายทอดทุกความเผ็ดร้อนเข้ามาในปากของหล่อน พอสาแก่ใจเขาก็ถอนจูบและดันตัวออกห่าง ในขณะที่หล่อนยังคงหอบหายใจระรัว และต้องยกมือขึ้นปิดปากช้ำๆ ของตัวเอง
“เป็นไง รู้หรือยังว่าฉันเผ็ดแค่ไหน”
“นายกินไม่ได้ก็ไม่ควรกินสิ ทำเป็นเก่งทำไม” หล่อนบ่นกระปอดกระแปด ปากยังคงลิ้มรสความเผ็ดร้อนไม่คลาย
“อย่าทำแบบนี้อีก” เขากระชากรถออกไปจากหน้าร้านส้มตำข้างทางทันที ในขณะที่หล่อนย่นจมูกใส่เขา
“ค่า เจ้านาย”
เขาไม่ตอบ ขับรถต่อไปเงียบๆ จนหล่อนอึดอัดต้องเอ่ยถาม เพราะจำได้ว่าไม่ใช่ทางกลับบ้าน
“เราจะไปไหนกันอีกล่ะ ไม่กลับบ้านเหรอ”
เขาไม่หันมามองเลยสักนิด แต่ตอบเสียงราบเรียบออกมา “ฉันให้เลขาฯ จองตั๋วหนังเอาไว้ให้ เราจะไปดูด้วยกัน”
“ดูหนังเหรอ”
“ใช่ หรือว่าเธออยากจะกลับบ้านไปเป็นนางเอกหนังเอง” เขาหันมามองด้วยสายตาวิบวาว “แต่บอกก่อนนะว่าหนังที่เธอจะได้เล่นเป็นนางเอกเป็นหนังโป๊”
“ไอ้คนบ้า” หล่อนกัดปากแน่น แสนโมโห “จะพาฉันไปไหนก็พาไปเลย จะขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็ตามใจ” หล่อนประชดประชัน
แมทธิวหัวเราะหึๆ “สวรรค์น่ะเดี๋ยวได้ขึ้นแน่ใจเย็นๆ แต่ตอนนี้ไปดูหนังกันก่อน”
ไม่รู้ทำไมคำพูดบ้าๆ ของแมทธิวถึงทำให้หล่อนร้อนฉ่าไปทั้งเนื้อทั้งตัวแบบนี้ ร้อนจนแทบจะรอให้ถึงค่ำคืนนี้ไม่ไหว บ้าจัง นี่เธอเป็นบ้าอะไรไปนะ มัทนา
MANGA DISCUSSION