“ทำไมสภาพแกถึงเป็นแบบนั้นล่ะ มัทนา”
บิดาที่ยังไม่หลับไม่นอน เพราะเฝ้ารอการกลับมาของหล่อนรีบลุกขึ้นพรวดพราดมาหาทันที
“มัท…เท้าแพลงน่ะพ่อ”
มนตรีประคองร่างของลูกสาวมานั่งบนโต๊ะไม้หน้าบ้าน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“แล้วเป็นไงบ้าง แกเจอผู้ชายดีๆ สักคนไหม”
หล่อนนิ่งเงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจส่ายหน้า “ไม่เจอเลยค่ะพ่อ ทุกคนล้วนแต่มีเจ้าของหมดแล้ว”
สีหน้าเบิกบานของบิดาเศร้าหมองลงทันตา “แล้วแบบนี้…เราจะทำยังไงดี ข้าไม่อยากติดคุก”
หล่อนยื่นมือไปแตะที่แขนของบิดา “พ่อไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ มัทจะทำทุกอย่างให้พ่อไม่ต้องติดคุก”
“แล้วแกจะทำยังไงล่ะ จะเอาเงินที่ไหนไปคืนคุณแมทธิว”
หล่อนเองก็ยังคิดหาทางไม่ออกเหมือนกัน
“นี่ข้ายังจินตนาการไม่ออกเลยว่า หากคุณแมทธิวรู้ว่าเงินที่หายไปมีข้าเป็นตัวการอยู่ในนั้นด้วย คุณแมทธิวจะโกรธจะแค้นมากแค่ไหน”
หล่อนร้องไห้ออกมา “พ่อ…มัทจะพยายาม…”
“มันไม่มีเวลาแล้ว” พ่อของหล่อนเดินกลับไปกลับมาอย่างใช้ความคิด
“ในเมื่อคืนนี้แกหาผู้ชายรวยๆ ไม่ได้ งั้นทางเดียวที่เหลืออยู่ก็คือแกต้องกลับไปหาเสี่ยสมบูรณ์อีกครั้ง”
ไอ้เสี่ยอ้วนที่กระโดดออกมาจากขวดซีอิ๊วนั่นน่ะเหรอ ไม่เอา หล่อนไม่มีทางไปหาอีกเด็ดขาด
“ไม่นะพ่อ มัทไม่ไป”
“แต่เสี่ยสมบูรณ์คือทางเลือกสุดท้ายของเรา เสี่ยจะจ่ายเงินทันที ถ้าแก…ยอมแต่งงานกับเสี่ย”
“ไม่พ่อ…มัททำไม่ได้”
หล่อนลุกขึ้น ส่ายหน้าน้ำตาไหลพราก มือกำผ้าเช็ดหน้าของแมทธิวเอาไว้แน่น
“มัทจะหาวิธีอื่น”
“งั้นแกก็รอเวลาดูข้าติดคุกได้เลย”
“พ่อ…”
“แกไปนอนเถอะ ปล่อยให้ข้าเตรียมตัวรับเวรรับกรรมเถอะ”
“พ่อจ๋า…” หล่อนเดินเข้าไปหาบิดา “มัทไม่ได้จะไม่ช่วยพ่อนะจ๊ะ แต่ว่ามัทเกลียดไอ้เสี่ยบ้ากามนั่น มัทไม่ได้รักมัน”
“แล้วแกรักใคร คนที่แกรักมีเงินไหมล่ะ”
หล่อนอึ้งไป ก่อนจะตัดสินใจสารภาพความจริงออกมา “มัทรัก…รัก…” หล่อนอึกอักเล็กน้อย “พี่ไมค์ค่ะพ่อ”
มนตรีเบิกตากว้างตกใจ
“ว่าไงนะ แกรักคุณเมสัน?”
“ใช่ค่ะพ่อ มัทรัก…พี่ไมค์ แอบรักมานานแล้ว”
ทำไมนะ ทำไมความมั่นใจตอนพูดออกไปมันไม่ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนกับเมื่อก่อนนี้เลย หญิงสาวกำผ้าเช็ดหน้าของแมทธิวแน่นยิ่งขึ้น
“มัทจะพยายามจับพี่ไมค์ให้ได้เร็วที่สุด”
หลังจากหายประหลาดใจ มนตรีก็เอ่ยออกมาทีเล่นทีจริง “แล้วทำไมแกไม่รักคุณแมทธิวล่ะ ถ้าแกรักคุณแมทธิว ข้าก็จะได้กลายเป็นพ่อตา และคงไม่มีลูกเขยที่ไหนกล้าจับพ่อตาเข้าคุกหรอก”
“มัท…เกลียดหมอนั่นจะตาย จะไปรักลงได้ยังไงกันล่ะพ่อ”
หัวใจของหล่อนเต้นแรง ยังคงกำผ้าเช็ดหน้าของแมทธิวแน่นไม่คลาย
“มัทขอตัวก่อนนะพ่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเริ่มรุกพี่ไมค์ให้มากขึ้น พ่อจะได้มีเงินไปใช้คืนบริษัทยังไงล่ะคะ”
หล่อนไม่คิดจะรอให้พ่ออนุญาตก่อนเหมือนเช่นเคย สองเท้ารีบก้าวจากมาทันที ระหว่างทางสมองก็ว้าวุ่นแทบจะระเบิด ตอนนี้ในหัวของหล่อนเริ่มทำชื่อของเมสันรางเลือนไปทุกทีแล้ว และก็กำลังมีชื่อของใครอีกคนชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
“บ้าๆ ๆ ฉันเกลียดนาย”
มัทนาหิ้วตะกร้าไม้ไผ่สานออกมาจากคฤหาสน์หลังงามของตระกูลมาเลซาสโซด้วยท่าทางไม่สดชื่นนัก แม้ว่าหล่อนจะได้นั่งมองเมสันรับประทานอาหารฝีมือของตัวเองจนหมดเกลี้ยง แต่กลับไม่รู้สึกภาคภูมิใจอย่างที่ควรจะเป็นเลย
นี่หล่อนเป็นอะไรไปนะ ทำไมถึงได้รู้สึกหงอยเหงา และต้องชะเง้อมองออกไปนอกห้องอาหารบ่อยๆ ด้วย หล่อนกำลังรอคอยใครกัน ไม่…หล่อนไม่ได้รอคอยใครสักหน่อย
มัทนายืนนิ่งอยู่หน้าตัวตึกใหญ่ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามเช้าด้วยความรู้สึกทรมานใจแปลกประหลาด มือเล็กล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ ผ้าเช็ดหน้าสีเข้มอยู่ในนั้น
หัวใจของหล่อนเต้นแปลกประหลาด ขณะหมุนตัวมองเข้าไปในตึกใหญ่อีกครั้ง
“คนบ้าอะไรนอนตื่นสายชะมัด”
ว่าแล้วก็หมุนกลับ กำลังก้าวเท้าจะเดินออกไปยังนอกรั้วใหญ่ แต่รถสปอร์ตคันคุ้นตาก็แล่นผ่านไปเสียก่อน หล่อนชะงัก ตกใจ ก่อนจะรีบซอยเท้าวิ่งตามไปทันที
“หยุดก่อน…”
หล่อนวิ่งตามไปเรื่อยๆ และก็ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนักถึงสามารถวิ่งทันได้ หรือว่าเขาชะลอรถรอกันนะ หล่อนแปลกใจ แต่ก็รีบสลัดความคิดนั้นทิ้งไปโดยเร็ว ขณะถลาเข้าไปเคาะกระจกรถคันที่จอดสนิทอยู่
กระจกรถค่อยๆ ลดลงจนในที่สุดก็หมดทั้งบาน ใบหน้าหล่อจัดแต่เคร่งขรึมของแมทธิวจ้องมองมา
บ้าจริง ทำไมหล่อนจะต้องรู้สึกว่าหัวใจมันเต้นแรงระรัวแบบนี้ด้วยนะ เต้นแรงจนแทบจะกระดอนทะลุอก
“เพิ่งรู้นะว่าแรดวิ่งเร็วขนาดนี้”
ความหล่อของหมอนี่หายวับไปทันที เมื่อพ่อคุณขยับปากพูด
“ไอ้บ้า! ฉันเป็นคนไม่ใช่แรด”
“อ้าว จะไปรู้เหรอ เห็นวันๆ เอาแต่วิ่งไล่ตามผู้ชาย”
เขาหัวเราะหึๆ ในขณะที่หล่อนกำมือแน่น ก่อนจะล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋า และปาใส่หน้าหล่อๆ อย่างโมโห
“ฉันเอามาคืนย่ะ”
แมทธิวยักไหล่น้อยๆ พลางใช้สองนิ้วคีบผ้าเช็ดหน้าที่เคยเป็นของตัวเองขึ้นมา และทำท่ารังเกียจ
“เปื้อนขี้มูกขี้ตาเธอไปแล้ว ฉันไม่ประสงค์จะเอาคืนหรอก”
“ไอ้บ้า ฉันซักแล้วนะ แล้วก็ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มอย่างดีด้วย” หล่อนตะคอกใส่ “แต่ถ้านายไม่เอาคืนนะ ก็เหวี่ยงทิ้งไปเลย ฉันไปละ”
“เดี๋ยวสิ”
คนที่หมุนตัวจะเดินหนีชะงัก หันกลับมา “อะไรอีกล่ะ หรือว่าจะจ่ายค่าน้ำยาซักผ้า”
“คงงั้นมั้ง”
“อะไรของนาย”
“ขึ้นรถมาสิ จะไปส่ง”
คนฟังรีบส่ายหน้าทันที “ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้”
“ถ้าไม่ขึ้นมา ฉันจะลงไปจับเธอโยนขึ้นมาเอง จะขึ้นหรือไม่ขึ้น มัทนา”
คนถูกข่มขู่ชะงักค้าง เท้าสะเอวอย่างไม่พอใจ
“แล้วนายเป็นอะไรกับฉันยะ มาสั่งฉันได้ยังไง ไปให้พ้นหน้าเลยไป ชิ้วๆ ๆ”
“ก็เธออยากเป็นเมียพี่ไมค์ไม่ใช่หรือ ฉันก็จะได้ช่วยสนับสนุนยังไงล่ะ”
ทำไมหล่อนได้ยินถึงไม่ได้รู้สึกดีใจเลยนะ มัทนาแปลกใจตัวเอง ก่อนจะรีบถามกลับกลบเกลื่อน
“คนอย่างนายเนี่ยนะจะมาช่วยฉัน”
“ใช่ คนอย่างฉันเนี่ยแหละ ขึ้นรถมาเร็วเข้า แล้วจะเล่าเรื่องของพี่ไมค์ให้ฟัง”
ไม่ใช่เพราะอยากรู้เรื่องของเมสันหรอกที่ทำให้หล่อนยอมขึ้นรถไปกับแมทธิวน่ะ แต่มันเพราะ…
บ้าๆ ๆ ๆ
“ไหนจะบอกอะไรก็บอกมาสิ” พอนั่งรถมาสักพักแล้วหล่อนก็อดที่จะทำลายความเงียบขึ้นไม่ได้
“ก็อยากรู้อะไรล่ะ สัญญาว่าจะพูดความจริง”
“หลังจากพี่ญาญ่าเสีย พี่ไมค์ยังไม่มีแฟนใช่ไหม”
“ใช่ ยังไม่มี” น้ำเสียงของแมทธิวห้วนสั้น
“แล้วพี่ไมค์ชอบผู้หญิงแบบฉันหรือเปล่า หรือว่าฉันต้องทำยังไงพี่ไมค์ถึงจะชอบน่ะ”
คราวนี้คนที่ขับรถอยู่ปรายตามองมา หล่อนรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจในดวงตาคมกริบคู่นั้น
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะ เธอก็ถามพี่ไมค์เองสิ”
“นี่นาย…ไหนบอกจะช่วยสนับสนุนไงล่ะ”
รถทั้งคันกระตุก ก่อนที่จะจอดสนิทที่ข้างทาง “ลงไปได้แล้ว ฉันเพิ่งนึกได้ว่าต้องรีบไปประชุม”
“นี่นาย…”
“หรือว่าไม่มีค่าแท็กซี่ล่ะ” แล้วเขาก็โยนธนบัตรสีเทาให้สองใบ “เอาไว้จ่ายค่ารถ ลงไปซะ”
หล่อนเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง มองผู้ชายอารมณ์แปรปรวนข้างกายด้วยความโมโห
“ไอ้คนบ้า ลากฉันออกมาจากบ้านของนาย แล้วก็มาทิ้งฉันเอาไว้กลางทางแบบนี้น่ะเหรอ”
“แม่คุณ…ลงไปได้แล้ว ฉันจะรีบไปประชุม”
หล่อนโมโหจนน้ำตาแทบร่วง จำต้องก้าวลงไปจากรถคันงามด้วยความเดือดดาลสุดขีด
“ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้คนบ้า”
หล่อนตะโกนไล่หลังรถคันหรูไปทั้งน้ำตา ก่อนจะโทรตามดลกรเพื่อนสนิทให้ออกมารับ
“นัตตี้ แกตื่นหรือยัง มารับฉันหน่อย”
ในขณะที่มัทนากำลังวิงวอนให้เพื่อนออกมารับอยู่นั้น แมทธิวเองก็กำลังหงุดหงิดไม่แพ้กัน
“ผู้หญิงบ้า”
เขาสบถอย่างโมโห หรี่ตามองผ้าเช็ดหน้าที่วางไว้ใกล้ตัวนิ่ง คว้ามือจะเอาโยนทิ้งนอกหน้าต่างรถ แต่สุดท้ายก็จำต้องเก็บมันใส่กระเป๋าเสื้อแทน
MANGA DISCUSSION