สลับชะตา ชายามือสังหาร - ตอนที่ 327 ในกายเปลี่ยนแปลงอย่างน่าตกตะลึง
ซือหม่าโยวเย่ว์ที่อยู่บนไหล่เจ้าไก่ฟ้าเห็นหมอกดำเหล่านั้นไล่ตามพวกตนมา ไม่ว่าพวกตนจะวิ่งเร็วสักแค่ไหน หมอกดำเหล่านั้นก็ยังตามมาได้อยู่ดี
“แย่แล้ว” เจ้าไก่ฟ้าวางตัวพวกซือหม่าโยวเย่ว์ลง ทั้งคู่ตื่นตะลึงไปในทันใด เหตุใดเบื้องหน้าจึงยังมีหมอกดำอยู่ด้วยเล่า!
“หมอกดำเหล่านี้มีไอพลังมืดมิดอยู่ พวกเจ้าลองใช้ไฟโจมตีดูสิ!” เจ้าไก่ฟ้าพูดพลางรวบรวมลูกไฟซัดใส่หมอกดำที่ติดตามพวกเขามา
พวกซือหม่าโยวเย่ว์รู้ว่านี่ไม่ใช่เวลามาถามหาเหตุผล ในเมื่อเจ้าไก่ฟ้าบอกว่าให้ใช้ไฟโจมตี พวกเขาจึงรวบรวมลูกไฟออกมาซัดใส่หมอกดำด้านหน้าด้วย
“ปัง…” หมอกดำเหล่านั้นมีการกัดกร่อนอันแข็งแกร่งยิ่ง แต่ก็เหมือนกับที่เจ้าไก่ฟ้าบอก พวกมันเป็นของธาตุความมืด ไฟจึงเป็นศัตรูของพวกมันตามธรรมชาติ
“ฟู่ๆ”
เมื่อหมอกดำถูกเปลวเพลิงโจมตีก็ส่งกลิ่นเหม็นโฉ่ออกมา หลังจากดิ้นรนอยู่หลายครั้งก็สูญสลายไปในที่สุด
“ได้ผล!”
พวกซือหม่าโยวเย่ว์แววตาเป็นประกายพลางขว้างลูกไฟออกมาราวกับไร้ซึ่งต้นทุน
หมอกดำเหล่านั้นไม่มีทางเข้ามาใกล้ได้อีก แต่พวกเขาก็มิอาจถอยหลังได้อีกแล้วเช่นกัน
“หมอกดำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!” หมอกดำมีความเร็วเหนือกว่าลูกไฟของพวกเขาอย่างเทียบไม่ติด เส้นทางทั้งด้านหน้าและด้านหลังของพวกเขาถูกหมอกดำปิดตายในที่สุด
ลูกไฟเหล่านั้นไม่มีพลังยับยั้งหมอกดำเหล่านี้ได้เลย
“ที่แท้แล้วสิ่งเหล่านี้มันคืออะไรกันแน่!” ซือหม่าโยวเย่ว์มอง “กำจัดไปแล้วหมอกดำเหล่านี้ก็เกิดขึ้นมาใหม่ได้อีกอยู่ดี!”
“ดูเหมือนว่าพวกเราจะกำจัดเพียงแค่เปลือกนอกของพวกมัน แต่มิได้โจมตีถึงแก่นของมันเลย ดังนั้นพอมันสลายไปแล้วจึงยังกลับมารวมตัวกันใหม่ได้อีก” ซือหม่าโยวหลินพูด
“เอ๊ะ… หมอกดำทางด้านเจ้าไก่ฟ้ากลับมารวมตัวกันใหม่ได้ช้ากว่านี่นา” ซือหม่าโยวเย่ว์หันกลับไปมองทางด้านเจ้าไก่ฟ้า ก็พบว่าระยะเวลาที่หมอกดำกลับมารวมตัวนั้นแตกต่างกัน
“อาจเป็นเพราะระดับขั้นของเจ้าไก่ฟ้าสูงกว่า เปลวเพลิงจึงล้ำเลิศกว่าของพวกเราพวกเราก็เป็นได้ ดังนั้นจึงให้ผลเช่นนี้น่ะ” ซือหม่าโยวหลินพูด
“เพราะอุณหภูมิสูงหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์ครุ่นคิดพลางโคจรเปลวเพลิงสีทองในร่างกาย ก่อนจะลากแล้วซัดมันออกไป
“ปัง…” หมอกดำที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถูกแผดเผาในทันใด น่าตกใจจนทั้งสองคนสะดุ้ง
“เช่นนี้ก็เรียบร้อยแล้วหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์มองอุโมงค์ทางเดินอันว่างเปล่าเบื้องหน้าอย่างไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบสนอง
“ดูเหมือนมันจะไม่กลับมารวมตัวกันอีกแล้ว” ซือหม่าโยวหลินมองซือหม่าโยวเย่ว์อย่างตกตะลึง เปลวเพลิงที่เธอขว้างออกไปเมื่อครู่นั้นคือเปลวเพลิงอะไรกัน จึงทำให้เขาสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิอันน่าหวาดหวั่น
“เจ้ารอก่อนนะ ข้าจะไปช่วยเจ้าไก่ฟ้า” ซือหม่าโยวเย่ว์เห็นว่าเปลวไฟของเพลิงชาดได้ผล จึงหมุนกายวิ่งไปหาเจ้าไก่ฟ้า ก่อนจะดึงเอาเปลวเพลิงกองหนึ่งออกมาแล้วขว้างใส่หมอกดำตรงหน้าเขา
“ปัง…”
เกิดเสียงดังขึ้นเช่นเดียวกัน จากนั้นหมอกดำเหล่านั้นก็สูญสลายไปจนสิ้น
“ในที่สุดก็เรียบร้อยเสียที” ซือหม่าโยวเย่ว์พ่นลมหายใจออกยาว หลังจากนั้นจึงมองเจ้าไก่ฟ้าแล้วถามว่า “เจ้าไม่เป็นไรกระมัง”
“ไม่เป็นไร” เจ้าไก่ฟ้าส่ายหน้า หลังจากนั้นจึงมองไปข้างหน้าข้างหลังแล้วเอ่ยว่า “ต้องเลือกสักทิศทางหนึ่งแล้วล่ะ”
“สุ่มเดินไปสักทิศทางหนึ่งก่อนก็แล้วกัน ดูว่าจะเดินออกไปได้หรือไม่” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
ทั้งสามคนออกเดินทางอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้พวกเขาเดินเคียงไหล่กัน
“โยวเย่ว์ เปลวเพลิงของเจ้าเมื่อครู่คืออะไรกันน่ะ” ซือหม่าโยวหลินถาม
“ไฟกำเนิดของสัตว์อสูรผูกพันธสัญญาของข้าเอง” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “หากรู้ตั้งแต่ต้นว่าจะมีประโยชน์เช่นนี้ ข้าก็คงใช้สิ่งนี้ตั้งแต่แรกแล้ว เจ้าไก่ฟ้า คราวก่อนที่เจ้ามา เจ้าได้พบกับหมอกดำชนิดนี้หรือไม่”
เจ้าไก่ฟ้าส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “คราวก่อนตอนที่ข้ามา ข้าได้พบกับสิ่งอื่น มิใช่กลไกที่แข็งแกร่งอย่างเมื่อครู่ แต่ก็มิได้ผ่อนคลายไปกว่าเมื่อครู่นี้เลย”
“หมอกดำเหล่านี้ล้วนแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายแห่งความมืดมิด ข้าคิดว่าเป็นไปได้อย่างยิ่งที่สิ่งมีชีวิตที่ถูกสะกดเอาไว้ที่นี่จะเป็นธาตุความมืด” ซือหม่าโยวหลินพูด
“ไม่ว่าจะเป็นธาตุอะไร ก็หวังว่าพวกเราจะไม่ต้องพบเจอมันนะ” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“เจ้ามีเปลวเพลิงของมันอยู่ หากพบเจอกับการโจมตีเช่นนี้ก็คงจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไร กลัวแต่ว่าจะเจออย่างอื่นเข้าน่ะสิ เจ้าไก่ฟ้าพูด
พวกเขาเดินอยู่ในอุโมงค์ทางเดินกว่าครึ่งชั่วโมง ได้พบกับทางแยกหลายแห่ง ซึ่งทุกครั้งก็เลือกเดินไปตามสัญชาตญาณ พวกเขาไม่รู้เลยว่าเดินไปถึงที่ไหนแล้ว
“ด้านหน้ามีเสียงน้ำไหลอยู่” เจ้าไก่ฟ้าพูด
“อาจจะออกไปได้ก็ได้นะ!” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดอย่างตื่นเต้น
พวกเขาเดินตรงไปข้างหน้าตามเสียงน้ำ เพียงไม่นานก็เห็นธารน้ำใต้ดินสายหนึ่ง
“มีธารน้ำใต้ดินอยู่ ไม่รู้ว่าจะนำทางไปสู่ภายนอกหรือไม่” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“พวกเจ้าดูที่ริมน้ำสิ” ซือหม่าโยวหลินชี้ไปที่ริมฝั่ง
พวกเขามิได้รีบร้อนเดินเข้าไป เพราะพวกเขาเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ที่ริมฝั่ง…โครงกระดูกหลายร่าง
“คนพวกนี้เป็นใครกัน” ซือหม่าโยวเย่ว์ถาม
“อาจจะเป็นพวกที่หลงเข้ามาที่นี่เหมือนพวกเราก็ได้” ซือหม่าโยวหลินเอ่ย
“พวกเขาหันหัวมาทางเรา แสดงว่าพวกเขากำลังหนีจากธารน้ำใต้ดิน ดูท่าทางธารน้ำใต้ดินนี้คงไม่ปลอดภัย” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด
“บุ๋งๆ…”
เสียงน้ำแตกฟองดังขึ้น ราวกับน้ำเดือดเลยทีเดียว
“รีบไปเร็วเข้า!” เจ้าไก่ฟ้าเป็นถึงสัตว์อสูรเหนือเทพ มีสัญชาตญาณอันเฉียบคมต่ออันตรายเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่ได้ยินเสียงน้ำแตกฟอง เขาก็สัมผัสถึงกลิ่นอายอันตรายได้แล้ว
ซือหม่าโยวเย่ว์หมุนตัวแล้วยกเท้าวิ่งหนี ระหว่างที่วิ่งเธอก็หันมามอง จึงพบว่าภายในธารน้ำใต้ดินเกิดฟองเล็กๆ ผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นน้ำในลำธารก็ค่อยๆ เอ่อขึ้นมาข้างบน
“ซวยแล้ว นี่มันใช่น้ำจริงๆ หรือ” เธอตะลึงงันไปกับเหตุการณ์นี้ จนหลุดปากสบถออกมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่
“น้ำในลำธารเป็นสีดำ น่าจะไม่ใช่แค่น้ำในลำธารธรรมดา!” เจ้าไก่ฟ้าพูด “มีไอพลังมืดมิดเข้มข้นนัก”
ทั้งสามวิ่งตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว พวกเขาต่างเกิดลางสังหรณ์อย่างหนึ่งว่าถ้าสัมผัสโดนน้ำในลำธาร คงได้ไปไม่กลับอย่างแน่นอน
“โฮก…”
เสียงคำรามดังมาจากทุกทิศทุกทาง ทั้งสามคนจึงหยุดฝีเท้าลง
“นั่นมันสัตว์ชนิดใดกัน เสียงคำรามราวกับจะแทงทะลุวิญญาณข้าเลยทีเดียว” ซือหม่าโยวหลินอุดหูด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“รีบหนีเร็วเข้า” เจ้าไก่ฟ้าได้สติกลับคืนมาก่อน เขาอุ้มทั้งซือหม่าโยวเย่ว์และซือหม่าโยวหลินที่ยังคงตะลึงงันอยู่วิ่งต่อไป
พวกเขาเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา หมายจะหลบหลีกจากน้ำในลำธารอันแปลกประหลาดนั้นด้วยวิธีนี้ แต่เมื่อน้ำในลำธารปะทะกำแพงแล้วกลับมิได้ร่นถอยไป แต่กลับพลิกข้ามกำแพงราวกับมีขาก็มิปาน
“บ้าเอ๊ย นี่มันใช่น้ำจริงๆ หรือ” ตอนนี้ซือหม่าโยวหลินก็อดสบถมิได้เช่นกัน แต่ไหนแต่ไรพวกเขาก็ไม่เคยเห็นสิ่งแปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนเลย!
หลังจากที่ได้ยินเสียงคำรามนั้นแล้วซือหม่าโยวเย่ว์ก็ราวกับถูกตรึงเอาไว้ เธอรู้สึกว่าส่วนลึกของร่างกายมีบางสิ่งบางอย่างที่เตรียมพร้อมจะอาละวาดอยู่ คล้ายกำลังจะหลุดออกมาจากพันธนาการ
“เหตุใดจึงคุ้นเคยเหลือเกิน”
“นี่มันอะไรกัน เหตุใดจึงทำให้เกิดเสียงสะท้อนอยู่ภายในตัวข้าเล่า”
“มิน่าเล่าเจ้าไก่ฟ้าถึงได้บอกว่าเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คล้ายคลึงกัน”
“คืออะไรกัน อะไรจะหลุดออกมาน่ะ”
เธอรู้สึกว่าภายในกายเจ็บปวดยากจะทานทน พลังวิญญาณในร่างกายหดเข้าสู่จุดตันเถียนทีละเล็กละน้อย จากนั้นไอพลังมืดมิดขุมหนึ่งก็แผ่ออกมาจากร่างกายเธอ ทำให้เจ้าไก่ฟ้าและซือหม่าโยวหลินที่โอบเธออยู่แยกตัวจากกัน
“โอ๊ย!” ซือหม่าโยวเย่ว์กุมหน้าอกแล้วคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น ดูอ่อนแออยู่บ้าง
“โยวเย่ว์หรือ” เจ้าไก่ฟ้าและซือหม่าโยวหลินมองเธออย่างตกใจ ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรไปเสียแล้ว
“ครืน… ครืน…” น้ำจากธารน้ำใต้ดินเหล่านั้นตามมา แล้วไหลลงมาตามกำแพง
“ไสหัวกลับไปเดี๋ยวนี้นะ!” ซือหม่าโยวเย่ว์เอ่ยปากตะคอกในทันใด
น้ำในลำธารเหล่านั้นนิ่งไป จากนั้นจึงไหลกลับไปตามทิศทางที่ไหลมา
……………………………………..