สภานักเรียนกับโรงเรียนสิ่งมีชีวิตลี้ลับ - ตอนที่ 88 เคสที่ 42 เข้าได้จริงเหรอ? (1)
พักเที่ยง
ผมอยู่ห้องสภานักเรียนอย่างโดดเดี่ยว
ยังคงนั่งอยู่โต๊ะประธาน พลางระลึกความหลังที่เกิดขึ้นในห้องสภาแห่งนี้เพียงผู้เดียว
ที่ผ่านมา ก็เกิดเรื่องหลายอย่างที่ห้องนี้ พอคิดว่าตัวเองจะไม่ได้เป็นประธานนักเรียนอีกทั้งยังต้องบอกลาห้องชมรมอีกนั้น ทำให้ใจหายพอดู…
แต่จะมัวรำพึงรำพันก็ใช่ที ผมลุกจากเก้าอี้ จะใช้เวลาว่างที่เหลือก่อนเข้าเรียนเก็บของบางส่วนให้เรียบร้อย เพื่อให้สะดวกในการย้ายออกช่วงเย็น
และในขณะที่จะทำเช่นนั้นนั่นเอง…
“คริสโตเฟอร์ทำอะไรอยู่น่ะ?”
ประตูถูกเปิดอ้าไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ พร้อมกับเอ็มที่มองเข้ามาด้วยแววตาฉงน
“เก็บของไง”
“หะ???”
เอ็มตาโต
ผมสะบัดข้อมือพูด
“ฉันไม่ได้เป็นประธานนักเรียนแล้ว การประเมินก็ไม่ผ่าน สภานักเรียนก็เลยโดนยุบ ฉันเลยกำลังจะเก็บของออกนี่ไง”
“ไม่ต้องสรุปให้ผมฟังก็ได้ แต่ก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าคริสโตเฟอร์ทำอะไรอยู่?”
“กวนโมโหกันหรือไง?”
เอ็มรีบปัดมือให้คำพูดแฝงความหงุดหงิดของผม
“ไม่ใช่นะ อืม…เหมือนจะคุยกันคนละประเด็นไงไม่รู้สิ เอาเป็นว่าคริสโตเฟอร์ได้อ่านข่าวโรงเรียนวันนี้รึยัง?”
“ฉันไม่อ่านข่าวที่ยัยนั่นเป็นคนเขียนหรอก”
“อ่า…งั้นเว็บไซต์โรงเรียน?”
“ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ฉันจะเปิดมือถือเฉพาะหลังเลิกเรียน”
“จริงจังจนน่าเหนื่อยใจเลยนะเนี่ย…”
เอ็มถอนหายใจ ถือวิสาสะเข้ามานั่งที่โซฟารับแขกทั้งที่ยังไม่มีใครเชิญ
“ผมสละสิทธิ์ไปแล้วล่ะ”
“หา?”
เมื่อผมอุทาน เอ็มก็ถอนหายใจอีกครั้ง
“ผมรับตำแหน่งประธานนักเรียนไม่ได้ เพราะไม่ได้เรียนอยู่สาขานี้ ดังนั้นผมเลยสละสิทธิ์ …ในเมื่อผู้ได้รับคะแนนอันดับหนึ่งหายไป คนที่จะได้ดำรงตำแหน่งก็ต้องเป็นอันดับสองใช่มั้ยล่ะ?”
ที่พูดมันก็สมเหตุสมผลอยู่หรอก เอ็มเรียนอยู่สาขาอื่น ยังไงก็รับตำแหน่งประธานนักเรียนด้วยตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว
แต่ว่านะ…
“ไอ้นี่น่ะนะที่คิดได้เมื่อวาน?”
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ? คิดว่าผมจะมีท่ายากอะไรมากกว่านี้หรือไง? โลกความจริงมันก็ง่ายๆแบบนี้แหละ ไม่ต้องมีพิธีรีตองเยอะ แค่ผลลัพธ์เป็นอย่างที่ต้องการก็พอ”
เข้าใจได้ แต่กับเรื่องแค่นี้ถึงขนาดต้องทำหน้าเครียดงั้นเลยเหรอ…
ผมพูดพลางส่ายศีรษะ
“ยังงี้ก็เหมือนไอ้ที่เลือกตั้งก่อนหน้านี้ กลายเป็นปาหี่ไปเลยน่ะสิ”
“ไม่สักหน่อย อย่างน้อยคริสโตเฟอร์ก็ได้คะแนนอันดับสองเลยนะ? ลองคิดเสียว่าถ้าไม่มีผมลงสมัคร ยังไงคริสโตเฟอร์ก็ชนะ”
“เอาตอนจบมาสรุปรวบแบบนั้นมันก็พูดง่ายสิ…”
“จะบอกว่า…ถ้าเกิดผมไม่ลงสมัคร คริสโตเฟอร์ก็อาจจะแพ้คนอื่นอยู่ดีงั้นเหรอ?”
…อาจใช่
สภานักเรียนที่มีผมเป็นแกนนำไม่ได้มีความนิยมดีเด่มากนัก มีความเป็นไปได้ว่าผู้ลงสมัครคนอื่นๆที่มาพร้อมนโยบาย ‘ดีๆ’ จะชนะผมอย่างง่ายดายอยู่
ที่ผลลัพธ์เป็นเช่นนี้ ผมคิดว่าส่วนนึงมาจากที่เอ็มช่วยพูดให้ตอนวันที่ผมไปหาเสียง…
“แล้วคือไง? ฉันก็ทำงานสภาเหมือนเดิมต่อ ง่ายๆงั้นเลย?”
“กังวลเรื่องการประเมินอยู่สินะ”
“ประมาณนั้น”
เอ็มเหมือนจำใจที่ต้องมาหาผมที่โต๊ะประธานก่อนจะพูดออกมาว่า
“รู้ใช่มั้ยว่าการประเมินโรงเรียนครั้งนี้ คำตัดสินของผมถือเป็นที่สุดน่ะ?”
“เออ ไม่งั้นคงไม่ส่งแกที่เป็นแค่นักเรียนมาหรอก”
“นั่นแหละ ผมไปคุยกับผู้บริหารมาแล้ว …การสละสิทธิ์ของผมก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ประเด็นนั้นฝั่งผู้บริหารไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่”
“เพราะจริงๆสนใจแค่ว่าสภานักเรียนที่มีลูกซาตานเป็นประธานจะผ่านการประเมินรึเปล่าสินะ?”
“อืมๆ ทีนี้ผมก็เลยถามไปทั้งๆที่ยังไม่ได้บอกว่าคริสโตเฟอร์ได้คะแนนเป็นอันดับสอง…”
“ถามไปว่าไง?”
เอ็มคลี่ยิ้ม
“‘ในเมื่อผมสละสิทธิ์ อีกทั้งพวกคุณก็ไม่ได้มีเจตนาจะยุบสภานักเรียนโดยมิชอบหรืออคติส่วนตัว เพราะงั้นสภานักเรียนจะถูกดำเนินการณ์ต่อโดยผู้ที่ได้รับคะแนนมาเป็นอันดับสอง’ ”
“โห?”
“ฮะฮะ พอบอกไปแบบนั้นก็เลยไม่กล้าเถียงกันเลยล่ะ แต่ว่านะ…ทั้งที่ทำท่าทีเหมือนว่าไม่มีอคติ แต่ผมดูออกน่ะว่าที่ยอมให้ผมทำอย่างนั้น เพราะพวกเขาไม่ได้คิดเลยสักนิดว่าคริสโตเฟอร์จะได้คะแนนอันดับสอง”
“ไอ้ที่แกพูดไปเลยเห็นชอบกันทั้งคณะ สุดท้ายเลยกลายเป็นเหมือนที่แกบอกฉันสินะ”
“ถูกต้อง ตอนนี้คริสโตเฟอร์ถือว่าเป็นผู้ได้คะแนนเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่งอย่างเป็นทางการแล้วล่ะ ตำแหน่งประธานนักเรียนเลยตกเป็นของนายอีกครั้งโดยปริยาย”
ดูเหมือนเอ็มก็ไม่ค่อยชอบพวกผู้บริหารสักเท่าไหร่ เพราะถ้าอยากเอาใจเจ้าพวกนั้นล่ะก็ คงไม่ยกเรื่องนั้นไปพูด …ที่เป็นแบบนี้คงจะอยากช่วยผมนั่นแหละ
“เฮ้อ…ฉันต้องเหนื่อยกับไอ้เลือกตั้งบ้าบอมาเป็นอาทิตย์ แต่มาจบง่ายๆแบบนี้เนี่ยนะ?”
“หืม? เหมือนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เลยนะ? อ๋อ…ถ้ากลัวติดหนี้ผมล่ะก็ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง”
“ฉันไม่ได้กลัวติดค้างอะไรแกสัก…”
“เพราะผมมีเรื่องอยากให้ช่วยพอดีน่ะ”
เอ็มพูดแทรกขึ้นมาจนผมต้องกลืนประโยคแสดงความแล้งน้ำใจนั่นลงคอไปก่อน
และเอ่ยถามอย่างเสียไม่ได้
“อยากให้ช่วยอะไร?”
ในเมื่อช่วยมาก็ต้องช่วยกลับ ถึงจะอยากทำตัวใจจืดใจดำไม่เห็นคุณคนกับหมอนี่ก็เถอะ แต่ว่า…ลึกๆแล้ว ผมรู้สึกขอบใจเอ็มที่ทำให้ผมได้ทำหน้าที่ของตัวเองตามเดิมล่ะนะ
เอ็มยิ้มกว้าง
“คริสโตเฟอร์ถ่ายรูปเป็นมั้ย?”
ตามนั้น…สุดท้ายการเลือกตั้งประธานนักเรียนที่กินเวลามาสัปดาห์กว่าๆ ก็จบลงง่ายๆแบบนั้น อีกทั้งการประเมินสภานักเรียนก็เป็นการประเมินสุดท้ายของหน้าที่ที่เอ็มได้รับมอบหมายมาแล้วด้วย เรียกว่ายกเรื่องการประเมินโรงเรียนทั้งหลายทั้งแหล่ออกไปได้เลย
ครูใหญ่สมศักดิ์คงกระโดดดีใจอยู่ล่ะมั้ง?
ส่วนผมก็ต้องมาปวดหัวต่อว่าไอ้เรื่องที่เทวทูตนี่อยากให้ช่วยคือเรื่องอะไร…
+ +
การเลือกตั้งที่จบลงด้วยดีผ่านพ้นไปง่ายกว่าที่คิด แต่ต่อให้เราสะสางปัญหาไปได้เรื่องหนึ่ง โชคชะตาก็มักจะกลั่นแกล้งให้มีเรื่องที่สองตามมาเสมอ
ดีไม่ดีจะมีเรื่องที่สามด้วย
“จับกล้องให้มันดีๆหน่อยสิ คริสโตเฟอร์”
เอ็มว่าเช่นนั้น วันนี้ก็ยังใส่เบลเซอร์เช่นเดียวกับผม แม้จะเป็นวันหยุดก็ตาม
“จะให้ถ่ายตอนไหนก็บอกแล้วกัน”
“ได้ที่ไหนกันล่ะ ฟังนะ การจะเป็นตากล้องมือดีน่ะ ไม่ใช่ต้องให้นายแบบหรือนางแบบมาคอยชี้เสียหน่อยว่าต้องถ่ายตรงไหนถ่ายตอนไหน ตากล้องที่ดีจะต้องมองหาความเป็นไปได้และลงมือกดชัตเตอร์ในเวลาที่เหมาะสมต่างหาก”
“ฉันไม่ได้อยากเป็นตากงตากล้องบ้าบอ แล้วถ้าแกรู้ว่าเวลาที่เหมาะสมมันอยู่ตรงไหนก็บอกฉันแล้วกัน”
“เฮ้อ…”
เอ็มถอนหายใจ เมื่อเห็นว่าผมไม่มีท่าทีจะสนใจ
นี่คือวันหยุดสุดสัปดาห์
ผมไม่มีงานอดิเรกเป็นชิ้นเป็นอัน วันหยุดส่วนใหญ่ก็ได้แต่นอนหายใจทิ้งที่บ้าน
ถึงจะเป็นเช่นนั้น ผมก็ไม่นึกรังเกียจ ทว่า…วันหยุดอันแสนกึ่งจะมีค่าของผมกลับต้องพังพินาศ เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
ด้วยความที่ผมได้ดำรงตำแหน่งประธานสภานักเรียนอย่างเป็นทางการ ทว่า มันเกิดขึ้นก็คือเพราะเอ็มสละสิทธิ์
แน่นอนว่าเอ็มก็มีการเกลี่ยกล่อมเหล่านักเรียนที่มารุมถามด้วยความสงสัยที่ศาลาพักใจ และด้วยความที่เป็นเอ็มนั่นแหละ เรื่องราวถึงได้จบลงด้วยดี…
อย่างไรก็ตาม ไม่รู้นึกกันยังไง พวกเขากลับมีสิ่งสิ่งนึง ที่ตอนแรกพวกเขากะว่าถ้าเอ็มได้ตำแหน่งประธานนักเรียนเมื่อไหร่ จะอยากให้เอ็มทำให้
ด้วยการรอมชอมอย่างมีอารยะ เอ็มจึงได้เสนอว่าจะทำสิ่งนั้นให้ โดยที่ให้ผมเป็นคนช่วย เพราะยังไงผมก็คือประธานนักเรียนคนปัจจุบัน
…อะไรประมาณนั้นแหละ
แน่นอน ผมมองว่ามันไร้สาระ
และสิ่งที่นักเรียนขอ ซึ่งผมฟังมาจากปากเอ็มก็คือแบบนี้…
“จากที่พวกเขาโหวตกัน เสียงส่วนใหญ่อยากรู้ว่า ‘วัด’ เป็นสถานที่แบบไหนน่ะ”
จึงกลายเป็นเคสแรกในฐานะประธานนักเรียนอย่างเป็นทางการของผม
เนื่องจากจิตตฯเป็นโรงเรียนสำหรับภูตผี แม้นักเรียนจะเป็นวัยรุ่นธรรมดาแต่ก็มีเชื้อสายผีสาง ในเมื่อเป็นวัยรุ่นธรรมดา ก็คงได้ยินหรือได้ฟังสิ่งที่เรียกว่าวัดมาอยู่บ้าง
แต่ด้วยความที่สภาพร่างกายเป็นแบบนั้น จึงไม่สามารถเข้ามาด้านในตัววัดวาอารามได้
ดังนั้นพวกเขาจึงเล็งเอ็มไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เอ็มเป็นเทวทูต จะดีจะเลวยังไง แค่วัดน่ะ ยังไงก็เข้าได้
นั่นแหละ เคสแรกของผมคือการทัศนศึกษาวัด พร้อมถ่ายรูปถ่ายวิดีโอไปทำลงในเว็บไซต์ ให้ดูกันแบบฟรีๆ
ผมรับบทตากล้อง
กล้องที่มีราคาเอาเรื่อง ของส่วนตัวของเอ็ม ทั้งๆที่แค่กล้องไปยืมยัยแว่นนั่นก็ได้แท้ๆ
เมื่อผมเงยหน้าขึ้น ก็พบเอ็มยืนนิ่งอยู่ระหว่างประตูทางเข้าวัด
“ไม่เดินหรือไง?”
“ถ่ายสิถ่าย ต้องเริ่มตั้งแต่จุดเริ่มต้นไง นักเรียนในจิตตฯแค่จะผ่านประตูบานนี้ยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ พวกเราเลยต้องถ่ายตั้งแต่แรกเลยไงเล่า”
“อ่า…”
ผมรับคำพลางกดชัตเตอร์อย่างเหนื่อยหน่ายใจ
“ถ้าถ่ายไม่สวย เดี๋ยวผมจะคิดบัญชีทีหลัง”
“ตามสบาย”
ขณะผมตอบปัดรำคาญนั่นเอง
“อ๊ะ สวัสดีครับ ฮะฮะ วันนี้มาเที่ยวกับเพื่อนน่ะครับ …ครับ ครับ เหนื่อยแย่เลยนะครับ วันหยุดนี่เนอะ”
ไอ้บ้าเทวทูตก็หันไปคุยกับอากาศเป็นที่เรียบร้อย คิดว่าคงเจอเทพไม่ก็ตัวบ้าอะไรสักตัวที่อยู่วัดนั่นแหละ
“คริสโตเฟอร์ทักทายพี่เจ้าที่หน่อยสิ”
เอ็มหันมาบอกแบบนั้น
ผมมองไปยังจุดที่เอ็มคุยกับอากาศเมื่อครู่
“โทษที อยู่ที่นี่ความสามารถฉันจะลดไปนิดหน่อย มองไม่เห็นวิญญาณ”
“เอ้า? เป็นงั้นหรอกเหรอ? ไม่คิดว่าอย่างคริสโตเฟอร์จะเป็นอะไรแบบนี้ด้วย”
“ก็วัดนี่นะ”
สถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ผมที่เป็นตัวตนตรงข้ามกับสิ่งเหล่านั้น ก็ย่อมทำให้ศักยภาพต่างๆ ลดลงเมื่ออยู่ใกล้
แต่ก็ไม่ถึงขั้นเข้าไม่ได้ล่ะนะ ไม่ได้แสบร้อนอย่างที่เคยได้ยิน
เอ็มย่นริมฝีปาก
“เข้าใจล่ะ งั้นรีบเข้าไปกันเถอะ”
พร้อมโบกมือให้เจ้าที่อะไรนั่น
จนเมื่อเดินมาอีกราวสิบยี่สิบก้าว…
“เฮ้ย?”
“เป็นไรไปน่ะ? คริสโตเฟอร์”
“แกเรียกคนที่คุยเมื่อกี้ว่าอะไรนะ?”
คำถามแปลกที่ออกมาจากปาก ทำเอ็มขมวดคิ้วไปครู่นึงก่อนตอบ
“หมายถึงพี่เจ้าที่น่ะเหรอ?”
“บัดซบเอ๊ย!”
“เอ๋? เอ๋? อะไร???”
ไอ้ตัวเมื่อกี้คือ ‘ผีเจ้าที่’ ผีที่ผมชอบจัดประเภทวิญญาณเร่ร่อนที่เจอให้อยู่ในประเภท ถ้าได้เห็นตัวเป็นๆล่ะก็! ต่อจากนี้ก็จะไม่โดนยัยพลอยบ่นแล้วว่าเอะอะอะไรก็เรียกเขาเป็นผีเจ้าที่ไปซะหมด!
ผมกระชากคอเสื้อเอ็ม
“หายไปไหนแล้ว! ขอฉันเห็นสักทีเถอะ! ไม่ดิ! ตอนนี้มองไม่เห็นนี่หว่า แกเชื่อมดวงตาแกให้ฉันหน่อย! แล้วก็ไปเรียกไอ้ผีเจ้าที่นั่นกลับมาด้วย!!!”
“ผมทำแบบนั้นได้ที่ไหนกันเล่า! ผมไม่ได้ทำได้เหมือนคริสโตเฟอร์ทุกอย่างสักหน่อย!!!”
ไอ้เทวทูตไร้ประโยชน์เอ๊ย!
เคสที่ 42 เข้าได้จริงเหรอ? /มีต่อ