สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1415 ไกล่เกลี่ย
ตอนที่ 1415 ไกล่เกลี่ย
“พวกท่านอย่าได้รังเกียจที่ต้องนอนไปบนรถม้าเช่นนี้ นี่คือคำสั่งของพี่หญิงใหญ่ อาจมีสงครามใหญ่รอพวกท่านอยู่ที่เมืองติดชายทะเล พวกท่านควรรีบรักษาบาดแผลให้หายดี อย่าฝืนขี่ม้าไปเอง หมั่นทายาให้ตรงเวลาด้วย!” ไป๋ชิงอวี๋กำชับ
ขอบตาของเฉิงหย่วนจื้อร้อนผ่าว เขาพยักหน้ารัว “ฝากท่านรองแม่ทัพบอกเสี่ยวไป๋ไซว่ด้วยนะขอรับว่าหากเกิดสงครามขึ้นจริงๆ เฉิงหย่วนจื้อจะสังหารศัตรูให้ได้มากที่สุดเพื่อไถ่โทษขอรับ”
ไป๋ชิงอวี๋ซึ่งยืนเอามือไพล่หลังอยู่พยักหน้าให้ “ได้…”
พวกเขาจะเสียเวลาต่อไปไม่ได้ เฉิงหย่วนจื้อและเสิ่นคุนหยางถูกประคองขึ้นไปบนรถม้า
ซือหม่าผิงมองไปทางไป๋จิ่นจื้อที่นั่งอยู่บนหลังม้า “เกาอี้อ๋องกลับไปเถิด กองทัพใหญ่จะออกเดินทางแล้ว ช่วงนี้ข้ากับหลู่หยวนเผิงไม่ได้อยู่เล่นเป็นเพื่อนเจ้า เจ้าควรทำตัวให้สมกับคนเป็นอ๋อง อย่าสร้างความลำบากใจให้คุณชายเจ้าสำราญในเมืองหลวงจนถูกฝ่าบาทลงโทษเจ้าได้”
“ข้ารู้แล้ว รู้แล้ว!” ไป๋จิ่นจื้อใช้แส้ม้าเกาศีรษะของตัวเอง “อย่ากล่าวเหมือนกับว่าข้าชอบรังแกคนเหล่านั้นสิ! พวกเจ้าสองคนอย่าลืมทายาด้วย”
ไป๋จิ่นจื้อกล่าวจบจึงขี่ม้าไปอำลาหลู่เฟิ่งหลาง
ซือหม่าผิงมองไปทางไป๋จิ่นจื้อที่กำลังสนทนาอยู่กับหลู่เฟิ่งหลางบนหลังม้าแวบหนึ่ง จากนั้นหันไปกล่าวกับหลู่หยวนเผิงที่นอนคว่ำอยู่ด้านข้างยิ้มๆ “นึกไม่ถึงเลยว่าสตรีอย่างพี่เฟิ่งหลางของตระกูลเจ้าจะมาคบกับเสี่ยวซื่อได้”
“พี่สาวของข้าได้รับการอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี นางปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเกรงใจ” แม้หลู่หยวนเผิงจะทำเป็นปากแข็ง ทว่า มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
หลิ่วหรูซื่อนั่งฟังเสียงอำลาอยู่ภายในตัวรถม้า เขารู้สึกว่าภาระในการเดินทางไปเป็นทูตที่แคว้นตงอี๋ในครั้งนี้ของเขาค่อนข้างหนักอึ้ง
เมื่อคืนไป๋ชิงเหยียนปลอมตัวไปพบเขาที่จวนหลิ่วในยามวิกาล หญิงสาวมอบหน้าที่ลับๆ ที่มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นในคณะทูตที่รู้ให้แก่เขา
หลิ่วหรูซื่อหลับตาลง เขาหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน…ใบหน้าที่เห็นอย่างริบหรี่ภายใต้แสงไฟของไป๋ชิงเหยียนขยับเข้ามาใกล้เขา แสงไฟส่องสะท้อนดวงตาดำขลับของไป๋ชิงเหยียนจนเห็นชัดว่ามันเคร่งขรึมและจริงจังเพียงใด หญิงสาวเล่าเรื่องสายลับของต้าเหลียงที่แฝงตัวอยู่ในแคว้นตงอี๋และเรื่องที่จักรพรรดิองค์น้อยของต้าเยี่ยนลอบส่งทูตไปยังแคว้นตงอี๋ให้เขาฟังทั้งหมดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ตอนนี้จักรพรรดิต้าเยี่ยนต้องการให้แคว้นตงอี๋กลายเป็นดาบคมของพวกเขาเพื่อแทงข้างหลังพวกเราขณะที่ต้าเยี่ยนกำลังแข่งขันด้วยระบอบการปกครองกับต้าโจว แคว้นเทียนเฟิ่งอยากลงมือกับต้าโจวในตอนที่แคว้นตงอี๋กำลังจะทำสงครามกับพวกเราเช่นเดียวกัน พวกเขากำลังหาทางทำลายด่านปราการของพวกเราเพื่อบุกเข้ามา!”
แม้หลิ่วหรูซื่อจะเป็นเพียงขุนนางฝ่ายบัณฑิต ทว่า ไป๋ชิงเหยียนอธิบายเรื่องทุกอย่างให้เขาฟังอย่างละเอียดจนเขาเข้าใจแจ่มแจ้ง
ต้าเยี่ยนกับต้าโจวแข่งขันกันเพื่อเป็นที่หนึ่งในใต้หล้า! ผู้แพ้จะสูญเสียทุกอย่าง แม้พวกเขาจะดูเหมือนทำสัญญาสงบศึกกันแล้ว ทว่า ลับหลังอาจพยายามหาทางแทงข้างหลังอีกฝ่ายอยู่ก็ได้!
แคว้นเทียนเฟิ่งและตงอี๋คือแคว้นที่อ่อนแอในสายตาของต้าโจว แต่ไรมาแคว้นอ่อนแอมักร่วมมือกันเพื่อจัดการกับแคว้นที่แข็งแกร่งกว่า การที่แคว้นตงอี๋ เทียนเฟิ่งและต้าเยี่ยนร่วมมือกันจัดการกับต้าโจวเพียงแคว้นเดียวก็ถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
“ตอนนี้จักรพรรดิของแคว้นตงอี๋ชราภาพมากแล้ว รัชทายาทของพวกเขาประชวรติดเตียงมานานหลายปี พวกเขากำลังจะแต่งตั้งจักรพรรดิองค์ใหม่ องค์ชายสองของตงอี๋เป็นคนจิตใจอำมหิตโหดเหี้ยมและไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แคว้นต้าเยี่ยนและเทียนเฟิ่งล้วนอยากสนับสนุนให้องค์ชายสองได้ขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากจักรพรรดิตงอี๋ แคว้นตงอี๋จะได้กลายเป็นอุปสรรคของต้าโจว!” แววตาของไป๋ชิงเหยียนเคร่งขรึม “ต้าโจวของพวกเราไม่กลัวแคว้นเล็กและอ่อนแออย่างตงอี๋ ทว่า สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการเดิมพันแคว้นกับต้าเยี่ยน หากหลีกเลี่ยงการทำสงครามได้ก็ควรหลีกเลี่ยง”
ไป๋ชิงเหยียนเคาะนิ้วเรียวยาวลงบนโต๊ะ จากนั้นกล่าวกับหลิ่วหรูซื่อเสียงเบา “องค์ชายใหญ่ของแคว้นตงอี๋เป็นคนสุขุมอ่อนโยน ไม่ใช่คนชอบทำสงคราม ที่สำคัญเขาเคารพและยำเกรงแคว้นต้าโจวมาก หน้าที่สำคัญของใต้เท้าหลิ่วในครั้งนี้คือการสนับสนุนให้องค์ชายใหญ่ของตงอี๋ได้ขึ้นครองบัลลังก์เป็นคนถัดไป!”
ใบหน้าของหลิ่วหรูซื่อเต็มไปด้วยความตกตะลึงหลังได้ยินคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียน เขาคือขุนนางของต้าโจว ทว่า ไป๋ชิงเหยียนต้องการให้เขาเข้าไปแทรกแซงการเมืองของแคว้นตงอี๋ นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยสักนิด!
เมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึงของหลิ่วหรูซื่อ ไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวต่อ “ข้ารู้ดีว่าทำให้ใต้เท้าหลิ่วลำบากใจแล้ว ใต้เท้าหลิ่วเป็นคนมีความสามารถและคุณธรรม เป็นวิญญูชนคนหนึ่ง การเข้าไปแทรกแซงการเมืองของแคว้นอื่นอาจทำให้คุณธรรมของใต้เท้าหลิ่วต้องแปดเปื้อนจากกลอุบายเจ้าเล่ห์และแผนการชั่วร้ายหลายอย่าง นี่คือเรื่องยากสำหรับคนตรงไปตรงมาอย่างใต้เท้าหลิ่ว ทว่า พวกเราจำเป็นต้องทำเพื่อต้าโจวจริงๆ”
หลิ่วหรูซื่อมองสบตากับดวงตาดำขลับภายใต้แสงไฟของไป๋ชิงเหยียนอย่างจริงจัง จากนั้นก้มศีรษะรับคำสั่ง “กระหม่อมจะทำเพื่อต้าโจวอย่างสุดความสามารถพ่ะย่ะค่ะ!”
หลังจากนั้นไม่นานไป๋ชิงเหยียนจึงสั่งให้เว่ยจงยกหีบที่เต็มไปด้วยประวัติและนิสัยของขุนนางคนสำคัญในราชสำนักตงอี๋ไปให้หลิ่วหรูซื่อที่จวน
บัดนี้รถม้าของหลิ่วหรูซื่อเต็มไปด้วยหีบที่บรรจุประวัติและนิสัยของขุนนางของแคว้นตงอี๋ เขาต้องอ่านมันให้จบและจดจำมันให้ได้ขึ้นใจก่อนที่เขาจะเดินทางไปถึงแคว้นตงอี๋
หลิ่วหรูซื่อถูกบิดามารดาสั่งสอนให้เป็นขุนนางซื่อตรงในราชสำนัก อย่าเข้าร่วมการแบ่งพรรคแบ่งพวกในราชสำนัก ดังนั้นหลิ่วหรูซื่อจึงไม่เคยเรียนรู้วิธีเจ้าเล่ห์หรือกลอุบายใดๆ มาก่อน ไม่ใช่ว่าเขาทำไม่เป็น ทว่า เขาอยากทำตามศีลธรรมในใจของตัวเองมากกว่า
ตอนนี้ฝ่าบาทให้เขาเข้าไปแทรกแซงการเมืองของแคว้นศัตรูเพื่อต้าโจว ถึงแม้นี่จะขัดต่อศีลธรรมในใจของเขา ทว่า เขาคือขุนนางของต้าโจว เขาต้องทำเพื่อต้าโจวอย่างเต็มที่ที่สุด นี่คือหน้าที่ของขุนนางและชาวบ้านของต้าโจว!
หลิ่วหรูซื่อลืมตาขึ้น เขาจ้องไปยังม้วนไม้ไผ่ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะข้างกระถางธูปหอมทรงสัตว์มงคลสามขานิ่ง จากนั้นหยิบขึ้นมาอ่าน
ไป๋ชิงอวี๋และไป๋จิ่นจื้อมองส่งกองทัพเคลื่อนขบวนจากไปไกล จากนั้นจึงกลับเข้าไปในเมือง
“พี่หญิงให้เจ้ารีบไปพบนางหลังจากส่งพวกแม่ทัพเฉิงเสร็จแล้ว” ไป๋ชิงอวี๋บอกกับไป๋จิ่นจื้อขณะขี่ม้ากลับเข้าไปในเมืองพร้อมน้องสาว
“พี่หญิงใหญ่ตั้งใจเรียกข้าไปพบหรือเจ้าคะ” ไป๋จิ่นจื้อครุ่นคิดว่านางก่อเรื่องใดขึ้นหลังจากกลับมาเมืองหลวงหรือไม่ “พี่ชายห้า…ข้าก่อเรื่องอันใดหรือไม่เจ้าคะ”
เมื่อเห็นน้องสาวที่ไม่เคยเกรงกลัวผู้ใดในสนามรบหวาดกลัวการถูกสั่งสอนจากพี่หญิงเช่นนี้ไป๋ชิงอวี๋จึงยิ้มออกมาอย่างคุมไม่อยู่ “หากเจ้าก่อเรื่องขึ้นจริงๆ พี่ชายสามสั่งสอนเจ้าในจวนไป๋ไม่สะดวกกว่าอย่างนั้นหรือ”
“จริงด้วยเจ้าค่ะ ข้าไปก่อนนะเจ้าคะพี่ชายห้า!” ไป๋จิ่นจื้อกล่าวพลางควบม้าจากไปอย่างรวดเร็ว
ไป๋ชิงอวี๋ค่อยๆ ขี่ม้าไปตามถนนของเมืองหลวงอย่างไม่ปกปิดบาดแผลบนใบหน้าของตัวเองแม้แต่น้อย
สตรีหลายคนเห็นใบหน้ารูปงามเพียงครึ่งซีกของไป๋ชิงอวี๋จึงอยากเข้าไปหาชายหนุ่ม ทว่า เมื่อเห็นบาดแผลเสียโฉมบนใบหน้าอีกครึ่งซีกของชายหนุ่มก็ตกใจจนหน้าขาวซีด จากนั้นวิ่งหนีไปด้วยความหวาดกลัว
ช่วงนี้มารดาของเขากำลังยุ่งกับการหาคู่ครองให้เขาอยู่เช่นเดียวกัน ไป๋ชิงอวี๋เคยทำให้มารดาของตัวเองเสียใจ เขาไม่ได้อยู่ดูแลและกตัญญูต่อมารดา ชายหนุ่มไม่อยากทำให้มารดาเสียใจอีก ทว่า เขาไม่อยากทำให้สตรีเหล่านั้นเสียเวลาจริงๆ