สตรีแกร่งตระกูลไป๋ - ตอนที่ 1401 จดจำไว้ในใจ
ตอนที่ 1401 จดจำไว้ในใจ
“จริงสิ ให้อาเจวี๋ยไปเยี่ยมซือหม่าผิงแทนพี่ด้วย!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับไป๋จิ่นซิ่วยิ้มๆ “ครั้งนี้เขาต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย ทว่า หากไม่โบยเขาด้วยอาจทำลายมิตรภาพในกองทัพของพวกเขาได้”
“พี่หญิงใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ หากเมื่อเช้าเสี่ยวซื่อไม่ชิงไปเยี่ยมซือหม่าผิงก่อน อาเจวี๋ยคงไปแล้วเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวยิ้มๆ “อาเจวี๋ยคิดว่าไม่ควรไปติดกันเกินไป เขาตั้งใจว่าจะรออีกสักพักเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนสนทนากับไป๋จิ่นซิ่วจบขันทีเล็กด้านนอกก็เดินเข้ามารายงานว่าองค์ชายใหญ่ องค์ชายสองและแม่ทัพเซี่ยสวินของต้าเยี่ยนมาถึงแล้ว
“เชิญพวกเขาเข้ามาได้!”
องค์ชายใหญ่เดินนำองค์ชายสองและแม่ทัพเซี่ยสวินเข้ามาในตำหนัก จากนั้นทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนอย่างนอบน้อม เมื่อเห็นไป๋จิ่นซิ่วอยู่ด้วยองค์ชายใหญ่จึงหันไปมององค์ชายสอง
องค์ชายสองมู่หรงผิงกล่าวขึ้นเบาๆ “ฝู่กั๋วอ๋อง”
“ฝู่กั๋วอ๋อง…” องค์ชายใหญ่รีบโค้งกายคำนับไป๋จิ่นซิ่ว
ไป๋จิ่นซิ่วลุกขึ้นทำความเคารพกลับยิ้มๆ เช่นเดียวกัน
“เว่ยจง นำที่นั่งไปให้พวกเขา…” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางองค์ชายใหญ่พลางกล่าวขึ้นยิ้มๆ “องค์ชายใหญ่ องค์ชายสองและแม่ทัพเซี่ยสวินเดินทางมาพักที่ต้าโจวเพราะสัญญาระหว่างสองแคว้น เดิมทีข้าควรจัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกท่านทันทีที่มาถึง ทว่า ข้ามีเรื่องต้องจัดการมากมายจึงล่าช้าไปหน่อย”
ทุกคนรู้ดีว่านี่คือบทสนาแบบรักษามารยาท องค์ชายใหญ่ซึ่งเพิ่งนั่งลงบนที่นั่งหยัดกายตรง จากนั้นโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียนอีกครั้งแล้วกล่าวขึ้น “แคว้นมีเรื่องมากมายต้องจัดการ ฝ่าบาทย่อมปลีกตัวมาไม่ได้ ตอนนี้สองแคว้นทำสัญญากันเรียบร้อยแล้ว พวกกระหม่อมมาที่นี่เพื่อแสดงความจริงใจให้ต้าโจวเห็น ให้สองแคว้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกว่าเดิม ต้าเยี่ยนไม่ได้ต้องการให้ฝ่าบาททรงทิ้งงานในราชสำนักมาต้อนรับพวกกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ”
“จริงสิ” องค์ชายใหญ่เงยหน้าขึ้นพลางกล่าวยิ้มๆ “จวนที่ฝ่าบาทให้คนเตรียมให้กระหม่อมโอ่อ่าและงดงามมาก ฝ่าบาทไม่ได้เห็นพวกกระหม่อมเป็นเพียงตัวประกันของต้าเยี่ยน กระหม่อมจะจดจำพระคุณนี้ไว้ในใจตลอดไปพ่ะย่ะค่ะ”
“ทั้งสามท่านยอมเดินทางไกลมายังต้าโจวเพื่อความมั่นคงของสองแคว้น นี่คือสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้ว” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวพลางพยักหน้าให้องค์ชายใหญ่ยิ้มๆ
“เป็นเพราะฝ่าบาททรงไม่ถือสาต้าเยี่ยนและปฏิบัติต่อพวกกระหม่อมเป็นอย่างดี กระหม่อมจึงยิ่งรู้สึกละอายใจจึงตัดสินใจมาขอเข้าเฝ้าฝ่าบาทในช่วงที่ฝ่าบาทกำลังทรงงานยุ่งเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ” องค์ชายใหญ่กำมือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อแน่น “เสด็จแม่เคยถูกผู้อื่นหลอกให้แทงข้างหลังต้าโจวจนเจิ้นกั๋วอ๋องเกือบมีอันตรายถึงชีวิต เมื่อเสด็จแม่ทราบว่าถูกคนเลวหลอกใช้นางจึงรู้สึกเสียใจมาก ก่อนกระหม่อมเดินทางมาที่นี่เสด็จแม่กำชับให้กระหม่อมมาขอโทษฝ่าบาทแทนนางพ่ะย่ะค่ะ”
องค์ชายใหญ่กล่าวจบจึงหันไปมองด้านนอกตำหนักใหญ่ “เสด็จแม่ทราบว่าเจิ้นกั๋วอ๋องได้รับบาดเจ็บหนักจึงสั่งให้กระหม่อมนำยาสูตรลับของราชวงศ์ต้าเยี่ยนและของบำรุงร่างกายชั้นเลิศของต้าเยี่ยนมาด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
ขันทีหกคนซึ่งอยู่ด้านนอกตำหนักแบกหีบเข้ามาสามใบ
ในหีบสามใบเต็มไปด้วยยาลับของต้าเยี่ยน ความจริงไทเฮาเตรียมยาลับเหล่านี้ไว้ให้บุตรชายของตัวเองใช้ ทว่า หลังเกิดเรื่องที่เหล่าแม่ทัพของต้าเยี่ยนมาก่อความวุ่นวายที่วังหลวงองค์ชายใหญ่คิดว่าหากมอบยาลับเหล่านี้ให้แก่จักรพรรดินีต้าโจวและเจิ้นกั๋วอ๋องดูจะมีประโยชน์มากกว่า
ไป๋ชิงเหยียนไม่เชื่อว่าไทเฮาของต้าเยี่ยนจะสำนึกผิดได้ ไทเฮาผู้นั้นเอาแต่คิดว่าผู้อื่นติดค้างนางอยู่เสมอ
เมื่อนึกถึงไทเฮาของต้าเยี่ยนสีหน้าของไป๋ชิงเหยียนขรึมลงทันที ทว่า นางยังปฏิบัติต่อทายาทของมู่หรงอวี้ องค์ชายใหญ่ของต้าเยี่ยนอย่างอ่อนโยนเหมือนเดิม “ลำบากองค์ชายใหญ่และองค์ชายสองแล้วที่ต้องนำของเหล่านี้เดินทางไกลมาด้วย เรา…จะรับไว้แทนเจิ้นกั๋วอ๋องแล้วกัน!”
องค์ชายใหญ่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“องค์ชายสองและแม่ทัพเซี่ยสวินเคยร่วมรบต่อต้านแคว้นเทียนเฟิ่งกับเรามาก่อน พวกเราถือเป็นมิตรกันแล้ว!” ไป๋ชิงเหยียนหยุดสายตาอยู่ที่ร่างของมู่หรงผิงและเซี่ยสวิน
ทั้งสองคนรีบลุกขึ้นยืนทำความเคารพ
ในสายตาของมู่หรงผิงและเซี่ยสวินไป๋ชิงเหยียนที่อยู่ในวังหลวงแตกต่างจากไป๋ชิงเหยียนที่เคยอยู่ในสนามรบ…
โชคดีที่หญิงสาวนั่งอยู่บนบัลลังก์สูง พวกเขาจึงมีระยะห่างต่อกันอยู่บ้าง สีทองในตำหนักใหญ่ยิ่งส่งเสริมให้ไป๋ชิงเหยียนดูมีบารมีน่าเกรงขามยิ่งกว่าเดิม
องค์ชายใหญ่และมู่หรงผิงเงยหน้ามองตำหนักสีแดงที่โอ่อ่าอลังการตรงหน้าอีกครั้งอย่างอดไม่ได้เมื่อเดินออกมาจากตำหนัก เสาหินแกะสลักเคลือบน้ำมันสีแดงต้นใหญ่ ผนังซึ่งเต็มไปด้วยภาพจิตรกรรม ท้องพระโรงที่งดงาม บันได้หยกขาวที่พวกเขารู้สึกราวกับว่ากำลังเหยียบขึ้นไปบนตำหนักในสรวงสวรรค์
นี่คือวังหลวงที่ท่านย่าของพวกเขาเคยสั่งให้คนสร้างขึ้น วันนี้พวกเขามีวาสนาได้เห็นเป็นบุญตาแล้ว
องค์ชายใหญ่และมู่หรงผิงรู้สึกว่าวังหลวงของต้าโจวใหญ่โตและโอ่อ่ากว่าวังหลวงของต้าเยี่ยนในตอนนี้มากนัก วังหลวงสีทองที่โอ่อ่าอลังการเช่นนี้ควรเป็นที่พักของจักรพรรดิแห่งใต้หล้าถึงจะถูก!
องค์ชายใหญ่ มู่หรงผิงและเซี่ยสวินล้วนหวังว่าวันหน้าผู้ที่จะได้อยู่ในวังหลวงที่จีโฮ่วของพวกเขาเป็นคนสร้างขึ้นคือจักรพรรดิต้าเยี่ยน…ไม่ใช่จักรพรรดินีต้าโจว
“กลับกันเถิดพ่ะย่ะค่ะเสด็จพี่…” มู่หรงผิงเอ่ยเรียกองค์ชายใหญ่เบาๆ
องค์ชายใหญ่พยักหน้า “ไปกันเถิด”
ไป๋ชิงฉีไม่ได้ให้คนแพร่งพร่ายเรื่องที่กวนจางหนิงเป็นคนยุยงให้พวกคนไร้สมองอย่างหลู่หยวนเผิง เฉิงหย่วนจื้อ ตู้ซานเป่าไปก่อความวุ่นวายที่ประตูอู่เต๋อออกไป เขาเก็บสายลับของซีเหลียงที่ปิดบังตัวตนได้อย่างมิดชิดอย่างกวนจางหนิงไว้เพราะต้องการใช้เขาเป็นเหยื่อล่อสายลับที่ยังหลงเหลือของซีเหลียงที่คิดกอบกู้แคว้นคืนออกมากำจัดให้หมด
หากปล่อยคนเหล่านั้นไว้เช่นนี้โดยไม่จัดการสิ่งใด วันหน้าพวกเขาอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ของต้าโจวขึ้นมาได้
ทว่า สิ่งที่เหนือความคาดหมายของไป๋ชิงฉีก็คือกวนจางหนิงเดินทางไปยังจวนองค์หญิงอวิ๋นจิงอย่างอดทนไม่ไหวอีกต่อไป
ไม่รู้ว่ากวนจางหนิงสนิทสนมกับแม่ทัพที่เฝ้าคุ้มกันจวนองค์หญิงอวิ๋นจิงตั้งแต่เมื่อใด เขาซื้อสุราและห่านย่างของหอเยี่ยนเชวี่ย จากนั้นมุ่งหน้าไปหาแม่ทัพผู้นั้น
เดิมทียามเฝ้าเวรห้ามดื่มเหล้า ทว่า แม่ทัพผู้นั้นสนิทสนมกับกวนจางหนิง อีกทั้งห่านย่างของหอเยี่ยนเชวี่ยไม่ได้จะหาซื้อได้ง่ายๆ กวนจางหนิงคือแม่ทัพของกองทัพไป๋ถือเป็นคนสนิทของจักรพรรดินีของต้าโจว ดังนั้นแม่ทัพผู้นั้นจึงกล้าวางใจดื่มเหล้ากับกวนจางหนิง
ไป๋ชิงฉีเพิ่งกล่อมเสี่ยวปานอนหลับในเรือนของฉีซื่อผู้เป็นมารดา ชายหนุ่มนั่งฟังมารดาบ่นเรื่องทั่วไปและให้เขาดูภาพวาดของสตรีในเมืองหลวงเพราะต้องการให้เขาแต่งงานเสียที เขากล่อมเสี่ยวปาเสร็จก็ต้องมาปลอบมารดาของตัวเองต่อ เมื่อออกมาจากเรือนของมารดาองค์รักษ์ลับก็มารายงานว่ากวนจางหนิงเข้าไปในจวนขององค์หญิงอวิ๋นจิงแล้ว
“แม่ทัพกวนจางหนิงเข้าไปในจวนขององค์หญิงอวิ๋นจิงประมาณครึ่งชั่วยามขอรับ เขาอ้างว่าแม่ทัพเฝ้าจวนเมาหลับไปแล้ว ถึงเวลาตรวจตราพอดีเขาจึงเข้าไปทำหน้าที่แทนขอรับ”
ไป๋ชิงฉีเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “ให้คนคอยจับตาดูไว้ อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่นเด็ดขาด!”
“ขอรับ!” องครักษ์ลับรับคำ