ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว - บทที่ 765 ข้าต้องยอมรับว่ามีการเดิมพัน (4)
บทที่ 765 ข้าต้องยอมรับว่ามีการเดิมพัน (4)
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ข้าอยากรู้อยากเห็น ข้าอยากรู้อยากเห็น” ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ โบกมือ
จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “เมื่อข้าเปิดยันต์หยก ยันต์หยกก็ได้ถูกทำลายไปด้วยตัวมันเองตั้งแต่เมื่อครู่ก่อนนี้แล้ว
เนื้อหาของยันต์หยกค่อนข้างน่าสนใจ เขาบอกว่าเขาอยู่ในดินแดนเทวะทั้งห้า และวางร่างปลอมเอาไว้สี่ร่าง และร่างหลักหนึ่งร่าง
หากเราสามารถพบร่างหลักของเขาได้ภายในครึ่งชั่วยาม เขาย่อมเต็มใจที่จะยอมถูกทำร้ายและสังหาร เขาจะเต็มใจสละชีวิตเพื่อสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน
หากเราหาเขาไม่พบ เขาก็อยากให้เราปล่อยเขาไปในคราวนี้ เขาจะซ่อนตัวอยู่ในทะเลโกลาหลเป็นเวลาสามพันปี
เขาบอกว่า เขามีข้อมูลเดียวที่สามารถให้เจ้าได้ นั่นก็คือ สถานที่ที่เขาซ่อนตัวอยู่ เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด”
หลิงเอ๋อร์อดจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นก่ายหน้าผากของนางไม่ได้แล้วกระซิบว่า “ศิษย์พี่… เพียงอยู่กับสัตว์มงคลตัวนี้”
หลี่ฉางโซ่วกล่าวอย่างจริงจังว่า “หรืออีกนัยหนึ่ง ยังมีเวลาเหลืออยู่อีกใช่หรือไม่?”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ยกนิ้วหัวแม่มือให้เขา
“จงเชื่อในตัวเจ้าเอง เจ้าทำได้แน่ ฉางโซ่ว!”
“ข้า…”
หลี่ฉางโซ่วค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าลึกพลางคลี่ยิ้ม และกล่าวว่า “ศิษย์พี่ หลิงเอ๋อร์ เรามาลองเดากันว่า ร่างหลักของเขาซ่อนตัวอยู่ที่ใด
เราไม่ต้องไปคิดกังวลถึงร่างปลอมเหล่านั้น มันเป็นเพียงม่านควันที่เขาปล่อยออกมาเท่านั้น เขาเพิ่งบอกว่ามันเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด ข้าได้ระบุสถานที่เอาไว้แล้ว ราวหนึ่งร้อยยี่สิบหกแห่ง…”
“ดี”
“ศิษย์พี่ ให้ข้าไปด้วยหรือไม่?”
“ใช่แล้ว หลิงเอ๋อร์ เวลานี้ เจ้ามีความสำคัญยิ่ง จงใช้สติปัญญาทั้งหมดของเจ้า!”
จากนั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ หลี่ฉางโซ่ว และหลิงเอ๋อร์ก็กลับมาที่หอโอสถ
หลี่ฉางโซ่วนั่งตรงกลางบนเบาะนั่งสมาธิในขณะที่ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ไพล่มือไปไว้ด้านหลังและเดินเตร่ไปที่หน้าม้วนกระดาษที่หลี่ฉางโซวเพิ่งเขียนลงไป ส่วนหลิงเอ๋อร์ก็ใช้นิ้วบีบคางและครุ่นคิดถึงทุกสิ่ง
ไม่นานหลังจากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็จดชื่อสถานที่เจ็ดแห่งและกล่าวว่า “จงเลือกหนึ่งแห่งจากในนั้น”
หลิงเอ๋อร์รีบถามว่า “เหตุใดในบรรดาชื่อสถานที่เจ็ดแห่งที่ศิษย์พี่เขียนมานี้ ถึงไม่มีศาลสวรรค์ด้วยเจ้าคะ?”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ยิ้มและกล่าวว่า “ศาลสวรรค์มีชายชราผู้หนึ่งคอยคุ้มครองดูแลอยู่ ซึ่งไม่ไกลจากวิหารไท่ชิง”
หลิงเอ๋อร์รีบซ่อนตัวอยู่ข้างหลังหลี่ฉางโซ่วและกระซิบว่า “ศิษย์พูดมากไปอล้ว ขอท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ อย่าตำหนิเลยเจ้าค่ะ”
หลี่ฉางโซ่วกล่าวว่า “สถานที่ทั้งเจ็ดแห่งนี้ เป็นสถานที่หลบซ่อนตัวที่เป็นไปได้มากที่สุด
เรามาพูดกันถึงสถานที่ที่น่าสงสัยที่สุดพร้อมๆ กัน เราต้องพูดพร้อมๆ กันตามความคิดภายในของเราเอง ข้าจะนับถอยหลังจากสาม…
สาม สอง หนึ่ง…
สถานที่ที่องค์เง็กเซียนและเทพมารดากลับชาติมาเกิด!”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวว่า “เขาอาจจะอยู่ในเมืองอันสุ่ย”
ในขณะที่หลิงเอ๋อร์กล่าวว่า “ภูเขาคุนหลุน ที่เราไปเยือนเคหาสน์ถ้ำของท่านบรรพชนผู้ก่อตั้งสำนักตู้เซียนกันเถิด!”
“ศิษย์พี่ เราไปกันเถิด!”
หลี่ฉางโซ่วกล่าวแล้วลุกขึ้นยืนทันที “ฟังหลิงเอ๋อร์ และไปยังที่พำนักของตู้เอ้อร์เจินเหรินกัน!”
“โอ้? เหตุใดเราถึงควรต้องฟังนางด้วย?”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่รู้สึกสับสนเล็กน้อยในขณะที่หลิงเอ๋อร์ก็ตกตะลึงเช่นกัน และนางก็ชี้ไปที่ปลายจมูกของนาง และกล่าวตะกุกตะกักออกมา
“ฟัง ฟังข้าหรือ?”
“ไม่มีเวลาแล้ว ศิษย์พี่รีบเปิดแผนภาพเร็วเข้า! ไว้ข้าจะอธิบายทีหลังขอรับ!”
……
เชอะ สุดท้ายข้าก็เป็นคนโง่
บนภูเขาคุนหลุน มีถ้ำแห่งหนึ่งที่ว่างเปล่าเพราะเจ้าของถ้ำได้ออกไปเยี่ยมเยียนสหาย
ในถ้ำด้านข้างที่เต็มไปด้วย “หมู่เมฆ” หลากหลายรูปแบบ
นักพรตเต๋าวัยกลางคนที่มีเคราแพะนอนตะแคงอยู่บนเมฆสีขาวและหัวเราะเบาๆ ขณะที่ลูบเคราของเขา
เวลาครึ่งชั่วยามกำลังจะผ่านไปแล้ว
ในด้านของความเข้าใจเทพวารี ไป๋เจ๋อรู้สึกว่า ในโลกบรรพกาลนี้ มีเพียงเทพวารีคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเอาชนะเขาได้
ครั้งนี้ไป๋เจ๋อทุ่มเต็มที่จริงๆ
ตามนิสัยการทำงานและวิธีการคาดคำนวณของเทพวารี เขาจะใช้เวลาครึ่งปีในการคิดค้นและสรุปตัวเลือกทั้งหมด
จากนั้นเขาก็จะทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามโดยใช้วลีที่ว่า ‘สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด’ เพื่อกำหนดกฎของการต่อสู้…
ไป๋เจ๋อย่อมจะต้องชนะข้อกังขานี้อย่างแน่นอน!
หากตัวเลือกของเทพวารีอยู่ที่ระดับสิบ คนฉลาดธรรมดาก็คงจะคิดถึงมันในระดับที่ห้า…
เขาควรจะต่อสู้กับเทพวารีในระดับที่สิบ หรือระดับที่เก้า แต่เขาก็เริ่มถอยกลับมายังระดับที่ห้าเอง
สูงหรือต่ำเกินไปจะใช้ไม่ได้ผลเฉพาะที่นี่ มีเพียงสถานที่แห่งนี้เท่านั้นที่ไม่สอดคล้องกับวิธีคิดของเทพวารีมากที่สุด และนี่ก็คือ ‘สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด’!
“ฮ่าๆๆ!”
ในขณะที่ไป๋เจ๋อคิดถึงเรื่องนั้น เขาก็นอนตะแคงและระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น เคราแพะของเขาดูส่องประกายแวววาว และเขาก็มีสีหน้าเบิกบานใจ
เขาแทบรอจะเห็นสีหน้าท่าทีของเทพวารีที่กำลังเล่นกับร่างจำแลงของเขาทุกวัน ไม่ไหวเพื่อดูว่าจะเป็นเช่นไรเมื่อพบร่างจำแลงของเขา!
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม!
“ศิษย์พี่ นี่คือ ผู้บัญชาการปีศาจโบราณใช่หรือไม่เจ้าคะ?”
เสียงสตรีที่รื่นเริงราววิหคศักดิ์สิทธิ์นับร้อยส่งเสียงดังขึ้นอย่างแปลกประหลาดที่ด้านหลังเขา
บัดนั้น เส้นผมของไป๋เจ๋อก็ลุกตั้งชันขึ้นทันที ทั่วทั้งร่างของเขาปกคลุมไปด้วยความหนาวเย็น และดูเหมือนว่า ปราณวิญญาณของเขาจะแข็งค้าง
ในขณะนั้นบุรุษอีกผู้หนึ่งก็ถอนหายใจเบาๆ และกล่าวว่า “ข้าน่าจะเดิมพันได้ถูกต้อง ขอศิษย์พี่โปรดลงมือจัดการ … ยกมันขึ้นมาเถิด”
“ได้”
………………………………………………………………..