ศพ - ตอนที่ 434 ยกให้
ตอนที่ 434 ยกให้
ติดตามอาจารย์มานานขนาดนี้ ไม่คิดไม่ฝันมาก่อน ว่าอาจารย์ยังมีบางอย่างซ่อนอยู่
ฟังจากน้ําเสียงของอาจารย์ สิ่งที่อาจารย์ซ่อนไว้ ต้องร้ายกาจและทรงพลังมากแน่ๆ
ถึงกับจ้องทดสอบผมนานขนาดนี้ ตอนนี้ยังต้องให้ผมสาบานก่อน แล้วถึงจะถ่ายทอดให้ผม
ผมตื่นเต้น รู้สึกลุ้นสุดๆ
ผมนึกถึงฉากซ้ําๆเดิมๆในนวนิยายมากมาย ที่ตัวเอกมักได้เจอกับคนแก่ที่แข็งแกร่งจนไม่มีใครเทียบได้
ยอมถ่ายทอดวิชายุทธให้
ตาแก่บนถนน แลกวิชายุทธกับเงินเพียงไม่กี่สิบหยวน หลังฝึกเสร็จแล้ว เขาก็จะลอยหายไป
แล้วก็ยังมี พวกของที่ตกทอดมาจากอาจารย์ วันหน้าไม่ว่าจะลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
ไอ้หยา อาจารย์ผมจะถ่ายทอดวิชาเทพๆอะไรให้ผมหรือเปล่านะ
ผมตาโต ในใจมีความคิดประหลาดผุดขึ้นมากมาย
แต่หลังจากอาจารย์เอาของสิ่งนั้นออกมาแล้ว ม่านตาของผมก็ขยายออกอย่างรวดเร็ว
มันคือถุงหอมสีดํา เหมือนด้านในจะใส่อะไรบางอย่างเอาไว้
อาจารย์เอาถุงหอมสีดําอันนั้นออกมา จากนั้นก็พูดกับผมว่า “เสี่ยวฝาน นี่เป็นของที่ตกทอดมาจากอาจารย์ฉัน ตอนนี้ฉันจะยกเจ้านี่ให้แก หวังว่าแกจะทําตามที่สาบานไว้ อย่าลืมมันเด็ดขาด ด้วยความสามารถและนิสัยของแก อาจารย์เชื่อว่า แกต้องเข้าใจมันในเวลาที่สั้นที่สุดแน่ๆ”
อาจารย์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง แถมยังท่าทางลับๆล่อๆขนาดนั้น มันเลยทําให้ผมอยากรู้มาก
ว่าเจ้านี่มันคืออะไรกันแน่ ทําไมอาจารย์ถึงต้องเป็นแบบนี้
ผมไปรับถุงหอมสีดําด้วยมือทั้งสองข้าง “อาจารย์วางใจได้ ศิษย์จะไม่ทําให้ผิดหวังอย่างแน่นอน”
“ลุกขึ้นมาเถอะ ! แกลองแกะออกมาดู !” อาจารย์พูดออกมาอีกครั้ง
“อ๋อ !” หลังพูดจบ ผมก็รีบลุกขึ้น
ในเวลาเดียวกัน ผมก็รีบแกะถุงหอมออก อยากรู้ว่าใส่อะไรเอาไว้ข้างในกันแน่
แต่หลังแกะถุงหอมเสร็จ ผมกลับนิ่งอึ้งไปทันที
เพราะผมพบว่าด้านในถุงหอม ใส่ของที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายเกล็ดปลาเอาไว้ ตัวมันมีขนาดเกือบครึ่งฝ่ามือ
รูปทรงเหมือนพัด สีม่วง ค่อนข้างหนัก แต่ไม่เหมือนเหล็ก และไม่เหมือนสแตนเลส ไม่รู้ว่าเป็นวัสดุประเภทไหน
ผมหยิบออกมาวางไว้บนมือ แล้วมองสํารวจด้วยความสงสัย “อาจารย์ เจ้านี่คืออะไร ?”
อาจารย์รินเหล้าให้ตัวเองอีกรอบ “อาจารย์ปู่ของแก บอกว่านี่คือเกล็ดชิ้นหนึ่ง”
“เกล็ด เกล็ดปลาเหรอ ? แต่ทําไมมันใหญ่ขนาดนี้ละ ?” ผมทําหน้าสงสัย
เหมือนอาจารย์จะดื่มมากเกินไปแล้ว เขาส่ายหัว และยังเรอออกมา “ไม่ใช่เกล็ดปลา อาจารย์ปู่ของแกบอกว่า นี่คือเกล็ดของกิเลน”
“อะไรนะ ? กิเลน ?” ผมตะลึงใจทันที
ผมมองอาจารย์ที่หน้าแดงแล้ว ท่าทางเหมือนคนเมาเหล่า ด้วยหน้าตาเล็กลัก
เฮอะ ! เกล็ดกิเลนงั้นเหรอ ตีให้ตายผมก็ไม่เชื่อ
แต่อาจารย์กลับดื่มอีกหนึ่งอีก แล้วถึงพูดต่อ “ใช่ ตอนนั้นอาจารย์ของแกพูดเอาไว้แบบนี้ และบนเกล็ดอันนี้ ยังมีวิชาฝึกพลังสลักเอาไว้อีกด้วย ถ้าฝึกสําเร็จ จะไม่มีใครในฝ่ายอธรรมเอาชนะได้เลย แต่ถ้าคนฝึกมีใจคิดชั่ว ก็อาจหลงเข้าไปในทางมารได้
“จริงหรือเปล่าเนี่ยอาจารย์ มันเทพขนาดนั้นเลย ? ผมมองตั้งนานสองนาน ก็ยังไม่เห็นมีเคล็ดวิชาอะไรเขียนเอาไว้เลยนะ” ผมพูดต่อ คิดว่าอาจารย์เมาแล้วหรือเปล่าเลยพูดแบบนั้นออกมาเพื่อหลอกผม
แต่อาจารย์กลับพูดต่อ “จริงๆ ขอแค่แกรู้วิธีอ่านมัน แต่ฉันกับอาจารย์ปู่ของแก แล้วก็อาจารย์ของอาจารย์อีกที ก็ยังไม่มีใครอ่านมันได้เลย”
พอได้ยินแบบนั้น ผมก็มีนในทันที
อาจารย์ของอาจารย์ของอาจารย์ของอาจารย์ของผม……นี่มันพี่รุ่นไหนกันเนี่ย
คนมากมายขนาดนั้นยังไม่มีทางได้อ่าน งั้นมันก็ไม่ได้แปลว่าไม่มีใครได้ฝึกน่ะซิ
“อาจารย์ ไปโดนใครหลอกมาหรือเปล่า อาจารย์แน่ใจจริงๆเหรอว่าอาจารย์ปู่ให้มาน่ะ ?”
อาจารย์ดื่มเหล้าต่อ “ เหลวไหล ถึงอาจารย์กับอาจารย์ปู่ของแก และอาจารย์ท่านอื่นๆจะไม่ได้ฝึกเจ้านี่
แต่ศิษย์พี่ของแก ได้ฝึกมันนะ ! ”
ตอนพูดถึงตรงนี้ อาจารย์กลับหันหน้ามาอย่างรวดเร็ว เขาจ้องผมอย่างจริงจัง ดวงตาเหมือนจะลุกเป็นไฟ
พอได้ยินถึงตรงนี้ ในใจผมก็มีเสียงดัง “ถูก” ทําหน้าประหลาดใจออกมาทันที
ศิษย์พี่ของผม ผมอยู่กับอาจารย์มาตั้งแต่เด็ก แต่กลับไม่เห็นจะมีศิษย์พี่อะไรสักคน
ผมคิดว่าอาจารย์เมาแล้ว เลยพูดไปเรื่อย
แต่หลังจากดื่มเหล้าอีกอีกเสร็จ อาจารย์ก็พูดต่อ “ เสี่ยวฝาน เกล็ดอันนี้ มีวิชาที่สุดยอดอยู่มันมีชื่อว่า
เฟินเทียนกง การจะฝึกวิชานี้ได้ ต้องมีจิตใจที่ดีงาม ก่อนหน้าแก อาจารย์เคยรับศิษย์คนหนึ่ง เขาก็คือศิษย์พี่ของแก ”
“เฟนเทียนกง ศิษย์พี่ ทั้งหมดนี่คงไม่ใช่เรื่องจริงหรอกนะ ?” อยู่กับอาจารย์มานานขนาดนี้ พอนับๆดูแล้ว
ก็ผ่านไป 21 ปีแล้ว แต่จู่ๆก็ได้ยินอาจารย์พูดว่า ผมยังมีศิษย์พี่คนหนึ่ง ผมเลยเริ่มจะรับไม่ไหวแล้ว
“นี่เป็นเรื่องจริง แต่ศิษย์พี่ของแกมีจิตใจไม่ซื่อตรง ตอนนั้นอาจารย์ยกของสิ่งนี้ให้เขา หวังว่าเขาจะสืบทอดวิชาของเหล่าอาจารย์ได้ ศิษย์พี่ของแกก็ไม่ทําให้ผิดหวัง เขาอ่านเคล็ดวิชาในนี้ได้จริงๆ แต่ แต่หลังจากนั้น กลับเป็นเพราะใจคิดชั่วเลยหลงเข้าไปเดินในเส้นทางที่ไม่อาจหวนกลับได้” อาจารย์พูดต่อ
“อาจารย์ ถ้าอย่างนั้น ที่อาจารย์พูดก็เป็นเรื่องจริงหมดน่ะซิ” ผมค่อนข้างตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง
อาจารย์กลับพยักหน้าเล็กน้อย “ ไม่พูดถึงมันแล้ว นี่ก็ผ่านมายี่สิบปีแล้ว แกเก็บเจ้านี่เอาไว้ให้ดีๆ
แล้วลองพยายามหาทางเอาละ……”
หลังจากพูดจบ อาจารย์ก็ยกแก้วขึ้นอีกครั้ง แล้วดื่มมันจนหมด
พอดื่มหมดแก้วนี้แล้ว อาจารย์ก็ไม่พูดอะไรอีก เห็นได้ชัดว่าเขาค่อนข้างเศร้า จากนั้นก็เดินตรงเข้าไปในห้องทันที
ทิ้งให้ผมยืนอยู่คนเดียว ผมจับเจ้าท่าทางเหมือนเกล็ดปลามามองแบบอึ้งๆ
ผมมองเกล็ดปลานี่ทีนึง จากนั้นก็หันไปมองทางอาจารย์ทีนึง สุดท้ายก็ค่อยๆนั่งลง เอาเจ้าสิ่งนี้มาไว้บนมือแล้วมองมันอย่างละเอียด
นอกจากเจ้าสิ่งนี้จะเหมือนเกล็ดปลาแล้ว ผมก็ไม่เห็นอะไรอีก
ส่วนวิชาเฟินเทียนกงอะไรนั้น ผมไม่เห็นเลยสักนิด
ถ้าสิ่งที่อาจารย์พูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมด งั้นเจ้าสิ่งนี้ ก็อาจเป็นเหมือนที่อาจารย์พูดไว้ จะต้องผ่านขั้นตอนบางอย่างก่อน
แต่ขั้นตอนอะไรละ เผาไฟ จุ่มลงไปในน้ําเหรอ
พอคิดถึงตรงนี้ ผมก็ลองดู แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และไม่มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น
หลังจากนั่งในบ้านมาครึ่งชั่วโมง ผมก็กลับเข้าไปในห้อง
ผมล้มตัวลงนอนบนเตียง จ้องมันที่อยู่ในมือ แต่หลังจากจ้องอยู่นานสองนาน ผมก็ไม่เห็นจะมีอะไรต่างไปจากเดิม
ผมเลยคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยลองถามอาจารย์ดู จากนั้นตัวผมก็ค่อยเผลอหลับไป
เมื่อเช้าวันรุ่งขึ้นมาถึง ผมก็ถือเจ้าสิ่งนี้ออกไปถามอาจารย์
อาจารย์กลับฉีกยิ้มให้ผม แล้วบอกว่าเขาลองหาวิธีมาทั้งชีวิต ก็ยังไม่เห็นอะไรเลย ดังนั้นตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะอ่านมันได้ยังไง
นอกจากเรื่องนี้ ตอนผมถามอาจารย์เกี่ยวกับเรื่องศิษย์พี่ อาจารย์กลับถอนหายใจออกมา แล้วก็โบกมือให้ผม
บอกว่าก่อนหน้าผม มีศิษย์พี่คนนึงอยู่จริงๆ
ส่วนเรื่องชื่อ ตัวเขาอยู่ที่ไหน ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง อาจารย์กลับโบกมือ เหมือนกับไม่อยากพูดถึง
ถึงจะรู้สึกสงสัย แต่พอเห็นอาจารย์เป็นแบบนั้น ผมก็ไม่พยายามถามต่อ
แต่ตอนนั้นผมยังนึกไม่ออก ว่าก่อนหน้านี้ตอนอาจารย์ถ่ายทอดวิชาให้ผม อาจารย์เคยพูดเอาไว้ว่า คราวนี้ไม่ได้ถ่ายทอดให้คนผิดอีก
ตอนนั้นเขาพูดคำว่า “อีก” เพียงแต่ตอนนั้นผมไม่ได้เก็บมาใส่ใจ
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ พอเห็นอาจารย์ไม่พูด ผมก็ไม่สนใจเขาอีก
วันนี้เป็นวันแรกของปีใหม่ พวกเราไม่เปิดร้าน
หลังกินข้าวเสร็จ ผมก็หยิบเจ้าเกล็ดปลาอันนั้นออกมา แล้วกลับเข้าไปลองหาวิธีต่อให้ห้อง
ผมเองก็อยากรู้ว่า ในนี้มีความลับอะไรซ่อนอยู่กันแน่
ทําไมถึงต้องพิเศษถึงขนาดนี้ จําเป็นต้องซ่อนเอาไว้ในเจ้าน ทําไมถึงเรียกเจ้านี่ว่าเกล็ดกิเลนด้วย