ศพ - ตอนที่ 396 แยกย้าย
ตอนที่ 396 แยกย้าย
พอได้ยินท่านหลงฉวนพูดแบบนั้น ผมและเหล่าเฟิงก็อดรู้สึกสบายใจขึ้นมาไม่ได้
พวกเราไปมีเรื่องกับองค์กรตาผี แถมตอนนี้ยังทําให้ชุ่ยซานหยวนและยัยป้ามั่นหน้านั่นบาด เจ็บหนัก
แม้แต่จางจีเทาก็ยอมทิ้งร่าง หนีไปในรูปแบบของวิญญาณ
สําหรับพวกเขา ครั้งนี้ต้องเป็นการพ่ายแพ้ย่อยยับ และความอัปยศครั้งยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
ถ้าท่านหลงฉวนและท่านนักพรตฉันอยู่ที่นี่ก็คงเยี่ยมไปเลย ใครจะไปกล้ามารนหาที่ตายละ
แต่ถ้าพวกเขาจากไป พวกปุยซานหยวนก็อาจวางแผนเล่นงานพวกเราอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แค่ออกมากินข้าว
ก็อาจโดนซุ่มโจมตีเหมือนคืนนี้ก็ได้
แต่ท่านหลงฉวนพูดแล้ว ว่าเรื่องนี้เขาจะเป็นคนช่วยพวกเราจัดการเอง
แบบนี้ ก็เท่ากับเราสามารถตัดเรื่องที่กังวลมาโดยตลอดให้หายไปได้เลย
พอคิดได้แบบนี้ ผมก็รีบทํามือค่านับท่านหลงฉวนทันที “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสหลงฉวนมากครับ !”
ท่านหลงฉวนโบกมือ “ ขอบคุณอะไรกัน เราเป็นนักพรตฝ่ายธรรมะ ไม่ได้ทําเรื่องพวกนี้อยู่แล้วหรือไง
เจ้าหน วันนี้นายเด็ดเดี่ยวมาก หมั่นฝึกฝนให้ดีๆ ในอนาคตจะต้องประสบความสําเร็จอย่างแน่นอน !
พอได้ยินท่านหลงฉวนชมแบบนั้น ผมก็อดดีใจไม่ได้ หรือแม้แต่เกิดได้ใจขึ้นมาเลยทีเดียว
แต่ไม่รอให้ผมได้พูดออกมาอีกครั้ง ท่านหลงฉวนก็พูดกับพวกเราว่า
“ โอเค ในเมื่อจบเรื่องแล้ว พวกเราก็รีบออกไปจากที่นี่เถอะ ! ส่วนเจ้าสองศพนั่น พวกนายหาที่ฝังก็พอ ไม่อย่างนั้นจะมีเรื่องยุ่งตามมา
โอเคพวกเราควรต้องไปแล้วละ ”
หลังจากพูดจบ ท่านหลงฉวนและท่านนักพรตฉินหันไปมองหน้ากัน เตรียมจะออกไป
ผมเห็นทั้งสองคนจะจากไปแล้ว เลยรีบถามขึ้นมาอีกครั้ง “ท่านนักพรตทั้งสอง พวกคุณ พวกคุณจะไปที่ไหนเหรอครับ ?”
ท่านหลงฉวนและท่านนักพรตฉันโดนเสียงเรียกของผมหยุดไว้ พวกเขาหันมามองหน้าผม
หลังจากนั้นก็ได้ยินท่านนักพรตฉันพูดกับผมว่า “ ว่างมาหลายวัน ควรออกไปขยับเนื้อขยับตัวหน่อย
ให้พวกองค์กรตาผีได้ปวดหัวบ้าง”
ท่านนักพรตฉันพูดออกมาอย่างสบายๆ หรือแม้แต่ยิ้มให้ผมด้วย
ต่อจากนั้น ท่านนักพรตฉินและท่านหลงฉวน ก็หมุนตัวและเดินออกไปจากที่นี่อย่างไม่ลังเล
นักพรตทั้งสองท่านเป็นยอดฝีมือ หลังจากหมุนตัวจากไป พวกเขาก็เดินเข้าสู่ความมืดมิด
ผ่านไปไม่นาน ร่างของพวกเขาก็หายไปจากสายตาของพวกเรา ทิ้งเอาไว้เพียงผม เหล่าเฟิง พี่หลี่ และพี่เฟิง
แต่ค่าพูดของท่านนักพรตฉิน กลับทําให้ผมช็อกในทันที
พวกเขาคิดจะออกไปสู้กับองค์กรตาผี มีนักพรตผู้กล้าแข็งขนาดนี้ออกโรง
แผนแก้แค้นของน้องศพ ก็มีตัวช่วยตัวบกแล้ว
คืนนี้เผชิญหน้ากับอันตราย แทบต้องตายอยู่ที่นี่ โชคดีที่พวกเรามีโชคไม่เบา ได้มาเจอกับผู้อาวุโสทั้งสองท่าน
ขณะมองทางที่พวกเขาหายไป ผมก็สูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็พูดกับพี่หลี่ที่ยืนตัวสั่นอยู่ไม่ไกล
“พี่หลี่ หมอผีโดนไล่ไปหมดแล้ว ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว พี่เองก็กลับบ้านไปเถอะ !”
พี่หลี่ยังตกใจไม่หาย แม้เธอจะเป็นผี แต่ก็เพิ่งเป็นผีได้ไม่กี่วัน จู่ๆโลกทั้งใบของเธอก็เปลี่ยนไปซะงั้น
ก่อนหน้านี้ยังเผชิญหน้ากับการต่อสู้ที่ “สยดสยอง” เธอตกใจจนพูดไม่ออกนานแล้ว
ตอนนี้เมื่อได้ยินผมพูดแบบนั้น พี่หลี่ถึงได้สติกลับมา “ฉัน ฉันไปอยู่ อยู่กับพวกนายได้ไหม ? ฉัน ฉันกลัว”
เมื่อเห็นพี่หลี่กลัวแบบนั้น ผมก็พูดปลอบเธอ “พี่หลี่ คราวนี้พี่วางใจได้เลย ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกแน่นอน หลังจากศพของพี่โดนฝังแล้ว พี่ก็ลงไปที่ยมโลกก็พอ ส่วนเรื่องอื่นก็ไม่ต้องไปคิดถึงมันหรอกครับ !”
พี่หลี่ทําหน้าจริงจัง พี่หลี่ลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็พยักหน้าให้
ในเวลาเดียวกันก็บอกลาผม บอกว่าเธอจะกลับไปที่ที่ศพเธออยู่
หลังจากบอกให้พวกเราดูแลตัวเองดีๆแล้ว พี่หลีก็ออกไปจากที่นี้ วิญญาณเธอลอยไปข้างหน้า ผ่านไปไม่นานร่างของเธอก็หายไปแล้ว
หลังจากที่พี่หลออกไปแล้ว ที่นี่ก็เหลือแค่เราสามคน
แม้จะรู้สึกเจ็บ ไม่สบายตัวอยู่บ้าง แต่ต่อจากนี้เรายังมีเรื่องต้องทําอีก ไม่อย่างงั้นวันข้างหน้าต้องมีปัญหามาหาถึงบ้านแน่ๆ
ดังนั้นผมเลยพูดกับเหล่าเพิ่งและพี่เฟิงว่า “เหล่าเฟิง พี่เฟิง พวกเราก็เริ่มเก็บกวาดกันเถอะ !”
เหล่าเพิ่งพยักหน้าเบาๆ พี่เฟิงเองก็ขานรับสั้นๆ “ซื้อ”
ต่อจากนั้น ผมสามคนก็แบกร่างชายแก่ที่กุยซานหยวนใช้ กับศพของจางเทา ไปไว้ในรถคันใหม่ทีละศพๆ จากนั้นก็ขับรถตรงไปที่ตําบลชิงฉือ
ระหว่างทาง พี่เฟิงไม่ได้กลับเข้าไปในร่างเหล่าเฟิง แต่คอยช่วยและทําความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เขาเลยนั่งรถไปกับพวกเรา
ช่วงสองสามวันนี้เขาหลับลึกอยู่ในร่างของเหล่าเฟิงมาโดยตลอด สําหรับเรื่องที่ผ่านมา เขา ไม่รู้เลยสักอย่าง
ดังนั้น ผมและเหล่าเฟิงเลยเริ่มเล่าไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เล่าตั้งแต่ต้นจนจบ และเรื่องที่เราเจอ ให้พี่เฟิงฟังทั้งหมด
ตั้งแต่พวกเราไปซื้อรถที่ศูนย์ เจอรถผีสิง ต่อมาก็เจอจางจีเทามาแย่งวิญญาณในพิธีเรียกวิญญาณ จากนั้นเราก็ไปรับรถ แล้วก็ไปจัดการเรื่องของพี่หลีที่ผู้จัดการใหญ่ศูนย์เป็นคนไหว้วานมา และแล้วท้ายที่สุดพวกเราก็โดนซุ่มโจมตี จนกระทั่งท่านหลงฉวนและท่านนักพรตฉินออกมาปรากฏตัว
จากการวิเคราะห์และการคาดเดาของพวกเรา ต้นเหตุของเรื่อง น่าจะมาจากตอนที่พวกเราทําพิธีเรียกวิญญาณครอบครัวสกุลเหยียนทั้งเจ็ดตน
หลังจากทําพิธีเรียกวิญญาณ จางจีเทาก็พบว่าเป็นฝีมือของพวกเรา
อาจเป็นเพราะเรื่องนี้จริงๆ จางจีเทาและหมอผีคนอื่น เลยไปดักรอดูการเคลื่อนไหวของพวกเราแถวๆศูนย์รถ
พอถึงเวลาที่ผมและเหล่าเพิ่งมารับรถ แล้วไปบ้านผู้จัดการใหญ่จุต่อ แถมยังตกกลางคืนพอดี องค์กรตาผีเลยใช้โอกาสนี้ซุ่มโจมตีพวกเรา
ก่อนอื่นเลยคือพี่หลี่ที่พวกเราจัดการเรียบร้อยแล้ว พี่หลี่เองก็บอกว่าหลังออกมาจากตึกนั้นแล้ว เธอก็หมดสติไป
พวกเรามั่นใจว่า ระหว่างที่วิญญาณของพี่หลออกจากบ้านของเจ้าอ้วน เธอจะต้องโดนสาวกขององค์กรตาผี หรือไม่ก็พวกก่ยซานหยวนดักอยู่นอกตึกอย่างแน่นอน
พวกมันทําให้วิญญาณของพี่หลี่กลายเป็นผีร้ายชุดเหลือง แล้วจากนั้นก็ให้มาตามหาพวกเรา
ผลลัพธ์การมากินของปิ้งย่างในถนนที่ห่างไกล ดันเป็นสถานที่เหมาะให้พวกมันลงมือพอดี
ดังนั้นก่ยซานหยวน ยัยป้ามันหน้า และจางจีเทาเลยเริ่มแผนลอบโจมตีพวกเรา คิดจะจับพวกเราทั้งสองในคราวเดียว และคิดจะล่อให้ผมเรียกร่างจิตของมู่หลงเหยียนออกมา
หลังจากนั้นก็ใช้หมุดกักวิญญาณ ผนึกร่างจิตของมู่หลงเหยียนเอาไว้ สุดท้ายก็จับร่างมู่หลงเหยียน
โจมตีม่หลงเหยียนทางอ้อมและทําลายแผนของพวกเรา
ด้วยเหตุนี้ พี่หลี่เลยตกเป็นเบี้ย
ใครจะรู้เพิ่งจัดการพี่หลี่ได้ พวกปุยซานหยวนก็กระโดดออกมา เพื่อกดดันพวกเรา แต่ก็ไม่รีบร้อนลงมือทันที
แผนการของพวกเขา คือคิดจะล่อให้ผมเรียกร่างจิตของมู่หลงเหยียนออกมา ตอนนั้นผมจะคิดออกได้ยังไงว่าอีกฝ่ายจะวางแผนเอาไว้แยบยลขนาดนี้
เพื่อเอาชีวิตรอด ผมทําได้แค่เรียกม่หลงเหยียนออกมาช่วย แต่กลับเป็นการติดกับของอีกฝ่ายแทน
ผลลัพธ์เมื่อหลายวันก่อนมู่หลงเหยียนเพิ่งฝึกวิชาพลาด เสียพลังไปจํานวนมาก หลังจากร่างจิตปรากฏขึ้น พลังที่มีเลยไม่ได้แกร่งถึงขนาดนั้น
บวกกับพวกปุยซานหยวนเตรียมการมานานแล้ว สุดท้ายทุกคนก็โดนจัดการ
แต่สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงคือ ในร้านปิ้งย่างแห่งนี้ นอกจากพวกเราแล้ว ยังมีผู้อาวุโสอีกสองคน ท่านหลงฉวนและท่านนักพรตฉิน
ตอนแรกพวกเขานั่งอยู่ตรงโต๊ะใต้ร่มไม้ เพราะมันมืดเกินไป เลยไม่มีคนดูออกว่าเป็นพวกเขา
พวกเราเองก็ไม่ได้สนใจ หลังจากสู้มาจนถึงวินาทีสุดท้ายแล้ว ท่านนักพรตทั้งสองท่านคงทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้เอื้อมมือออกมาช่วย จู่โจมจนกลุ่มผู้ต้องสยบและพวกกุยซานหยวนต้องถอยหนี ทําให้พวกเราพ้นจากอันตรายมาได้……
และเรื่องพวกนี้ ก็คือเรื่องราวทั้งหมด
แน่นอน ระหว่างนั้น เหล่าเฟิงก็ถามผมเกี่ยวกับเรื่องของมู่หลงเหยียนด้วย
แม้เหล่าเพิ่งจะมองไม่เห็นมู่หลงเหยียน แต่เหล่าเพิ่งรู้ว่ามีผีอยู่ตัวหนึ่ง และยังร้ายกาจมากอีกด้วย
สําหรับเรื่องของมู่หลงเหยียน เพราะมีเหตุผลพิเศษ ผมเลยไม่ได้พูดถึงมากนัก เพียงอ้างว่าเป็น
“วิญญาณคุ้มครองบ้าน” เท่านั้น
เหล่าเพิ่งและพี่เฟิง เห็นผมไม่อยากพูดถึงเลยไม่ได้ถามต่อ เพียงพยักหน้าให้เท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ ความสัมพันธ์ที่แท้จริงของผมและมู่หลงเหยียน เลยไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมาใน
ตอนนี้
พวกเหล่าเฟิง รู้แค่ว่าข้างกายผมมีผีแบบนี้อยู่เท่านั้น ส่วนเรื่องที่มาและรูปลักษณ์ พวกเขาไม่รู้อะไรเลยสักนิด
หลังฟังทุกอย่างจบ พี่เฟิงก็อดสูดหายใจเข้าลึกๆไม่ได้
บอกว่าพวกเราดวงดีจริงๆ ถ้าไม่ได้เป็นเพราะเจอผู้อาวุโสทั้งสองท่านที่นั้น พวกเราก็คงโดนจับไป
และกลายเป็นทาสผีให้พวกมันใช้งานในอนาคต แล้วสุดท้ายก็โดนฝึกให้กลายเป็นหุ่นรบออกไปทําชั่วให้องค์กรตาผี ส่วนวิญญาณคุ้มครองบ้านที่ผมพูดถึง ก็คงต้องวิญญาณแตกสลาย…