ว่าไงคะท่านนายพล - ตอนที่ 8 : คุณคือยาของฉัน (5)
แต่จู่ ๆ ฮัวเฉาเหิงก็กดมือลงบนไหล่ของเธอเพื่อรักษาระยะห่างจากร่างกายของเธอ แรงของเขากดไหล่บางไว้จนเธอไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้
ขณะนี้สายตาของชายหนุ่มไม่ได้มองดูร่างกายของอีกฝ่ายเพราะเขากลัวว่ามันจะเป็นกับดักที่จะลงโทษเขาไปชั่วนิรันดร์ เพราะเขาจะไม่มีวันสลัดทิ้งหลังจากได้ลองครั้งแรก แต่ในช่วงเวลานี้มันคงจะดีกว่าถ้าเขาแค่ใช้มือให้อีกฝ่ายและไม่มีการสัมผัสอะไรอย่างอื่นด้วย
ในเวลาเดียวกันกู้เหนียนจื่อรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังจมอยู่ในน้ำเย็นครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถูกไฟไหม้ไปทั่วร่าง
ไม่กี่วินาทีต่อมาเธอก็รู้สึกราวกับว่ามีใครบางคนกำลังพรมจูบทั่วร่างกายของเธอเบา ๆ จุดอ่อนไหวที่สุดของเธอกำลังถูกหยอกล้อ มันเร็วขึ้นและหนักขึ้น
ความปรารถนาที่ถูกระงับไว้ในหัวใจของเธอถูกปลดปล่อยโดยจูบที่เร่าร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอครวญครางอยู่เป็นเวลานาน แล้วเหงื่อก็ไหลซึมตามร่างกายขณะที่เธอไม่สามารถหยุดสั่นเทาได้
ฮัวเฉาเหิงส่งเสียงในลำคอพร้อมกับปล่อยตัวหญิงสาว
น้ำเสียงของเธอฟังดูเย้ายวนและผ่อนคลายเป็นเวลานาน แต่ฝ่ายที่ได้ยินเสียงนั้นกลับมีอารมณ์ที่ปะทุขึ้นและนั่นทำให้เขาไม่ทันได้ระวัง
หัวใจของเขาจมดิ่งลงทันที
เขาไม่เคยสูญเสียการควบคุมแบบนี้มาก่อน เขาไม่ได้ทำอะไรนอกจากช่วยเธอจริง ๆ
ไม่ เขาจะปล่อยให้ตัวเองสูญเสียการควบคุมแบบนี้ไม่ได้
เขายอมรับความอ่อนแอไม่ได้
จากนั้นนายพลหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นถอนหายใจยาว ๆ สองครั้งเพื่อปรับอัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้นของเขาให้สงบลง
ตอนนี้สายตาของเขาเริ่มชินกับความมืดถึงแม้จะพร่ามัวไปบ้าง แต่เขาก็สามารถเห็นใบหน้าของคนที่นอนอยู่บนเตียงได้อย่างชัดเจน
แม้ว่าดวงตาของหญิงสาวจะถูกปิดตาด้วยผ้าพันคอ แต่เธอก็ดึงความสนใจของเขาได้ด้วยจมูกที่เป็นสันและริมฝีปากที่อวบอิ่มนุ่มนวลของเธอที่ตอนนี้มีสีแดงสดคล้ายดอกกุหลาบที่เบ่งบานอยู่ตรงหน้าเขา
ตอนนี้เธอกำลังอ้าปากและหอบหายใจถี่เล็กน้อย
ภาพตรงหน้าที่เขาเห็นนั้นมันเย้ายวนใจเขาอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ต่อมาเขาเอื้อมมือไปแตะแก้มสีชมพูระเรื่อของเธอ นิ้วหัวแม่มือขวาเผลอแตะริมฝีปากนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
มันทั้งชื้น สั่นนิดหน่อยและนุ่มเกินกว่าที่คาดไว้
เขารีบเลื่อนมือออกไปอย่างรวดเร็วราวกับถูกไฟช็อต ก่อนที่มือขวาของเขาเลื่อนลงมาที่กระดูกไหปลาร้าของเธอ
แม้ว่ามันจะเป็นแค่กระดูก แต่เขาก็รู้สึกว่ามันนุ่มมากจนเขาสามารถหักมันได้อย่างง่ายดายด้วยการสัมผัส
ฮัวเฉาเหิงรู้สึกสะดุดใจ นิ้วของเขาเลื่อนไปตามกระดูกไหปลาร้าของหญิงสาวเบา ๆ ราวกับสายลมที่พาดผ่านไหล่บางของเธอ ไปยังแขนที่ดูเหมือนไม่มีกระดูกของเธอ และสุดท้ายเขาก็ลูบผ่านไปที่เอวของเธอ
เขาชะงักไปเล็กน้อย
มันเป็นเอวที่บอบบางและเล็กมากจริง ๆ
ในเวลานี้เขาเม้มริมฝีปากเขาหากันแน่นขึ้น แล้วคิดถึงเรื่องอดัมและอีฟ ผลแอปเปิ้ลนั้นหอมหวานและน่าลิ้มลองเสียจนแทบจะอดใจไม่ไหว
ทันใดนั้นเขาก็ไม่กล้าเข้าใกล้อีกฝ่ายแล้วพยายามรักษาระยะห่างเอาไว้
…
แม้ว่าทหารหนุ่มจะไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับใครมาก่อน แต่เขามีความรู้ทางทฤษฎีพอสมควร เขาเคยเห็นเรือนร่างของผู้หญิงหลายคนในระหว่างการฝึกเพื่อต่อต้านการล่อลวงทางเพศ แต่ไม่เคยถูกปลุกเร้าได้สำเร็จ
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงพวกนั้น เขายังสามารถควบคุมความต้องการทางร่างกายและระงับความตื่นตัวได้
แต่กับกู้เหนียนจื่อ แค่เขามองเธอมันก็ทำลายเกราะป้องกันของเขาไปจนหมดสิ้น
ฮัวเฉาเหิงกระแอมไอเบา ๆ และตัดสินใจอย่างมีเหตุผลว่าจะไม่คิดถึงเรื่องนี้
เมื่อเปรียบเทียบร่างกายที่แข็งแรงของเขาและร่างกายเธอที่ตัวเล็กกว่าเขาแค่ไหน เขาจะทำให้…
ชายหนุ่มรู้ว่าเขาไม่สามารถครุ่นคิดเกี่ยวกับปัญหานี้ได้
วินาทีต่อจากที่เขาเริ่มคิด ร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยเหงื่อขณะที่เขาส่งเสียงในลำคอเพื่อระงับความปรารถนาของตัวเองและบรรเทาความต้องการของเธอ
โชคดีที่เธอได้รับการปลดปล่อยบ้างแล้ว ฮัวเฉาเหิงคิดว่ามันคงจะไม่เป็นไรถ้าเขาแก้ผ้าพันคอที่พันธนาการเธอเอาไว้แน่น พอคิดอย่างนั้นเขาก็ลุกขึ้นนั่งจากเตียงเพื่อไปล้างตัวในห้องน้ำและเขาเติมน้ำให้เต็มอ่างน้ำเพื่อทำความสะอาดตัวกู้เหนียนจื่อด้วย
ทันทีที่เขาสัมผัสแขนของเธอ คนเป็นผู้ปกครองก็รู้สึกถึงอุณหภูมิร่างกายของอีกฝ่ายที่สูงจนน่าใจหาย
เป็นไปได้ยังไง?
หญิงสาวโถมตัวเข้าหาเขาทันทีที่เขาดึงมือออก
ขาเรียวยาวของเธอกำลังโอบรอบตัวเขาโดยไม่ยอมปล่อยเหมือนคนกระหายน้ำมานานแล้วได้เจอแหล่งน้ำกลางทะเลทราย
ฝ่ายที่ถูกโอบรัดพยายามตั้งสติแล้วคิดว่าการปลดปล่อยครั้งเดียวคงไม่พอที่จะทำให้เธอพอใจ ดังนั้นเขาจึงต้องทำใหม่อีกครั้ง
ซึ่งมันไม่เหมือนกับว่าพวกเขาทำมันจริง ๆ อยู่แล้ว
ฮัวเฉาเหิงโยนผ้าเช็ดตัวทิ้งและมัดกู้เหนียนจื่ออีกครั้งเพื่อที่เขาจะได้ใช้มือเพื่อช่วยเธอ
กู้เหนียนจื่อที่เคยทำตัวเหมือนเยลลี่หลังจากถูกยาปลุกเซ็กส์ แต่เมื่อชายหนุ่มมาลูบไล้ตัวเธอ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนพายุฤดูร้อนที่รวดเร็วและรุนแรง
เธออยากเข้าใกล้ตัวช่วยคลายความต้องการของเธอมากขึ้น แต่ข้อมือและข้อเท้าของเธอถูกมัดเอาไว้แน่นจนเธอไม่สามารถขัดขืนสวัสดีได้
ฝ่ามือของฮัวเฉาเหิงเริ่มร้อนขึ้นและกู้เหนียนจื่อรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองอุ่นขึ้น
ในที่สุดขณะที่นายพลหนุ่มคิดว่าอารมณ์ของเขากำลังจะระเบิด กู้เหนียนจื่อก็กระตุกอย่างรุนแรง ร่างกายของเธอสั่นไหวและดวงตาก็พร่ามัวโดยที่สมองของเธอขาวโพลนไปหมด
ตอนนี้กู้เหนียนจื่ออยากจะโอบกอดแหล่งที่มาของความสุขของเธอ แต่แขนและขาของเธอถูกมัดไว้แน่นจนเธออดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา
แม้ว่าโดยปกติแล้วฮัวเฉาเหิงจะมีจิตใจที่เข้มแข็งและมีความยับยั้งชั่งใจสูงอย่างมาก แต่เสียงครางกระเส่าของเธอประกอบกับการร้องไห้ของเธอก็ทำให้เขาแทบบ้า
“ฮือออ อ๊ะ… ฮึก อื้อ!” กู้เหนียนจื่อร้องไห้อย่างหนักจากส่วนลึกในลำคอของเธอ
โชคดีที่ห้องพักนั้นเก็บเสียง ไม่อย่างนั้นชายหนุ่มคงแทบจะคลั่งกว่านี้
เขาอยากจะฆ่าคนขึ้นมาอย่างกะทันหันเมื่อนึกถึงว่าถ้ามีคนอื่นมาได้ยินหญิงสาวทำเสียงแบบนี้
แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด แม้ว่าดวงตาของเธอจะถูกปิดไว้ แต่กู้เหนียนจื่อก็เห็นดอกไม้สีทองผลิบานต่อหน้าเธอ ก่อนที่จิตใจของเธอจะว่างเปล่าและร่างกายก็ทรุดลงกับเตียง
คราวนี้คงจะช่วยให้เธอบรรเทาได้แล้ว ฮัวเฉาเหิงคิดขณะที่เขาลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวสะอาดมาเช็ดตัวเธอเพื่อให้เธอนอนหลับสบาย
หลังจากที่เขาทำความสะอาดแล้วเขาก็เอนตัวลงนอนอยู่ข้าง ๆ เธอ
ตอนนี้กู้เหนียนจื่อกลับมาสงบนิ่งเหมือนก่อนที่เธอจะได้รับผลกระทบจากยาปลุกเซ็กส์
ผู้ปกครองหนุ่มถอนหายใจด้วยความโล่งอกและคิดว่ายาปลุกเซ็กส์นี้มีศักยภาพแค่ไหน เธอต้องปลดปล่อยถึงสองครั้งเธอถึงจะสงบลง
เขาหันหน้าไปหาอีกคนเพื่อปลดผ้าพันคอเฮอร์เมสที่แขนและขาของเธอออกอีกครั้ง จากนั้นก็นวดบริเวณข้อมือที่บวมช้ำของเธอ
ระหว่างนั้นลมหายใจที่สงบของหญิงสาวเริ่มหนักขึ้นอีกครั้งเพราะถูกสัมผัสที่ข้อมือ
เธอหันศีรษะเคลื่อนไปทางคนข้าง ๆ และเริ่มใช้ริมฝีปากมาคลอเคลียเขา
ฮัวเฉาเหิงกำลังก้มหน้าลงขณะที่เขานวดข้อมือของเธอ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าร่างบางกำลังเข้ามาใกล้
ในขณะนั้นเขานั่งนิ่งแล้วหลับตาลงเพื่อหลีกเลี่ยงการมองเธอ เขาแค่อยากรู้ว่าเธอจะทำอะไรต่อไป
และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาทำให้หัวใจของชายหนุ่มกระตุก เขารู้สึกตื่นตัวเร็วมากราวกับว่าการฝึกของเขาที่ผ่านมาเพื่อต่อต้านการยั่วยวนทางเพศและผลของยาปลุกเซ็กส์กลับไร้ประโยชน์อีกครั้ง
ก่อนหน้านี้เขาลืมปิดไฟห้องน้ำ ทำให้ตอนนี้มีแสงสีเหลืองสลัวกำลังส่องผ่านกระจกฝ้าออกมา
ร่างของผู้หญิงตรงหน้าเขานั้นดูทั้งบอบบางและน่าทะนุถนอม แต่ก็แฝงไปด้วยด้วยความรู้สึกเย้ายวนที่ขัดแย้งกันมาก
“อยากได้อีกแล้วเหรอ หืม?” ฮัวเฉาเหิงกระซิบที่ข้างหูของอีกฝ่ายแล้วดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขาก่อนจะก้มศีรษะลงเพื่อจูบเธอ
คราวนี้เขาไม่ได้ใช้มือแต่ใช้จูบพาเธอไปสู่จุดสุดยอดแทน
ภายใต้เทคนิคใหม่ของเขา ครั้งที่สามของเธอก็มาถึงทันที
แต่มันก็ไม่เพียงพอ ยังมีครั้งที่สี่ ห้า หก …
หลังจากการปลดปล่อยครั้งที่หก การหายใจของกู้เหนียนจื่อก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง เธอนอนนิ่งไม่ไหวติง จากนั้นเขาก็หลับตาลง
แต่เขายังคงตื่นตัวในขณะที่กำลังฝัน
หลังจากหลับไปนานโดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อกู้เหนียนจื่อเริ่มร้องครวญครางเบา ๆ และเริ่มเลื่อนมือสะเปะสะปะไปมาบนร่างกายของเขา เขาไม่ได้ลืมตาขึ้นมาในขณะที่เขาดึงตัวเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและสอดมือเข้าไปใต้ผ้าห่ม
ทหารหนุ่มไม่เคยคิดว่าหญิงสาวที่ปกติจะดูเป็นคนที่อ่อนโยนจะกลายร่างเป็นปีศาจที่ชอบดูดเลือดนักบวชในโปเยโปโลเย
หลังจากเวลาผ่านไป 15 นาทีเธอก็ถึงจุดสุดยอด 2 ครั้ง แล้วเธอทำได้แค่หอบหายใจอยู่ข้างกายเขา
ในขณะเดียวกันชายร่างสูงถอนหายใจยาวและมองดูนาฬิกาบนโต๊ะ ตอนนี้ก็ตี 4 แล้ว
‘คราวนี้เธอจะนอนได้นานขึ้นไหม?’ ฮัวเฉาเหิงสงสัย
แต่เขาไม่สามารถข่มตาหลับได้เลย เพราะเขาคุ้นเคยกับการตื่นนอนตอนตี 4 หรือตี 5 เพื่อฝึกฝน แม้ว่าเขาจะผ่านค่ำคืนที่วุ่นวายไปแล้ว แต่เขาก็ยังต้องอดทนกับการฝึกฝนที่เข้มงวดตามปกติของเขา จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำในห้องน้ำอย่างเงียบ ๆ