วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน - ตอนที่ 317 กล้าที่จะรังแกเธอ
บทที่ 317 กล้าที่จะรังแกเธอ
“กู้จื่อจุน! นายอยากจะทำอะไร? นายรู้ไหมว่าการทำแบบนี้มันเป็นการข่มขืน?!”
“เหอะ! ข่มขืนแล้วจะทำไม? ถ้ามีปัญญาพรุ่งนี้ตื่นแล้วเธอก็ได้แจ้งความจับฉันสิ? เธอกล้าไหม? แจ้งความเรื่องนี้ก็จะดังจนใครๆ ก็รู้ถึงตอนนั้นใครยังกล้าที่จะเอาเธออีก?”
“นาย——หน้าไม่อาย!”
กวนเยว่หวั่นโมโหมากๆ ก็ได้ยกมือหมายที่จะตบไปที่หน้าของเขา
แต่มือพึ่งยกไปครึ่งหนึ่งก็ได้ถูกชายหนุ่มคว้าไว้ จากนั้น ก็ได้กดไปตรงเหนือหัว
กู้จื่อจุนกดเธอไปที่ประตูรถ ไม่สนอะไรแล้วก็จูบลงมา
กวนเยว่หวั่นขยะแขยง ก็ได้ออกแรงดิ้นรน มือออกแรง “เพี๊ยะ” ตบไปที่หน้าของเขา
กู้จื่อจุนที่ได้รับความเจ็บปวด ก็ได้โมโหขึ้นมาทันที ก็ได้ตบหน้าของเธอไปสองที ใบหน้าของหญิงสาวก็ได้เริ่มบวมขึ้น
ในหัวของกวนเยว่หวั่นก็ได้มึนไปหมด ตรงหน้าก็ได้มีแสงวิบวับ มองไม่ชัดแล้วว่ามีอะไร ได้ยินแต่เสียงที่เขากัดฟัน
“เธอกล้าที่จะลงมือกับฉัน ฉันไม่เชื่อว่าวันนี้จะทำให้เธอยอมไม่ได้!”
พูดจบ “แขวะ” ก็ได้ฉีกเสื้อของเธอ
เวลานั้น ในใจของกวนเยว่หวั่นก็ได้กดความหวาดกลัวต่ออีกไม่ได้ ก็ได้กรีดออกมา น้ำตาก็ได้ไหลลงมา
“นายไอ่ปีศาจ นายปล่อยฉัน อย่าแตะต้องฉัน!”
แต่ว่าไม่เป็นผลอะไร ชายหนุ่มนั้นก็เหมือนกับปีศาจที่บ้าคลั่ง กดแขนทั้งสองของเธอ ขาทั้งสองข้างก็ได้หยุดขาของเธอ ทำให้เธอนั้นดิ้นรนไม่ได้
เวลาเดียวกัน อยู่ๆ ——
เสียง “ตึ้ง” ก็ได้ดังขึ้น!
ชายหนุ่มบนตัวก็ได้ร้องอย่างเจ็บ วิต่อมา ตัวคนนั้นก็ได้ถูกเหวี่ยงออกไป
กวนเยว่หวั่นอึ้ง ตั้งตัวไม่ทัน ร่างทั้งร่างนั้นก็ได้ไปอยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่น
ตัวเธอได้สั่น ก็ได้มองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่ยากที่จะเชื่อ
เห็นว่าสีหน้าของจี้หยุนซูได้เย็นชาราวกับน้ำแข็ง สายตาได้เยือกเย็นมากๆ เห็นกู้จื่อจุนที่ล้มอยู่บนพื้นได้พยายามที่จะลุกขึ้นมา ก็ได้กัดฟันแล้วพูดว่า “ไอ่เหี้ยนี่ กล้าที่จะรังแกเธอ!”
พูดจบ ก็ได้พุ่งเข้าไป แล้วก็ถีบลงไป ทำให้กู้จื่อจุนกระเด็นไปไกล
ร่างกายของกู้จื่อจุนก็เหมือนว่าวที่สายได้ขาดไปแล้วก็ชนไปที่กำแพง จากนั้นก็ได้ล้มไปกับพื้น กองอยู่ตรงนั้น กระอักเลือดออกมา แล้วก็ลุกขึ้นมาไม่ได้อีก
เขายังไม่หายหงุดหงิด พุ่งเขาไปจะตีต่อ
แต่หญิงสาวในอ้อมกอดขาได้อ่อน ทำให้คนได้ล้มไปกับพื้น ก็ได้ไปประคองเธอ เห็นว่าหญิงสาวใบหน้าได้แดง คิ้วขมวดคิ้ว ร่างกายได้มีเหงื่อที่เย็น
เขานิ่งไป เหมือนเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น สายตาที่มองไปยังกู้จื่อจุนก็ได้เย็นชากว่าเดิม
เอาโทรศัพท์ออกมา แล้วก็โทรออกไป “ฮะโหล ตำรวจเหรอครับ? ผมจะแจ้งความ ตรงนี้มีคนหมายที่จะวางยาหญิงสาวแล้วก็ข่มขืน อยู่ที่วิลล่าจู้เจียวตรงลานจอดรถชั้นหนึ่งของบาร์”
วางสายไป ไม่ถึงห้านาที รถตำรวจก็ได้รีบขับเข้ามาให้ลานจอดรถ
ตำรวจพวกนั้นพอลงจากรถ เห็นว่าเป็นเขา ก็ได้ตกใจอย่างห้ามไม่ได้ ก็ได้รีบเข้าไป ถามว่า “คุณชายจี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นครับ?”
จี้หยุนซูสีหน้าเย็นชา ก็ได้ชี้ไปที่กู้จื่อจุนที่นอนอยู่มุมกำแพงเหมือนหมูที่ตายไปแล้ว พูดอย่างน่ากลัวว่า “คนคนนั้นวางยาแล้วจะข่มขืน ไปค้นที่ตัวของเขา น่าจะยังมีหลักฐานอยู่”
ตำรวจได้ยินแบบนั้นสีหน้าก็ได้เปลี่ยน ก็ได้รีบสั่งให้คนไปค้น
เป็นไปอย่างที่คิด ผงสีขาวที่พี่ฮุยให้กู้จื่อจุนก่อนหน้า เขาไม่ได้ใช้จนหมด ยังเหลือครึ่งหนึ่ง อยู่ที่กระเป๋าของเขา
จี้หยุนซูหัวเราะอย่างเย็นชา “ความจริงพวกคุณก็ได้เห็นแล้ว จากนี้พวกคุณควรจะทำยังไงไม่ต้องให้ผมบอกใช่ไหม?”
ตำรวจคนนั้นก็ได้สะดุด ก็ได้รีบพูด “แน่นอนว่าไม่ต้องครับ พวกเรารู้ว่าควรทำยังไง คราวนี้พวกเราดูแลไม่ถี่ถ้วนเอง ยังของให้คุณชายจี้เห็นใจ อย่าโทษพวกผมไปเลยนะครับ”
จี้หยุนซูได้หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา ไม่ได้พูดอะไร อุ้มหญิงสาวในอ้อมกอดแล้วก็จากไป
ก่อนที่ตำรวจจะมานั้น เขาก็ได้ถอดเสื้อนอกคุมตัวให้กับหญิงสาวแล้ว เพราะงั้นตอนที่ออกไป ทุกคนรู้ว่าเป็นผู้หญิงคนนั้น แต่ไม่รู้ว่าหน้าตาเธอเป็นยังไง ยิ่งไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร
และเวลานี้สีหน้าของเขาได้เย็นชา แน่นอนว่าคนพวกนั้นก็ไม่กล้าที่จะห้ามเขา ก็ทำได้แค่มองเขาอุ้มผู้หญิงคนนั้นขึ้นรถ แล้วก็ขับรถออกไป
ค่ำคืนของเมืองหลวงนั้นหนาวมาก เวลานี้ก็ได้อยู่ในเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว รถก็ได้ขับอยู่บนทางที่เงียบ ขับอย่างรวดเร็ว
ต่อให้เป็นแบบนั้น พอได้เห็นหญิงสาวที่ได้ขมวดคิ้วแน่น แล้วก็เหงื่อที่ได้ผุดขึ้นตรงหน้าผาก จี้หยุนซูก็ได้ใจร้อนอย่างอดไม่ได้
เขาได้พูดเสียงจริงจัง “หวั่นหวั่น เธออดทนหน่อย เดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว ต้องไม่เป็นไร”
เสียงของชายหนุ่มได้ต่ำ เหมือนกับยากระตุ้นอารมณ์ชั้นดี ได้ฟัง ก็ได้คันในใจขึ้นมา
สุดท้ายกวนเยว่หวั่นก็ได้ทนไม่ไหว ก็ได้ร้องเบาๆ แล้วก็เอาตัวไปติดกับเขา
ร่างกายของหญิงสาวได้ไปติดที่แขนของเขา จี้หยุนซูก็ได้สะดุด ลำคอได้เกร็ง
ผ่านไปสักพัก ก็ได้พูดเสียงแหบว่า “หวั่นหวั่น ถ้าเธอทรมานล่ะก็ เธอกัดผมเถอะ แบบนี้เธอจะได้บรรเทาลงไปบ้าง”
พูดจบ ก็ได้กำมือแน่น เตรียมให้เธอนั้นกัดจริง
สติของกวนเยว่หวั่นได้เลือนราง ไม่รู้เลยว่าเขานั้นพูดอะไร
ก็แค่ได้ยินเสียงของเขา รู้ว่าคนที่อยู่ข้างกายเธอนั้นเป็นจี้หยุนซู ความระแวงในใจก็ได้ปล่อยลง
ร่างกายร้อนมาก ทรมานมาก เธอนั้นก็ได้เอาตัวไปติดเขามากกว่าเดิม ในปากก็ได้พูดออกมาเบาๆ ว่า “รุ่นพี่”
เสียงที่อ่อนหวาน ทำให้ร่างกายของจี้หยุนซูนั้นตึงเหมือนสายธนูที่ถูกดึง เหมือนว่าวิต่อมานั้นก็จะขาดให้ได้
เขาได้สูดหายใจเข้าไปลึกๆ สายตาจ้องไปข้างหน้า ไม่กล้าที่จะมองผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ในใจค่อยย้ำเตือนตัวเองอยู่ตลอด จี้หยุนซูนะจี้หยุนซู นายทำผิดไปครั้งหนึ่งแล้ว อย่าทำผิดเป็นครั้งที่สองอีกเด็ดขาด!
ผู้หญิงที่ผู้ข้างๆ ตอนนี้ นายได้ทำผิดต่อเธอไปแล้ว ถ้าเกิดวันนี้ยังอดทนไม่ได้ นายมันเหี้ยมยิ่งกว่าปีศาจแล้ว แล้วจะต่างอะไรกับไอ่สาระเลวเมื่อกี้ล่ะ?
เขาคิดแบบนั้น ก็ได้ลับตา ได้ขับรถเร็วกว่าเดิม
และแล้วในเวลาแบบนี้ อยู่ๆ แถวคอก็ได้ร้อนขึ้น
เห็นว่าหญิงสาวนั้นได้มากอดรัดเหมือนกับเถาวัลย์แล้ว สองมือกอดไปที่คอของเขา สายตาที่เหมือนกับหยดน้ำค้างนั้นได้มองไปที่เขา หัวเราะออกมา “รุ่นพี่ เป็นรุ่นพี่จริงๆ เหรอ ฉันคิดว่าฉันฝันไปนะเนี่ย”
พูดจบ ก็ได้เอาหน้ามุดไปที่คอของเขา แล้วก็ถูไถเบาๆ ราวกับแมวน้อย
จี้หยุนซูได้กลืนน้ำลาย น้ำเสียงได้แหบไปมากๆ “หวั่นหวั่น อย่าซน ผมกำลังขับรถ”
กวนเยว่หวั่นเหมือนกับไม่ได้ยินที่เขานั้นพูดยังไงอย่างงั้น แล้วก็พูดออกมา “รุ่นพี่ ฉันร้อนจังเลย ทำไมฉันร้อนขนาดนี้ ตัวรุ่นพี่เย็นจัง สบายจัง ให้จับได้ไหม?”
พูดจบ มือน้อยก็ได้สอดเข้าไปในช่องว่างระหว่างกระดุม สอดเข้าไป
รถก็ได้ส่งเสียง “เอี๊ยด” อยู่ๆ ก็ได้จอดข้างทาง
จี้หยุนซูได้รีบหยุดมือน้อยที่ซนของหญิงสาว ใบหน้าหล่อเหลานั้นได้แดงจนแทบที่จะออกเลือด พูดอย่างติดๆ ขัดๆ “หวั่นหวั่น เธอ เธออย่าทำแบบนี้……”