วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 96 ขนาดเขาก็กินมาแล้ว
ตอนที่ 96 ขนาดเขาก็กินมาแล้ว
วัจสาหนักใจขั้นสุด ทำไมปรมะถึงได้ดื้อรั้นขนาดนี้นะ เธอนึกไปถึงชนิศา คนที่จะเอามาอ้างได้คนเดียวและหยุดเขาได้
“ปรมะ นี่มันเป็นเรื่องของฉัน คุณไม่ต้องมายุ่งหรอก รีบกลับไปได้แล้ว คุณสู่เขาไม่ได้หรอก ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไง ชนิศาจะอยู่ยังไงหล่ะ และใครจะดูแลเธอ จะให้เธออยู่คนเดียวเหงาๆที่อเมริกาเหมือนตอนนี้หรอ”
พอได้ยินชื่อของชนิศาแม่ของเขาขึ้นมา ปรมะก็เหมือนตื่นออกมาจากภวังค์สู่โลกแห่งความจริง เขาจึงไม่เค้นเอาความกับธัชชัยอีกต่อไป เขาก้มลงจับแฮนรถจักรยานขึ้นมา
ขายาวๆค่อมจักรยานคันนั้นไว้ แล้วหันไปมองวัจสาอยู่เสี้ยววิก่อนจะพูด “วัจสา ฉันจะกลับมาช่วยคุณแน่ๆ ขอไปเรียกพวกก่อน! ”
ที่เขาพูดแบบนั้นก็เพื่อปลอบใจวัจสา แล้วก็เป็นการเตือนธัชชัยไม่ให้ทำอะไรเธอมากเกินไป พอพูดจบเขาก็ปั่นจักรยานออกไปอย่างรวดเร็ว
ธัชชัยมองตามไปพลางหัวเราะหึหึ “ถ้าจะไปเรียกพวกก็ต้องรีบหน่อยนะ ดึกแล้ว เดี๋ยวจะไม่มีคนมาช่วยรบ อ้อ แล้วฉันก็ต้องหลับต้องนอนนะ เหอะ!”
เมื่อเห็นร่างของปรมะค่อยๆหายไปในความมืดเธอก็โล่งใจ วัจสาหวังอยู่ลึกๆด้วยว่าเขาจะไม่กลับมาอีก เพราะไม่อย่างนั้นเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าธัชชัยจะทำอะไรกับเขาอีก
บ้านตระกูลศรีทองกลับมาอยู่ในความเงียบสงบตามเดิม แต่ความเงียบสงบนี้ ก็เป็นสัญญาณบางอย่างว่าจะมีอะไรกำลังจะเกิดขึ้น
วัจสาพิงร่างทั้งร่างของเธอไปกับผนังกำแพง ผงกหัวขึ้นมาเล็กน้อย มองทอดผ่านกระจกแก้วไปยังท้องฟ้าสีน้ำเงินเข็มของท้องฟ้าเบื้องบน แต่ทิวทัศน์ครึ่งหนึ่งที่เธอมองเห็นก็ไม่พ้นความรู้สึกที่อยู่ในใจ
เดิมทีวัจสาแต่งกับคนพิการเข้ามาในบ้านหลังนี้ก็ว่าแย่แล้ว เธอไม่เคยคิดเลยว่า สามีของเธอต้องคอยปลอบประโลมที่เธอหวาดกลัวน้องชายสามี ผู้ชายคนนี้ทำให้เธออยู่บ้านหลังนี้ด้วยความรู้สึกไม่ปลอดภัย
ส่วนธัชชัยเมื่อเข้ามาถึงห้องโถงใหญ่ได้ก็ตะโกนเรียกหาป้าอ้อย “ไอ้เด็กนั่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
ป้าอ้อยก็รายงานตามความเป็นจริง “ไม่นานเท่าไหร่ค่ะ เขาเป็นรุ่นพี่ของคุณผู้หญิงค่ะ เห็นว่าเพราะคุณผู้หญิงไม่ได้ไปเช็คชื่อ เขาเลยมาเยี่ยม แต่ว่าป้าอ้อยก็ไม่ได้ให้เขาเข้าไปนะคะ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะยังคงอยู่ข้างหน้าประตูนั่น”
ป้าอ้อยยังคงแคลงใจอยู่ไม่น้อยที่รุ่นพี่ของคุณผู้หญิงขิงเธอก็ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมเลย แต่พอคุณชายเจอเขาไม่ได้ถามอะไรก็ไปชกเขาซะเฉยๆ
แถมยังพูดด้วยอารมณ์อีกว่า “ขโมยภรรยาคนอื่น” พูดแบบนี้แสดงว่าคุณชายรองต้องรู้จักผู้ชายคนนั้นแน่ๆ
ป้าอ้อยจึงถามออกไปด้วยความสงสัย “คุณชายรองรู้จักกับเด็กคนนั้นหรอคะ?”
เธอก็คาดไม่ถึงว่าธัชชัยจะตอบกลับมาด้วยเสียงแข็งกร้าวกว่าเดิม “ไม่ ไม่รู้จัก และไม่อยากรู้จักไอ้คนประเภทนี้ด้วย ถ้าครั้งหน้าเขายังมาอีกก็ขังกรงไว้กับแจ๊คให้ฉันด้วย!”
พอพูดจบก็ฟึดฟัดๆขึ้นไปข้างบน แต่ว่าเขาก็ไม่ได้ไปชั้น3 แต่ไปที่ห้องบำบัดของวรพลบนชั้น2
ตัวเขาเองที่ขังวัจสาเอาไว้แบบนี้ คนที่เขากลัวว่าจะว่าที่สุดก็คือพี่ชายของเขาเอง เขาเลยคิดว่าจะให้พี่ชายด่าไปซักชุดใหญ่เพราะถ้าให้เขาอดกลั้นไว้มันจะไม่ดี นอกจากนี้ก็มีเรื่องจะคุยกับพี่ชายของตัวเองด้วยป้าอ้อยที่อยู่ด้านหลังเดิมทีจะบอกให้เขาขึ้นไปปล่อยตัวคุณผู้หญิง แต่ดูจากอารมณ์และทรงของเขาแล้ว เธอจึงไม่กล้า พูดก็พูดเถอะเธอเองก็ฉลาดไม่เบาที่ไม่พูดไปอย่างที่ธัชชัยได้คิดไว้ก่อนที่เขาจะเข้าไปในห้องบำบัด เมื่อเห็นว่าวรพลอยู่คนเดียว เขาจึงได้สั่งให้ทุกคนออกไปก่อน ด้านหลังของเตียงผู้ป่วยถูกผลักขึ้นให้เป็นท่าที่จะได้นั่งคุยกับเขาได้“ชัย แกทำเกินไปจริงๆเลยนะ….ทำไมถึงไปขังวัจสาเขาเหมือนเป็นสัตว์ในกรงแบบนั้น? แกอย่าลืมไปนะว่านั่นหน่ะเป็นภรรยาของแก….ไม่ใช่ที่ระบาย ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง! มือถือเขาก็ปิด แกไม่คิดบ้างหระ…แค่กๆ…”อาการป่วยของวรพลยิ่งโคม่าขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่เคยต้องโกรธหรือว่าพูดยาวๆแบบนี้นานมากแล้ว พอพูดเยอะๆเข้าหน่อยก็ต้องไอและสำลักธัชชัยนั่งลงอย่างคล่องแคล่วบนเก้าอี้ข้างๆเตียงของผู้ป่วยและจับประคองร่างของวรพลให้ผ่อนลงและค่อยๆปรับเบาะนอนให้เขาอย่างช้าๆ เพื่อที่เขาจะได้หายใจโล่งขึ้น“บอกแล้วไงว่าอย่าโกรธๆ หมอภาคินไม่ดูแลพี่เลยหรอ?”ธัชชัยเอาใบหน้าที่น่าหวาดกลัวของวรพลมาซบที่ตัวเขาเอง “คิดเรื่องตัวเองให้มากสักหน่อย”ที่เขาพูดแบบนั้นก็เพราะเขาไม่อยากให้วรพลมารู้หรือว่ายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเขาวรพลไม่ได้มีเวลาที่จะเล่นปริศนากับเขาแล้วเขาก็เริ่มหงุดหงิด“แกไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ไปพาวัจสาออกมาจากห้องนั้นได้แล้ว เธอเป็นเด็กดี ซ้ำไม่เคยทำผิดอะไรด้วย!”ธัชชัยตอบเบาๆ “สิ่งที่เธอทำผิดที่สุดก็คือแต่งงานเข้ามาในบ้านตระกูลศรีทองของเรายังไงหล่ะ เธอมาที่นี่เพราะจะแลกกับการที่พี่จะไปรักษา ถ้าวันนั้นพี่ไม่ตกลงกับฉันว่าจะไปรักษาที่อเมริกา เธอก็จะไม่มาถูกผมขังไว้แบบนี้! ”“พูดเหลวไหลอะไรแบบนี้!” วรพลโกรธจนแทบจะขาดใจ “ถ้าฉันตายไปเลยตอนนี้ แกจะไม่จับเธอไปขังไว้อีกใช่มั้ย?”“แน่นอนผมจะไม่ทำอีก” ธัชชัยพูดเรียบๆ “เพราะว่าผมจะส่งเธอไปกับพี่ด้วย จะได้ไปเป็นน้องสะใภ้พี่อีกยังไงหล่ะ”วรพลโกรธจนถึงขีดสุด ธัชชัยของเขาเปลี่ยนไปแล้ว เขาเอาความเคียดแค้นอะไรสุมไว้ในใจ “ชัยนี่แกบ้าไปแล้วรึไง? มันสมควรแล้วหรอที่ดึงผู้หญิงบริสุทธิ์อย่างเธอมาเจออะไรแบบนี้”“เธอไม่ได้บริสุทธิ์อยู่แล้ว ตั้งแต่เธอตอบรับที่จะแต่งเข้ามาที่บ้านของเรา เธอต้องทนกับความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน มันเป็นทางที่เธอเลือกเองนี่ และผมก็ไม่สนหรอกว่าเธอจะถูกบังคับมาหรือไม่”ธัชชัยคิดว่ามันคงจะดีกว่าที่จะกระตุ้นวรพลด้วยคนและสิ่งที่เขายังแคร์อีกทั้งยังรู้สึกผิดเพื่อที่เขาจะได้ไม่สามารถปฏิเสธที่จะไปรักษาวรพลรู้สึกผิดในใจอย่างสาหัสที่ดึงเด็กน้อยให้มาเจออะไรแบบนี้ “ชัยจริงๆแกไม่น่าจะไปทำร้ายเธอเลย ไม่ใช่ว่าตอนนี้ความรู้สึกของแกสองคนมันไม่ใช่ดีต่อกันแล้วหรอ?” ฉันทำร้ายเธอยังไงมันก็ไม่เท่ากับที่พี่ที่เป็นพี่ชายทำร้ายผมหรอก พี่จะทิ้งผมให้อยู่บนโลกใบนี้เพียงคนเดียว อยากจะให้ทั้งชีวิตของผมไม่มีความสุข เพียงแค่ต้องการที่จะได้รับการปลดปล่อยจากมันได้หรือไม่” ธัชชัยหัวเราะอย่างเย็นชาถึงแม้ว่าธัชชัยจะพูดจาตัดพ้อยังไงก็ตามแต่มือของเขาก็ยังไม่หยุดที่จะเอายาจากโต๊ะและป้อนวรพลอย่างอ่อนโยนจริงๆวรพลก็ไม่ได้อยากกินซักเท่าไหร่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ไหว เดี๋ยวเกิดหงุดหงิดอาละวาดขึ้นมาก็ไปลงกับวัจสา ที่อาจจะกำลังท้องลูกของธัชชัยอยู่อีกเขาไม่สามารถเสี่ยงได้ ถ้าหากว่าตั้งครรภ์ขึ้นมาจริงๆ วัจสาก็จะรับความรุนแรงจากธัชชัยไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงต้องให้ความร่วมมือเอาอย่างนี้มั้ย? แกก็ปล่อยเธอออกมา แล้วพอครบรอบวันเกิดปีที่30ของฉัน ฉันจะไปอเมริกากับแกทันทีเป็นไง?” วรพลถอนหายใจออกตอนท่อนสุดท้าย เขาคิดว่าคงจะต้องถอยเองจะดีกว่าการเคลื่อนไหวของธัชชัยนิ่งไปราวกับถูกแช่แข็ง เขาทั้งความเศร้าโศกและความสุข เขาวางยาบนโต๊ะแล้วค่อยๆก้มลงไปโอบวรพลเข้ามาในอ้อมแขนของเขาพูดด้วยเสียงแหบแห้ง “ขอบคุณนะครับพี่”ประโยคที่พูดออกไปนี้มีเพียงสองพี่น้องที่รู้ว่าถึงความเจ็บปวดและน้ำตา……เขาหันตัวไปกดปุ่มรีโมตสองครั้ง ประตูนิรภัยที่ขังวัจสาไว้ก็เปิดออกแต่เธอยังคงนั่งกอดเข่าและเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว แต่ว่าดาวคืนนี้ไม่สวยเล็กสักนิดดาวที่สะท้อนอยู่ในดวงตาของเธอไม่มีแม้แต่แสง เธอนั่งเงียบเหมือนตุ๊กตาที่ถูกทอดที่ได้อยู่บนพื้นธัชชัยทอดขาก้าวเข้ามา เขามั่นใจว่าเสียงเท้าดังแบบนี้มันดังพอที่วัจสาจะได้ยิน แต่เธอก็ไม่หันกลับมามองบนโต๊ะที่อยู่ข้างๆตัว มีอาหารที่เธอไม่ได้แตะต้องมันเลย สามมื้อ มีทั้งโจ๊กไข่เยี่ยวม้าเค้กเผือกสีม่วงและยังมีอาหารจีนกับอาหารเย็นอีกด้วย ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้กินอะไรทั้งวันเลยหรอเนี่ยเขามองเธอนิ่งๆ จนกระทั่งเดินไปถึงที่ที่เธอดูดาว “คุณอยากอดอาหารอย่างนั้นหรอ? ฉันไม่ได้อยู่บ้าน คุณจะต่อต้านทำไม?”“ฉันไม่ได้อดอาหาร แต่แค่คิดว่าคนอย่างฉันไม่ควรจะอยู่บ้านตระกูลศรีทองแล้ว เลยไม่กล้าจะกินข้าวบ้านตระกูลของพวกคุณ โอเคมั้ยหล่ะ?”จนธัชชัยมาหยุดอยู่ที่หลังของเธอแล้ว วัจสาก็ยังไม่หันไป ผู้ชายที่อยู่เบื้องหลังของเธอนั้นทำให้เธอรู้สึกผิดหวังมากเกินไปแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมมันเจ็บปวดแม้แต่หายใจก็ยังเจ็บธัชชัยเดินไปที่โต๊ะแล้วหยิบอาหารจีนที่ยังพออุ่นอยู่ถ้วยหนึ่งเดินไปให้วัจสา“คุณเป็นคนชอบดูถูกตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ คุณผู้หญิงตระกูลศรีทองไม่สามารถกินอาหารของครอบครัวของเราได้แล้วใครจะมีสิทธิได้กินหล่ะ?” เขาพูดเบาๆเสียงของเขาเดายากว่ารู้สึกยังไงไม่ว่ายังไงตอนนี้วัจสาก็ไม่ได้สนใจเขานั่งลงบนพื้นในท่าเดียวกับวัจสาวัจสามองเห็นแค่ตะเกียบกับอาหารที่เขายื่นมาให้ ตัวเธอก็สั่นเล็กน้อย นี่เธอฝันไปรึเปล่า ทำไมธัชชัยถึงเอาอาหารมาให้เธอกิน?แต่สิ่งที่ตามมาคือความอัปยศลึกๆในใจ ผู้ชายคนนี้แค่เพียงตัวเองพอใจนั่นก็พอแล้วใช่มั้ย? เวลาไม่พอใจก็เอาเธอมาขังทั้งวันทั้งคืน พอมีความสุขเข้าหน่อย ก็แทบจะชูเธอขึ้นฟ้า ตบหัวแล้วลูบหลังเพื่อให้คุณยกโทษให้ ไม่สิ เขาไม่เคยขอให้ใครยกโทษให้ เขาแค่ใช้ชีวิตอย่างที่เขาคิดทำไมเขาถึงเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของผู้อื่น เพราะว่าตัวเขามีเงินอย่างนั้นหรอ มีเงินแล้วก็จะสามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการอย่างนั้นหรอ?ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เธอก้มหน้าลงเธอไม่ได้ต้องการที่จะมีข้อโต้แย้งกับผู้ชายคนนั้นไม่มีประโยชน์ที่จะพูด ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ“คุณเอากลับไปเถอะ ฉันคิดว่าตัวฉันเองกินอาหารของตระกูลคุณไม่ได้หรอก”ธัชชัยพูดช้าๆ “ขนาดคุณชายรองที่สูงๆยังกินอะไรลงท้องได้สบายๆเลย ซุปธรรมดาๆแบบนี้จะกินไม่ได้ได้ยังไง?”ความหมายของคำพูดเขาทำให้คนฟังหน้าแดง ผู้ชายคนนี้ชอบพูดจาอะไรแบบนี้เรื่อย แล้ววัจสาก็ต้องหน้าแดงเพราะเขาอีกแล้วแต่เธอไม่มีแรงมากพอที่จะไปเถียงเขา และใจเต้นไปพร้อมกับแสงดาวที่กระพริบบนฟ้าเจ้าแจ๊คยังไม่เลือกกินเลย แค่ไม่กินมิ้นท์ทอดไก่เท่านั้น ถ้าคุณไม่กินคุณจะต้องโยนทิ้งไป อายหมามันน้า” เขาพูดเสริมเข้ามาอีกแจ๊คเป็นหมาบ้านตระกูลศรีทอง วัจสายังเคยกินเค้กกับมันด้วยเธอยังคงเฉยๆ ธัชชัยจึงเอาตะเกียบกลับมาและคีบอาหารใส่ในปากของเขา