ผู้เขียน มุมมองของโทวกะ
จะบอกล่วงหน้าไว้ก่อน
เรื่องราวในตอนนี้ คนที่คุณไม่ควรเชื่อใจให้เล่าเรื่องย้อนอดีตจะเป็นตัวหลักของเรื่อง(ยืนยันแล้ว)
—————————————————————
ตั้งแต่ในวันนั้นฉันก็ไม่อาจได้พูดบอกอะไรกับเธออีกเลย
ครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นท่านพี่นานะคือใบหน้าไร้อารมณ์ที่กำลังร้องไห้อยู่
☆
ตั้งแต่ที่ฉันยังเป็นเด็ก ฉัน—ทาคาโจว โทวกะ เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์
ด้วยความที่เป็นเด็กที่ตอบสนองต่อความคาดหวังต่างๆเรื่อยมา ฉันยังคงพยายามที่จะแสดงผลลัพธ์ที่ถูกคาดหวังไว้ จะเรื่องกีฬาหรือการเรียน ไม่สำคัญว่าจะเป็นสิ่งใด ฉันก็ทำสำเร็จอย่างงดงามและถูกชมมาโดยตลอด
สำหรับฉันแล้ว ฉันมีพี่สาวที่ฉันรักมากกว่าใครในโลก
ทาคาโจว รินเนะ เป็นลูกพี่ลูกน้องที่โตกว่ากันหนึ่งปี เธอเป็นลูกสาวแท้ๆของเจ้าของเครือทาคาโจวกรุ๊ป
เธอมักจะฟังเรื่องของฉันอยู่เสมอราวกับเป็นเรื่องของตัวเอง เป็นคนที่ใจดีและมักจะคอยชมฉันอยู่ตลอด
แต่ว่านะ พี่รินไม่ได้เพียงแค่ใจดีอย่างเดียว เธอยังเป็นอัจฉริยะยิ่งกว่าฉันอีกด้วย
การเรียนของเธอมาจากการฟังในคาบเพียงอย่างเดียว ฉันไม่เคยเห็นเธอใช้ความพยายามเลยสักครั้งไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตาม
จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวของเธอ ซึ่งก็คือขาดทักษะการประสานงานอย่างรุนแรง ยิ่งทำให้เสน่ห์มากขึ้นไปอีก
พี่รินมักจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าฉันอยู่เสมอ แต่เธอก็มักจะทำตามใจของตัวเอง เป็นคนที่จะเดินตามทางที่ตัวเองเลือกเท่านั้น
แล้วความสนใจของเธอก็บรรจบลงที่เกม เธอมักจะใช้เวลาว่างทั้งหมดของเธอไปกับเกมและแปรเปลี่ยนไปมาระหว่างสุขสันต์และโศกเศร้า ช่างเป็นคนที่ลึกลับจริงๆเลย
เธอมักจะหัวเราะให้กับเรื่องที่ฉันเล่าและพูดว่า [เป็นเด็กที่งี่เง่าจังเลยนะ] แม้ปากจะพูดอย่างนั้นแต่มือของเธอก็จะคอยลูบผมของฉันเบาๆอยู่เสมอ
และที่อยู่ข้างๆคนที่ฉันพึ่งพาได้มากกว่าพ่อแม่ของฉันเสียอีก ก็มักจะมีเด็กสาวอีกคนอยู่ใกล้ๆกับเธอเสมอ
[นานะ] คือเด็กที่พี่รินเรียกอย่างนั้น เธอมักจะมีสีหน้าไร้อารมณ์และจะพูดคุยด้วยเฉพาะเมื่อต้องพูดตอบเท่านั้น เธอเป็นเด็กเงียบๆและเชื่อฟังคำพูดเป็นอย่างดี
“นานะ เด็กคนนี้ชื่อโทวกะ”
“ฉันชื่อทาคาโจว โทวกะค่ะ ขอฝากตัวด้วยนะคะ”
“……อืม”
บทสนทนาแรกของพวกเราเป็นอะไรประมาณนี้?
เธอเพียงแค่เหลือบมองมาทางฉันชั่วครู่ก่อนจะเหม่อมองออกไปยังทิวทัศน์รอบข้าง
ไม่ใช่ว่ากำลังระวังตัวหรืออะไร เพียงแค่ไม่สนใจ
เป็นครั้งแรกที่ฉันพบกับการกระทำเช่นนี้ต่อหน้า ฉันจำได้ว่าตัวฉันเองก็ทำอะไรไม่ถูกเลย
ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ลังเลที่จะถามพี่รินเรื่องของเธอตรงๆ ฉันเลยให้คนจากที่บ้านไปสืบเรื่องของ[นานะ]
แม้ว่าเธอจะดูน่ารักแต่เธอก็ถูกบดบังโดยพี่ริน ครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวของชนชั้นกลางธรรมดา
พวกเธอได้เป็นเพื่อนกันเพราะว่าพ่อแม่ของทั้งสองรู้จักกัน
แล้วก็ในตอนที่พี่รินถูกสุนัขโจมตี เธอก็เป็นคนปกป้องแทนและได้รับบาดแผลครั้งใหญ่
ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเป็นคนโปรดของพี่รินอีกด้วย
ก่อนที่ฉันจะได้รู้สึกถึงอะไรอย่างความอิจฉาหรือความหึงหวง ก็มีคำถามหนึ่งขึ้นมา [ทำไม?]
ฉันเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์และถูกชมโดยทุกคน ถึงอย่างนั้นไม่ว่าจะมองอย่างไร[นานะ]ก็ดูเรียบเฉย
นอกจากความเงียบเชียบมากเกินทั่วไปแล้ว คะแนนสอบที่เธอได้ก็อยู่ในระดับที่คนทั่วไปตั้งใจนิดหน่อยก็ทำได้แล้ว เธอยังไม่เก่งทั้งด้านร้องเพลงหรือเครื่องดนตรีใดๆเลยด้วย
ถ้าจะให้ฉันพูดถึงลักษณะพิเศษที่เห็นล่ะก็ เธอมักจะพกกล่องอาหารกลางวันสองกล่องอยู่เสมอ สิ่งเดียวที่ฉันรับรู้ได้คือเธอเป็นคนที่กินเยอะมาก
สำหรับฉันแล้ว ในตอนนั้น [นานะ]เป็นเพียงเด็กผู้หญิงเรียบๆ
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันรู้สึกอิจฉา
ใครคนนั้นที่เป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดามาเกาะแกะคนที่ฉันชื่นชม
ใครคนนั้นที่ไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้รับความสนใจทั้งหมดของพี่รินไป
ราวกับถูกบางสิ่งเข้าสิง ฉันได้ลองยั่วโมโหเธอดู
ไม่ว่าจะคะแนนสอบ ความสำเร็จ เกรดที่โรงเรียน และอีกมากมาย ฉันพยายามที่จะโค่น[นานะ]ลง แต่สิ่งเดียวที่ฉันได้รับกลับมาจากเธอคือใบหน้าอันเหม่อลอยนั่น
บางครั้งก็มีลูบหัวฉันแล้วกอดบ้าง แม้ว่าจะถูกทำเหมือนเป็นเด็ก ฉันก็จะดีใจไปกับ[เธอสนใจฉันแล้ว!] พอมาลองย้อนนึกดูแล้ว ตัวฉันในตอนเด็กนี่งี่เง่าจังเลยนะที่ดีใจกับอะไรอย่างนั้น
เป้าหมายเดิมของฉันค่อยๆเปลี่ยนไป เพราะฉันไม่ได้อยากที่จะถูกเมินโดย[นานะ] ฉันเลยพยายามที่จะเอาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเธอมากขึ้น
ความอิจฉาแปรเปลี่ยนเป็นความสงสัยและอยากรู้อยากเห็น พอฉันได้พูดคุยกับเธอฉันก็เริ่มเปิดใจให้เธอมากขึ้น ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว เวลาที่ได้ใช้ไปกับเธอก็สนุกขึ้นมามากเลย
ถึงแม้ว่านานะจะยังคงเย็นชาเวลาที่ตอบฉัน พวกเราสามคนก็มักที่จะอยู่ด้วยกันเสมอราวกับพี่น้องที่สนิทกันอย่างมาก
(*นานะครั้งนี้ไม่มี[])
ในตอนที่โรงเรียนประถมกำลังจะจบลง
พวกเราทั้งสามกำลังเดินด้วยกันภายในเมือง
ขณะที่กำลังรอสัญญาณไฟให้เปลี่ยนสี รถบรรทุกก็พุ่งตรงเข้ามา!
รถบรรทุกพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่มากพอที่จะฆ่าพวกเราทั้งสามคน…พูดให้ถูกคือพอที่จะฆ่าทั้งพี่รินและก็ฉัน รถขับตรงเข้ามายังทางของพวกเราทั้งสอง
ฉันคิดว่าฉันจะตายซะแล้ว
ต่อหน้าเสียงอึกทึกดังของรถบรรทุกที่ใกล้เข้ามา ร่างกายของฉันเกร็งแน่นจนขยับไม่ได้
ฉันปิดตาลงในจังหวะที่คิดว่าจะต้องตายแน่ๆ แต่ร่างกายของฉันก็ได้ลอยขึ้น
หลังจากที่ค้างอยู่ในอากาศไม่กี่วินาที ฉันก็ได้ยินเสียงโครมครามข้างหลังแล้วก็แรงกระแทกเข้ามาที่ท้องของฉัน
พอฉันลืมตาขึ้น ฉันก็ถูกอุ้มอยู่บนไหล่ของ[นานะ] บนหัวไหล่ข้างขวาของเธอคือพี่รินที่มีสีหน้าขมวดเคร่งขณะที่ถูกอุ้มอยู่
“อุ๊ก…นานะ อุ้มเบาๆไม่ได้เหรอไง?”
“พร้อมกันทั้งสองคนไม่ไหวหรอกนะ”
“เอาเถอะไม่เป็นไรหรอก ขอบใจน-…เดี๋ยวนะ นานะ…ร้องไห้อยู่เหรอ? กระดูกหักหรือเปล่า?”
“หักล่ะ”
“เธอนี่นะ…เร็วสิ ไม่ต้องฝืนยืนหรอกนั่งรอก่อนก็พอ ฉันจะโทรแจ้งตำรวจกับรถพยาบาลเอง”
ครั้งแรกที่ฉันได้เห็น[นานะ]มีน้ำตาคลอ และได้มารู้ทีหลังเมื่อตอนรถพยาบาลมาถึงว่าเป็นเพราะเธอทำกระดูกเท้าของเธอหักทั้งสองข้าง
เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? จนถึงทุกวันนี้ฉันยังไม่อยากเชื่อเลยแต่ในชั่วณะนั้นเธอคว้าพวกเราทั้งสองแล้วกระโดดขึ้นสุดแรง
ทั้งความสูงและระยะเวลาบนอากาศนั้นเพียงพอที่จะหลบรถบรรทุกคันใหญ่ และเธอได้ใส่แรงไปที่เท้าของเธอมากพอที่จะหักมัน
และในสภาพนั้นเธอแบกนำหนักของคนสามคนแล้วลงพื้นทั้งอย่างนั้น น้ำตาก็ต้องออกมาบ้างอยู่แล้ว
ได้ยินมาหลังจากนั้นว่ามีข่าวลือถึงรอยเท้าบนพื้นคอนกรีตนั้นที่ยังปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้
แม้ว่าคอนกรีตนั่นจะถูกซ่อมแซมไปแล้วจึงไม่อาจบอกได้ว่าข่าวลือนั้นเป็นจริงหรือไม่ แต่ข้อสรุปจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมีเพียงปาฏิหารย์ที่อุบัติเหตุนั้นมีผู้บาดเจ็บเพียงแค่คนขับคนเดียว
[นานะ]ถูกส่งตัวขึ้นรถพยาบาลและนำไปยังโรงพยาบาลเฉพาะทางของเครือทาคาโจวกรุ๊ป และหลังจากนั้นครึ่งเดือนก็รักษาตัวจนหายสนิท
ในช่วงเวลานั้นพี่รินได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับ[นานะ]
ฟุตะยาโดะ นานาโกะ มีความหนาแน่นของกล้ามเนื้อที่มากกว่าคนทั่วไปอย่างเทียบไม่ได้ และกล้ามเนื้อที่มากขึ้นมานั้นก็ไม่อาจมองเห็นได้จากภายนอกอีกด้วย มันเป็นโรคชนิดหนึ่ง และนั่นจึงทำให้เธอเกิดมาพร้อมกับสภาพร่างกายที่เหนือมนุษย์
และเธอยังมีทักษะการควบคุมร่างกายระดับอัจฉริยะที่สามารถควบคุมได้ทุกส่วนของร่างกายตามใจอยาก รวมไปถึงประสาทสัมผัสทั้งห้าที่เฉียบคมอย่างมาก
ใช่แล้ว [นานะ]นั้นห่างไกลจากคำว่าปกติอย่างมาก เธอเป็นตัวตนที่เรียกได้ว่ากรณีพิเศษในหมู่[ผิดปกติ]เลย
ฉันเชื่อว่าในตอนนั้นฉันได้แต่คิดว่า “ว่าแล้วเชียว ฉันได้อยู่ข้างพี่รินก็เพราะว่าฉันเป็นคนพิเศษ” คงเป็นอะไรงี่เง่าอย่างนั้นล่ะ
แต่ว่าตอนนี้ฉันรู้แล้ว สัมผัสในตอนที่[นานะ]ค่อยๆลูบหัวฉันรวมไปถึงแรงที่มาจากการกอดด้วย
ทั้งส่วนที่ฉันที่ทำตัวไม่ถูกจึงได้คอยยุแหยเธอ และถูกพี่รินหัวเราะใส่เมื่อตอนไปขอความช่วยเหลือเพื่อแกล้งอีกด้วย
พี่รินเล่าว่า [นานะ]เกลียดการใช้พลังของตัวเองเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
ในตอนนี้เธอสามารถควบคุมมันได้ดี แต่ในตอนที่เธอยังเด็กกว่านี้ เธอยังไม่สามารถควบคุมมันได้ ละเธอก็มีความทรงจำมากมายที่เธอได้ไปทำร้ายพ่อแม่ของเธอเข้า
ฉันได้ยินมาว่า ในตอนแรกนั้นเธอลังเลที่จะสัมผัสตัวของพี่รินเลยด้วยซ้ำ ซึ่งทำให้ฉันประหลาดใจอย่างมาก
นั่นจึงเป็นเหตุที่พี่รินขอเพียงสิ่งเดียวจากฉัน—ให้ฉันพูดว่า[ขอบคุณ]กับเธอ
และนั่นเป็นครั้งแรกที่พี่นานะยิ้มอย่างเขินอายมาให้กับฉัน
☆
วันนั้นเป็นวันที่หิมะตกลงมามากผิดปกติ
พี่นานะ ที่มักจะเกาะตัวพี่รินอยู่ประจำและไม่ยอมปล่อย ก็ได้เดินไปตามทางในเมืองเพียงลำพัง
แต่ละก้าวของเธอไม่มั่นคง และเธอเองก็ไม่สังเกตเห็นฉันที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอด้วยซ้ำ
ไม่แม้แต่จะกางร่ม พี่นานะก็เดินต่อไปตามทางที่เต็มไปด้วยหิมะ
แม้ว่าจะมีสีหน้าไร้อารมณ์เช่นทุกครา ในวันนั้นเธออยู่ในสภาพที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน
ขณะที่มีน้ำตาอยู่บนใบหน้าของเธอ เธอยังคงเดินต่อไปอย่างว่างเปล่า
พี่นานะที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ใดๆเดินต่อไปพร้อมกับหลั่งน้ำตาอย่างไม่สนใจคนรอบข้าง
ได้เห็นเธอในสภาพนั้น ตัวฉันนิ่งค้างไป ไม่สามารถแม้แต่จะเอ่ยเรียกเธอ
ขณะที่ในหัวกำลังสับสน ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว ฉันก็คลาดสายตาไปจากเธอเสียแล้ว ฉันเลยรีบโทรไปหาพี่ริน
——เป็นเพราะว่าเธอสูญเสียพ่อแม่ของเธอไป
อาจเป็นเพราะฉันกลั้นอารมณ์อันขมขื่นนี้เอาไว้ หลังจากที่ได้ยินเรื่องพวกนั้นมาจากเสียงที่สั่นคลอ ฉันจึงออกวิ่งโดยไม่คิดเพื่อตามหาพี่นานะ
ฉันตามหา ตามหา ฉันตามหาทุกๆที่แต่ก็ไม่เจอตัวเธอเลย
และเป็นอย่างนั้น พี่นานะก็หายไปจากฉัน
—————————————————————
ผู้เขียน มุมเสริม(ข้ามได้)
จนถึงปัจจุบันนี้ นานะจะเป็นเหมือนตุ๊กตา นอกจากต่อหน้าพ่อแม่ของเธอและพี่ริน และก็เป็นคนที่ไม่ค่อยมีใครเข้าใจและมักจะอยู่กับคนดังทั้งสอง มีหลายคนรู้จักเธอแต่ไม่มีใครที่รู้ถึงรายละเอียด เป็นตัวตนแบบนั้นล่ะ
และหลังจากที่ได้เห็นตัวตนอย่างนั้นร้องไห้ขณะที่เดินไปตามทางในเมือง จึงก่อให้เกิดข่าวลือขึ้น พร้อมกับการที่เธอหายตัวไปหลังจากนั้น
โดยไม่บอกแม้กระทั่งรินเนะที่สนิทกัน แล้วก็โทวกะอีก เพราะแบบนั้นจึงมีข่าวลือเกี่ยวกับการหายตัวไปของเธอที่เกิดขึ้นหลังจากที่เสียพ่อแม่ไป
จวบจนถึงตอนที่ได้ไปอยู่กับป้าของเธอ เธอได้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของบุคคลหนึ่ง
แน่นอนว่าเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับทาคาโจวกรุ๊ป แต่เรื่องนั้นไว้เล่าทีหลัง
—————————————————————
ลาก่อนทรัคซัง
แล้วก็ในตอนนี้เมื่อโทวกะพูดถึงนานะมักจะมี[]ล้อมรอบอยู่เสมอยกเว้นตอนที่พูดถึงในเชิงสนิทสนมด้วย
MANGA DISCUSSION