ลูกพลับสีหม่น (Mpreg) - ตอนที่ 30 มีความหวัง
“ยังเลยอะ ยังมึน ๆ อยู่เลย” ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นมากุมขมับ หลับตาลง อยากให้อีกฝ่ายอยู่ที่นี่นาน ๆ แสร้งเมาต่อไปจะดีที่สุด
ลูกพลับไม่ว่าอะไรยังคงทำหน้าที่ต่อไป ใช้ผ้าขนหนูลูบไล้ตามผิวกายส่วนบนอย่างเบามือ ความอายทำให้เขาต้องทำให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้กลับบ้าน หากอยู่ที่นี่นานไปอาจจะหลงกลผู้ชายคนนี้ ตกหลุมพรางที่เขาสร้างมันขึ้นมาเป็นกับดัก
“เสร็จแล้วครับ”
“ข้างล่างล่ะไม่ทำเหรอ” คนพูดยังคงนอนหลับตาอยู่เช่นเดิม มือหนาเลื้อยลงไปปลดเข็มขัดเพื่อจะเปิดทางให้ร่างเล็กทำมันสะดวกยิ่งขึ้น
“ไม่ล่ะคุณทำเองเถอะ เริ่มดีขึ้นแล้วนี่ ไปอาบน้ำเองก็ยังได้ รีบเข้านนอนซะ ผมจะได้รีบกลับบ้าน”
“กูไม่มีเรี่ยวแรงขนาดนั้นหรอก แค่จะลุกขึ้นยังไม่ไหวเลย ไอ้เพื่อนพวกนั้นมันมอมเหล้ากูตั้งหลายกลม แถมยังจะพาไปอึ๊บสาว ๆ อีกด้วย โชคดีที่กูบังคับให้พวกมันมาส่งก่อนไม่งั้นคงเสียท่าให้คนอื่นไปแล้วแน่ ๆ”
“ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องรับรู้ คุณจะไปทำอะไรที่ไหนมันก็เรื่องของคุณ” ปากก็ว่าให้แต่หัวใจกลับพองโตเสียอย่างนั้น
“ที่บอกเพราะอยากให้มึงรู้ว่ากู…แคร์มึงมากนะ”
“ผมต้องดีใจไหม”
“ไม่ต้องดีใจก็ได้ แต่ขอให้รับรู้ไว้กูก็ดีใจแล้วล่ะ เช็ดต่อสิหรือไม่ก็พาเข้าห้องน้ำหน่อย กูอาบเองก็ได้จะได้ไม่ต้องลำบากมึง”
“ก็ได้ ผมจะได้รีบกลับเหมือนกัน”
ลูกพลับรีบตอบกลับอย่างไม่ลังเล รีบพยุงคนเมาขึ้นแล้วพาเข้าไปในห้องน้ำจนสำเร็จ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายน่าจะช่วยเหลือตัวเองได้แล้วก็ขอตัวกลับ
“แค่นี้นะ ผมกลับล่ะ”
“อืม ขอบใจมากนะที่เป็นห่วง”
“ใครห่วง! ผมกลัวว่าจะมีคนตายข้างบ้านต่างหากล่ะ ผมกลัวผี”
พูดหน้าตายแล้วเดินเชิดหน้าออกมาจากห้องน้ำ ห่างมาได้แค่เพียงไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงร้องดังมาจากห้องน้ำจึงต้องชะงักฝีเท้า หันกลับมามองด้วยความตกอกตกใจปนเป็นห่วง
“เกิดอะไรขึ้นนะ”
กล่าวเบา ๆ แล้วเดินกลับไปดูจนได้ หวังว่าคงจะไม่สร้างเรื่องให้เขาต้องใจอ่อนอีกนะ ยิ่งเมา ๆ อยู่ด้วย
“โอ๊ยยย ทำไมมันปวดอย่างนี้วะ”
“เกิดอะไรขึ้น!”
“อ้าว กลับมาทำไม รีบกลับบ้านเถอะกูไม่เป็นไร” คนพูดยังคงจับที่ข้อเท้าตัวเองไว้ สีหน้าอันเหยเกบ่งบอกว่ากำลังเจ็บปวดมากแค่ไหน เห็นอย่างนั้นมีหรือที่ลูกพลับจะเดินกลับไปได้
“สรุปว่าคุณเป็นอะไรกันแน่บอกผมมาสิ ผมกลับแน่แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”
“กูกำลังจะถอดกางเกงแต่เสียหลักล้มน่ะสิ นั่งทับขาตัวเองจนปวดมากเหมือนจะตายเลยอะ” ทำเสียงออดอ้อนจนคนได้ยินเริ่มไม่ไว้ใจ
“คุณแกล้งหรือเปล่าเนี่ย”
“บ้า! ใครจะแกล้งทำให้ตัวเองเจ็บล่ะ ถ้ามึงไม่เชื่อก็กลับไปเถอะกูดูแลตัวเองได้” แทนไททำทีจะลุกขึ้นแต่ก็ต้องล้มตัวลงอีกครั้ง จนอีกฝ่ายต้องเข้ามาพยุงร่างเอาไว้
ทั้งสองสวมกอดกันอย่างแนบแน่น ใบหน้าห่างกันเพียงเล็กน้อยจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ สายตาประสานราวกับคนที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความหลงใหลในอะไรบางอย่าง เมื่อตั้งสติได้ร่างเล็กก็รีบหลบสายตา พยุงเขาให้นั่งอยู่ในท่าสบาย ๆ
“คุณไม่จำเป็นจะต้องทำเป็นเก่งทุกเรื่องก็ได้นะ ผมจะช่วยจนกว่าคุณจะขึ้นนอนบนเตียง ที่ทำเพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อนมนุษย์เท่านั้น”
“แค่นี้กูก็ดีใจแล้วล่ะ ขอบใจนะที่ไม่รังเกียจ” คนพูดส่งยิ้มให้เป็นการตอบแทน
ลูกพลับยังคงทำเป็นเมินไม่สนใจใบหน้าหล่อ ๆ ตั้งใจถอดกางเกงยีนออกให้อย่างยากลำบาก นั่นเพราะเป็นขาเดฟรัดติ้วจนแอบคิดในใจว่าเจ้าแทนไทน้อยคงจะอึดอัดแย่เลย คิดไปใบหน้าก็ขึ้นสีไปด้วย จนในที่สุดก็สามารถถอดมันได้สำเร็จ เหลือไว้เพียงบ็อกเซอร์ตัวน้อยที่ห่อหุ้มของสงวนเอาไว้
“เสร็จแล้ว”
“เหลือบ็อกเซอร์ไง”
“ใส่อาบทั้งอย่างนี้ล่ะ อ่ะนี่สบู่เหลวและยาสระผม ทำเอาเองผมจะเปิดน้ำให้”
“โห นึกว่าจะอาบให้”
“มือคุณไม่ได้หักนี่”
“ก็ได้ ๆ แค่นี้ก็เป็นบุญของกูแล้ว”
หลังจากตกลงกันได้แล้วลูกพลับก็ยืนทำหน้าที่เป็นคนเปิดปิดน้ำจากฝักบัวให้ ยืนมองดูสภาพของแทนไทที่กำลังกดสบู่เหลวมาลูบไล้ตามผิวกายจนเกิดฟอง สวมเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียว เมื่อมันเปียกน้ำก็ทำให้เห็นอะไรต่อมิอะไรชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ทำเอาคนที่ยืนมองต้องเสตาไปทางอื่นบ่อยครั้ง แต่ดูเหมือนว่าคนที่กำลังนั่งอาบน้ำอยู่กำลังยั่วยวนซะเหลือเกิน ล้วงควักเอาเจ้าแทนไทยักษ์ออกมาทำความสะอาดอย่างหน้าไม่อาย ราวกับว่าตอนนี้อยู่คนเดียวในห้องน้ำ ลูกพลับยืนทนเห็นภาพเหล่านั้นจนในที่สุดอีกฝ่ายก็อาบน้ำเสร็จจนได้
“เดี๋ยวผมไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้”
“อยู่ในห้องนอนนะ”
“อืม”
รับคำแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำ วินาทีที่ก้าวขาพ้นออกมารู้สึกหายใจทั่วท้องขึ้นมาบ้าง ยกมือขึ้นกุมอกด้านซ้ายพบว่ามันเต้นแรงผิดจังหวะ ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าตัวเองที่บังอาจเผลอใจสั่นให้กับเขาจนได้
เข้ามาภายในห้องนอนของเขาก็ต้องสะดุดตากับของบางอย่างที่กองอยู่มุมห้อง เรียกความสนใจของผู้มาใหม่ให้เดินเข้าไปดู จนพบว่ามันคือของเล่นเด็กที่แทนไทตั้งใจซื้อมาไว้ให้ลูกนั่นเอง เวลาไปเดินห้างแล้วเจอมักจะซื้อมาเก็บสะสมไว้เรื่อย ๆ ยังไม่กล้าเอาไปให้ เพราะรู้ดีว่าลูกพลับคงไม่ยอมรับของจากตน
“โรคจิตไปแล้วนะคุณอ่ะ ลูกยังไม่คลอดสักหน่อย ยังไม่รู้แม้กระทั่งเพศด้วยซ้ำ”
ดูเหมือนจะตำหนิเขาแต่กลับฉายรอยยิ้มออกมาเสียอย่างนั้น รู้สึกดีใจที่แทนไทยอมรับลูกในท้องแล้ว แถมยังเห่อมากอีกด้วย แต่ถึงกระนั้นเขาจะไม่มีวันยอมใจอ่อนยกโทษให้เด็ดขาด อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนอย่างแทนไทจะจริงจังได้สักกี่น้ำ จะยอมทนตามง้อเขาได้นานแค่ไหนกันเชียว
เจ้าตัวรีบคว้าเอาผ้าเช็ดตัวเดินออกมาจากห้อง ถึงห้องน้ำก็ยื่นให้คนที่นั่งอยู่บนพื้น สายตาของแทนไทเลิ่กลั่กราวกับได้ทำความผิดอะไรเอาไว้ ในขณะเดียวกันลูกพลับก็ทำจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นคุ้น ๆ
“กลิ่นอะไรคุ้น ๆ”
“กลิ่นอะไรเหรอ” คนที่กำลังใช้ผ้าเช็ดตามเนื้อตัวเงยขึ้นถาม
“ก็กลิ่นเหมือน…น้ำ…ของผู้ชายน่ะ” ลูกพลับเอ่ยเสียงเบา หน้าขึ้นสีแดงเรื่อ เพราะเขารู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ
“เอ่อ…เมื่อครู่กูเอามันออกมาเองล่ะ คือ…กูเห็นมึงแล้วมันทนไม่ไหวน่ะ” คนพูดยิ้มเขินเมื่อสารภาพความจริงไป เขายอมรับว่ามีอารมณ์ทางเพศมากเมื่อมีโอกาสได้อยู่ใกล้เด็กคนนี้ ยิ่งดื่มแอลกอฮอล์มายิ่งอารมณ์พลุ่งพล่านเกินจะทน ต้องเอาออกอย่างเดียวเท่านั้นถึงจะหายจากอาการนี้
“ทุเรศ! คุณมันก็คิดแต่เรื่องพวกนี้สินะ ในเมื่อเสร็จแล้วผมกลับล่ะ”
“เดี๋ยว ๆ พากูเข้าห้องนอนก่อนสิ มึงก็เห็นว่าขากูเจ็บอยู่”
“เฮ้อ! ผมจะช่วยเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริง ๆ นะ”
ในเมื่อลั่นวาจาแล้วว่าจะช่วยก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด หมาข้างถนนยังช่วยมาแล้วทำไมคนคนเดียวจะช่วยไม่ได้ เจ้าตัวพยายามคิดอย่างนั้น ขณะช่วยพยุงร่างหนาให้เดินเข้าไปในห้องนอนจนสำเร็จ เมื่อแทนไทขึ้นนั่งบนเตียงแล้วก็รีบเดินออกมาทันที ไม่ยอมฟังสิ่งที่เขาจะเอื้อนเอ่ยตามหลังมา
“น่าจะออกไปจากบ้านแล้ว”
เมื่อมั่นใจว่าลูกพลับเดินออกไปไกลแล้ว เจ้าตัวก็รีบลงจากเตียงไปส่องสายตาดูอีกครั้ง ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุข ในที่สุดก็มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดลูกพลับอีกครั้งจนได้ ว่าจะไม่โกหกอีกแล้วแต่ก็อดไม่ได้จริง ๆ เขาไม่ได้เมามากขนาดนั้นแต่ขอให้เพื่อนสร้างสถานการณ์ขึ้นมา อยากรู้ว่าลูกพลับจะยังพอมีน้ำใจกับเขาอยู่หรือไม่ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็พอจะทำให้มีความหวังอยู่บ้าง