ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น - ตอนที่ 720 ดูแลดีทุกด้าน + ตอนที่ 721 ทัศนคติบิดเบี้ยว
ตอนที่ 720 ดูแลดีทุกด้าน
เหมยเหมยที่พักผ่อนมาตลอดช่วงบ่ายตื่นมาอย่างสดชื่น พ่อครัวที่เบื้องบนส่งมาครั้งนี้ฝีมือไม่เลวเลย พอจะทำอาหารภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้บ้างและรสชาติถือได้ว่าคล้ายต้นตำรับดั้งเดิม อีกทั้งยังทำของหวานรสชาติยอดเยี่ยม อาหารเช้าไม่เคยซ้ำในแต่ละวัน ไม่ใช่เพียงแค่เหมยเหมยที่พึงพอใจ ทั้งคุณปู่และคุณย่าต่างก็พึงพอใจเช่นกัน
ความจริงพ่อครัวหลักถูกส่งตัวมาจากทีมพ่อครัวพลาธิการที่มีใบรับรองสำหรับเชฟระดับสองของประเทศ มิน่าฝีมือถึงเลิศรสขนาดนี้ ยังเหนือชั้นกว่าเชฟใหญ่ของโรงแรมด้วยซ้ำ!
ระดับศักดินาของท่านผู้เฒ่าทั้งสองจึงได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากรัฐบาล มีหน่วยรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะ อีกทั้งพ่อครัวและหน่วยรักษาพยาบาลระดับผู้เชี่ยวชาญ ล้วนถูกมอบหมายงานมาจากรัฐบาล รับเงินเดือนจากรัฐบาล คนที่ได้รับการปฏิบัติดูแลเหล่านี้ต้องเป็นผู้อาวุโสที่มีความสำคัญระดับประเทศเท่านั้น ซึ่งนับว่ามีน้อยมาก
รวมถึงน้ำวิเศษและชาวิเศษที่ตระกูลจ้าวมอบให้เมื่อสองปีก่อน ทำให้สุขภาพร่างกายของเจ้านายใหญ่เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น รู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น ย่อมพอใจต่อตระกูลจ้าวมากกว่าเดิม
ผลจากการที่ทำให้เจ้านายใหญ่พึงพอใจก็คือผู้เฒ่าทั้งสองได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด อีกพี่น้องจ้าวอิงสยงยังได้รับการเลื่อนยศ บอกได้เลยว่าตระกูลจ้าวกำลังไปได้ดีเหมือนน้ำมันที่ราดบนกองไฟ มาแรงเสียจนคนอื่นพากันอิจฉาไม่หวาดไม่ไหว
เหมยเหมยดื่มด่ำกับอาหารมื้อเย็นที่พ่อครัวหลักตระเตรียมให้เป็นพิเศษอย่างมีความสุข พ่อครัวคนนี้แซ่หยวนเพิ่งมาทำงานที่บ้านจ้าวเมื่อปีที่แล้ว เป็นชายอายุราวสี่สิบปี มาจากซานตงจึงทำอาหารถิ่นซานตงได้ตามมาตรฐานรสชาติที่สุด แต่คืนนี้เขากลับทำอาหารถิ่นเจียงหนานแทบทั้งหมด เห็นได้ชัดว่าทุ่มเทเพื่อพวกเหมยเหมยโดยเฉพาะ
“ขอบคุณอาหารเย็นของคุณลุงหยวนค่ะ รสชาติดีมาก”
หลังมื้ออาหารเย็นเหมยเหมยกล่าวขอบคุณลุงหยวนเป็นการส่วนตัว วันอากาศร้อนแบบนี้ หมกตัวทำอาหารแต่ในครัวมากมายขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย อีกอย่างลุงหยวนถูกรัฐบาลส่งตัวมาเพื่อดูแลคนแก่ทั้งสองเท่านั้น
เธอโชคดีแค่ไหนที่ได้ทานอาหารที่ทหารยศร้อยเอกอย่างลุงหยวนเตรียมไว้เพื่อเธอ?
ต่อให้เห็นแก่ศักดิ์ศรีของผู้อาวุโสทั้งสองท่าน แต่เธอจะมองข้ามเจตนาดีของเขาไม่ได้
ลุงหยวนยิ้มอย่างจริงใจ คำชมของเหมยเหมยสร้างกำลังใจแก่เขาอย่างมากและรู้สึกอบอุ่นจับใจ
เมื่อครั้นที่เขาเพิ่งถูกส่งตัวมาทำงานบ้านตระกูลจ้าวเขาค่อนข้างไม่ชอบใจเท่าไร เพราะตระกูลจ้าวมีเจ้าหญิงตัวน้อยคนหนึ่งแถมต้องมาทำงานปีละตั้งสามเดือน มันทำให้เขาเกิดความลังเลใจ
อดีตสหายเขาเคยไปทำงานที่บ้านผู้บัญชาการมาก่อน ผู้บัญชาการเป็นคนใจดีและเข้ากับคนอื่นได้ง่าย เว้นเสียแต่หลานสาวเพียงคนเดียวของผู้บัญชาการท่านนั้นที่นิสัยหยิ่งยโส ชอบชี้นิ้วสั่งสหายเขาให้ทำนู่นทำนี่ วางท่าเป็นคุณหนูใหญ่และมองสหายเขาเป็นคนรับใช้โดยสิ้นเชิง
ครั้งหนึ่งถึงขั้นพูดต่อหน้าสหายเขาว่าสหายเขาก็คือคนรับใช้ที่บ้าน แม้ผู้บัญชาการอาวุโสได้ตำหนิหลานสาวไปแล้วแต่สหายของเขาก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
พวกเขาเป็นทหาร งานที่บ้านผู้บัญชาการเป็นภารกิจสำคัญที่ได้รับมอบหมายมา แล้วจะเรียกได้ว่าเป็นคนรับใช้ได้อย่างไร?
เหตุผลที่ลุงหยวนไม่อยากมาบ้านตระกูลจ้าวก็เพราะเป็นห่วงจุดนี้ กลัวว่าเจ้าหญิงตัวน้อยของตระกูลจ้าวจะเป็นคุณหนูจอมเอาแต่ใจอีกคน เขาปรนนิบัติตามใจไม่ไหวหรอกนะ แต่ความจริงกลับสร้างความประหลาดใจแก่เขาเสียมาก
ผู้บัญชาการอาวุโสสองท่านเป็นกันเองมาก คนอื่นๆ ต่างก็ให้ความเคารพนับถือเขาเช่นกัน สิ่งที่เขากังวลมากที่สุดอย่างเจ้าหญิงตัวน้อยก็ไม่เคยวางท่า เรียกคุณลุงๆ ติดปากและไม่เคยให้เขาทำงาน มีอะไรเธอลงมือทำเอง นอกจากนี้ยังเอาของฝากมาให้เขาทุกครั้ง น้ำใจตรงส่วนนี้เรียกให้ลุงหยวนซาบซึ้งใจเหลือเกิน
“เหมยเหมยชอบกินก็พอ พรุ่งนี้เช้าอยากกินอะไรบ้าง?” ลุงหยวนยิ้มถาม
“หนูกินอะไรก็ได้ ง่ายๆ ไม่ต้องซับซ้อนหรอกค่ะ อากาศร้อน ลุงหยวนอย่าลำบากมากเลย”
เหมยเหมยว่าแล้วยื่นถุงในมือให้ลุงหยวน ยิ้มกล่าว “อันนี้เสื้อผ้าที่แม่หนูฝากมาให้ป้าสะใภ้แล้วก็พี่หยวน แล้วก็บุหรี่อีกกล่องให้ลุงหยวนค่ะ”
“โอ้ จริงๆ เลยนะ คราวหลังอย่าให้คุณแม่ต้องลำบากเลย”
ลุงหยวนเกรงอกเกรงใจ หลายปีมานี้ภรรยาและลูกสาวของเขาไม่เคยซื้อเสื้อผ้าเองอีกเลยเพราะใส่ที่เหมยเหมยให้ตลอด มันน่าลำบากใจจริงๆ
เหมยเหมยอมยิ้ม ก่อนจะพูดทิ้งท้ายกับลุงหยวนอีกไม่กี่ประโยคแล้วไปดูโทรทัศน์เป็นเพื่อนคุณย่าที่ห้องนั่งเล่น
…………………
ตอนที่ 721 ทัศนคติบิดเบี้ยว
ผู้เฒ่าทั้งสองทะเลาะกันอยู่ในห้องนั่งเล่น ท่านปู่จ้าวอยากดูละครสงคราม แต่คุณหญิงย่าอยากดูละครรักน้ำเน่า คนแก่ทั้งสองจึงกำลังถกเถียงกันอยู่หน้าโทรทัศน์แหนะ!
“ละครสงครามมีอะไรน่าดูนักหนา หนุ่มๆ ยังสู้ไม่พอหรือไง?”
คุณหญิงย่าว่าอย่างไม่พอใจและทำท่าดูถูกละครสงครามที่กำลังฉายอยู่ ไม่สมจริงเลยสักนิด การทำสงครามเป็นแบบนี้เสียที่ไหน แค่ดูก็รู้ว่าแล้วผู้กำกับไม่เคยทำสงครามมาก่อน
ท่านปู่จ้าวโวยกลับจนปีกหนวดกางออก “ต่อให้ไม่สนุกยังไงก็ดีกว่าละครรักน้ำเน่าพวกนี้แล้วกัน กอดจูบลูบไล้อยู่นั่นมันเหมาะสมตรงไหน ละครแบบนี้ผ่านการคัดกรองมาได้ยังไง? แต่ละคนเอาแต่เงินเดือนไปแต่รู้จักไม่ทำงาน!”
ฮูหยินผู้เฒ่าคำรามใส่อย่างโมโห “คุณจะหลีกหรือไม่หลีก? ถ้าไม่หลีกอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจนะ!”
“ไม่หลีก! ผมกลัวคุณหรือไงกัน!” ท่านปู่จ้าวยืดอกอย่างไม่คิดจะถอย
คุณหญิงย่าโมโหจนแทบบ้า เห็นว่าละครรักน้ำเน่าใกล้เริ่มอยู่รอมร่อ ถ้าปล่อยให้ตาแก่โวยวายต่อไปต้องพลาดฉากสำคัญแน่ๆ คุณหญิงย่าที่ร้อนรนจึงยื่นมือไปผลักท่านปู่จ้าวเพราะอยากไล่ตาแก่น่ารำคาญนี้ออกไปให้พ้น
เพียงแต่ท่านปู่จ้าวที่ผ่านการดูแลมาอย่างดีตัวกำยำหนักแน่นดั่งภูเขา ไม่ขยับเขยื้อนสักนิด ทำเอาคุณหญิงย่าเหนื่อยหอบ ร้อนใจจนใกล้จะกระอักเลือดออกมาแล้ว
เหมยเหมยที่กำลังยืนดูอย่างสนุกสนานรีบปรี่เข้าไปแยกทั้งสองคนออกจากกัน ไม่อย่างนั้นคนแก่ทั้งสองต้องตบตีกันแหง
“คุณปู่คะ เราต้องให้สุภาพสตรีก่อน ท่านปู่จ้าวเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ เรื่องดูทีวีเล็กๆ แค่นี้ก็ยอมให้คุณหญิงย่าเถอะ!” เหมยเหมยพูดยกยอ เกลี้ยกล่อมท่านผู้เฒ่าจนยิ้มหน้าบาน เขม่นตาใส่คุณหญิงย่าด้วยความเย่อหยิ่งพลางแค่นเสียงที
“ลูกผู้ชายไม่รังแกผู้หญิง ครั้งนี้ฉันจะยอมเธอสักครั้งแล้วกัน ฉันไปฟังวิทยุก็ได้!”
คุณหญิงย่าเองก็พ่นลมใส่ รีบเปลี่ยนกลับช่องละครรักน้ำเน่าอย่างร้อนรน พบว่ามาได้ทันเวลาพอดีที่พระเอกเหอมู่เทียนกำลังนัดเจอกับคนรักเก่าของนางเอกหลี่เมิ่งจู๋
หากต้องพูดถึงฉินฮั่นกับหลิวเสวี่ยหัวสมัยวัยหนุ่มที่หล่อเหลาเอาการเสียจนแม้ว่าหนึ่งคนได้แสดงบทชายชั่วกับอีกคนแสดงบทชู้ ก็ไม่อาจทำให้เหมยเหมยเกลียดลงได้
ท่านปู่จ้าวปากบอกว่าไปฟังวิทยุแต่กลับไม่เคลื่อนตัวสักนิด มองโทรทัศน์ตาไม่กะพริบ ปากยังคงพร่ำบ่นไม่หยุด
“ถ่ายละครบ้าอะไรเนี่ย ผู้ชายมีเมียแล้วยังไปหาชู้ ผู้หญิงคนนี้ก็ชั่วช้า รู้อยู่ว่าคนเขามีเมียแล้วยังเสนอตัวเข้าหาอีก คู่ชายโฉดหญิงชั่วจริงๆ!”
ท่านปู่จ้าวยิ่งด่ายิ่งฮึกเหิมและยิ่งเสียงดังจนเกือบกลบเสียงโทรทัศน์ ทำเอาคุณหญิงย่าสีหน้าถมึงทึงขึ้นเรื่อยๆ เหอมู่เทียนเป็นไอดอลของเธอเชียว จะยอมให้ตาแก่พูดจาใส่ร้ายได้อย่างไรกัน!
“เขาคือรักแท้ คุณเข้าใจบ้าอะไรบ้าง!ถ้ายังไม่หยุดเจื้อยแจ้วก็ไปเลยไป!” คุณหญิงย่าเปิดปากด่า
“นี่คุณทำไม่ถูกนี่ ตอนนั้นผมแค่พูดกับผู้หญิงคนอื่นไม่กี่ประโยค คุณก็เอามีดไล่ฟันเขาแล้ว ตอนนี้พอไอ้สารเลวนี่กล้าไปมีชู้ลับหลังเมีย คุณกลับบอกว่าเป็นรักแท้!”
ท่านปู่จ้าวฉุกคิดถึงเรื่องวันวานไฟโทสะก็พุ่งกระฉูด เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นวีรบุรุษแต่มีฉายา ‘คนกลัวเมีย’พ่วงตามเขามาตลอดชีวิต อับอายขายขี้หน้า จะไม่โกรธได้ไง?
คุณหญิงย่าเถียงคอเป็นเอ็น “ดูทีวีก็ดูทีวีสิ คุณจะพูดถึงเรื่องนั้นทำไม?”
เห็นคนแก่ทั้งสองเริ่มทะเลาะกันอีกหนเหมยเหมยก็รีบแทรกตัวเข้าไปนั่งคั่นกลางระหว่างพวกเขา จับคนแก่ทั้งสองแยกออกจากกัน
“คุณย่าคะ ครั้งนี้หนูอยู่ฝั่งคุณปู่นะ ละครเรื่องนี้ทัศนคติไม่ถูกต้อง คุณปู่พูดถูก ก็แค่คู่ชายโฉดหญิงชั่ว!”
เหมยเหมยกัดฟันกรอด รักแท้จอมปลอม แต่ไม่ว่าอย่างไรฝ่ายชายก็เป็นคนทอดทิ้งก่อนอยู่ดี ฝ่ายหญิงยั่วยวนผู้ชายที่มีเจ้าของแล้ว ไม่ว่าใครก็ถือว่าไม่ใช่คนดี เหมือนเหมยซูฟานกับอู่เยวี่ยเมื่อชาติที่แล้ว คู่ชายโฉดหญิงชั่ว!
…………………………..