ลาก่อน คุณสามี - ตอนที่ 174 ไม่มีทางเลือกที่สอง
“เลขาเฉียวกำลังสงสัยความสามารถในการทำงานของผมอย่างนั้นเหรอ?”
เสียงเย็น ๆ ดังออกมาจากริมฝีปากของเขา คิ้วสีอ่อนของเฉียวชูเฉี่ยนก็ขมวดเข้าหากันเห็นได้ชัดว่านี่คือการขูดเลือดกับปู เขาจงใจ
“งั้นฉันจะกลับไปแก้ค่ะ”
ด้วยความไม่พอใจและความระคายเคืองในใจเฉียวชูเฉี่ยนพร้อมที่จะจากไปภายใต้ข้ออ้างนี้ แต่ก่อนที่เธอจะจากไปก็ถูกเฉินเป่ยชวนรั้งเอาไว้
“คุณไม่จำเป็นต้องกลับไป ผมต้องการอะไรคุณก็แก้เสียที่นี่แหละ ผมหวังว่าจะได้เห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจโดยเร็ว เลขาเฉียวคงจะไม่ทำให้บริษัทคู่ค้าผิดหวังในความสามารถบริษัท Q&C ของคุณหรอกนะ”
“… ”
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเรื่องโกหก เฉียวชูเฉี่ยนกัดริมฝีปากของเธอ แต่ไม่มีทางเลือกที่สองเลย
“งั้นขอยืมคอมพิวเตอร์ของคุณหน่อยค่ะ ท่านประธานเฉินจะให้ฉันแก้ยังไงคะ?”
“ถ้าจะให้ผมบอกว่าแก้ยังไง เรื่องนี้ผมก้คงจะให้เลขาจัดการเรื่องเอกสารการเซ็นสัญญากับพวกคุณโดยตรงเลยซะดีกว่า ทำไมจะต้องให้มาคุยกันอีกครั้งล่ะ”
คิ้วที่สวยงามเลิกขึ้น เฉินเป่ยชวนทำให้เธอรู้สึกว่ากำลังเล่นเกมให้เธอลองเดาว่าเขาอยากจะให้แก้ยังไง ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันใด
เฉียวชูเฉี่ยนนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ด้วยท่าทางหดหู่ในขณะที่เฉินเป่ยชวนนั่งอยู่บนโซฟาไม่ไกลอย่างสง่างาม ใบหน้ามีความเย็นชาตามปกติริมฝีปากบางส่วนบนโค้งเหมือนรอยยิ้มแต่ไม่ใช่รอยยิ้ม
ผู้หญิงของเฉินเป่ยชวน ก็จะต้องเป็นของเขาตลอดไป
แผนนี้ได้รับการแก้ไขอย่างพิถีพิถันหลายครั้งก่อนที่จะแสดงให้เขาเห็น เว้นแต่เธอจะได้รับคำแนะนำ ไม่งั้นเธอเองก็ไม่รู้จะแก้ยังไงเขาถึงจะพอใจ
เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยด้วยความรำคาญและมองไปที่ผู้ชายที่กำลังอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา
“ประธานเฉิน คุณคิดว่าแก้แบบนี้ดีไหมคะ?”
เธอยื่นเอกสารฉบับแก้ไขให้กับเฉินเป่ยชวน ดวงตาของเขากวาดไปทั่วกระดาษเบา ๆ ริมฝีปากบางของเขามีเสน่ห์ “แก้ต่อไป”
“… ”
ดวงตาสีอ่อนของเฉียวชูเฉี่ยนงุนงง เธอสงสัยว่าเฉินเป่ยชวนสามารถมองเห็นเนื้อหาได้อย่างชัดเจนหรือไม่?
“ผมจำได้ว่ามีคนบอกว่าจะให้ผมเห็นความแข็งแกร่งของบริษัท Q&C”
สิ่งที่เธอพูดเมื่อวานถูกใช้เพื่อเยาะเย้ยตัวเอง ไม่ว่าเธอจะโกรธแค่ไหนเธอก็ทำได้เพียงหันหลังกลับไปที่โต๊ะทำงานเพื่อแก้งานต่อไป
ฉันไม่เชื่อว่าเฉินเป่ยชวนจะไม่พอใจทุกครั้ง
ร่างบางพิงโซฟารอยยิ้มพอใจฉายแววเย็นชาและคิ้วขมวดด้วยความไม่พอใจ ทำไมเขาถึงทำตัวเหมือนเด็กเช่นนี้นะ?
แต่เมื่อเสียงของใครบางคนเคาะแป้นพิมพ์ดังขึ้นอีกครั้ง เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุขเขาชอบความรู้สึกที่ได้มองเห็นเธอ
เฉียวชูเฉี่ยนแสร้งทำเป็นเพิกเฉยต่อสายตาที่จ้องมองมาที่ใบหน้าของเธอ เธอแก้ไขต้นฉบับอยู่หลายครั้งแต่คำตอบที่เธอได้รับคือ “แก้ต่อไป”
“ท่านประธานเฉิน ฉันคิดว่าฉันอาจไม่มีคุณสมบัติสำหรับงานนี้ คุณควรหาเลขานุการคนอื่นในบริษัท Q&C เพื่อติดต่อความร่วมมือนี้”
เธอไม่ใช่คนที่ชอบอ่อนน้อม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่โกรธมากพอที่จะสูญเสียสติ
“เป็นเพราะคุณไม่มีคุณสมบัติที่ดี สำหรับงานนี้ ดังนั้นตอนนี้ผมถึงต้องให้โอกาสคุณฝึกฝนตนเอง เลขาเฉียวไม่ต้องรู้สึกขอบคุณผมหรอก”
เฉินเป่ยชวนแสร้งทำเป็นจริงจัง หากจะเปลี่ยนคน ความร่วมมือบริษัท Q&C ก็สามารถยุติได้เช่นกัน
“… ” ขอบคุณกับผีน่ะสิ บนโลกนี้ยังมีคนพูดจาเหลวไหลด้วยหน้าตาที่ใสซื่อแบบนี้อยู่อีกเหรอ
“แก้ต่อไป”
มีใครบางคนเอนกายบนโซฟาและเพลิดเพลินไปกับแสงแดด วางนิ้วเรียวไปที่คอมพิวเตอร์ที่โต๊ะทำงานริมฝีปากบาง ๆ ของเขาโค้งงอ จงใจทำให้เรื่องยุ่งยาก
เฉียวชูเฉี่ยนกลับไปที่คอมพิวเตอร์ ในใจเต็มไปด้วยความโกรธและต้องการที่จะทุบคอมพิวเตอร์ทิ้งซะ นิ้วเรียวของเธอพิมพ์ไปมาบนแป้นพิมพ์ และพิมพ์เอกสารออกมาอย่างรวดเร็ว และวางไว้บนโต๊ะของเฉินเป่ยชวนอีกครั้ง
อยากจะทรมานเธอมากใช่ไหม งั้นเธอก็จะพยายามทำให้ถึงที่สุด
โดยไม่คาดคิดคราวนี้เธอไม่ได้ยินคำเดิม เฉินเป่ยชวนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “แก้ได้ไม่เลวนะ เอาแบบนี้ไปก่อนละกัน”
“… ”
เธอควรจะมีความสุขมากที่ไม่จำเป็นต้องแก้อีกต่อไป แต่เธอกลับรู้สึกจุกและพูดไม่ออกเพราะเฉินเป่ยชวนไม่ได้อ่านเนื้อหาข้างต้นเลย สิ่งที่เธอเปลี่ยนไปในครั้งนี้เหมือนกับคนที่เธอแสดงให้เขาเห็นในตอนแรก !
“ในสายงานธุรกิจ ถ้าคุณไม่มีความเพียรพยายามมาก คุณก็จะยิ่งห่างไกลจากความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น”
เห็นๆ กันอยู่เขาจงใจทรมานเธอแต่ยังจะมาใช้คำพูดสอนเธออีก เฉียวชูเฉี่ยนกำหมัดแน่น ไอ้ผู้ชายไร้ยางอาย!
” พวกเราจะเปลี่ยนสถานที่คุยงานกัน เอาแผนของคุณไปด้วย”
เฉินเป่ยชวนมองลงไปที่เวลาบนข้อมือของเขา เช้าวันนี้ผ่านไปเร็วมากเธอคงจะหิว
“ขออภัยค่ะ ฉันมีธุระส่วนตัวต้องไปจัดการ ถ้าหากท่านประธานเฉินอยากจะคุยเรื่องแผนงานต่อ หลังจากเข้างานช่วงบ่ายฉันค่อยมาคุยงานต่อนะคะ”
โดยไม่คาดคิดว่าเฉียวชูเฉี่ยนจะปฏิเสธตรงๆ ทั้งเวลาเช้า เธอใช้ความพยายามทั้งหมด หาไม่ไปเติมพลังจากข้างนอกละก็เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองจะยังมีคุณธรรมจริยธรรมความเป็นพนักงานอยู่หรือไม่
“ธุระส่วนตัวอะไร”
เขาอยากรู้ว่ามีธุระส่วนตัวอะไรที่เธอจะต้องไปจัดการ คนรอบกายเธอมีน้อยมากจนสามารถนับนิ้วได้เลย ใครกัน?
“ไม่จำเป็นต้องรายงานค่ะ ”
เธอเน้นย้ำทีละคำด้วยความอดทน จากนั้นเธอก็เปิดประตูห้องทำงานและเดินจากไป โดยปล่อยให้ผู้ชายข้างๆ จ้องมองไปที่ประตูที่ปิดลงด้วยเสียงโครมคราม ให้ตายเถอะ…เธอบอกกับเขาว่าไม่จำเป็นต้องรายงาน
เฉียวชูเฉี่ยนที่กำลังรู้สึกโกรธตรงไปยังร้านขายเครื่องดื่ม ตอนนี้เธอรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัวด้วยความโกรธ หากไม่ดื่มเครื่องดื่มอะไรเย็นๆ สักหน่อยก็ถูกความร้อนเผาไหม้ไปทั้งตัวแน่
“สวัสดีค่ะ ต้องการรับอะไรคะ”
“มอคค่าเย็นหนึ่งแก้ว น้ำส้มหนึ่งแก้ว สตรอเบอร์รี่ช็อคโก้บอลสองลูกค่ะ”
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ”
พนักงานเดินไปที่ห้องครัวด้านหลังทันทีเพื่อสั่งอาหาร เฉียวชูเฉี่ยนเหลือบมองเวลาในโทรศัพท์ ตอนนี้ความปรารถนาเดียวของเธอคือทำให้เวลาผ่านไปช้าลง เพื่อที่เธอจะได้เผชิญหน้ากับชายคนนั้นให้ช้าลง
“คุณผู้ชาย ต้องการสั่งอะไรคะ? ”
เฉินเป่ยชวนนั่งอยู่ที่มุมหนึ่ง จ้องมองไปยังเฉียวชูเฉี่ยนที่อยู่ไม่ไกล จนกระทั่งเขาได้ยินพนักงานถาม เขาถึงละสายตากลับมามองเมนูบนโต๊ะ
“แมงโก้บอล”
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ”
หลังจากพนักงานเสิร์ฟเดินออกไป ดวงตาของเขาก็มองไปที่เดิมอีกครั้งด้วยความไม่พอใจ เธอสั่งอาหารมาสองที่สำหรับสองคน เธอนัดหมายกับเหยียนสือเซี่ยหรือลู่ฉีกันแน่นะ?
เครื่องดื่มสองแก้วถูกเสิร์ฟลงบนโต๊ะอย่างเบาๆ เฉียวชูเฉี่ยนดื่มมอคค่าเย็นแก้วใหญ่ก่อน เธอจึงรู้สึกเย็นสดชื่นขึ้นมาเล็กน้อย พลางมองไปยังเครื่องดื่มแก้วที่สองที่ตามมาติดๆ ไอศกรีมบอลสี่ลูกใหญ่ที่ดูหอมหวานน่าทาน เธออดไม่ได้ที่จะลิ้มรสความอร่อยของมัน ในใจรู้สึกผิดเล็กน้อย ของเหล่านี้ที่กินลงไปไม่รู้ว่าจะอ้วนขึ้นอีกกี่กิโลกันนะ
แต่เมื่อคิดว่าจะต้องใช้พลังงานอีกเยอะในช่วงบ่าย ความรู้สึกผิดในใจของเธอก็หายไปทันทีและเพลิดเพลินกับอาหารอร่อย ๆ ได้