ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love] - ตอนพิเศษ 25
ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่25 (คม x ใบบุญ)
Author: 여님 (ยอนิม)
เมื่อคมอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ร่างสูงก็เดินกลับมาที่เตียง ก่อนจะยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นใบบุญนอนตาปรือๆ
“ง่วงแล้วทำไมไม่นอน” คมถามขึ้น
“ใบบุญรอพี่คม” เด็กหนุ่มตอบกลับ คมจึงขึ้นไปนอนบนเตียงพร้อมกับรั้งตัวของใบบุญเข้ามากอด ใบบุญเองก็ขยับเข้าหาคมโดยทันทีเช่นกัน
“พี่คมหายโกรธใบบุญรึยังฮะ” เด็กหนุ่มถามเสียงแผ่ว พร้อมกับเงยหน้ามองคม คมจูบเบาๆที่หน้าผากของเด็กหนุ่ม
“หายแล้วครับ แต่อย่างที่บอก ห้ามทำแบบนี้อีก จะไปไหนต้องโทรบอกพี่ ไม่ต้องกลัวว่าพี่จะยุ่งหรือรับสายไม่ได้” คมพูดกำชับอีกครั้ง ใบบุญพยักหน้าหงึกหงัก
“แล้วอีกอย่าง พี่ไม่ชอบให้ใบบุญไปไหนมาไหนกับเพื่อนที่ชื่อไผ่” คมพูดในสิ่งที่ตนเองคิดเอาไว้ ทำให้ใบบุญเลิกคิ้วขึ้นอย่างงงๆ
“ทำไมล่ะฮะ ไผ่นิสัยดีนะฮะพี่คม ใบบุญมีไผ่เป็นเพื่อนคนแรกในโรงเรียนใหม่ด้วย ไผ่คอยช่วยเหลือใบบุญทุกอย่างเลย” เด็กหนุ่มพูดบอกออกมา คมไม่ค่อยพอใจกับคำชมคนอื่นของใบบุญนักแต่ก็พยายามจะไม่คิดอะไร
“พี่รู้ พี่ไม่ได้บอกให้ใบบุญเลิกคบเพื่อนคนนี้ แต่ไม่อยากให้ไปไหนด้วยกันเท่านั้น พี่หวงเข้าใจมั้ย” คมบอกออกไปตรงๆ ทำให้ใบบุญร้อนหน้าขึ้นมาทันที
“ไม่มีอะไรสักหน่อย ไผ่ก็แค่เป็นเพื่อนของใบบุญเท่านั้นเอง” เด็กหนุ่มบอกเสียงอ้อมแอ้ม
“ไผ่เป็นเพื่อน แล้วพี่เป็นอะไร” คมแกล้งถาม ใบบุญอึกอักเล็กน้อย ไม่กล้าพูดออกมา เพราะกลัวว่าสิ่งที่ตนเองพูดมันจะผิด
“ว่าไงล่ะ หืม” คมถามต่อ ใบบุญเม้มปากนิดๆ
“แล้วใบบุญเป็นอะไรสำหรับพี่คมเหรอฮะ” ใบบุญถามกลับมาบ้าง ทำให้คมยิ้มขำนิดๆ
“เดี๋ยวนี้หัดย้อนกลับนะ พี่ถามเราก่อนไม่ใช่เหรอ เราก็ตอบพี่มาก่อนสิ” คมยังคงต้องการคำตอบจากปากของเด็กหนุ่ม
“แล้วพี่คมบอกใบบุญก่อนบ้างไม่ได้เหรอฮะ” เด็กหนุ่มถามกลับเสียงอ้อนๆ คมยิ้มออกมาอ่อนๆ ก่อนจะจูบหน้าผากเนียนอีกครั้ง
“อ้อนพี่แบบนี้พี่จะไปไหนรอด หืม ..สำหรับพี่ ใบบุญคือคนที่พี่รัก คือคนรักของพี่ เหมือนกับที่คุณคิมเป็นคนรักของนายไง” คมต้องอ้างอิงถึงคิมกับกมลให้ใบบุญเข้าใจมากขึ้น ใบบุญหน้าแดงก่ำ
“พี่คมก็เป็นคนรักของใบบุญเหมือนกันฮะ” ใบบุญตอบกลับไป พร้อมกับมุดหน้าเข้าหาอกแกร่งของคมทันทีด้วยความขวยเขิน คมหัวเราะเบาๆในลำคอกับท่าทีน่ารักของใบบุญ
“นอนกันดีกว่า พรุ่งนี้ใบบุญต้องไปโรงเรียนแต่เช้านะ” คมบอกอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งสองจะนอนหลับตาลง และหลับไปในเวลาไม่นาน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ตั้งใจเรียนนะรู้มั้ย เย็นนี้พี่คงไม่ได้มารับ แต่จะให้ลพมันมารับแทน และ…” คมกำลังพูดกำชับใบบุญขณะจอดรถส่งตรงที่ประจำภายในโรงเรียน
“และห้ามกลับเอง มีอะไรให้โทรหาพี่คมทันที” เด็กหนุ่มพูดต่อ ทำให้คิมยกยิ้มขึ้นมานิดๆ
“เก่งมาก” คมพูดยิ้มๆ ก่อนที่ใบบุญจะลงจากรถไป คมก็ขับรถกลับทันที เพราะต้องไปช่วยกมลจัดการเรื่องงานต่างๆให้เรียบร้อย
“ใบบุญ” เสียงเรียกใบบุญดังขึ้น เด็กหนุ่มหันไปมองก่อนจะยิ้มรับ
“ไผ่ พึ่งมาถึงเหรอ” ใบบุญถามขึ้นยิ้มๆ ไผ่มองเด็กหนุ่มที่มีท่าทีปกติก็ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะยิ้มให้
“อืม เอารถไปจอดก็เดินมาเจอใบบุญเนี่ยแหละ ตกลงว่าเมื่อวานเป็นไงบ้าง” ไผ่ถามด้วยความอยากรู้
“ไม่มีอะไรหรอก เราคุยกับพี่คมแล้ว พี่เค้าไม่ได้โกรธอะไรแล้วล่ะ” ใบบุญตอบกลับ เพราะกลัวว่าไผ่จะคิดมาก
“ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว ขึ้นห้องกันเถอะ” ไผ่พูดบอกก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องเรียนพร้อมกับใบบุญ และช่วงสายๆของวันนี้ มีวิชาพละศึกษา อาจารย์ที่สอนให้นักเรียนวิ่งเก็บรอบสนาม ทุกคนจึงลงมาวิ่งรอบสนามหญ้าของทางโรงเรียน
“ใบบุญ วิ่งไหวรึเปล่า” ไผ่ถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเห็นว่าเด็กหนุ่มหน้าซีดๆ
“เอ่อ..ไหว” ใบบุญตอบกลับเพราะไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง แต่ด้วยความที่เมื่อคืน ใบบุญมีอะไรกับคมทำให้ยังรู้สึกปวดเอวและเจ็บขัดที่ช่องทางด้านหลังอยู่บ้าง เวลาวิ่งจึงรู้สึกเจ็บและปวดเอว
“แต่ใบบุญหน้าซีดมากเลยนะ เราว่านั่งพักก่อนเหอะ เดี๋ยวเราบอกอาจารย์ให้” ไผ่บอกกลับ
“งั้นเราขอวิ่งให้ครบรอบนี้ก่อนนะ” ใบบุญพูดขึ้น เพราะรู้สึกเหมือนหน้าจะมืด ไผ่วิ่งเคียงข้างใบบุญมาเรื่อยๆพอใกล้จะครบรอบ ใบบุญก็เซนิดๆ ทำให้ไผ่รีบคว้าเอาไว้ก่อนที่ใบบุญจะล้ม
“ไปห้องพยาบาลเหอะใบบุญ” ไผ่พูดเสียงเครียด ก่อนจะพยุงใบบุญมาหาอาจารย์
“อาจารย์ครับ ใบบุญเหมือนจะเป็นลม ผมพาไปห้องพยาบาลก่อนนะครับ” ไผ่บอกกับอาจารย์ผู้สอน
“อ่าๆ พาไปเลยๆ ไม่ไหวก็น่าจะมาบอกครูก่อนนะเรา ไผ่ดูแลเพื่อนด้วย” อาจารย์ผู้สอนพูดบอกออกมาทันที
“ไผ่ ใบบุญเป็นอะไร” เพื่อนคนอื่นๆต่างก็วิ่งมาถามอย่างเป็นห่วง
“สงสัยจะเป็นลมแดดน่ะ พวกเธอวิ่งกันไปก่อนเถอะ เดี๋ยวเราพาใบบุญไปห้องพยาบาลเอง” ไผ่บอกกลับ ก่อนที่จะพาใบบุญไปห้องพยาบาลทันที เมื่อไปถึง อาจารย์ประจำห้องพยาบาลก็ให้ใบบุญเข้าไปนอนพักที่เตียงด้านในสุด
“ไผ่ เดี๋ยวเธอเอาผ้าเย็นเช็ดหน้าให้เพื่อนหน่อยนะ ส่วนนี่ยาดม เดี๋ยวครูต้องไปเบิกยาที่ห้องธุรการก่อน” อาจารยประจำห้องพยาบาลพูดขึ้น พร้อมกับส่งผ้าเย็นและยาดมให้ไผ่
“ครับ” ไผ่ตอบรับ ก่อนจะเดินเข้าไปหาใบบุญ
“เป็นไงบ้าง” ไผ่ถามขึ้น ใบบุญนอนยิ้มจางๆให้ไผ่
“มันเวียนหัวแล้วก็ปวดตัวนิดหน่อยน่ะไผ่” ใบบุญตอบกลับ ไผ่นั่งลงขอบเตียงนอนพร้อมกับส่งยาดมให้ใบบุญ
“นี่ยาดม เดี๋ยวเราเช็ดหน้าให้” ไผ่พูดบอก ใบบุญรับยาดมมาดมทันที
“เราเช็ดเองก็ได้ ไผ่ไปวิ่งต่อเถอะ” ใบบุญพูดขึ้น ไผ่ขมวดคิ้วเข้าหากันทันที
“ไม่เป็นไร เราเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ เราต้องช่วยกันดูแลกันและกันสิ” ไผ่พูดขึ้น ทำให้ใบบุญยิ้มรับ
“ขอบใจนะ” ใบบุญตอบกลับ พร้อมกับหลับตาลงเพราะเวียนหัว ไผ่ก็เอาผ้าเย็นเช็ดหน้าและเช็คอให้ใบบุญ ใบหน้าที่ซีดเผือดในตอนแรกเริ่มมีมีสีแดงซับจางๆขึ้นมาบ้าง
“ร้อนมากเลยเนอะ” ใบบุญพูดขณะหลับตา เพราะวันนี้แดดค่อนข้างแรง
“อืม ใบบุญจะไม่สบายรึเปล่า เห็นบ่นว่าปวดเนื้อปวดตัว” ไผ่ถามขึ้น
“ไม่หรอก คงเพราะเราไม่ค่อยออกกำลังกายด้วยมั้ง พอมาวิ่งแบบนี้ก็เลยปวดตัว” ใบบุญตอบเลี่ยงๆ เพราะรู้สาเหตุจริงๆที่ตนเองปวดเนื้อปวดตัว มันเพราะอะไร
“งั้นใบบุญนอนพักเถอะ เดี๋ยวเรารอให้อาจารย์มา แล้วเราจะไปรวมกับเพื่อนๆ พอพักกลางวัน เราจะมาปลุกใบบุญอีกทีนะ” ไผ่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อืม ขอบใจไผ่มากนะ” ใบบุญตอบกลับยิ้มๆ ไผ่นั่งมองใบบุญที่นอนหลับตาอยู่นิ่งๆ พอเห็นว่าใบบุญหลับลงไปจริงๆแล้ว อาจารย์ประจำห้องพยาบาลก็มาแล้ว ไผ่จึงห่มผ้าให้ใบบุญแล้วเดินออกจากห้องพยาบาลไป พอพักกลางวัน ไผ่กับเพื่อนๆ จึงมาเรียกใบบุญไปกินข้าวด้วยกัน ใบบุญเองก็มีสีหน้าดีขึ้น แต่รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวไม่น้อย
..
..
..
..
ซู่……
เสียงน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ไผ่กับใบบุญรีบวิ่งเข้าไปในโรงยิมทันที เพราะช่วงนี้ต้องเข้าชมรมตอนเย็นทุกวัน ทั้งสองคนเปียกม่อล่อกม่อแลก
“อะไรวะเนี่ย กลางวันแดดออกจ้า พอตกเย็นฝนตกซะงั้น” ไผ่พูดบ่นออกมา พร้อมกับสะบัดเสื้อที่เปียก
“ไผ่ๆ หนังสือเรียนเปียกรึเปล่า เอาออกมาวางตากไว้ก่อน” ใบบุญพูดบอกกับเพื่อนร่างสูง ไผ่จึงวางระเป๋าแล้วเอาหนังสือเรียนมาวางเรียงเอาไว้
“ใบบุญ เราว่าใบบุญเอาเสื้อยืดกับกางเกงกีฬาของเราเปลี่ยนก่อนดีกว่านะ ถอดเสื้อพละไปตากก่อน อยู่ในชุดเปียกๆแบบนี้ เดี๋ยวไม่สบายกันพอดี” ไผ่พูดขึ้น
“แล้วไผ่ล่ะ” ใบบุญถามกลับ เพราะไผ่ก็เปียกเหมือนกัน
“เรามีสำรองอยู่อีกชุด ป่ะ ไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างในกันเถอะ” ไผ่พูดชวน ตอนนี้มีเพื่อนร่วมทีมของไผ่เข้ามาที่โรงยิมกันบ้างแล้ว บางคนก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมแล้วเช่นกัน ใบบุญเดินตามไผ่เข้าในห้องล็อคเกอร์ของนักกีฬาบาสเกตบอล และเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย
“ใบบุญเข้าไปเปลี่ยนในห้องนี้นะ เดี๋ยวเราเอาผ้ามาให้” ไผ่ให้ใบบุญเข้าไปเปลี่ยนในห้องแต่งตัวเล็กห้องหนึ่ง เพราะไม่มีคน ใบบุญเดินเข้าไปคนเดียว ใบบุญรีบถอดเสื้อพละออก แล้วสะบัด ส่วนไผ่ก็เดินไปเอาเสื้อกับกางเกงและผ้าขนหนูมาให้ใบบุญ
“เอาผะ.ผ้า..” ไผ่ที่เดินเข้ามาชะงักคำพูดไปนิด เมื่อเห็นแผ่นหลังเนียนของใบบุญ และเห็นอะไรบางอย่างบนแผ่นหลังเนียนนั่น ใบบุญหันมามอง ก็เห็นไผ่ยืนขมวดคิ้วอยู่
“มีอะไรรึเปล่าไผ่” ใบบุญถามขึ้น
“ป่ะ..เปล่า นี่ผ้าขนหนู เช็ดตัวก่อนนะ ส่วนนี้เสื้อผ้าของเรา ใบบุญเปลี่ยนก่อนได้เลย” ไผ่พูดก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้อง ใบบุญเลิกคิ้วอย่างงงๆ
“ฮั่ดเช้ย!” ใบบุญจามออกมา ก่อนจะรีบหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดตัวทันที เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ใบบุญก็เดินออกมาจากห้องแต่งตัว ก็พบว่าไผ่นั่งถอดเสื้อหน้าเครียดอยู่ แต่ก็ใส่กางเกงกีฬาไว้แล้ว
“ไผ่ ไม่รีบใส่เสื้อเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก” ใบบุญพูดขึ้น ทำให้ไผ่หันมามองก่อนจะใส่เสื้อกีฬาที่อยู่ในมือ
“อ่าว มาอยู่ที่นี่กันเอง” เสียงของสันดังขึ้น ซึ่งสันเองก็เปียกมาเหมือนกัน
“เป็นอะไรวะไผ่ ไม่สบายรึเปล่า หน้าตาไม่ค่อยดีเลยว่ะ” สันถามขึ้น ไผ่ส่ายหน้าไปมา
“ไม่ได้เป็นอะไรหรอกพี่ ใบบุญเอาเสื้อเปียกไปแขวนไว้ตรงนั้นก็ได้” ไผ่พูดขึ้นพร้อมกับชี้ไปตรงราวตาก เมื่อเห็นเสื้อเปียกในมือของใบบุญ เด็กหนุ่มจึงเดินไปตากเสื้อตรงที่ไผ่บอก แล้วเดินกลับมาหาไผ่อีกครั้ง
“งั้นเราออกไปดูหนังสือที่ตากไว้ก่อนนะไผ่” ใบบุญพูดก่อนจะเดินออกไป ไผ่ก็ลุกเดินตามไปทันที ทิ้งให้สันยืนงงกับอาการของไผ่
..
..
..
“ใบบุญ” ไผ่เรียกใบบุญในช่วงที่พักซ้อม
“หืม” ใบบุญขานรับ ก่อนจะนั่งลงข้างไผ่
“เราถามอะไรหน่อยได้มั้ย” ไผ่พูดเกริ่นขึ้น
“ถามอะไรเหรอ” ใบบุญถามกลับไป
“ใบบุญกับพี่คมไม่ใช่พี่น้องแท้ๆใช่มั้ย” ไผ่ถามขึ้นเสียงเครียด
“อืม ไม่ใช่หรอก เราเคยบอกไผ่ไปแล้วนี่” ใบบุญตอบกลับอย่างงงๆ
“แล้วทำไมใบบุญถึงได้สนิทกับพี่คมมากจังเลยล่ะ” ไผ่ถามต่อ ใบบุญยิ้มนิดๆ
“ก็พี่คมเค้าดูแลเราทุกอย่างเลย คอยช่วยเหลือ คอยทำอะไรๆให้เรา คอยปลอบ คอยสอนเราทุกอย่าง ก็เลยทำให้เราสนิทกับพี่คมมากกว่าพี่ๆคนอื่นๆในบ้าน” ใบบุญตอบยิ้มๆ
“ทำอะไรๆให้ทุกอย่างเลยเหรอ” ไผ่ถามขึ้นเสียงลอยๆ ใบบุญมองหน้าไผ่อย่างงงๆ
“อืม แล้วทำไมไผ่ถึงถามเรื่องนี้ล่ะ” ใบบุญถามกลับไปบ้าง
“เราเองก็ดูแลใบบุญ ช่วยเหลือใบบุญ แล้วทำไม..” ไผ่กำลังจะพูดต่อ
Tru…Tru…Tru
เสียงโทรศัพท์ของใบบุญดังขัดขึ้นมาก่อน
“อ๊ะ โทษทีนะไผ่” ใบบุญพูดก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เด็กหนุ่มยิ้มกว้างเมื่อเห็นเบอร์คนที่โทรเข้ามา ทำให้ไผ่หน้าหม่นลงนิดๆ
“สวัสดีฮะพี่คม” ใบบุญรับสายยิ้มแย้ม
“อยู่ที่โรงยิมฮะ” ใบบุญตอบกลับ เมื่อคมถามว่าอยู่ไหน
“จริงเหรอฮะ ไหนพี่คมบอกว่าจะให้พี่ลพมารับไง ฮะๆได้ฮะ” ใบบุญพูดก่อนจะวางสายไป แล้วหันมาหาไผ่อีกครั้ง
“เมื่อกี้ไผ่ว่าอะไรนะ” ใบบุญถามกลับเพราะตอนที่ไผ่พูดเมื่อกี้ ใบบุญยังได้ยินไม่ชัด
“พี่คมโทรมาเหรอ” ไผ่ไม่ได้ตอบแต่ถามกลับ
“อืม พี่คมมารอรับเราน่ะ เลยโทรมาถามว่าเราอยู่ไหน” ใบบุญตอบยิ้มๆ ไผ่นิ่งเงียบไปทันที
“ไผ่ๆ รวมตัวเว้ย” เสียงสันตะโกนเรียก ไผ่จึงลุกไปรวมกับเพื่อนทันที ทิ้งให้ใบบุญนั่งงงกับท่าทีของไผ่อยู่อย่างนั้นแต่ก็นั่งงงได้ไม่นาน ใบบุญก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อเห็นคมเดินกางร่มเข้ามาในโรงยิม คมวางร่มที่เปียกไว้ตรงทางเข้า แล้วเดินมาหาใบบุญ ไผ่เองก็เห็นคมเช่นเดียวกัน จึงหันมามองเป็นระยะ
“ทำไมอยู่ในชุดนี้ล่ะ ไปเอาชุดใครมาใส่” คมถามขึ้นเสียงเรียบ เมื่อเห็นชุดเสื้อผ้าที่ใบบุญใส่
“เสื้อผ้าของไผ่ฮะ พอดีใบบุญเปียกฝนตอนที่วิ่งมาโรงยิม ไผ่ก็เลยให้เปลี่ยนชุดก่อน” ใบบุญตอบกลับ คมหันไปมองไผ่นิดๆ ก็เห็นไผ่มองมาเช่นเดียวกัน
“แล้วเสื้อผ้าของเราล่ะ อยู่ไหน” คมถามต่อ
“ตากอยู่ฮะ แล้วนี่ทำไมพี่คมมารับใบบุญได้ล่ะ ตอนแรกบอกว่าจะให้พี่ลพมารับไม่ใช่เหรอฮะ” ใบบุญถามยิ้มๆ
“พอดีพี่ออกมาทำธุระให้นาย ทำเสร็จเร็วก็เลยโทรบอกไอ้ลพว่าไม่ต้องมารับ เพราะพี่จะมารับเราเอง” คมตอบกลับ
“งั้นพี่คมรอใบบุญก่อนนะฮะ เดี๋ยวนักกีฬาก็เลิกซ้อมแล้วล่ะ ใบบุญพูดบอก คมพยักหน้ารับ ก่อนจะนั่งรอใบบุญที่เก้าอี้ ส่วนใบบุญก็ลุกไปเตรียมของต่างๆให้นักกีฬา และเตรียมเก็บอุปกรณ์อื่นๆ
“ใบบุญกลับก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ให้พวกนี้มันเก็บลูกบาสเอง” เสียงของสันพูดขึ้น เพราะเห็นว่าคมมารอรับใบบุญ
“ฮะ” ใบบุญตอบรับ ก่อนจะวิ่งเข้าไปหยิบเสื้อตัวเองที่ตากเอาไว้ แต่ก็ยังชื้นอยู่
“ไผ่เสื้อเรายังชื้นอยู่เลยอ่ะ” ใบบุญพูดบอกกับไผ่เมื่อเดินออกมาจากห้องด้านใน
“งั้นใบบุญใส่เสื้อผ้าเรากลับไปก่อนก็ได้ เอาไว้ค่อยซักมาคืน”ไผ่ตอบกลับ
“ขอบใจนะ” ใบบุญพูดยิ้มๆ ก่อนจะเดินมาเก็บหนังสือที่เอาออกมาวางตากเอาไว้ ไผ่จึงเดินเข้าไปหาคม ซึ่งยืนอยู่ด้วยท่าทีนิ่งๆ
“มีอะไร” คมถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มมีท่าทีเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง
“วันนี้ตอนชั่วโมงพละ อาจารย์ให้วิ่งเก็บรอบสนาม” ไผ่พูดเกริ่น คมก็ยืนฟังเงียบๆ
“แดดมันร้อนมาก ใบบุญเป็นลม ผมก็เลยต้องพาไปห้องพยาบาล” ไผ่บอกอีก ทำให้คมชะงักไปนิด เมื่อรู้ว่าใบบุญเป็นลม
“ถ้าพี่เป็นห่วงใบบุญจริงๆ พี่ก็ควรดูแลร่างกายของใบบุญให้ดีกว่านี้นะครับ อย่าทำให้ร่างกายของใบบุญเป็นแบบนี้อีก” ไผ่พูดขึ้น ทำให้คมเอะใจกับคำพูดของไผ่ไม่น้อย
“นายพูดแบบนี้ต้องการสื่อถึงอะไรกันแน่ ชั้นว่าพูดออกมาตรงๆเลยดีกว่านะ” คมถามกลับเสียงเรียบ พร้อมกับจ้องหน้าไผ่นิ่งๆ
“ผมรู้ว่าพี่ทำอะไรกับใบบุญ ผมไม่รู้ว่าใบบุญสมยอมหรืออะไรยังไง แต่ผมอยากบอกว่าสิ่งที่พี่ทำมันผิด” ไผ่พูดบอกออกมาตรงๆ เพราะเขาเห็นร่องรอยบนแผ่นหลังของใบบุญตอนที่ใบบุญถอดเสื้อในห้องแต่งตัว และเขาก็ไม่ได้ไร้เดียงสาจนดูไม่ออกว่าเป็นรอยอะไร และไผ่ก็สันนิษฐานได้ในทันที ว่าใครเป็นคนทำรอยนั้น คมยกยิ้มมุมปากนิดๆ เมื่อได้ยิน คมเองก็ไม่รู้ว่าไผ่รู้เรื่องได้ยังไง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
“แล้วสิ่งที่นายคิดว่าถูกมันคืออะไรล่ะ คือการที่แอบใช้คำว่าเพื่อนเข้ามาแทรกกลางเรื่องของคนอื่นงั้นเหรอ” คมพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่สะทกสะท้านกับคำพูดหรือแววตาที่ไผ่มองมาที่ตนเองด้วยความไม่พอใจเลยสักนิด
“มีอะไรกันรึเปล่าฮะ” ใบบุญที่เดินเข้ามาถามขึ้น เมื่อเห็นว่าไผ่กับคมยืนคุยอยู่ด้วยกัน
“ไม่มีอะไร เพื่อนของเราแค่เดินมาบอกว่า วันนี้ใบบุญเป็นลม” คมพูดขึ้น ทำให้ใบบุญยิ้มแหยๆ
“แดดมันร้อนน่ะฮะ” ใบบุญตอบกลับเสียงอ้อมแอ้ม ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ คมยิ้มมุมปากนิดๆ
“เพื่อนของใบบุญเค้าคงเป็นห่วงมาก ก็เลยเดินมาบอกพี่น่ะ ขอโทษทีนะ ที่พี่ดูแลใบบุญไม่ดี ทำให้ร่างกายของใบบุญอ่อนแอจนเป็นลมเป็นแล้งไปแบบนี้” คมพูดยั่วไผ่ขึ้นมา
“พี่คมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย พี่คมดูแลใบบุญดีมากแล้วล่ะฮะ” ใบบุญตอบกลับ เพราะไม่อยากให้คมรู้สึกไม่ดี แต่มันเป็นการย้ำความรู้สึกของใบบุญให้ไผ่รู้เสียมากกว่า
“ใบบุญว่าเรากลับกันดีกว่าฮะ เรากลับก่อนนะไผ่” ใบบุญพูดชวนคมกลับบ้าน แล้วหันไปลาเพื่อนตนเอง ไผ่พยักหน้ารับ เพราะพูดอะไรไม่ออก คมหยิบร่มคันใหญ่ขึ้นมาก่อนจะหันมาหาไผ่อีกครั้ง
“ขอบใจนะที่หวังดี” คมพูดเสียงเรียบ ก่อนจะเดินกอดคอใบบุญให้อยู่ในร่มคันเดียวกัน แล้วเดินออกไปจากโรงยิมทันที
..
.
.
..
“ที่เราเป็นลม เป็นเพราะพี่รึเปล่า” คมถามขึ้นเมื่อขึ้นรถแล้ว ใบบุญหน้าขึ้นสีระเรื่อ
“ก็ไม่เชิงหรอกฮะ ก็เมื่อคืน…เอ่อ…ใบบุญปวดเอว แล้วก็เจ็บตรงนั้น พออาจารย์สั่งให้ไปวิ่งรอบสนาม มันก็เลยเหมือนจะปวดกว่าเดิม” ใบบุญตอบเสียงอ้อมแอ้ม
“พี่ขอโทษนะ” คมพูดเสียงอบอุ่น
“พี่คมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย จะขอโทษทำไมล่ะฮะ ใครจะไปคิดว่าวันนี้อาจารย์จะให้วิ่งรอบสนามกลางแดดเปรี้ยงๆล่ะ….ฮั่ดชิ้ว!!” ใบบุญพูดจบก่อนจะจามออกมา คมขมวดคิ้วนิดๆ ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมของตนเองส่งให้ใบบุญ
“ใส่ซะ เดี๋ยวไม่สบาย” คมพูดขึ้น ใบบุญก็รับมาใส่แต่โดยดี คมยื่นมือไปหรี่แอร์รถลงอีกนิด เนื่องจากฝนยังตกอยู่อากาศจึงเย็นมากกว่าปกติ
“กลางวันโดนแดด ตอนเย็นโดนฝน จะไม่สบายรึเปล่าเนี่ย” คมพูดบ่นออกมา
“เดี๋ยวกลับไปกินยากันไว้ก่อนก็ได้ฮะ” ใบบุญตอบกลับ คมพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะขับรถต่อ ส่วนใบบุญนั่งไปสักพักก็หลับ
..
..
..
“ใบบุญ ถึงบ้านแล้ว” คมเรียกใบบุญเมื่อขับรถเข้ามาจอดที่โรงรถ เด็กหนุ่มปรือตาขึ้นน้อยๆ พร้อมกับความรู้สึกหนักอึ้งที่ดวงตา คมหันมามองเห็นว่าใบบุญนิ่วหน้านิดๆ
“เป็นอะไรรึเปล่า” คมถามขึ้น
“ปวดหัวจังเลยฮะพี่คม” ใบบุญพูดขึ้น คมจึงเอามือไปอังที่หน้าผากและใบหน้าของใบบุญ
“ตัวร้อนนี่นา” คมพึมพำเสียงเครียดเพราะรับรู้ถึงไอร้อนจากร่างกายของใบบุญ
“ใบบุญเดินไหวมั้ย” คมถามขึ้นอีก
“ไหวฮะ” ใบบุญตอบกลับ ก่อนจะขยับลงจากรถ คมก็หิ้วกระเป๋าของใบบุญตามลงไป ยังดีที่บ้านฝนหยุดไปแล้ว คมเดินจับมือใบบุญไปยังบ้านพักของใบบุญทันที
“เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไป เดี๋ยวพี่ไปบอกยายเราก่อน” คมพูดขึ้นเมื่อส่งใบบุญเข้าบ้านไปแล้ว คมเดินมาหาป้านีที่บ้านใหญ่
“ป้านีครับ” คมเรียกป้านี
“ว่าไงคม ใบบุญล่ะ” ป้านีถามกลับ
“อยู่ที่บ้านครับ ป้านี เดี๋ยวป้าทำข้าวต้มให้ใบบุญสักชามได้มั้ยครับ วันนี้เห็นว่าตากฝน เมื่อกี้ก่อนลงรถผมลองจับตัวดู ตัวร้อนๆ สงสัยจะไม่สบาย” คมพูดเสียงเครียด
“อ่า เหรอ ได้สิได้ ป้าวานคมดูน้องให้หน่อยนะ ยาอยู่ในตู้ข้างประตู เดี๋ยวป้ายกข้าวไปให้” ป้านีบอกออกมาด้วยความเป็นห่วงหลานชาย
“ครับได้ครับ งั้นผมไปดูใบบุญก่อนนะครับ” คมตอบรับก่อนจะเดินกลับไปหาใบบุญอีกครั้ง
“พี่คมๆ พอดีเลย นายเค้าจะถามเรื่องสต็อคสินค้า” รุจที่เดินมาเจอคมเข้าพอดีพูดบอกออกมา
“บอกนายว่าชั้นขอเวลาสัก 10 นาที เดี๋ยวเข้าไปหา” คมพูดขึ้น รุจพยักหน้ารับ ก่อนที่คมจะตรงไปยังบ้านพักของใบบุญ ร่างสูงเดินเข้าไปในบ้านไม่เห็นใบบุญ จึงเดินไปที่ห้องนอน มือแกร่งเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าใบบุญเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว และนอนเอามือก่ายหน้าผากอยู่บนเตียง เด็กหนุ่มปรือตามองคมเล็กน้อย ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง
“เป็นไงบ้าง” คมถามขึ้น
“ปวดหัวจังเลยฮะพี่คม ปวดตัวด้วย” ใบบุญบอกเสียงแผ่ว ริมฝีปากบางขึ้นสีแดงสดเพราะความร้อนในร่างกาย
“ทนหน่อยนะ พี่ให้ยายของเราทำข้าวต้มแล้วล่ะ กินข้าวรองท้องแล้วค่อยกินยา แล้วก็นอนพัก” คมบอกเสียงเครียด
“แต่ใบบุญยังไม่ได้ทำการบ้านเลย” เด็กหนุ่มพูดขึ้นมาเสียงไม่ดังมากนัก
“ยังไม่ต้องทำหรอก นอนพักไปก่อน” คมว่าออกมา ใบบุญหายใจทางปากไล่ความร้อนจากคอและจมูก คมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของใบบุญ พร้อมกับหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กออกมา จัดแจงไปชุบน้ำ แล้วมาโปะที่หน้าผากของใบบุญเอาไว้
“เดี๋ยวพี่ให้คนไปซื้อเจลลดไข้มาให้ เราจะได้ติดหน้าผาก ตัวร้อนขึ้นเรื่อยๆแล้วนะเนี่ย” คมพูดพึมพำ ใบบุญก็นอนหายใจแผ่วๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา คมนั่งอยู่เป็นเพื่อนใบบุญสักพัก จนป้านีถือชามข้าวต้มเข้ามาในห้อง
“ตัวร้อนมากมั้ยคม” ป้านีถามขึ้น
“ก็พอสมควรครับ อ่อ ป้านี ยังไงก็ให้ใบบุญกินยาด้วยนะครับ เดี๋ยวผมให้ยิวมันไปซื้อเจลลดไข้มาให้ เพราะผมต้องเข้าไปหานาย” คมพูดบอกออกมา ป้านีพยักหน้ารับ คมจึงหันมาหาใบบุญอีกครั้ง
“ใบบุญพี่ไปทำงานก่อนนะ อย่าดื้อกับยายล่ะ กินยาด้วย ถ้าพี่เสร็จงานแล้วจะเข้ามาหา” คมพูดขึ้นก่อนจะรีบออกไปหากมลที่บ้านใหญ่ทันที
2 Be Con
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อัพแล้วนะคะ