“นี่แก ฉันว่าน่ะ อิงกับลูเซี่ยน อีกไม่นานต้องมีข่าวดีแน่ ๆ เลยว่ามะ คบกันออกสื่อ หวานชื่นขนาดนั้น”
เพื่อนในแผนกคอลัมน์นิตยสารแผนกเดียวกันกับอันกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานในช่วงเวลาพักเที่ยง พร้อมกับเลื่อนมือถือดูโซเชียลไปด้วย
“นั่นสิ ฉันว่าสองคนนั้นเหมาะสมกันดีนะ ดาราสาวชื่อดังกับนักธุรกิจหมื่นล้าน ชีวิตนี้ฉันจะมีแบบนั้นบ้างไหมนะ”
พนักงานสาวสวยอีกคนหนึ่งพูดเสริมขึ้นมา
“หยุดฝันกลางวันได้แล้ว ดูอย่างอันเข้า ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ไม่สนใจเวลาพักเที่ยงแสนมีค่าแบบนี้ สงสัยคงจะรีบกลับบ้านไปหาหวานใจเร็ว ๆ ไม่อยู่ทำโอทีเหมือนพวกเรา”
เพื่อนที่ทำงานหันมาแซวอันเล่น ๆ เมื่อเห็นอันทำงานตรงหน้าอย่างขยันขันแข็ง
นั่นก็เพราะอันต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา ทำให้งานที่ค้างอยู่ลดลงให้มากที่สุด เผื่อเกิดมีงานกะทันหันที่ไม่คาดคิดแทรกเข้ามา เธอจะได้มีข้ออ้างออกไปข้างนอกได้ มันมักจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ จากการเรียกตัวของอิงนั่นเอง เธอจึงพยายามทำงานที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทให้เสร็จเท่าที่จะทำได้ จะได้ไปทำงานของอิงได้อย่างสบายใจ เวลาคุยกับ บ.ก. ว่ามีเรื่องต้องไปทำข้างนอก เขาจะได้ไม่มีการพูดไม่ดีลับหลังเธอ มันเลยกลายเป็นนิสัยว่า อันต้องมาทำงานแต่เช้า และกลับเร็ว ทำให้อันในสายตาเพื่อนร่วมงานคือคนขยัน บ้างาน พูดน้อย เก็บตัว
“อันแค่อยากทำงานให้เสร็จ ๆ จะทำอย่างอื่นต่อ อีกอย่างหวานใจอะไรไม่มีหรอก แต่ถ้า…”
อันหันมาตอบ ก่อนหยุดพูดไปดื้อ ๆ ซะอย่างนั้น
“แต่…แล้ว แต่อะไรล่ะ”
เพื่อนในแผนกพูดต่อ เพื่อต้องการรู้คำที่อยู่ ๆ ก็หายไป
‘แต่ถ้าเป็นของเล่นยามเหงานะก็มีอยู่’ อันตอบในใจถึงสถานะของเธอตอนนี้
เธอกำลังสับสนกับตัวเองอยู่ไม่น้อยว่าจะเดินต่อยังไง อยู่ในสถานะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอมีเรื่องมากมายที่อยากจะถามลูเซี่ยน แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ถาม หรือเธอเลือกที่จะไม่ถามออกไปมากกว่า หนึ่งในเรื่องร้อยแปดที่อันคิด คือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอิงกับลูเซี่ยน ในเมื่อเขามีอิงอยู่แล้ว ทำไมเขายังต้องมายุ่งกับเธอ เล่นสนุกกับความรู้สึกของเธอ หัวใจเธอไม่ได้แข็งแรงขนาดไม่รู้สึกอะไร อันรู้ตัวเองดีว่าเป็นได้แค่ของเล่น เป็นตัวแทนของพี่สาวเธอ อันไม่อยากเป็นผู้หญิงนิสัยไม่ดีที่จะขั้นกลางระหว่างสองคนนั้น แต่ลูเซี่ยนกลับค่อย ๆ เข้ามาแทรกอยู่ในใจอันมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเธอไม่ตัดใจตอนนี้ มีหวัง อันคงถอนตัวไม่ขึ้นต้องมานั่งเสียใจ
แน่ ๆ
“อ่อ ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากทำงานให้เสร็จเร็ว ๆ จะได้ไปพัก เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับนะ เลยจะแอบไปงีบช่วงบ่าย”
อันปัดตอบและหันกลับไปทำงานต่อ ทำเอาเพื่อนในแผนกพูดต่อไม่เป็นเลย เมื่อถูกอันพูดตัดจบ
ลูเซี่ยนคนโกหก บอกว่าอีก 1 ชั่วโมงแล้วจะพาเธอไปอาบน้ำ เชื่อได้ที่ไหน เขาไม่สามารถอดกลั้นความต้องการทางร่างกายของตัวเองได้ ทำให้อันมีเวลานอนพักไม่กี่ชั่วโมง แล้วต้องตื่นมาทำงาน วันนี้อันเกือบมาทำงานสาย
ถ้าหัวหน้า บ.ก. ไม่โทรมาปรึกษาเรื่องงานแต่เช้า เธอคงหลับยาวไปแล้ว นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่อันไม่อยากเสียเวลาไปกับการพักเที่ยง อยากทำงานให้เสร็จในคราวเดียวและจะได้พักหลับสักครึ่งชั่วโมงในห้องพักพนักงาน ถ้ามัวคอยกังวลเรื่องงานที่ค้างอยู่ คงนอนไม่หลับกันพอดี อันต้องการชดเชยการนอนไม่พอของเมื่อคืนนี้
บริษัทที่อันทำงาน ค่อนข้างจะให้อิสระกับพนักงานทุกคน จะทำอะไรก็ได้ เข้างานกี่โมงก็แล้วแต่ แต่ขอให้งานเสร็จและออกมาสมบูรณ์แบบ บ่อยครั้งที่เธอเห็นพนักงานที่ไม่คุ้นหน้าในบริษัท เห็นอีกทีก็ตอนประชุมใหญ่ เพราะความที่เราทำเกี่ยวกับนิตยสาร หนังสือต่าง ๆ เลยต้องออกนอกพื้นที่อยู่เป็นประจำบางคนอยู่ต่างประเทศเป็นปี ๆ จึงทำให้อันเห็นพนักงานที่ไม่คุ้นหน้าอยู่บ้าง ที่สำคัญบริษัทนี้มีเปอร์เซ็นต์การรับพนักงานใหม่น้อยมาก ในแต่ละครั้งที่เปิดรับสมัครจะมีคนต่อคิวยาวเป็นแถว ๆ แต่รับเข้าจริง ๆ แค่ 1-2 คนเท่านั้น คนที่อยู่ในบริษัทนี้จึงเป็นคนที่เก่งมาก ที่สำคัญหาตัวจับยากมากเช่นกัน เคยได้ยินว่ามีคนขอซื้อตัวกันหลักแสน หลักล้านก็ถมเถไป ส่วนการที่อันเข้ามาทำงานที่นี่ได้นั้น เพราะหัวหน้าบ.ก.เห็นความสามารถในการเขียนที่แตกต่างจากคนอื่น มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงก่อนที่อันจะเรียนจบมหาวิทยาลัย ทางมหาวิทยาลัยให้นักศึกษาทุกคนมาแสดงผลงานของตนเองก่อนจบ ผลงานของอันเข้าตาหัวหน้าบ.ก. เลยถูกชักชวนให้อันทำงานที่นี่ได้โดยปริยาย
“เฮ้ออ ฉันอยากจะเป็นอิงจริง ๆ สลับตัวกันได้ไหม…” เพื่อนคนหนึ่งในที่ทำงานพูด
ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดบทสนทนาระหว่างเพื่อนในแผนกกับอัน
อันออกไปรับโทรศัพท์ มีสายตาของเพื่อนร่วมงานคอยมองตามหลังเธอ
“แกรู้ไหม ตอนแรกที่อันเข้ามาทำงานที่นี่วันแรกนะ ฉันคิดว่าเธอคืออิง ณภัสสรแหละ หน้าคล้าย ๆ กันนะว่าไหม”
หนึ่งในแก๊งเพื่อนร่วมแผนกเริ่มเม้าท์มอย
“จะเป็นไปได้ยังไงแก อิงให้สัมภาษณ์ว่าเขาเป็นลูกคนเดียวไม่ใช่รึไง แต่…เอาจริงถ้าลองมองดูดี ๆ ก็คล้าย ๆ อยู่น่ะ แต่ช่างเถอะ ส่องดูโซเชียลต่อดีกว่า”
“นั่นสินะ”
กลุ่มเพื่อนดี๊ด๊ากันต่อ พูดถึงเรื่องความหล่อเหลาเอาการของลูเซี่ยน
“สวัสดีค่ะ พี่นที มีอะไรรึเปล่า” อันคุยโทรศัพท์กับนที ผู้จัดการส่วนตัวของอิง
“ขอโทษที่รบกวนเวลางานนะอัน พรุ่งนี้ว่างรึเปล่า” เสียงแหบ ๆ ของนทีพูด
“คะ?”
“พอดี พี่อยากให้อันมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้อิงสักหนึ่งวันนะ พอดีพี่ไม่สบาย แค่ก แค่ก” นทีไอออกมา
“เป็นอะไรมากรึเปล่าคะ เสียงแหบมาก”
“ไม่เท่าไหร่หรอกอัน พี่พักวันเดียว ก็คงหายแล้ว ยังไงพี่ฝากอิงไว้กับอันวันนึงนะ”
“ได้อยู่หรอกค่ะ แล้วจะไม่มีใครสังเกตเห็นอันเหรอคะ เดี๋ยวก็เป็นเรื่องให้อิงปวดหัวอีกหรอก”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง พี่เตรียมแผนรับมือ และเตรียมเครื่องมือปลอมตัวให้อันเรียบร้อยแล้วด้วย หายห่วง”
“ถ้าอย่างงั้นก็ได้ค่ะ เดี๋ยวอันรีบเคลียร์ตารางของอัน แล้วรีบไปหาอิงแล้วกันนะคะ”
“ไม่ต้องรีบก็ได้นะวันนี้ งานอิงมีแค่ช่วงเช้า ตอนนี้คงไปสปากับเพื่อนแหละ ไปตอนเย็นก็ได้”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
“ขอบคุณมากนะอัน พี่ฝากตารางงานของอิงไว้ที่คอนโดอิงนะ เลิกงานเมื่อไหร่ก็ไปเอาที่ห้องอิงได้เลย พี่บอกอิงไว้แล้ว”
“โอเคค่ะ”
“แล้วอีกอย่าง อิงเป็นคนตื่นยากมาก พยายามเน้นเวลาทำงานกับอิงดี ๆ นะ”
“รู้แล้วละคะ พี่นที ดูแลสุขภาพดี ๆ นะคะ”
หลังจากวางสาย อันรีบกลับมาเคลียร์งานส่วนของวันนี้และพรุ่งนี้ให้เสร็จ พร้อมทั้งขออนุญาตหัวหน้า บ.ก. ลางานหนึ่งวัน จนแล้วจนรอด เธอก็ไม่มีเวลาได้นอนพักสักงีบ
จนตอนนี้เวลาเกือบห้าทุ่มแล้วที่อันนั่งเคลียร์งานอยู่ที่บริษัทจนเสร็จ จากนั้นเธอรีบนั่งรถแท็กซี่ไปลงหน้าคอนโดของอิง ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง ป่านนี้แล้ว อันหวังว่าอิงคงยังไม่นอน อันเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ โทรหาอิงหลายสาย แต่ไม่มีคนรับสาย
อิงอยู่ชั้น 30 ของคอนโด มีลิฟต์ส่วนตัวขึ้นไปถึงห้องอิงโดยตรง อันกดลิฟต์ขึ้นไปราวกับเป็นบ้านเธอเอง เพราะเธอมาหาอิงที่ห้องอยู่บ่อยครั้ง ส่วนใหญ่จะมาเพราะเป็นเรื่องงาน หวังว่าเธอคงจะไม่โดนอิงด่า ที่มาไม่รู้จักเวลา อันไม่คิดว่างานที่บริษัทจะล่าช้าแบบนี้ เธอก็พยายามเต็มที่แล้ว เร็วที่สุดได้เท่านี้
“เฮ้อ”
อันถอนหายใจเป็นเวลาเดียวกับที่ลิฟต์เปิดออกมาหน้าห้องของอิง
ทันทีที่ลิฟต์เปิดออกตรงหน้าประตูห้อง….สิ่งที่คิดว่าคงจะไม่เกิดขึ้นในชีวิตอันก็เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว..
MANGA DISCUSSION