รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 5 ท่าน
บทที่ 5 ท่าน
ไม่นานหลังจากนั้น หลี่จิ่วเต้าก็กลับเข้ามาพร้อมถ้วยยาในมือ
ภายในถ้วยยาเต็มไปด้วยสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการรักษาแผลได้ชะงัดนัก ไม่ว่าบาดแผลจะรุนแรงเพียงใด หลังจากใช้สมุนไพรที่เขาโขลก แม้แต่แผลเป็นก็ไม่เหลือร่องรอยไว้ให้เห็น
“ท่านผู้เฒ่าให้ข้าช่วยทายาเถิด ยาถ้วยนี้เป็นข้าเตรียมเองกับมือ มันใช้รักษาบาดแผลได้ดีมาก”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“อ่า จะให้ผู้อาวุโสทำให้ได้อย่างไร ข้าทาเองดีกว่า”
ลวี่เหลียงรีบเอ่ย
“ท่านจะทาเองได้อย่างไรท่านผู้เฒ่า ให้ข้าทำแทนเถิด”
หลี่จิ่วเต้าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า เขาพูดออกมาว่า “แล้วก็ท่านผู้เฒ่า โปรดหยุดเรียกข้าว่าผู้อาวุโสเถิด ข้าอายุเพียงสิบแปดเท่านั้น หากผู้อื่นได้ยินท่านเรียกข้าเช่นนี้แล้ว คนเขาจะมองข้าอย่างไร”
ชายหนุ่มไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมชายชราถึงเอาแต่เรียกตนว่าผู้อาวุโสอยู่ได้
หน้าเขาเด็กออกปานนี้ สมญาผู้อาวุโสหาได้เข้ากับตัวเขาไม่
‘ผู้อาวุโสมิชอบให้ผู้อื่นเรียกเช่นนี้หรอกหรือ’
ลวี่เหลียงรีบเปลี่ยนคำพูดในทันที “เช่นนั้นข้าควรจะเรียกว่าอะไรดี? เรียก ‘ท่าน’ ได้หรือไม่?”
“อย่าเรียกว่า ‘ท่าน’ เลย ท่านผู้เฒ่าแก่กว่าข้ามากนัก คำว่า ‘ท่าน’ ฟังดูพิลึกนักมิใช่น้อยเลย”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยต่อ “ท่านผู้เฒ่าควรเรียกข้าด้วยชื่อสิ ชื่อของข้าคือหลี่จิ่วเต้า”
“ไม่ ข้าจะเรียกว่า ‘ท่าน’ อยู่ดี!”
บ้าไปแล้ว ท่านเป็นถึงผู้อาวุโสแข็งแกร่งปานนี้ ซ้ำยังมีอาวุธของจักรพรรดิอยู่ในการครอบครอง จะให้ชายชราเช่นเขาเรียกผู้อาวุโสด้วยชื่อห้วน ๆ ได้อย่างไร?
แต่ต่อให้ลวี่เหลียงมีความกล้าเต็มร้อย เขาก็ไม่อาจหาญอยู่ดี!
“ท่าน… ท่านขอรับ”
คำว่าท่านนั้นสุภาพยิ่งกว่าผู้อาวุโสเสียอีก
หลี่จิ่วเต้าเริ่มป้ายสมุนไพรลงบนแผลของลวี่เหลียง
‘ผู้ใดจะไปคาดคิดว่าข้า ลวี่เหลียงจะได้รับการช่วยเหลือจากผู้อาวุโสผู้ทรงพลังที่ครอบครองอาวุธของจักรพรรดิในตำนาน ซ้ำแล้วอีกฝ่ายยังถึงขั้นช่วยทายาให้อีกด้วย’
ลวี่เหลียงมีความสุขมาก หมายมั่นปั้นมือจะเอาเรื่องนี้ไปโพนทะนาบอกผู้อื่นในอนาคตให้จงได้
แต่อย่างไรก็ตาม เขายังคงสับสนเล็กน้อย
การกระทำของผู้อาวุโสท่านนี้ยังคงมีบางอย่าง…ผิดปกติเล็กน้อย!
สมุนไพรรักษาเฉพาะจุด?
วิธีการรักษาอะไรกันนี่
ลวี่เหลียงไม่เคยได้ยินเรื่องการใช้สมุนไพรรักษาบาดแผลมาก่อน
หากผู้ฝึกตนได้รับบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายในก็จะได้รับการรักษาด้วยยาลูกกลอน
ยาลูกกลอนจะเข้าสู่กระเพาะ เปลี่ยนรูปร่างมันด้วยพลัง แล้วผลของยาก็จะไหลเวียนไปทั่วร่างกาย จากนั้นแผลภายนอกและภายในก็จะได้รับการรักษา
แต่แล้วสีหน้าของชายชรากลับเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ
ผู้อาวุโสใช้สมุนไพรใดกับเขากันนี่
เพราะในทันทีที่สมุนไพรเพิ่งจะป้ายลงบนแผล ลวี่เหลียงก็สัมผัสได้ถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ที่หลั่งไหลเข้ามาในร่างกาย จากนั้นแผลของเขาก็หายไปในพริบตา และผิวที่ผลัดขึ้นมาใหม่ยังเรียบเนียนยิ่งกว่าผิวของทารกเสียอีก!
เฒ่าชราถึงกับตกตะลึงอึ้งค้างไป นี่ต้องเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ไม่ผิดแน่!
พยัคฆ์หลากสีตัวนั้นดุร้ายและทรงพลังยิ่ง หนำซ้ำแผลบนตัวเขายังหลงเหลือพลังของมันอยู่ ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายได้ง่าย ๆ!
หากให้ลวี่เหลียงรักษาเองคนเดียว คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามเดือน!
และเขาก็ต้องกำจัดพลังเสือร้ายที่หลงเหลืออยู่ในบาดแผลให้ได้เสียก่อน!
ทว่าด้วยสมุนไพรที่ผู้อาวุโสทาให้ พลังที่หลงเหลืออยู่ของพยัคฆ์ตัวนั้นถูกกำจัดออกไปจนหมดในทันที นับเป็นเรื่องที่น่าทึ่งยิ่งนัก!
‘ฝีมือของผู้อาวุโสช่างยากจะหยั่งถึงเสียจริง!’
ชายชราเอ่ยในใจอย่างจริงจัง
หลังจากที่หลี่จิ่วเต้าทายาลงบนแผลของอีกฝ่ายเสร็จ เขาก็ใช้ผ้าพันแผลพันทับเอาไว้
“เมื่อผ่านไปสิบวันแล้วท่านผู้เฒ่าค่อยเอาผ้าออกนะขอรับ ข้ารับรองว่าแผลของท่านจะหายดีอย่างแน่นอน!”
ชายหนุ่มกล่าวกับลวี่เหลียงด้วยรอยยิ้ม
สิบวัน?
…ไม่ใช่ว่าแผลหายหมดแล้วหรอกหรือ?
ลวี่เหลียงงุนงงยิ่ง เหตุใดเขาต้องรอสิบวันด้วย?
‘ข้าเกือบเข้าใจผิดไปเสียแล้ว เห็นได้ชัดว่าสมุนไพรยังคงมีพลังเหลืออยู่มาก ผู้อาวุโสกล่าวเช่นนี้ เพียงเพราะต้องการให้ผลของยาแพร่กระจาย และทำงานอย่างเต็มที่เท่านั้นเอง!’
เมื่อชายชราคิดเองเออเองเสร็จสรรพก็รีบเอ่ยออกมา
“ขอบคุณ ขอบคุณ!”
ลวี่เหลียงขอบคุณยกใหญ่ พลังของสมุนไพรช่างน่าอัศจรรย์ใจโดยแท้
หลังผ่านไปสิบวัน ไม่ต้องพูดถึงบาดแผลเลย ทั้งร่างกายของเขาคงจะได้รับประโยชน์อย่างใหญ่หลวงเป็นแน่ ไม่เพียงเท่านั้นกำลังวังชาของเขาก็คงดีขึ้นด้วย!
“ท่านผู้เฒ่าสุภาพเกินไปแล้ว นี่เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้เลย”
หลี่จิ่วเต้ายิ้มแล้วเอ่ยต่อ “ท่านผู้เฒ่ากำลังบาดเจ็บ เช่นนั้นควรจะพักผ่อนให้มาก หากไม่รังเกียจ ข้าขอเชิญท่านอยู่ทานมื้อเย็นด้วยกัน”
“ไม่รังเกียจเลย ไม่รังเกียจเลยสักนิด!”
ลวี่เหลียงรีบพูด
จะรังเกียจได้อย่างไร เป็นไปได้เขาอยากจะอยู่ที่นี่เลยด้วยซ้ำ
ลวี่เหลียงรู้สึกว่าตนช่างโชคดียิ่งนักที่ได้อยู่กับผู้อาวุโสที่ทรงพลังเช่นนี้ แม้จะอีกวินาทีเดียวก็ตาม
“เช่นนั้นท่านผู้เฒ่าโปรดรอที่นี่สักประเดี๋ยว ข้าจะไปซื้อไก่และปลามาทำอาหารให้ท่าน”
“ข้าไปซื้อเอง ท่านช่วยชีวิตข้าไว้ จะให้ท่านเสียเงินอีกได้อย่างไร”
“ข้าเป็นเจ้าบ้าน จะให้แขกไปซื้อของได้อย่างไร ท่านผู้เฒ่านอนพักเถิด”
หลี่จิ่วเต้าเดินออกจากบ้านด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะมายังตลาดสด
“คุณชายหลี่มาซื้อผักแล้ว! นี่คือผักที่ข้าเพิ่งเด็ดมาสด ๆ เลย คุณชายหลี่ เอากลับไปกินเถิด!”
“นี่เป็นปลาที่ข้าเพิ่งตกได้วันนี้เลย คุณชายหลี่เอาไปสักสองตัวสิ!”
ผู้คนในตลาดต่างกระตือรือร้นมาก ใช้เวลาไม่นานนัก มือของหลี่จิ่วเต้าก็เต็มไปด้วยผักสดและเนื้อสัตว์
ตลอดมาหลี่จิ่วเต้ามักจะกระทำคุณงามความดีไว้เสมอ ด้วยเหตุนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ในเมืองชิงซานจึงเคารพหลี่จิ่วเต้ามาก
ชายหนุ่มไม่สามารถปฏิเสธได้แม้ว่าจะเอ่ยแย้งแล้วก็ตาม ทำให้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับมา แต่ถึงอย่างนั้น เขายังคงแอบทิ้งเงินไว้ให้คนเหล่านั้นอยู่ดี
อีกด้านหนึ่ง ลวี่เหลียงเดินออกมาจากลานบ้าน แล้วก้าวเข้าไปในร้านด้านหน้า
เมื่อเข้ามา ชายชราก็ได้เห็นศิลปะคัดลายมือพู่กันกับภาพวาดแขวนบนร้านอันไม่ธรรมดา ลายเส้นเปี่ยมไปด้วยพลังอันน่าอัศจรรย์ใจ แต่เพราะตอนนั้นตนถูกหลี่จิ่วเต้าพาไปที่ลานด้านหลังก่อน จึงไม่ได้มองให้ดี
“ทั้งพู่กันคัดลายมือและภาพวาดพวกนี้… เป็นผู้อาวุโสทำเองหมดเลยหรือ!”
ดวงตาของลวี่เหลียงฉายชัดถึงความตกใจ มาตอนนี้ เมื่อได้ดูภาพวาดกับลายเส้นพู่กันคัดลายมือที่แขวนบนผนังอย่างดีแล้ว จิตใจของเขาเหมือนกับเจอระลอกคลื่นซัดสาด ให้รู้สึกกระสับกระส่ายและไม่สบายกายอย่างยิ่ง!
ภายในภาพวาดนั้น มีภูเขาสูงตระหง่านตั้งตรงกับร่างของคนผู้หนึ่งถือกระบี่ยืนอยู่บนยอดเขา ขณะยืนอยู่ชายผ้าคลุมก็โบกสะบัดไปตามลม ช่างดูสมจริงและน่าตื่นตาใจอะไรเช่นนี้!
“น่าเสียดายที่ข้าไม่รู้เคล็ดวิชากระบี่ ไม่เช่นนั้นข้าคง ‘เข้าใจ’ มันเป็นแน่!”
ลวี่เหลียงรู้สึกเสียดายยิ่ง
เขาสัมผัสถึงเจตจํานงแห่งกระบี่ในภาพนี้ได้ หากมีผู้ฝึกกระบี่ซึ่งเข้าใจเคล็ดกระบี่มาที่นี่ คนผู้นั้นต้องได้รับประโยชน์มากมาย และปีนขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งวิถีกระบี่อย่างแน่นอน!
ชายชรามองไปยังอีกภาพหนึ่ง
ในภาพวาดนี้ มีกิเลนยืนค้ำฟ้าดูสง่างามและน่าเกรงขาม นัยน์ตาราวกับสามารถมองทะลุผ่านสรรพสิ่ง ดุจตัวตนที่อยู่เหนือโลก!
“หากอสูรได้เห็นภาพวาดนี้ คงไม่แคล้วได้รับประโยชน์จากมันอย่างแน่นอน และไม่จำเป็นต้องสนใจกิเลนเสียด้วยซ้ำ!”
ลวี่เหลียงรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก กิเลนในภาพนี้นับว่ามีพลังสูงส่งไม่น้อย มันย่อมมีประโยชน์ต่อสัตว์อสูรมากมายเป็นแน่!
โชคร้ายที่เขาเป็นมนุษย์จึงไม่อาจได้รับประโยชน์อะไร
“สำนักเมฆาลับฟ้าของข้าฝึกฝนมรรคาแห่งฟ้าดิน หากมีภาพวาดด้วยก็คงจะดีไม่น้อย!”
ชายชราหายใจแทบไม่ออก ก่อนจะกวาดตามองหาภาพจิตรกรรมภูมิทัศน์ต่อ
ภาพวาดเหล่านี้ช่างสุดยอดยิ่งนัก หากหาภาพที่ต้องการได้ เขาคงสามารถบรรลุขอบเขตหลังจากที่ติดอยู่มานานได้เป็นแน่!
“เจอแล้ว!”
ลวี่เหลียงมีความสุขทันทีที่หาภาพจิตรกรรมภูมิทัศน์เจอ ในภาพวาดนั้นมีทั้งภูเขา สายน้ำ พงไพรมากมายรวมไปถึงพืชพันธุ์ต่าง ๆ ดูยิ่งใหญ่ตระการตานัก!
ผู้เฒ่าจดจ้องไปยังภาพวาดราวกับว่าตนได้เข้าไปในภาพ และมายังสถานที่ซึ่งมีอยู่ในภาพวาดแล้ว
โดยฉับพลันนั้นเอง ลวี่เหลียงถูกธรรมชาติของสวรรค์และโลกครอบงำในบัดดล!