รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1205 จั่วเหยียน ‘คุณชายทรงพลังยิ่ง!’
- Home
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1205 จั่วเหยียน ‘คุณชายทรงพลังยิ่ง!’
บทที่ 1205 จั่วเหยียน ‘คุณชายทรงพลังยิ่ง!’
……….
บทที่ 1205 จั่วเหยียน ‘คุณชายทรงพลังยิ่ง!’
จะไม่ให้สิ่งมีชีวิตตนนี้ตื่นเต้นได้อย่างไร หลังโอสถอยู่ในมือก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความเหนือชั้นอย่างชัดเจน เพียงแค่ได้กลิ่นก็รู้สึกผ่อนคลาย ทุกส่วนในร่างกายเริ่มมีพลังมากขึ้น!
หากหลอมกลั่นโอสถนี้ได้ ไม่ต้องสงสัยเลย เขาต้องพัฒนาขึ้นมากแน่!
เขาแทบอดใจรอที่จะเริ่มหลอมกลั่นโอสถชั้นยอดไม่ไหว
“หยุดมือ!”
ทันใดนั้นเองพลันมีเสียงตวาดดังขึ้นในความคิดเขาอย่างกะทันหัน เขาตกใจเสียจนยาชั้นยอดเกือบจะตกลงไปที่พื้น!
“ใคร?!”
เขากังวลอย่างถึงที่สุด ร่างกายตึงเครียด นี่คืออาณาเขตของเขา ผู้ใดกันที่เข้ามาได้อย่างเงียบเชียบ?
ไม่ต้องสงสัยเลย ผู้มานั้นต้องไม่ธรรมดายิ่ง เป็นศัตรูอันน่าหวาดหวั่น!
“โฮ่ง เจ้านำโอสถชั้นยอดที่พวกข้าปลูกไว้มาทำสิ่งใด?”
สุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงปรากฏตัวขึ้น สุนัขดำจับจ้องไปทางสิ่งมีชีวิตตนนั้นด้วยสายตาชั่วร้าย “ยังไม่รีบวางลงอีก!?”
“โอสถชั้นยอดที่พวกเจ้าปลูกเอาไว้หรือ? พวกเจ้าจะพูดก็พูดได้!”
สิ่งมีชีวิตนั้นอดเอ่ยออกมาไม่ได้ ไม่เชื่อในสิ่งที่สุนัขดำเอ่ยเลย
บัดซบ!
เขาอาศัยอยู่ที่นี่มานานจนไม่อาจนับ ไม่เคยพบเห็นสุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงมาก่อน เห็นได้ชัดว่าทั้งสองต้องการโอสถชั้นยอดในมือเขา…คิดแย่งชิงไป!
“พวกข้าย่อมมีหลักฐาน”
สุนัขดำเอเย “เจ้าตรวจดูตรงใบให้ดี ยามที่พวกข้าปลูกโอสถชั้นยอดนี้ได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้”
สิ่งมีชีวิตตนนั้นเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ตรวจดูใบของโอสถชั้นยอด
“ไม่ใช่สิ!”
เขาตื่นตะลึง เห็นร่องรอยสุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงบนใบไม้จริง ๆ ทั้งยังมีรูปสุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงอยู่ด้วย!
สวรรค์ เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?
สุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงได้ปลูกโอสถชั้นยอดเอาไว้ที่นี่นานแล้ว แต่เขากลับไม่รู้ จึงสร้างอาณาเขตตนเองขึ้นพบยอดโอสถที่ปลูกเอาไว้?
หลังจากนั้นเมื่อโอสถชั้นยอดโตเต็มที่ สุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงจึงมาที่นี่เพื่อเก็บเกี่ยวหรือ?!
นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
เขารู้สึกค่อนข้างน่าเหลือเชื่อ แต่เขาก็ต้องเชื่อ เพราะบนใบไม้มีร่องรอยอยู่ พิสูจน์ว่าสุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงไม่ได้พูดปด
“นี่เป็นโอสถชั้นยอดที่พวกเจ้าปลูกขึ้นมา เช่นนั้นข้าคืนให้พวกเจ้า!”
เขาเอ่ยด้วยความรู้สึกไม่เต็มใจยิ่ง แต่ก็ยังคงตั้งใจคืนโอสถล้ำค่าให้สุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียง
สุนัขดำกับนักพรตอู๋เหลียงเข้ามาด้านในอาณาเขตเขาได้อย่างไร้สุ้มเสียง ดังนั้นย่อมต้องแข็งแกร่งมากอย่างไม่ต้องสงสัย เขาไม่ต้องการสู้กับสุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียง เพราะกลัวจะเกิดเรื่องนอกเหนือความคาดหมายขึ้น
อย่างไรเสียนี่ก็เป็นร่างต้นของเขา ไม่อาจให้เกิดปัญหาใดขึ้นได้!
สุนัขดำตวาดอย่างเย็นชา “เจ้ารู้หรือไม่ โอสถชั้นยอดถูกเจ้าเก็บเกี่ยวก่อนกำหนดทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก!”
“หมายความว่าอย่างไร?”
สื่งมีชีวิตตนนั้นสีหน้าแปรเปลี่ยนเมื่อได้ยินคำพูดสุนัขดำ นี่ตั้งใจจะข่มขู่เขาอย่างนั้นหรือ?
“เจ้าเอ่ยว่าหมายความว่าอย่างไรหรือ!”
สุนัขดำตวาด “โอสถชั้นยอดของพวกข้าใช้เวลานานปีจนไม่อาจนับเพื่อปลูกขึ้นมา แต่เจ้ากลับเก็บเกี่ยวล่วงหน้า แล้วเอ่ยจะคืนให้กับพวกข้า เช่นนี้ได้หรือ?”
มันกล่าวต่อด้วยเสียงเย็นชา “โอสถชั้นยอดนั้นยังไม่สุกงอมเต็มที่ยังพิเศษถึงเพียงนี้ หากสุกงอมเต็มที่จะพิเศษขนาดไหน? เจ้าได้ทำเรื่องผิดมหันต์ เป็นบาปที่ไม่อาจให้อภัยได้!”
“ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด นอกจากนี้เจ้าบอกว่ามันยังไม่สุกงอม เช่นนั้นมันจึงไม่สุกงอมหรือ? ข้าจะรู้ว่ามันสุกงอมได้อย่างไร?!”
สิ่งมีชีวิตตนนั้นกัดฟันเอ่ย
ทุกอย่างล้วนมาจากคำพูดฝ่ายเดียวของสุนัขดำ หากเขามองออกว่าโอสถชั้นยอดยังโตไม่เต็มที่ ก็คงไม่นำมันออกมาแล้ว
ด้วยระดับอย่างเขา กระทั่งโอสถเติบโตเต็มที่หรือเปล่าก็ยังมองไม่ออกอีกหรือ?
เขาสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าโอสถนี้โตเต็มที่แล้ว แต่สุนัขดำต้องการข้ออ้างในการข่มขู่เขา!
“ยังมาเล่นลิ้น หยิบยกความคิดอย่างผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิดออกมา นี่นับว่ามีความผิดมากขึ้น!”
สุนัขดำตะโกน “ในเมื่อเจ้ามีความคิดอย่างนี้ เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอันใดแล้ว หนทางเดียวในการไถ่โทษคือความตาย!”
พลังอันน่าสะพรึงกลัวบนร่างของมันพลุ่งพล่านทะลวงขึ้นฟ้าสูง สร้างแรงกดดันอันไร้ที่สิ้นสุด ทำให้สิ่งมีชีวิตตนนั้นตัวสั่นสะท้านตื่นตระหนักขึ้นมาทันที!
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
สิ่งมีชีวิตตนนั้นตื่นกลัว สัมผัสได้ถึงแรงคุกคามจากความตายอย่างชัดเจน ต่อหน้าสุนัขสีดำ เขาประหนึ่งลูกแกะตัวน้อย ส่วนสุนัขดำคืออสูรร้ายอันไร้หนทางเทียบได้!
ไม่สงสัยเลย ว่าหากสุนัขดำต้องการ อีกฝ่ายสามารถฉีกกระชากเขาออกเป็นชิ้น ๆ ได้ทันที สังหารเขาลงโดยสมบูรณ์!
“พี่ชายสุนัข อย่าได้โมโหไปเลย คุณชายกำลังรวบรวมกำลังพลอยู่ไม่ใช่หรือ? ข้าเห็นว่าคนผู้นี้ก็ไม่เลว ให้เขาเข้าร่วมกองกำลังคุณชายเพื่อชดใช้ความผิดก็ได้”
จากนั้นก็หันไปเอ่ยกับสิ่งมีชีวิตตนนั้นว่า “ข้าขอถาม เจ้าเต็มใจเข้าร่วมกองกำลังคุณชาย พยายามสุดความสามารถเพื่อคุณชาย ชดใช้ความผิดของเจ้าหรือไม่?!”
“ข้าเต็มใจ!”
สิ่งมีชีวิตตนนั้นตะโกนออกมาอย่างเร่งรีบ
เขาไหนเลยจะมีทางเลือกนอกจากตอบตกลง ไม่เช่นนั้นคงถูกสุนัขดำฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ในทันที
แต่เขากลับมีความรู้สึกคลุมเครืออยู่ในใจ รู้สึกเหมือนว่าตนเองกำลังโดนหลอก ทุกอย่างเป็นกับดัก ส่วนสุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงนั้นรอให้เขากระโจนลงไปในกับดัก!
อีกทั้งความรู้สึกดังกล่าวยังรุนแรงนัก เพียงแต่เขาไม่มีหลักฐานอันใด!
“ก็ได้ แต่ข้าไม่ต้องการบังคับคนให้เข้าร่วม”
สุนัขดำมองสิ่งมีชีวิตตนนั้นแล้วเอ่ยออกมา “ข้าถามเจ้า เต็มใจเข้าร่วมกองกำลังคุณชายหรือไม่?”
“เต็มใจ ข้าเต็มใจเข้าร่วม!”
สิ่งมีชีวิตตนนั้นตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ดี”
สุนัขดำยิ้ม เก็บพลังทั้งหมดกลับไป เลิกกดดันสิ่งมีชีวิตตนนั้น สิ่งไปโอบคออีกฝ่ายทั้งที
“เต็มใจเข้าร่วม เช่นนั้นก็ไม่มีเรื่องอันใดแล้ว ทุกคนต่างเป็นสหายกัน!”
สุนัขดำกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เช่นนั้นโอสถชั้นยอดเหล่า?”
สิ่งมีชีวิตตนนั้นถามขึ้นอย่างระมัดระวัง
“ไม่เป็นไร นั่นแค่ภาพลวงตา ไม่ใช่ของจริง”
สุนัขดำกล่าวด้วยรอยยิ้ม โอสถล้ำค่าในมือสลายหายไปทันที!
บัดซบ!
ที่แท้ก็เป็นภาพลวงตาหรือ?!
สิ่งมีชีวิตตนนั้นโกรธมาก เขาถูกหลอกจริง ๆ นี่เป็นกับดักที่สุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงจงใจวางเอาไว้ รอให้เขากระโดดเข้าไป
ปัญหาคือกับดักก็กับดักเถิด สุนัขดำกับนักพรตอู๋เหลียงถึงกับไม่เต็มใจใช้โอสถชั้นยอด เลือกสร้างภาพลวงตาแทน!
เขารู้สึกคับข้องใจเป็นอย่างยิ่ง!
แต่เขาก็กระจ่างแจ้งชัดดี โมโหไปก็ไร้ประโยชน์ ขึ้นเรือมาแล้ว ไยจะลงได้โดยง่าย
สุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงจงใจวางกับดักเขาเช่นนี้ ไฉนจะปล่อยเขาลงเรือไปโดยง่าย? ไม่จำเป็นต้องคิดก็รู้ว่าไม่อาจเป็นไปได้
เขายังรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร หากไม่ทำเช่นนี้ มีเพียงผีเท่านั้นที่รู้ว่าสุนัขดำและนักพรตอู๋เหลียงจะทำสิ่งใดกับเขา
“ถูก ทั้งหมดเป็นสหาย ไปกันเถิด!”
เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม โอบสุนัขสีดำกลับอย่างกระตือรือร้น
…
หลี่จิ่วเต้าออกวาจา แผนการรวบรวมกองกำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว คนรอบกายหลี่จิ่วเต้าเคลื่อนไหว แต่ละคนสำแดงความพิเศษของตนเองออกมา
ณ จักรวาลโกลาหลแห่งหนึ่ง
จักรพรรดินีในอาภรณ์ขาวดูองอาจห้าวหาญ นางไม่ได้มีกลอุบายอันใดมากมายและก็ไม่ต้องการใช้ แผนการของนางเรียบง่ายยิ่ง กล่าวคำเดียวคือ สู้!
นางเปิดญาณสัมผัสไปทั่วจักรวาลโกลาหลในพริบตา
ภายใต้ญาณสัมผัสอันแข็งแกร่ง นางพบสิ่งมีชีวิตที่ถูกวิหารโบราณลึกลับส่งมาอย่างรวดเร็ว
“ยอดเยี่ยม”
นางก้าวออกไปด้านหน้า มาถึงตำแหน่งของสิ่งมีชีวิตนั้นทันที ทำให้สิ่งมีชีวิตนั้นตกตะลึง
“เจ้าเป็นใคร?!”
สิ่งมีชีวิตตนนั้นตึงเครียดยิ่ง เขาจะไม่ตึงเครียดได้อย่างไร ถูกหาร่างต้นพบเช่นนี้ นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ยิ่ง
“ข้าเป็นใครไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือข้าต้องการสู้กับเจ้า!”
จักรพรรดินีไม่เอ่ยอันใดมาก ยื่นหอกยาวสีทองชี้ไปยังสิ่งมีชีวิตนนั้นเพื่อแสดงเจตจำนงของนาง
นางพุ่งตรงไปด้านหน้า ไม่ปล่อยโอกาสให้สิ่งมีชีวิตตนนั้นหลีกเลี้ยงการต่อสู้
ตู้ม!
ความว่างเปล่าระเบิด สิ่งมีชีวิตตนนั้นได้แต่กัดฟันต่อสู้กับจักรพรรดินีไม่มีทางเลือกอื่น
จักรพรรดินีดุดันยิ่ง เจตจำนงการต่อสู้สะท้านฟ้า นางแข็งแกร่งเกินไป เพียงไม่กี่อึดใจสิ่งมีชีวิตตนนั้นก็พ่ายแพ้ เขาครอบครองพลังเพียงขั้นสิบสองขอบเขตอัคร มีช่องว่างแตกต่างจากจักรพรรดินีมากเกินไป
“จบสิ้นแล้ว…”
สิ่งมีชีวิตตนนั้นหน้าซีดเซียว แววตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
จักรพรรดินีแข็งแกร่งเกินไป ร่างต้นเขาไม่อาจเปรียบเทียบได้ วิชาและพลังทั้งหมดถูกใช้ออกมาแล้ว แต่ไม่อาจหยุดยั้งการโจมตีของจักรพรรดินีได้ อีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าหลายเท่า!
นี่เป็นช่องว่างที่ไม่อาจก้าวข้ามได้!
เขาสิ้นหวัง เหล่าสิ่งมีชีวิตเช่นพวกเขาล้วนเป็นศัตรูไม่อาจอยู่ร่วม ยามนี้เขาพ่ายแพ้ในเงื้อมมือของจักรพรรดินี ผลลัพธ์มีเพียงหนทางตายเท่านั้น
จักรพรรดินีไม่มีทางปล่อยเขาไป
“เจ้าอย่าเป็นเช่นนี้ ข้าสู้กับเจ้าไม่ใช่เพราะต้องการสังหารเจ้า”
จักรพรรดินีมองเห็นถึงความสิ้นหวังของสิ่งมีชีวิตตนนั้น และก็รู้ว่าสิ่งมีชีวิตตนนั้นสิ้นหวังด้วยเหตุใด “ข้าสู้กับเจ้า เพียงแค่ต้องการให้เจ้าไปกับข้า คุณชายกำลังรวบรวมกำลังพลเพื่อโค่นล้มวิหารโบราณลึกลับ สำหรับเจ้าแล้ว นี่เป็นโอกาสหายากอย่างแท้จริง”
“ไม่จำเป็นต้องพูดอันใดมาก เจ้าเองก็สมควรเข้าใจ เจ้าไม่อาจอยู่จนกลายเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด”
สิ่งมีชีวิตตนนั้นก้มหัวลง
ใช่แล้ว ทุกอย่างเป็นเหมือนที่จักรพรรดินีพูด เขาอ่อนแอเกินไป ไม่มีทางอยู่จนกลายเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด นี่นับเป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้น
“ตกลง ข้าไปกับเจ้า”
สุดท้ายเขาก็เงยหน้าเอ่ยกับจักรพรรดินี
อย่างไรเสียเลือกทางใดล้วนมีแต่หนทางตาย แต่หนทางนี้ดูมีความหวังอยู่บ้าง แม้เพียงน้อยนิดก็ตาม
“ดี”
จักรพรรดินีพยักหน้า พาสิ่งมีชีวิตตนนั้นออกไป รวบรวมกองกำลังต่อ
…
อีกด้านหนึ่ง หลังหลอมกลั่นมาหลายวัน จั่วเหยียนก็หลอมกลั่นพลังของโอสถได้เสร็จสิ้น
สิ่งนี้ทำให้เขาตกตะลึง คาดไม่ถึงเป็นอย่างมาก
โอสถเหล่านี้ไม่ธรรมดาเลย เป็นความทุ่มเทเพียรพยายามของตันชิงจื่อ หลอมจากวัตถุดิบหายากหลากหลาย แต่ละเม็ดเปี่ยมด้วยพลังน่าอัศจรรย์ เกรงว่าต่อให้เป็นเขา หากคิดหลอมกลั่นขึ้นมาสักเม็ดย่อมใช้เวลายาวนานยิ่ง
เดิมทีเขาไม่ได้วางแผนจะหลอมกลั่นโอสถทั้งหมด เขาคิดว่าจะหลอมกลั่นเพียงหนึ่งหรือสองเม็ดให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น จากนั้นจึงเริ่มแผนการจัดการทรี
แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาอยู่เหนือความคาดหมายของเขา
เขาหลอมกลั่นพลังของโอสถทั้งหมดได้ภายในไม่กี่วัน ทำให้พลังทั้งหมดกลายเป็นของตนเองโดยสมบูรณ์!
ตอนนี้เขาแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก!
แน่นอน เขาไม่รู้ว่าตนเองแข็งแกร่งเพียงใดเหมือนเดิม ขอบเขตนี้ไกลเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมถึงได้มาก่อน
‘สมควรเป็นเพราะข้าหลอมกลั่นโอสถครึ่งเม็ดที่คุณชายมอบให้!’ เขาคิด
แม้โอสถที่คุณชายมอบให้จะมีเพียงครึ่งเม็ด แต่ประสิทธิ์ผลยังคงเหนือชั้น แทบไม่จำเป็นต้องหลอมกลั่นอันใด พลังของโอสถก็หลอมรวมเข้ากับร่างเขา กลายเป็นพลังของเขาเอง
เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว ผลของโอสถที่ยังหลงเหลือในร่าง ทำให้เขาหลอมกลั่นโอสถเหล่านั้นได้ภายในเวลาไม่กี่วันก็เสร็จสิ้น
‘หากคุณชายมอบโอสถสมบูรณ์ให้ข้า การหลอมกลั่นโอสถเหล่านี้ บางทีอาจไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหลายวันเสียด้วยซ้ำ ทั้งหมดล้วนเสร็จสิ้นใจชั่วพริบตา!’ เขาคิด
“คุณชายแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
ขณะเดียวกันเขาก็เต็มไปด้วยความเคารพชื่นชมในตัวคุณชาย โอสถที่มีประสิทธิผลท้าทายสวรรค์เช่นนี้ ไม่ใช่ว่าใครก็หลอมออกมาได้ คุณชายช่างเหนือชั้นไร้ที่เปรียบอย่างแท้จริง!
“เริ่มดำเนินการ ทำให้ภารกิจที่เกินมาเสร็จสมบูรณ์!”
ดวงตาเขาเปล่งประกาย เก็บความคิดอื่น ๆ เข้าไป เริ่มวางแผนจัดการกับซี
ครั้งนี้เขาให้ความสำคัญอย่างถึงที่สุด ตัดสินใจใช้ร่างต้นลงมือ
เขาปลอมตัวเป็นซี แสร้งว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังตรวจทุกอย่างแล้วไม่พบปัญหาอันใด เขาก็สั่งให้ร่างวัชระจั่วเหยียนบอกเหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ให้ทำตามแผนการที่ตกลงไว้
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการที่วางไว้ พวกจ้าวแดนพิสุทธิ์มารวมตัวกันจากนั้นก็เกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่
แน่นอน ทั้งหมดเป็นเพียงการแสดงเพื่อล่อทรีให้ออกมา
“ทรี มาเร็วเข้า พวกข้าบังเอิญพบซีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสด้านนอก!”
หรูเยวียติดต่อทรีตามที่ตกลงไว้ นางมีศาสตราที่ติดต่อกับทรีได้
“จริงหรือ?”
เสียงทรีที่ดังจากอีกฝั่งศาสตราสื่อสารมีความประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้คาดหวังโดยสิ้นเชิง
อย่างไรเสียหลี่จิ่วเต้าก็แข็งแกร่งเกิน ในฐานะสตรีของหลี่จิ่วเต้า โอกาสที่ซีจะได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้นมีน้อยยิ่ง
“จริง! พวกข้าเองก็ไม่รู้ว่านางได้รับบาดเจ็บเช่นไร อาจมีตัวตนอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเป้าไปที่หลี่จิ่วเต้า ลงมือกับคนรอบกายเขา!”
หรูเยวียตอบอย่างรวดเร็ว “ดูเหมือนหลี่จิ่วเต้ากำลังรวบรวมกองกำลัง ทุกคนรอบกายเขาจึงแยกย้ายออกไป! ทำให้ซีถูกลอบโจมตีได้!”
แผนการรวบรวมกำลังพล นี่ไม่ใช่สิ่งที่จั่วเหยียนเอ่ยออกไป แดนฝังศพให้ความสำคัญกับสถานการณ์ภายนอกมาก รู้ตั้งนานแล้วว่าทุกคนรอบกายหลี่จิ่วเต้าต่างแยกย้ายออกไปด้านนอกเพื่อรวบรวมกำลังพล
นางจงใจพูดเรื่องรวบรวมกำลังพลครั้งนี้เพื่อให้ทรีเชื่อ
ทรีเองก็สมควรรู้ได้ถึงเรื่องการเคลื่อนไหวรวบรวมกำลังพลของหลี่จิ่วเต้า
“เช่นนั้นหรือ?”
ทรีที่อยู่อีกฝั่งศาสตราสื่อสารค่อนข้างจะเชื่อ
นางรู้อยู่แล้วว่ามีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากถูกวิหารโบราณลึกลับส่งมา แต่ทั้งหมดล้วนเร้นกายไม่ยอมโผล่หัว และก็รู้ว่าหลี่จิ่วเต้าได้เริ่มแผนการรวบรวมกำลังพล ส่งคนข้างกายออกไปเคลื่อนไหวด้านนอก
นี่มีความเป็นไปได้จริง ๆ ที่ตัวตนอันน่าสะพรึงกลัวจะมุ่งเป้าไปที่หลี่จิ่วเต้า และลงมือกับคนรอบกายเขา
“อาจเป็นไปได้ว่าซีต้องการรวบรวมกำลังพลจากสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวนั่น แต่ถูกปฏิเสธ ทั้งยังได้รับบาดเจ็บจากสิ่งมีชีวิตตนนั้น!”
ดวงตาทรีสว่างวาบ นางเริ่มเชื่อมากขึ้นเรื่อย ๆ
……….