รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1192 สร้างของปลอม กำหนดกฎเกณฑ์เอง!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1192 สร้างของปลอม กำหนดกฎเกณฑ์เอง!
บทที่ 1192 สร้างของปลอม กำหนดกฎเกณฑ์เอง!
…………….
บทที่ 1192 สร้างของปลอม กำหนดกฎเกณฑ์เอง!
ริเริ่มปล่อยสัญญาณพันธมิตร เพื่อลากให้เหล่าตัวแปรผิดแผกมาเข้าร่วม ถือเป็นหนทางเดียวที่ทำได้
ไม่ว่าเหล่าตัวแปรผิดแผก หรือห้ามหากองกำลังกับแดนฝังศพ ต่างซ่อนตัวลึกยิ่ง ไม่ทิ้งร่องรอยใดเอาไว้ หากหานว่านเชียนไม่ส่งสัญญาณความร่วมมือเพื่อจัดการกับหลี่จิ่วเต้า ตัวตนทั้งหมดเหล่านี้คงไม่ปรากฏตัวออกมาพบหน้ากัน
สัญญาณที่เปิดเผยโจ่งแจ้งเช่นนี้ หลี่จิ่วเต้าย่อมรับรู้ได้ ดังนั้นหานเวียนเชียนที่คิดเรื่องนี้แล้วก็น่าจะมีมาตรการรับมือไว้ตั้งแต่แรก
“แผนการอันใด?”
ตัวแปรผิดแผกใหม่อย่างอิ่นเฟิงดวงตาเปล่งประกายเอ่ยถาม
หลี่จิ่วเต้ามีโอกาสมากที่จะล่วงรู้ถึงปฏิบัติการร่วมมือของพวกเขาแล้ว ร่างต้นยังจะปรากฏออกมาอีกหรือ ไม่ว่าคิดอย่างไร ก็ดูไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง!
จับคนรอบกายหลี่จิ่วเต้าเพื่อบีบบังคับให้ร่างต้นหลี่จิ่วเต้าปรากฏออกมาหรือ?
เป็นไปได้อย่างไร!
มาถึงระดับนี้แล้ว ไฉนยังมีผู้ให้ความสำคัญกับความรู้สึก แม้หลี่จิ่วเต้าจะให้ความสำคัญกับความรู้สึกจริง แต่ไม่ถึงขั้นยอมนำร่างต้องออกมาแน่นอน
อย่างไรเสียพวกเขาทั้งหมดร่วมมือกันแล้ว หลี่จิ่วเต้าต้องกระจ่างชัดว่าออกมาก็มีเพียงหนทางตาย ไม่อาจช่วยเหลือคนรอบกายได้ มีแต่จะสิ้นชีพโดยเปล่า
“ทุกท่าน ข้าขอถามสักคำถาม ภายใต้สถานการณ์ใดร่างจริงเขาถึงจะปรากฏออกมา?”
หานว่านเชียนถามอย่างมั่นใจยิ่ง
“ย่อมเป็นยามที่ศึกตัดสินครั้งสุดท้ายเริ่มขึ้น”
ไป๋ซานกล่าว “ศึกตัดสินสุดท้ายเริ่มต้นขึ้น ร่างต้นของเขาจำต้องออกมาเข้าร่วมการต่อสู้ เพียงแค่ร่างแปลงไม่อาจไร้เทียมทานกวาดล้างทุกสิ่งได้”
“ใช่”
หานว่านเชียนพยักหน้า “หลังศึกตัดสินสุดท้ายเริ่มขึ้น ร่างต้นเขาจำต้องเข้าร่วมการต่อสู้”
“เจ้าหมายถึง?!”
ดวงตาไป๋ซานเปล่งประกาย คล้ายคาดเดาแผนการหานว่านเชียนได้ แต่ยังไม่กล้าฟันธง
สิ่งมีชีวิตอื่นเองก็มีความคิดเหมือนกัน หานว่านเชียนต้องการเริ่มศึกตัดสินสุดท้ายล่วงหน้าหรือ?
“ใช่ สิ่งที่ข้าต้องการคือเริ่มศึกตัดสินสุดท้ายล่วงหน้า!”
หานว่านเชียนกล่าว “ด้วยความร่วมมือของพวกเราทุกคน การสร้างวิหารโบราณลึกลับปลอมสมควรไม่มีปัญหาอันใดใช่หรือไม่?”
เขาบอกแผนการ สร้างวิหารโบราณลึกลับปลอม ลั่นฆ้องศึกตัดสินครั้งสุดท้าย ลากร่างต้นหลี่จิ่วเต้าออกมา!
ดังที่เขากล่าว เมื่อบรรดาตัวแปรผิดแผกร่วมมือ แม้หลี่จิ่วเต้าแข็งแกร่งเพียงใด ก็ย่อมไม่มีทางค้นพบร่องรอย ต้องถูกหลอกอย่างแน่นอน!
“หลังสร้างวิหารโบราณลึกลับขึ้นมาแล้ว ก็วางกฎเกณฑ์ของพวกเรา กำหนดสมรภูมิของพวกเราขึ้นมาเอง สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต้องเข้าสนามรบเพื่อทำการต่อสู้ ไม่เช่นนั้นจะสูญเสียสิทธิ์ ถูกวิหารโบราณลึกลับกำจัด”
หานว่านเชียนเอ่ย
กำหนดสมรภูมิก็เพื่อสร้างข้อจำกัด ให้หลี่จิ่วเต้าไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงใช้ร่างต้นเข้าต่อสู้
“ลองคิดดูเถิด ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้เขาจะมีข้อสงสัย สุดท้ายก็ยังต้องเข้าสมรภูมิ อย่างไรเสีย หากเป็นเรื่องจริงแล้วเขาไม่เข้าสนามรบ ก็มีเพียงหนทางตาย”
หานว่านเชียนเอ่ยด้วยดวงตาที่หรี่ลง
แผนการนี้เด็ดขาดอย่างแท้จริง ดังเช่นที่หานว่านเชียนกล่าว ถึงหลี่จิ่วเต้าจะมีข้อสงสัย แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอน เขาต้องเลือกเข้าสนามรบอย่างแน่นอน เนื่องจากหากไม่มา ก็หลงเหลือเพียงหนทางตายเท่านั้นแล้ว
ไม่มีผู้ใดอยากตาย หลี่จิ่วเต้าเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นอย่างแน่นอน
“แผนจะว่าดีก็ดี แต่พวกเราจะไม่ถูกวิหารโบราณลึกลับชำระความในภายหลังใช่หรือไม่?”
สตรีงามล้ำ…อันจิ้งซิน กล่าวขึ้น คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความกังวล พวกเขาแสร้งทำเป็นวิหารโบราณลึกลับเพื่อกำหนดสมรภูมิรบ สร้างกฎเกณฑ์ขึ้นมา หลังจากนี้เขาอาจถูกวิหารโบราณลึกลับชำระความได้
“ใช่แล้ว!”
นกกระสาขาว…ไป๋หมิงกังวลเช่นเดียวกัน “แผนการนี้เคลื่อนไหวใหญ่โตเกินไปจริง ๆ มีความเป็นไปได้ที่ต้องจ่ายราคาสูงในตอนท้าย!”
“ชำระความแล้วอันใด?”
หานว่านเชียนกล่าวเสียงลุ่มลึก “ต่อให้ถูกชำระความ พวกเราก็ต้องทำเช่นนั้น! หากไม่ทำแล้วจะบังคับให้หลี่จิ่วเต้านำร่างต้นออกมาได้อย่างไร ถ้าเขาซ่อนตัวจนถึงท้ายที่สุด ใครในพวกเราจะจัดการเขาได้?”
เขากล่าวต่อ “หากสายไปก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้ ผู้ใดรู้กันว่าหลังวิหารโบราณลึกลับมาถึงจะตั้งกฎเกณฑ์ใดสำหรับศึกตัดสินครั้งสุดท้ายหรือไม่? หากมีกฎเกณฑ์บางอย่างถูกกำหนดขึ้นมาจริง ๆ เช่นพวกเราไม่อาจเป็นพันธมิตรกันได้ ถึงยามนั้น พวกเจ้าล้วนต้องพ่ายแพ้และถูกสังหารภายใต้เงื้อมมือหลี่จิ่วเต้ากระมัง?”
นี่ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้
วิหารโบราณลึกลับมาถึง มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างข้อกำหนดขึ้นมา สถานการณ์ที่ดีที่สุดคือพวกเขาสามารถร่วมมือเป็นพันธมิตรกันได้ จับมือรอจนกว่าร่างต้นหลี่จิ่วเต้าจะปรากฏออกมา
แต่วิหารโบราณลึกลับเองก็อาจกำหนดให้พวกเขาไม่อาจเป็นพันธมิตรกันได้ ไม่ยอมให้ร่วมมือกัน เช่นนั้นจะทำให้พวกเขายากลำบากยิ่ง
หลังจากเอ่ยจบแล้ว สิ่งมีชีวิตทั้งหมดก็จมลงสู่ห้วงความคิด
ใช่แล้ว เรื่องในอนาคตใครก็บอกไม่ได้ หากไม่อาจร่วมมือกันได้จริง พวกเขาต้องเผชิญกับภัยอันตรายครั้งใหญ่อย่างแน่นอน
หลี่จิ่วเต้าที่เป็น ‘หนามยอก’ และ ‘ม้ามืด’ อันน่าสะพรึงกลัวจำเป็นต้องถูกกำจัดเสียก่อน!
“ลงมือเถิด!”
“วิหารโบราณลึกลับไม่มีกฎว่าพวกเราไม่อาจทำเช่นนี้ได้ ถึงแม้ทำแล้วก็ยังเอ่ยอ้างได้ อาจไม่ต้องรับผิดชอบอันใด!”
“ถูก!”
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ตัดสินใจดำเนินการตามแผนดังกล่าว
“สมรภูมิพวกเราทุกคนร่วมตั้งขึ้นมา ทุกท่านสมควรวางใจได้”
หานว่านเชียนกล่าว “ดังนั้น ข้าหวังว่าพวกเราทั้งหมดจะเข้าสู่สมรภูมิด้วยร่างต้นเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้เขาสงสัย”
“นี่นับว่าจำเป็น”
“ไม่มีปัญหา”
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดตอบรับ กระจ่างชัดว่าพวกเขาจำต้องใช้ร่างต้นเข้าสมรภูมิ หากพวกเขาทั้งหมดใช้ร่างแปลง หลี่จิ่วเต้าย่อมต้องสงสัยอย่างแน่นอน
แน่นอน พวกเขาล้วนฉลาดเฉลียวทั้งยังเจ้าเล่ห์ ร่างต้นเข้าสมรภูมิ ไม่ได้หมายความว่าจะทิ้งร่างต้นไว้ในสมรภูมิ
อย่างไรเสียหลังจัดการหลี่จิ่วเต้าแล้ว พวกเขานับว่ากลายเป็นศัตรูกันอีกครั้ง ผู้ใดจะกล้าทิ้งร่างต้นเอาไว้ในสมรภูมิกัน เว้นแต่เพียงต้องการตาย!
หากทิ้งร่างต้นเอาไว้ในสมรภูมิ หลังหลี่จิ่วเต้าถูกจัดการแล้ว ร่างต้นที่เหลืออยู่จะต้องกลายเป็นเป้าหมายร่วมของสิ่งมีชีวิตอื่นแน่นอน!
ไม่จำเป็นต้องสงสัยจุดนี้แม้แต่น้อย
ใครให้สุดท้ายมีผู้ชนะเพียงคนเดียว!
“เหอะ ครั้งนี้มีโอกาสอย่างมากที่ผู้ซ่อนตัวอยู่หลายคนจะถูกลากออกมาด้วย ข้อเสนอของข้าคือกำจัดทิ้งด้วย”
หานว่านเชียนเอ่ยเสียงเย็นชา เขารู้สึกว่าจะต้องมีผู้ที่หลบซ่อนอยู่ไม่ยอมโผล่หัวออกมา
“ดี!”
“พวกเขาไม่ออกมา คิดนั่งรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้อย่างไร! หากมีคนซ่อนอยู่ถูกลากออกมาสมรภูมิ ย่อมต้องกำจัดทั้งหมด!”
สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ พยักหน้า
“กำจัดปลาซิวปลาสร้อยเหล่านั้นให้หมดด้วย”
หานว่านเชียนเอ่ยอีกครั้ง
จากนั้นพวกเขาก็เริ่มดำเนินการ เตรียมสร้างวิหารโบราณลึกลับขึ้นมา
นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรเสียการหลอกหลี่จิ่วเต้าก็ไม่ง่ายดาย พวกเขาตระหนักเรื่องนี้ดียิ่ง ดังนั้นเมื่อสร้างวิหารโบราณลึกลับขึ้นมาจึงจริงจังเป็นอย่างมาก ไม่มีการทำแบบขอไปที
สมบัติล้ำค่าหายากหลากหลายถูกร่างต้นของพวกเขาส่งมา พวกเขาปิดผนึกพื้นที่สร้างวิหารโบราณลึกลับขึ้นมา!
แน่นอน สิ่งนี้ไม่อาจทำเสร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น จำต้องใช้ระยะเวลาหนึ่ง ไม่มีทางใช้วิหารโบราณลึกลับที่เร่งสร้างให้แล้วเสร็จมาหลอกหลี่จิ่วเต้าได้
ขณะเดียวกัน ที่เมืองชิงซาน
พวกจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเสร็จสิ้นการหลอมกลั่นแล้ว แต่ละคนต่างครอบครองพลังอันแข็งแกร่ง!
“ศึกตัดสินครั้งสุดท้ายมาถึงหรือยัง? ข้าตั้งตารอคอยอยู่!”
จักรพรรดินีห้าวหาญ มือถือหอกยาวสีทอง เอ่ยกับจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง “เจ้าอย่าลืมช่วยข้านำความไปบอกคุณชายด้วย เมื่อถึงศึกตัดสินครั้งสุดท้าย โปรดแจ้งให้ข้าทราบทันที! ข้าจะตรงไปยังแนวหน้าสุด บุกเบิกทางให้คุณชาย!”
นางสันทัดด้านการรบ ครั้งหนึ่งเคยใช้ความเป็นตายมาลับคมตนเอง พัฒนาความแข็งแกร่งเพื่อให้กลายเป็นกำลังพลและสู้รบเพื่อหลี่จิ่วเต้า
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะกล่าวว่า ด้านประสบการณ์เป็นตายนั้น ไม่มีผู้ใดเทียบเท่านางแล้ว
“ตกลง!”
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงพยักหน้าอย่างจริง ตอบรับว่าจะนำความนี้ไปอย่างแน่นอน
หลังหลอมโอสถแล้ว เขาเตรียมกลับไปหาคุณชายพร้อมกระบี่ฉุนจวิน
“อย่าลืมพวกเราด้วย!”
“ใช่ พวกข้าเองก็จะไปยังแนวหน้า!”
พวกเมิ่งจีกล่าวกับจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงตอบกลับ จากนั้นก็กล่าวอำลา จากไปพร้อมกระบี่ฉุนจวิน
“สามี พวกเรากลับกันเถิด เตรียมพร้อมสำหรับศึกตัดสินครั้งสุดท้าย”
หลังจากจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงกับกระบี่ฉุนจวินลับตาไปแล้ว ฉินซินก็หันไปกล่าวกับสือเฟิงด้วยใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้ม
เตรียมพร้อมสำหรับศึกครั้งสุดท้าย?
อันใดกัน!
สือเฟิงมองดวงตาฉินซิน รู้ได้ทันทีว่าฉินซินคิดสิ่งใด เห็นได้ชัดว่าต้องการกลับไปทำอันใด!
แม้ตอนนี้เขาจะทรงพลังอย่างถึงที่สุด แต่ประสบการณ์ก่อนหน้านี้ยังทำให้เขาอดผวาหวาดกลัวขึ้นมาไม่ได้
เขารีบเอ่ยออกมา “ไม่ได้พบคนอื่นมานานแล้ว ข้าต้องการสนทนากับทุกคนก่อน ย้อนความหลังเก่า ๆ กัน”
“ไม่ต้องย้อนความหลังแล้ว กลับไปเตรียมตัวรับศึกตัดสินครั้งสุดท้าย! ข้าเองก็จะกลับไปเตรียมตัวด้วย!”
“ใช่ ข้าเองก็จะกลับไปเตรียมตัวด้วย!”
พวกเมิ่งจีต่างไม่ทราบสถานการณ์ คิดว่าฉินซินบอกให้สือเฟิงกลับไปเตรียมตัวจริง ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงต่างพากันบอกว่าตนเองก็ต้องการกลับไปเตรียมตัวด้วย
“แต่ข้าไม่ได้พบทุกคนมานานมากแล้ว ต้องการย้อนความหลังกับทุกคน!”
สือเฟิงใกล้ร้องไห้ออกมาแลว
“สามี ท่านโง่เขลาเกินไปแล้ว ศึกตัดสินครั้งสุดท้ายเป็นเรื่องใหญ่เพียงใด? แน่นอนว่าย่อมต้องเตรียมตัวให้ดี! เจ้าอย่าได้รั้งทุกคนเอาไว้เลย รีบไปกับข้าได้แล้ว!”
ฉินซินคว้าแขนสือเฟิง แล้วลากอีกฝ่ายออกไป
“ไอ๊หยา ไว้อาลัยให้กับเจ้า!”
ลานเล็กถอนหายใจ มองร่างของสือเฟิงที่ถูกลากออกไป
มันทราบสถานการณ์ดี
ยามร่างแปลงเยว่อู๋หมิงมายังอาณาจักรแห่งนี้ คิดลงมือกับสือเฟิงและฉินซิน แต่ถูกมันหยุดยั้งเอาไว้
เมื่อฉินซินลากสือเฟิงกลับไป มันก็เข้าใจว่าฉินซินต้องการทำสิ่งใด เห็นได้ชัดว่าต้องการพาสือเฟิงกลับไปสานต่อ ‘ความรัก’
“หมายความว่าอย่างไร? เหตุใดต้องไว้อาลัยให้สือเฟิงด้วย? เกิดอันใดกับสือเฟิง!”
สุนัขดำถามอย่างใครรู้
“ข้าบอกเพียงในช่วงอายุหนึ่ง สตรี…ประหนึ่งหมาป่าพยัคฆ์!”
ลานเล็กกล่าวอย่างล้ำลึก
อีกด้าน จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงและกระบี่ฉุนจวินกลับไปหาหลี่จิ่วเต้าอย่างรวดเร็ว
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงเอ่ยกับหลี่จิ่วเต้าว่าพวกเมิ่งจีต่างหลอมกลั่นโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ละคนครอบครองพลังแข็งแกร่งอย่างถึงที่สุด
ขณะเดียวกัน เขาได้บอกข้อความที่จักรพรรดินีและทุกคนส่งมาด้วย
“นับว่ามีใจแล้ว!”
หลี่จิ่วเต้าพยักหน้าจริงจัง
ความจริง ยามที่เขาหลอมโอสถให้กับทุกคน เขาไม่ได้คิดให้ทุกคนเข้าร่วมการต่อสู้
เขาเพียงต้องการให้ทุกคนครอบครองพลังใช้ปกป้องตนเองได้
อย่างไรเสียโลกหล้าในปัจจุบัน นับได้ว่าวุ่นวายเกินไปแล้ว!
เขารู้เรื่องวิหารโบราณลึกลับเป็นที่เรียบร้อย คนบ้าเล่าว่าวิหารโบราณลึกลับได้ส่งสิ่งมีชีวิตจำนวนมากเข้ามา อีกทั้งยังจะมาเยือนในอนาคตอีกไม่นานนี้ด้วย
สวรรค์เท่านั้นที่รู้ หลังจากวิหารโบราณลึกลับมาถึงแล้วจะทำสิ่งใดบ้าง จากคำของคนบ้า วิหารโบราณลึกลับไม่ใช่ตัวตนดีงามอันใด ชั่วร้ายเป็นอย่างมาก เป็นวิหารโบราณแห่งความเลวทราม
ยามนั้นหลังฟังคนบ้าเล่าจบ เขาต้องการโค่มล้มวิหารโบราณลึกลับขึ้นมาทันที!
ขณะเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาตั้งใจหลอมโอสถขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนแข็งแกร่งขึ้น
วิหารโบราณแห่งความชั่วร้ายสามารถทำได้ทุกสิ่ง หากทุกคนครอบครองพลังอันแข็งแกร่ง ก็จะไม่เกิดเรื่องขึ้น
จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงไม่ได้บอกว่าเขาถูกสวมรอย ร่างแปลงหานว่านเชียนถูกทำลายสิ้นแล้ว ฉินอี๋อินบอกกับเขาว่าไม่ควรพูดเรื่องเหล่านี้ออกมา
ส่วนเหตุผล ฉินอี๋อินไม่ได้บอกเขา
แต่เขายังทำตาม ไม่ได้เอ่ยเรื่องนี้ออกไป
ในความคิดของเขา ไม่มีสิ่งใดปิดบังคุณชายได้ เขาพูดหรือไม่ก็ไร้ความสำคัญ
กระทั่งฉินอี๋อินยังพบเรื่องการสวมรอยของหานว่านเชียน ไม่ต้องกล่าวถึงคุณชายเลย!
“สุราดีหรือไม่?”
หลี่จิ่วเต้ายิ้มเอ่ยกับเฒ่าเมามาย “สุราและโอสถไม่ได้ให้โดยเปล่า อนาคตมาร่วมโค่นวิหารโบราณลึกลับกับข้าเสีย”
ก่อนหน้านี้เฒ่าเมามายมาสร้างปัญหา ต้องการพาตัวคนบ้า แย่งชิงสูตรโอสถไป แต่กลับล้มเหลวอย่างน่าเวทนา แม้หลบหนีไปก็ถูกจับกลับมาอีกครั้ง
เขาย่อมสังหารเฒ่าเมามายได้ทันที แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น
วิหารโบราณลึกลับทรงพลังยิ่ง หากต้องการโค่นล้ม ย่อมต้องมีผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีฝีมือ
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สังหารเฒ่าเมามาย แต่เก็บเอาไว้ข้างกาย ไม่เพียงแต่มอบสุราชั้นยอด ทว่ายังมอบโอสถให้อีกด้วย
เฒ่าเมามายอยากร้องไห้ ไฉนเขาจะอยากสู้กับวิหารโบราณลึกลับกัน?!
เขาต้องการกล่าวเหลือเกินว่าตนเองปฏิเสธได้หรือไม่!
แต่เขากระจ่างแจ้งดีว่าตนไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ดังนั้นจึงทำได้เพียงติดตามและโค่นวิหารโบราณลึกลับไปพร้อมหลี่จิ่วเต้า
‘นี่ไม่ใช่ไปเพื่อโค่นล้มวิหารโบราณลึกลับ แต่ส่งตัวเองไปตาย!’
เขาร่ำไห้ในใจ ไม่มั่นใจเป็นอย่างมาก
กล่าวให้ถูกคือ เขาไม่มั่นใจเลยสักนิด!