รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1179 เจ้าก้อนหิน ‘ต่อไปอย่าได้ตื่นตูมเช่นนี้อีก!’
- Home
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1179 เจ้าก้อนหิน ‘ต่อไปอย่าได้ตื่นตูมเช่นนี้อีก!’
บทที่ 1179 เจ้าก้อนหิน ‘ต่อไปอย่าได้ตื่นตูมเช่นนี้อีก!’
…………….
บทที่ 1179 เจ้าก้อนหิน ‘ต่อไปอย่าได้ตื่นตูมเช่นนี้อีก!’
“ดอกเบญจมาศเบ่งบาน โรยราเต็มพื้นดิน…”
ในพื้นที่พิเศษ จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงหลับตาลง ฉากดอกเบญจมาศเบื้องหน้าทำให้เขาไม่อาจมองต่อไหว
“เฮ้อ แม้ว่าเจ้าสมควรได้รับมันแล้ว แต่ไม่กล่าวไม่ได้ เจ้าช่างน่าเวทนาเกินไปบ้างจริง ๆ!”
เจ้าหลวงอดกล่าวไม่ได้ สิ่งที่หานว่านเชียนเผชิญน่าเวทนามากเกินไปจริง ๆ
“อ๊ากกก!”
ทางด้านหานว่านเชียนนั้นโกรธจนหัวใจตับปอดแทบระเบิดออกมา มารดามันเถิด นี่คือผู้ใดกันแน่ จรรยาในการต่อสู้สักนิดก็ไม่มี ใช้วิถีเลวทราม น่ารังเกียจยิ่งนัก!
เขาหมดสิ้นความอดทนโดยสมบูรณ์ เสียสติไปโดยสิ้นเชิง พลังอันแข็งแกร่งปกคลุมทั่วทั้งฟ้าดิน กราดโจมตีทั่วทุกแห่ง ต้องการบีบให้คนผู้นั้นออกมาจากที่ซ่อน
ทว่าเยว่อู๋หมิงนั้นไม่ธรรมดาเลย ภายใต้การกราดโจมตี เขายังคงไม่ถูกบังคับให้เผยตัวออกมา ไม่มีกระทั่งลมหายใจและร่องรอยตนเองหลุดออกไป
ร่างแปลงหานว่านเชียนฟื้นคืนความสงบกลับมา ตระหนักได้ว่าตนเองไม่อาจบังคับให้ผู้ที่อยู่ในความมืดปรากฏตัวออกมาได้ จึงหยุดลงมือต่อ เตรียมจากไป
แต่เขาถูกทุบอีกครั้ง ไม่อาจหนีพ้นได้
นี่มันอันใดกัน?
คราวนี้เขาไม่เห็นเสียด้วยซ้ำว่าคนในเงามืดใช้สิ่งใดทุบเขา แม้หลังศีรษะจะปวดแปลบ แต่ก็ยังไม่ถูกระเบิดศีรษะ ไม่มีเลือดออก ทว่าเจ็บอย่างยิ่ง!
เห็นได้ชัดว่าผู้ที่อยู่ในความมืดใช้ศาสตราวิเศษอันทรงพลังยิ่งกว่าเดิม!
และเป็นจริงเช่นนั้น เยว่อู๋หมิงลงมืออย่างดุดัน ใช้ศาสตราที่แข็งแกร่งสุดในมือออกมา!
“ด้วยก้อนอิฐในมือ ใต้หล้าล้วนครอบครอง!”
เขากล่าวอย่างชั่วร้าย ในมือถืออิฐก้อนหนึ่งเอาไว้
แน่นอน นี่ไม่ใช่เพียงอิฐธรรมดา วัสดุน่าอัศจรรย์ ต้นกำเนิดยิ่งใหญ่ เป็นเขาที่บังเอิญไปพบเข้าในสถานที่แห่งหนึ่ง
ยามนั้นเขาถูกสิ่งดังกล่าวทำให้ตื่นตะลึงอย่างมาก ไกลเกินกว่าความรู้ความเข้าใจของเขา! เหนือชั้นจนไม่อาจจินตนาการได้ เปี่ยมด้วยเต๋าลึกล้ำอยู่ภายใน
กระทั่งเขาในตอนนี้ที่ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับสูงลิบ ครอบครองความสามารถซ่อนตัวอันน่าอัศจรรย์เช่นนี้ แต่ก็ยังไม่พอที่จะมองอิฐทั้งหมดได้กระจ่างแจ้ง
วิชาซ่อนเร้นที่เขาครอบครองเองก็ได้มาจากจังหวะเต๋าสูงล้ำในก้อนอิฐ!
อิฐก้อนนี้มาจากที่ใด?
ยามเขาได้รับอิฐก้อนนี้มาพลันเกิดความคิดในส่วนลึกของจิตใจ รู้สึกว่าบางทีหินก้อนนี้อาจมาจากวิหารโบราณลึกลับใช่หรือไม่?
เขารู้สึกได้อย่างเลือนราง เจ้าของคนก่อนของอิฐก้อนนี้ควรเป็นยอดฝีมือด้านการลอบสังหารผู้หนึ่ง ด้วยทักษะการซ่อนเร้นที่บันทึกเอาในก้อนอิฐ เพียงพอให้เขามีความสามารถด้านการซ่อนเร้นสูงลิบ
“แน่จริงก็ออกมาสู้กับข้า!”
ร่างแปลงหานว่านเชียนโกรธจนทนไม่ไหว เขาถูกพัวพันจนไม่อาจปลีกตัวไปได้ เมื่อคิดจากไป ผู้ที่อยู่ในความมืดก็จะโจมตีเขาไม่ให้ไปไหนได้
“คนเท่านั้นที่จะออกไปสู้กับเจ้า! ข้าซ่อนตัวโจมตีเจ้าไม่ดีกว่าหรือ?”
เยว่อู๋หมิงเหยียดยิ้ม รู้ดีว่าตนสู้ซึ่งหน้ากับหานว่านเชียนแล้วมีโอกาสชนะไม่มาก เขาที่มีก้อนอิฐอยู่ในมือต้องการลอบโจมตีอีกฝ่าย!
ปัง!
เขายังคงเล่นลูกไม้ ปาอิฐเข้าไป สุดท้ายก็ทะลุการป้องกันของร่างแปลงหานว่านเชียนได้ จนเลือดไหลอาบศีรษะ ภายในหัวปั่นป่วนทันที
หัวใจของหานว่านเชียนเย็นเยียบ หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องถูกเยว่อู๋หมิงทุบจนตาย
นี่ทำให้เขาคับข้องใจอย่างมาก
เขาจัดการจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงกับเจ้าหลวงได้แล้ว และกำลังแฝงตัวเข้าไปอยู่ข้างกายหลี่จิ่วเต้า แต่กลับเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น!
“เอ๋ เจ้ายังไม่ถึงหรือ? เกิดเรื่องอันใดขึ้นเหรอ?”
ตอนนั้นเอง เสียงของต้าเต๋อดังออกมาจากศาสตราสื่อสาร ต้าเต๋อไปถึงสถานที่นัดพบเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่พบจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง
“ไม่มี ข้ากำลังไป อีกไม่นานก็ถึงแล้ว!”
ร่างแปลงหานว่านเชียนรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าบอกว่ามีเรื่องเกิดขึ้น และก็ไม่กล้าให้ต้าเต๋อมาหา
อย่างไรเสียเขาก็ไม่รู้ว่าผู้ที่อยู่ในความมืดมาตั้งแต่เมื่อใด มีความเป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายจะอยู่มานานแล้ว เห็นทุกการกระทำก่อนหน้าของเขา
หากต้าเต๋อมาและตัวเขาผู้ที่อยู่ในความมืดเปิดเผย เช่นนั้นความพยายามทั้งหมดจะสูญเปล่า
บนร่างต้าเต๋อมียันต์ที่หลี่จิ่วเต้ามอบให้ ดังนั้นเขาจึงไม่มั่นใจว่าจะสยบต้าเต๋อได้หรือไม่
“ไป!”
เขากัดฟัน ฝ่าก้อนอิฐของเยว่อู๋หมิงอย่างแข็งกร้าว ค่อย ๆ จากออกไป
ระหว่างนี้ร่างกายของเขาพังทลายผิดรูป เต็มไปด้วยเลือดเนื้อและไม่มีเนื้อดีสักส่วน เยว่อู๋หมิงถืออิฐไม่มีจรรยาด้านการต่อสู้เลย โจมตีเขาทั่วทั้งร่างไม่เว้น!
เขาพยายามยืนหยัด สุดท้ายก็คว้าโอกาสเอาไว้ได้ รีบหนีจากไปอย่างรวดเร็ว สลัดเยว่อู๋หมิงได้สำเร็จ!
สิ่งที่ทำให้เขารู้ว่าตนเองสลัดเยว่อู๋หมิงได้สำเร็จ นั่นคือการที่เขาไม่ถูกทุบตีอีกต่อไป เขาหาสถานที่สักแห่ง รีบรักษาอาการบาดเจ็บอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเร่งตรงไปหาต้าเต๋อ
“มารดามันเถิด เจ้าสารเลวนั่นไฉนทนทานปานนั้น!”
เยว่อู๋หมิงสบถ ไม่คาดคิดเลยว่าสุดท้ายตนเองก็ไม่อาจจัดการ ‘จักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง’ อีกทั้งยังปล่อยให้อีกฝ่ายหนีรอดไปได้
“เรื่องนอกเหนือความคาดหมาย นี่ต้องเป็นข้อยกเว้น ผู้ติดตามหลี่จิ่วเต้าไม่มีทางจัดการได้ยากเช่นนี้ทุกคนแน่!”
ดวงตาของเขาวาวโรจน์ ไม่มีความคิดถอดใจ เตรียมหาคนอื่นมาลงมือแทน
จากนั้นร่างของเขาก็เลือนหายไป
เมื่อเขาปรากฏขึ้นอีกครั้งก็มาถึงอาณาจักรอันเป็นที่ตั้งของเมืองชิงซานแล้ว
ในการตรวจสอบของเขา นอกจากจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลง ผู้ที่ใกล้ชิดกับหลี่จิ่วเต้าส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้
“หนึ่งคนไม่ได้ผล เช่นนั้นก็เปลี่ยนคน ข้าไม่เชื่อว่าจะล้มเหลว!”
เขากล่าวเสียงเย็นเยียบ เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
…
ภายในเมืองชิงซาน ลานเล็กที่หลี่จิ่วเต้าอาศัยอยู่
ยามเยว่อู๋หมิงเพิ่งปรากฏตัวขึ้นบนอาณาจักรแห่งนี้ ลานเล็กก็สัมผัสได้ในทันที
ตอนนี้ลานเล็กไม่เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป นับตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งล่าสุด หลี่จิ่วเต้าก็ได้เตรียมการหลากหลายสิ่งเอาไว้ในลานเล็ก ทำให้มันเริ่มฟื้นฟูตัวกลับขึ้นมา!
ทำให้ตอนนี้มันแข็งแกร่งอย่างถึงที่สุด ไม่เพียงฟื้นฟูกลับไปถึงจุดสูงสุด ทว่ายังแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม!
“เรื่องเช่นเมื่อครั้งก่อนหน้าจะไม่เกิดขึ้นอีก!”
มันหัวเราะเย็นเยียบ จ้องมองไกลออกไปยังร่างเยว่อู๋หมิง
ทักษะการซ่อนเร้นของเยว่อู๋หมิงน่าสะพรึงกลัวยิ่ง กระทั่งร่างแปลงหานว่านเชียนยังไม่อาจหาตำแหน่งได้ ทว่าต่อหน้าลานเล็ก กลับไม่ได้ผลเลย เยว่อู๋หมิงถูกลานเล็กจับตำแหน่งได้อย่างสมบูรณ์
ครั้งก่อนมันถูกเงาที่เหล่าจ้าวแดนพิสุทธิ์ส่งมาจัดการ ไม่อาจปกป้องสิ่งใดได้ แต่ตอนนี้นั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง มันมีพลังมากพอปกป้องทุกสิ่ง
ไม่ว่าเป็นผู้ใดที่มาก็มั่นใจว่าจัดการสิ้นได้!
“มาแล้วก็อย่าคิดจากไปโดยง่าย”
ลานเล็กยิ้ม ต้องการ ‘เล่น’ กับเยว่อู๋หมิง
…
อีกด้านหนึ่ง สุดท้ายร่างแปลงหานว่านเชียนก็มาถึงจุดนัดพบ ต้าเต๋อไม่ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของร่างแปลงหานว่านเชียน ไม่รู้ว่าเป็นจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงตัวปลอม
“ไปเถิด”
จากนั้นต้าเต๋อและร่างแปลงหานว่านเชียนออกเดินทาง กลับไปยังแดนพิสุทธิ์ คนอื่นต่างมาถึงก่อนแล้ว ต้าเต๋อและร่างแปลงหานว่านเชียนกลับมาช้าที่สุด
“ต้าเต๋อ เจ้าช้านัก ข้ายังกังวลว่าจะเกิดเรื่องกับเจ้า!”
อ้ายฉานรีบตรงเข้ามาทันที ต้องการเข้ากอดต้าเต๋อ แต่ถูกต้าเต๋อปฏิเสธใช้มือหยุดเอาไว้
“อ้ายฉาน สำรวมหน่อย มีคนตั้งมากมายมองอยู่!”
“สำรวมอันใด ต่อหน้าคนรัก พึงแสดงออกอย่างกล้าหาญ พวกเราไม่ใช่เด็กอีกแล้ว ยามนี้เป็นช่วงเวลางดงามสำหรับความรัก ไม่อาจยืดช่วงเวลานี้ไปตลอดชีวิตได้!”
อ้ายฉานกล่าวอย่างจริงจัง ต้องการกอดต้าเต๋อ
“อ้ายฉาน วาจาเจ้าถูกต้องแล้ว พวกเราไม่อาจยืดช่วงเวลาทองไปตลอดชีวิตได้ ข้าชอบเจ้า รักเสียยิ่งกว่าตนเอง เจ้า…เป็นทุกสิ่งสำหรับข้า!”
จู้จื่อวิ่งตรงไปหาอ้ายฉาน อยากให้อ้ายฉานกอดเขา ทว่ากลับถูกปฏิเสธอย่างเด็ดขาด อีกทั้งยังถูกถีบลอยกระเด็นออกไป
อีกด้านหนึ่ง ร่างแปลงหานว่านเชียนมีความเคร่งเครียดในใจ กังวลว่าการปลอมตัวของตนจะถูกหลี่จิวเต้ามองออก แต่ดูจากท่าทางของหลี่จิ่วเต้าแล้ว เหมือนเขาจะยังไม่ถูกเปิดโปง หลี่จิ่วเต้ายิ้มและทักทายเขา กล่าวว่าไม่ได้พบนานแล้ว จึงคิดถึงอยู่บ้าง
เขาโล่งใจขึ้นมาโดยพลัน
คิดดูแล้วก็ใช่ หลี่จิ่วเต้าจะมองเขาออกได้อย่างไร สมบัติบนตัวเขาไม่ธรรมดายิ่ง ทั้งลมหายใจและร่องรอยทั้งหมดล้วนกลายเป็นของจักรพรรดิหมากล้อมหวงหลงโดยสมบูรณ์ ไม่มีทางที่หลี่จิ่วเต้าจะมองผ่านได้
หากหลี่จิ่วเต้ามองการปลอมตัวของเขาออกได้อย่างง่ายดาย เช่นนั้นเขาคงไม่คิดวางแผนกลืนกินหลี่จิ่วเต้าแล้ว เนื่องจากไม่อาจทำได้โดยสมบูรณ์
มองผ่านการปลอมตัวของเขาได้อย่างง่ายดาย เช่นนั้นหลี่จิ่วเต้าจะต้องแข็งแกร่งกว่าเขาหลายเท่า เขาไม่อาจต่อกรกับหลี่จิ่วเต้าได้อย่างสิ้นเชิง เกรงว่าวางแผนการไว้เท่าใดล้วนไร้ผล
“ข้าเองก็คิดถึงคุณชายนัก ดังนั้นครั้งนี้จึงติดตามต้าเต๋อกลับมาเพื่อพบคุณชาย”
หานว่านเชียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อืม เช่นนั้นพวกเรามาเดินหมากกันสักหน่อย”
หลี่จิ่วเต้าไม่สงสัยอันใด มองการปลอมตัวของหานว่านเชียนไม่ออกสักนิด เขาตบไหล่ของหานว่านเชียน กล่าวว่าหลังจากนี้ต้องการเดินหมากกับหานว่านเชียน แต่ตอนนี้มีเรื่องอื่นที่เขาต้องทำ
เขาอยากอ่านสูตรโอสถทั้งหมดที่พวกซีนำกลับมา จากนั้นก็จะปรับแต่งสูตรโอสถของคนบ้าให้สมบูรณ์ หลอมกลั่นโอสถบำรุงที่ยอดเยี่ยมสุดในโลกออกมา
แล้วเขาก็นำสูตรโอสถเข้าไปในห้อง สูตรโอสถที่พวกซีนำกลับมามีจำนวนมากเกินไป เขาจำเป็นต้องใช้เวลา
ร่างแปลงหานว่านเชียนงงงวยยิ่ง ไม่รู้ว่าหลี่จิ่วเต้าต้องการทำสิ่งใด การอ่านสูตรโอสถธรรมดาเหล่านี้มีความหมายเช่นไร?
ด้วยระดับถึงขั้นนี้แล้ว ไยจึงต้องศึกษาสูตรโอสถเหล่านั้น ไม่จำเป็นโดยสิ้นเชิง นี่เทียบได้กับผู้ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก ยังจำเป็นต้องหัดเดินอีกหรือ?
เขาสับสน คิดแล้วไม่อาจเข้าใจได้เลย
ส่วนพวกซีนั้นแตกต่างออกไป ไม่คิดเรื่องนี้สักนิด
ซีรู้ดีว่าหลี่จิ่วเต้ายังไม่ได้เดินบนเส้นทางการฝึกฝน พลังทั้งหมดที่เขามีล้วนมาจากบรรพจารย์ฝู หลี่จิ่วเต้าต้องการหลอมสุดยอดลูกกลอนบำรุง แน่นอนว่าจำเป็นต้องเรียนรู้การหลอมโอสถ นี่เป็นจุดประสงค์ที่หลี่จิ่วเต้ารวบรวมสูตรโอสถมากมายเพียงนี้
แต่..จะทำได้หรือ?
นางสงสัยในจุดนี้ อย่างไรเสียหลี่จิ่วเต้าก็เป็นเพียงปุถุชน ไม่มีความเข้าใจอันใดในด้านการฝึกฝน เช่นนั้นจะเรียนรู้เรื่องการหลอมโอสถได้หรือ?
ด้านพลังที่จำเป็นในการหลอมโอสถ หลี่จิ่วเต้าแก้ไขได้ด้วยการใช้เหล่าสมบัติของบรรพจารย์ฝู ซีไม่ได้กังวลในเรื่องนั้น
แต่ซีกังวลเรื่องหลี่จิ่วเต้าเรียนรู้ด้านทฤษฎีได้หรือไม่!
ความรู้ทฤษฎีของการหลอมโอสถเป็นรากฐาน ทั้งยังเป็นส่วนยากที่สุดสำหรับการหลอมโอสถให้สำเร็จ
หลี่จิ่วเต้าเป็นปุถุชนผู้นี้ จะสามารถเชี่ยวชาญด้านนี้ได้จริงหรือ?
นางสงสัยในจุดนี้!
แต่ทางด้านพวกลั่วสุ่ยนั้นไม่ได้แปลกใจหรือสงสัยอันใดกับการกระทำของหลี่จิ่วเต้าสักนิด
พวกเขาอยู่ข้างกายหลี่จิ่วเต้ามานาน ตระหนักชัดว่าแม้การกระทำของหลี่จิ่วเต้าจะชวนสงสัย ทว่าความจริงมีความหมายลึกซึ้งอยู่
พลิกอ่านตรวจสอบสูตรโอสถเหล่านั้น ภายในจำต้องมีบางอย่างอยู่แน่!
“หรือว่าสูตรโอสถนั่นมีต้นกำเนิดที่นี่?!”
“บัดซบ เจ้าเป็นบ้าอีกแล้วหรือ?!”
เจ้าก้อนหินอดเอ่ยออกมาไม่ได้
พวกเขากลับมาเร็วพอได้รู้สถานการณ์ของคนบ้าที่ครอบครองสูตรโอสถเหนือชั้น ก่อนจะกลายเป็นบ้าเพราะสูตรโอสถนั่น หลังจากถูกจวินอีพากลับมาให้คุณชายรักษา เขาก็ไม่ฟั่นเฟือนอีกต่อไป กลับมาเป็นปกติ
“เจ้าสิบ้า!”
คนบ้าถลึงตามองเจ้าก้อนหิน เอ่ยออกมาอย่างชั่วร้าย “ถ้าหากพูดดีกว่านี้ไม่ได้ เช่นนั้นก็หุบปากไปเสีย ไม่ต้องพูดอันใด!”
จากนั้นเขาก็อธิบายความคิดที่ทำให้ตนตกตะลึง
เขากล่าวว่าคุณชายทรงพลังถึงเพียงนี้ ไฉนจึงจำเป็นต้องอ่านสูตรโอสถเหล่านั้น ไม่สมเหตุสมผลสักนิด แต่คุณชายกลับจริงจังเป็นอย่างมาก ต้องการอ่านและพลิกดูสูตรโอสถทั้งหมด!
“ข้าคิดว่าทุกท่านคงทราบดี ทุกการกระทำของคุณชายมีความหมายลึกซึ้ง!”
เขากล่าวอย่างจริงจัง “จากความคิดของข้า ทั้งหมดเป็นเช่นนั้นจริง ๆ! ทุกท่านทราบดีว่าสูตรโอสถนั่นมาจากที่ใด มันถูกแกะสลักเอาไว้บนผนังวิหารโบราณลึกลับ แต่ทุกท่านเคยคิดบ้างหรือไม่ บางทีสูตรโอสถ แท้จริงแล้วมีที่มาจากสถานที่แห่งนี้!”
เขาเล่าว่าสูตรโอสถมีความเป็นไปได้ที่จะมาจากที่นี่ ก่อนถูกวิหารโบราณลึกลับเก็บไปสลักไว้บนผนัง ดังนั้นสูตรโอสถเองก็อาจถ่ายทอดอยู่ที่นี่เช่นกัน
“สามพันมหาเต๋า มุ่งสู่หนทางเดียว หากสูตรโอสถมาจากที่นี่จริง ๆ เช่นนั้นสูตรโอสถอื่น ๆ ที่นี่อาจมีความเกี่ยวข้องกับสูตรโอสถนั่น!”
เขาพูดอย่างจริงจัง “คุณชายพลิกดูสูตรโอสถเหล่านั้น อาจต้องการวิเคราะห์สูตรโอสถเหล่านั้น ค่อย ๆ หาจุดร่วมออกมา ทำให้สูตรโอสถจากวิหารโบราณลึกลับสมบูรณ์!”
คำอธิบายนี้สมเหตุสมผลไร้ข้อสงสัย
อย่างไรเสียหลี่จิ่วเต้าก็เคยกล่าวเอาไว้ว่าสามารถทำให้สูตรโอสถสมบูรณ์ได้ อีกทั้งหลี่จิ่วเต้ายังให้ความสำคัญกับสูตรโอสถเหล่านั้นมาก ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าสูตรโอสถเหล่านั้นเป็นกุญแจสำคัญ!
และด้วยเหตุนี้ เขายังรู้สึกว่าสูตรโอสถนั่นอาจมีที่มาจากที่นี่
คนผู้นี้คิดเก่งยิ่งนัก!
ซีได้ยินแล้วพูดสิ่งใดไม่ออก ความจริงไฉนเป็นเช่นนั้น บุรุษตัวน้อยเพียงหมายใช้สูตรโอสถเหล่านั้นทำความเข้าใจการหลอมโอสถ
เห็นได้อย่างชัดเจน คนผู้นี้คิดว่าบุรุษตัวน้อยเป็นผู้ยิ่งใหญ่หาใครเปรียบไม่ได้ หารู้ไม่ว่าความจริงแตกต่างยิ่ง บุรุษตัวน้อยยังไม่ได้เริ่มเดินบนเส้นทางฝึกฝนเสียด้วยซ้ำ
“บัดซบ! ข้ายังคิดว่าเจ้าร้องออกมาด้วยเหตุใด ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!”
เจ้าก้อนหินกล่าวด้วยความเหยียดหยามเต็มเปี่ยม “ยังจำเป็นต้องพูดมากมายหรือ? การกระทำของคุณชายย่อมมีความหมายลึกซึ้ง ต่อไปอย่าได้ตื่นตูมเช่นนี้อีก ขายหน้านัก!”
…………….