รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1166 เจ้าคนบ้าเดนตาย สงสารไม่ไหวจริง ๆ!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1166 เจ้าคนบ้าเดนตาย สงสารไม่ไหวจริง ๆ!
บทที่ 1166 เจ้าคนบ้าเดนตาย สงสารไม่ไหวจริง ๆ!
…………….
บทที่ 1166 เจ้าคนบ้าเดนตาย สงสารไม่ไหวจริง ๆ!
จวินอีหัวใจหนักอึ้ง ห้าคนนี้มาจากไหน น่ากลัวเหลือเกิน มิหนำซ้ำพวกเขาเป็นเพียงลิ่วล้อ ไม่ใช่ผู้ทรงพลังที่สุดในกองกำลังของตน ยิ่งสร้างความตะลึงให้เขาเข้าไปใหญ่
เขาเองถือว่ามี ‘ประสบการณ์’ โชกโชนในหมู่สิ่งมีชีวิตที่ถูกส่งมาแล้ว กระนั้นยังไม่รู้เรื่องของกองกำลังทั้งห้าสักนิด กองกำลังทั้งห้าซ่อนตัวได้มิดชิดยิ่งนัก
“ต้องหลงอยู่ในนี้ตลอดกาลหรือ”
เขานึกเซ็ง มองเข็มทิศล่าสมบัติและกระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวพลางเอ่ย “คุณชายหลี่นี่ไม่ไหวเลย สองสิ่งที่ประทานให้ไม่อาจช่วยคลายสถานการณ์ให้ข้า”
“พูดจาอะไร บังอาจหาว่าคุณชายไม่ไหว!”
เสียงหนึ่งดังออกจากเข็มทิศล่าสมบัติ ก่อนจะลอยออกจากฝ่ามือจวินอี ฟาดหัวจวินอีดัง ‘เคร้ง’
“อ๊าก เจ็บ ๆ ๆ!”
จวินอีกุมหัวร่ำไห้ จุดที่ถูกฟาดบวมเป่ง
“หาว่าคุณชายไม่ไหว เจ้าช่างใจกล้ายิ่งนัก?!”
เสียงดังฟึ่บ กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวลอยออกจากมือ จ่อแนบลำคอจวินอี
มันเอ่ย “เจ้าช่างด้อยปัญญา ไม่รู้ว่าคุณชายแข็งแกร่งปานใด นี่เป็นเพียงลูกไม้ทลายยากที่ไหน ก่อนนี้ข้ายังสำแดงพลังไม่ถึงหนึ่งในสิบด้วยซ้ำ”
คิดว่าหลอกผู้ใดอยู่?!
จวินอีไม่เชื่อเลยสักนิด มองว่ากระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวปากแข็งไปอย่างนั้น
แต่เขาก็ไม่กล้าเอ่ยออกไปให้ได้ยิน
น่าขัน เขากล้าที่ไหน กระบี่ใบไม้แห่งเหี่ยวยังจ่อแนบคอเขาอยู่เลย ไม่ว่ากระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวปากแข็งหรือไม่ ครั้นจะฆ่าเขาก็เป็นเรื่องง่ายดาย
“ใช่แล้ว ท่านพูดถูก!”
เสียงดังตึง กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวเคาะศีรษะจวินอีด้วยตัวกระบี่
มันเอ่ย “ในใจเจ้าคิดอะไรข้ารู้หมด หากไม่ใช่เห็นแก่ที่คุณชายต้องใช้เจ้า ลำพังสิ่งที่เจ้าคิดก็สมควรตายแล้วตายอีก!”
รู้ทุกอย่างที่เขาคิดในใจ?!
จวินอีได้ยินแล้วตกตะลึง
กระนั้นเขายังไม่ค่อยเชื่อ กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวแกร่งกล้าเพียงนั้นเชียวหรือ
ต้องรู้ว่า การล่วงรู้ความในใจผู้อื่นใช่ว่าทำได้ง่าย ๆ กำลังรบระดับอัครขั้นยี่สิบห้าคิดจะล่วงรู้ความนึกคิดของเขายังเป็นเรื่องยาก!
‘ล่วงรู้ความในใจข้าได้หรือ น่าขัน เห็นข้าหลอกง่ายเหมือนเด็กสามขวบหรือไร?!’
เขาคิดในใจ ‘เจ้าล่วงรู้ความนึกคิดของข้าได้ไม่ใช่หรือ เจ้าใบไม้เส็งเคร็ง เจ้าต้องรู้ว่าว่ายามนี้ข้าอยากใช้เจ้าเช็ดก้น!’
เขามีท่าทางลำพอง ไม่เชื่อสักนิดว่ากระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวสามารถล่วงรู้ความในใจของเขา
‘ต่อหน้าข้าไม่กล้าเสียมารยาทต่อเจ้า ทว่าในใจข้า ข้าอยากคิดเช่นไรก็ได้! นี่เรียกว่าชนะใจ!’
เขาเอ่ยยิ้ม ๆ ในใจ
“ชนะใจ? ชนะกับผีน่ะสิ!”
เสียงของกระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวเย็นเยียบ ตัดก้นจวินอีขาดฉับ ไอ้ระยำ นี่จวินอีคิดใช้มันเช็ดก้นหรือ มันโมโหนัก!
ที่มันว่าล่วงรู้ความในใจของจินอีนั้นไม่ได้โป้ปด หากแต่ทำได้จริง ๆ
นอกจากนี้ ไม่ใช่แค่มันที่ทำได้ เข็มทิศล่าสมบัติก็ทำได้เช่นกัน
“อ๊าก!”
เมื่อก้นถูกตัด จวินอีเจ็บจนใบหน้าเหยเก โหยหวนไม่หยุด
ทว่าเทียบกับถูกตัดก้น เขาสนใจวาจาเมื่อครู่กับจวินอีมากกว่า
ชนะใจ!
บัดซบ!
นี่มันสิ่งที่เขาคิดเมื่อครู่ไม่ใช่หรือ
เขาเดือดดาลขึ้นมาในบัดดล ไม่ใช่กระมัง กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวไม่ได้หลอกเขา หากแต่ล่วงรู้ความในใจเขาได้จริง ๆ!
“ยากตรงไหน เจ้าอ่อนแอปานนั้น ไม่มีความลับเมื่ออยู่ต่อหน้าเรา ทุกอย่างโปร่งใส”
เข็มทิศล่าสมบัติเอ่ย
จากนั้น มันเอ่ยต่อ “เอาเถิด ไม่หยอกเจ้าแล้ว รีบออกไปปฏิบัติภารกิจของคุณชายให้ลุล่วงดีกว่า”
เสียงดังฟึ่บ กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวลงมือ มันไม่ได้กล่าวเกินจริง ทะเลสูญหายไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับมัน ก่อนนี้มันยังไม่ได้สำแดงพลังหมดจริง ๆ!
กระบี่ฟาดฟัน ทะเลสูญหายทั้งปวงถูกทลาย จวินอีเดินออกมา!
ด้านนอก ฉิงคงและสิ่งมีชีวิตที่เหลือกำลังต่อสู้กันดุเดือดเพื่อแย่งคนฟั่นเฟือน
พวกเขาต่างมองว่าจวินอีจบแล้ว ไม่มีทางออกจากทะเลสูญหายได้ จักต้องหลงอยู่ในนั้นตลอดไป!
เมื่อเห็นทะเลสูญหายถูกฝ่าออกมา และจวินอีก้าวเดินออกมา ฉิงคงก็ร้องเสียงหลง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
“เป็นไปได้อย่างไร?!”
ดวงตาฉิงคงเบิกกว้าง อย่างไรก็เชื่อภาพที่นางเห็นไม่ลง ทะเลสูญหายถูกทลายออกมาได้หรือ?!
เรื่องนี้เหนือความคาดหมายของนางอย่างสิ้นเชิง!
ขณะเดียวกัน หลานเยียนและสิ่งมีชีวิตที่เหลือก็ตกตะลึง หน้าตาผวา เชื่อไม่ลงเช่นกัน
พวกเขาต่างเคยประมือกับฉิงคง รู้ดีว่าทะเลสูญหายนั้นน่าครั่นคร้ามเพียงใด เพราะอย่างนี้ถึงคิดว่าจวินอีจบเห่กันหมด ไม่อาจออกจากทะเลสูญหายได้อีกตลอดกาล
ทว่าจวินอีกลับฝ่าทะเลสูญหายออกมาได้ ไม่ให้พวกเขาแตกตื่นได้อย่างไร!
“ฆ่า!”
แต่แล้ว เพียงไม่นานพวกเขาก็ได้สติ บุกไปหาจวินอีทันที
จวินอีผู้น่าประหวั่นพรั่นพรึงถึงเพียงนี้ อย่างไรพวกเขาต้องชิงกำจัดก่อน หาไม่แล้วคนฟั่นเฟือนต้องถูกจวินอีพาตัวไปแน่!
“อ๊าก อย่าตีข้า เสี่ยวเจี๋ยเป็นเด็กดีจริง ๆ นะ จากนี้ไปเสี่ยวเจี๋ยจะไม่ขโมยของอีกแล้ว!”
อีกด้าน คนบ้ายังคงขดตัวอยู่ที่เดิม ร่ำไห้ไม่หยุด สภาวะของเขาไม่ดีอย่างยิ่งยวด เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เพียงแต่ไม่รู้ว่าเขากำลังกลัวสิ่งใด
ตู้ม!
ศึกใหญ่ปะทุอีกครา หลานเยียนและที่เหลือต่างบุกไปหาจวินอีอย่างบ้าคลั่ง
สมาชิกสำนักหยินไม่ใช่เผ่ามนุษย์ เป็นอสูรสีดำเนื้อตัวเต็มไปด้วยเกล็ด ว่องไวปราดเปรียวเหนือขีดจำกัดจนจับไม่ทัน ทันใดนั้น มันมาอยู่ข้างหลังจวินอี อ้าปากโชกเลือดซึ่งมีเขี้ยวคมอยู่เต็มและพุ่งไปกัดจวินอี
ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ป้องกันไม่ทันเลย จวินอีไหวตัวไม่ทัน ไม่รู้ว่าอสูรสีดำมาอยู่ด้านหลังเขาและกำลังจะกัดเขา!
ทว่าแม้จวินอีไหวตัวไม่ทัน แต่กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวรู้ตัวแต่แรก
กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวสามารถจับร่องรอยอันยากจะจับของอสูรสีดำได้ง่ายดาย อสูรสีดำสำนักหยินที่พุ่งเข้ามาถูกกระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวทิ่มแทง!
เสียงดังพรวด เลือดสาดกระเซ็น ปากของอสูรสีดำสำนักหยินถูกกระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวแทงเป็นรูใหญ่ โลหิตโสมรดเต็มหัวจวินอี เรียกได้ว่าเลือดสุนัขอาบศีรษะ!
“พี่ชายระวังหน่อย!”
จวินอีร้องไห้ออกมาทันที ขยะแขยงเหลือคณา กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวเลวจริง ๆ ทั้งที่ปกป้องเขาไม่ให้เลือดอาบได้ แต่กลับไม่แยแสเขา ปล่อยให้โลหิตสาดรดเต็มศีรษะ!
นี่คิดเอาคืนเขาที่ก่อนหน้านี้ต้องการใช้ใบไม้แห้งเหี่ยวเช็ดก้นหรือ
ตอนนี้เขาคึกคะนองขึ้นมาอีกครั้งอย่างอดไม่ได้ ความคิดอยากใช้ใบไม้แห้งเหี่ยวเช็ดก้นผุดขึ้นมาอีกครา
ทว่าไม่นาน เขาก็หยุดความคิดนี้!
เนื่องจากสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวส่งผ่านมาถึงเขา แล้วไฉนเลยจะกล้าคิดฟุ้งซ่านอีก กลัวจนปัสสาวะแทบราด วิญญาณหลุดออกจากร่าง!
“อ๊าก!”
เขาร้องโหยหวน ก้นใหม่ที่เขาเพิ่งปั้นถูกกระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวตัดอีกแล้ว เลือดพุ่งกระจายไปทั่ว!
พวกหลานเยียนตาค้าง กระบี่อะไรนี่ ดุดันเกินไปแล้ว ถึงคราวอำมหิตฟันได้แม้แต่ฝ่ายตนเองหรือ?!
“ฝันในฝัน ภาพมายาในภาพมายา ในความจริงแท้มีความมดเท็จ ในความมดเท็จมีความจริงแท้!”
สมาชิกตำหนักสูญหายตะโกนเสียงเย็น เขาเป็นบุรุษผมทองผู้หนึ่ง เรียกธูปก้านหนึ่งออกมาอย่างรวดเร็วและจุด จากนั้น ควันจาง ๆ ลอยออกไปห่อหุ้มจวินอี
นี่คือธูปนิมิต เป็นไม้ตายก้นหีบของเขา เปี่ยมด้วยอานุภาพไร้ขีดจำกัด ส่งผลให้ติดอยู่ในนิมิตไม่อาจหลุดพ้น เทียบกับวิชาทะเลสูญหายของฉิงคงแล้วรังแต่จะทรงพลังกว่า!
ฉิงคงมาจากไท่เยวียน ไม่ใช่ตำหนักสูญหาย
อันที่จริง เจ้าตำหนักสูญหายเห็นอนาคตในตัวฉิงคงมากกว่า เคยอยากดึงฉิงคงมาเป็นกำลังของตน ความสามารถของฉิงคงในวิถีสูญหายสูงส่ง หากได้เขาคอยชี้แนะย่อมเก่งกาจขึ้นกว่านี้ได้แน่ และจักกลายเป็นหนึ่งกำลังสำคัญของเขา!
น่าเสียดาย เขาชิงตัวไม่สำเร็จ จ้าวแห่งไท่เยวียนได้ฉิงคงไปอยู่ในกองกำลัง เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่เจ้าตำหนักสูญหายนึกเสียดาย
ธูปนิมิตถูกจบ จวินอีถลำลึกอยู่ภายใน ธูปนิมิตถักทอภาพในฝันออกมาหลายชั้นจนจวินอีแยกแยะไม่ออก
เสียงดังฟึ่บ กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวตวัดออกไป ทลายห้วงฝันทั้งหมด ช่วยให้จวินอีได้สติ
“อ๊าก!”
บุรุษผมทองจากตำหนักสูญหายร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ขณะที่กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวฟาดฟันห้วงฝันได้ตวัดมาหาเขาด้วย ร่างเขาถูกผ่าเป็นสองท่อน รวมถึงวิญญาณด้วย!
“สรรพสิ่งล้วนต้องกลายเป็นซาก สรรพวิญญาณล้วนต้องถูกฝังในหลุม อย่าดิ้นรนอีกเลย ลงหลุมกลายเป็นซากเสียเถิด!”
สมาชิกซากหลุมศพเป็นผีดิบ มันบริกรรมคาถา สำแดงมหาวิชาพิเศษบางอย่าง ชั่วพริบตานั้น พลังวิถีสลายปรากฏออกมา!
พลังในตัวจวินอีเริ่มสลายอย่างควบคุมไม่ได้ทันที
ขณะเดียวกัน จวินอียังเกิดความรู้สึกเบื่อโลก ปากบ่นงึมงำ “จริงด้วย มีที่ไหนไม่แตกไม่ดับ แข็งแกร่งระดับพวกเรายังไม่อาจไม่แตกไม่ดับ ยากจะควบคุมความเป็นความตายของตน ไม่แน่ว่าอาจตายเมื่อใดก็ได้…”
“ที่สำคัญ ข้ารักษาก้นตัวเองยังไม่ได้ อยู่ไปจะมีความหมายอะไร ไม่สู้ตายไปเสียดีกว่า!”
จวินอีได้รับผลกระทบจากมหาวิชานั้น ยอมสลายวิถีตนเองเพื่อลงหลุมกลายเป็นซาก!
“พูดเหลวไหลอะไร!”
กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวตวาดลั่น แสงกระบี่เจิดจ้าสาดส่องผืนอวกาศ บดขยี้พลังวิถีสลายทั้งหมด จวินอีฟื้นสภาพในบัดดล
จวินอีตกตะลึง นึกกลัวไม่หาย เขาจำได้ดีว่าเมื่อครู่เขาตั้งใจสลายวิถี หากไม่ใช่กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวยื่นมือช่วย เขาย่อมต้องสลายตนเองจนไม่เหลือซากแน่!
นี่เป็นผลให้เขาสะท้อนใจเหลือแสน เขาช่างปวกเปียกเหลือเกิน ไร้น้ำยาสิ้นดี สิ่งมีชีวิตห้าตนตรงหน้าล้วนจบชีวิตเขาได้ทุกเมื่ออย่างง่ายดาย!
เสียงดังฟึ่บ ผีดิบแห่งซากหลุมศพก็ถูกกระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวตัดเป็นสองท่อน
มันยังไม่ตาย กระนั้นก็หวาดกลัวเหลือแสน พลังของกระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวน่าพรั่นพรึงเกินไป เหนือกว่าพวกเขามากอย่างเห็นได้ชัด ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน
“ไป!”
พวกเขาไม่กล้าสู้ต่อ หนีอุตลุดไปทั่วทุกทิศ ขืนสู้กันต่อพวกเขาต้องถูกกระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวสังหารลงอย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องสงสัย!
“จะไปไหน!”
กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวแผดเสียงเย็น แบ่งร่างออกเป็นกระบี่ยาวห้าเล่ม ไล่ล่าตามไปทันที!
จากนั้น ท่ามกลางโลหิตสาดกระเซ็น สิ่งมีชีวิตทั้งห้าอย่างหลานเยียนถูกกระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวปลิดชีพอย่างสิ้นเชิง!
ศึกนี้ปิดฉาก จวินอีสะท้านใจเป็นหนักหนา เขาเอ่ยถามกระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยว “พวกเขามาจากที่ใด เป็นศัตรูที่คุณชายต้องต่อกรด้วยหรือ”
“ไม่แน่ใจ”
กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวตอบ
“ห๊า” จวินอีคิดไม่ถึงว่ากระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวจะตอบเขาเช่นนี้
เขาคิดว่ากระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวไม่ใช่ไม่รู้ แต่ไม่ต้องการบอกเขา ถึงอย่างไรกระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวทรงพลังปานนี้ ไฉนเลยจะไม่รู้ภูมิหลังของพวกหลานเยียน
“ไม่แน่ใจจริง ๆ”
กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวตอบ “ก่อนนี้พวกเราปราศจากความทรงจำ หลังออกเดินทางกับเจ้าถึงเริ่มมีสติสัมปชัญญะ ขอบอกเจ้าตามตรง ก่อนหน้านี้ข้าเป็นเพียงใบไม้แห้งเหี่ยวธรรมดา ส่วนมันเป็นเพียงของวาดเล่นของเด็กน้อย”
“อะไรนะ!”
จวินอีตกตะลึง
ก่อนนี้เป็นเพียงใบไม้แห้งเหี่ยวธรรมดา เป็นเพียงของวาดเล่นของเด็กน้อยหรือ?!
นี่มันเรื่องอะไรกัน?!
“พวกเรามีพลังกล้าแกร่งปานนี้เพียงเพราะวาจาเดียวของคุณชายเท่านั้น”
กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวเอ่ย “เจ้าไม่รู้ว่าคุณชายเก่งกล้าปานใด พลังของคุณชายกระจายอยู่ทั่วทุกที่ ข้ากับเจ้าเข็มทิศได้สืบสานปณิธานของคุณชายถึงมีพลังไร้ขีดจำกัดจุติลงมาในตัวเรา”
“สุดยอดเพียงนี้เชียว!”
จวินอีตกตะลึง เขารู้ว่าคุณชายนั้นสยดสยอง แต่ไม่คิดว่าจะสยดสยองปานนี้ วาจาเดียวเท่านั้น สามารถเปลี่ยนใบไม้แห้งเหี่ยวธรรมดาและของวาดเล่นของเด็กน้อยให้เปี่ยมด้วยพลังไร้เทียมทาน!
“ตั้งใจรับใช้อยู่ข้างกายคุณชายต่อไป เจ้าไม่เสียเปรียบแน่”
เข็มทิศล่าสมบัติเอ่ยขึ้นในเวลานั้น
“เข้าใจ เข้าใจแล้ว!”
จวินอีพยักหน้ารัว ไฉนเลยจะไม่เข้าใจ เขายอมรับคุณชาย ตั้งใจว่าจะติดตามคุณชายตลอดไป
เขาหันมองคนบ้า ยามนี้คนบ้ายังไม่ดีขึ้น ขดตัวอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าหวาดกลัว
กับคนบ้า เขายังรู้สึกสงสาร แม้ว่าคนบ้าเล่นงานเขาเกือบตาย กระนั้นเขาก็ยังสงสารคนบ้า คนบ้านั้นน่าเวทนายิ่งนัก
คนบ้าแข็งแกร่งเพียงใด มีสิทธิ์ชิงตำแหน่งผู้ทรงพลังที่สุดอย่างแน่นอน ทว่าตัวตนน่าพรั่นพรึงระดับนี้กลับกลายเป็นคนวิกลจริต น่าสงสารจริง ๆ ชวนให้สะท้อนใจนัก
เสี่ยวเจี๋ย? นี่คือชื่อของคนบ้าผู้นี้หรือ
คนบ้าเอาแต่เรียกตนเองว่าเสี่ยวเจี๋ย
เขาไม่รู้ชื่อคนบ้า รู้เพียงสมญานามของที่คนบ้าเรียกขานตนเอง…จ้าวสุขนิรันดร์
คิดมาถึงนี่ เขายิ่งสะท้อนใจ คนบ้าเรียกขานตนเองว่าจ้าวสุขนิรันดร์ ความหมายนั้นชัดเจน ปรารถความเกษมสำราญไปชั่วกัปชั่วกัลป์ ทว่าท้ายที่สุดกลับกลายเป็นคนสติฟั่นเฟือนวิกลจริต ไร้ซึ่งความสุขี
“เสี่ยวเจี๋ย มากับข้าเถิด”
เขาบอกกับคนบ้าด้วยความสงสาร “เจ้าไม่ต้องกลัวอีกต่อไป ไม่มีผู้ใดทำร้ายเจ้าได้อีกแล้ว”
“จิตใจเจ้าไม่เลวเลยจริง ๆ ถูกเขาเล่นงานเสียแย่กลับไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น ยังยอมปฏิบัติต่อเขาอย่างมีเมตตา มิน่าคุณชายถึงยอมให้เจ้าอยู่ข้างกาย”
กระบี่ใบไม้แห้งเหี่ยวเอ่ยอยู่ข้าง ๆ
“พูดเช่นนั้นไม่ได้ ทั้งหมดล้วนไม่ใช่ความตั้งใจจริงของเขา เขาเองก็ควบคุมตนเองไม่ได้ สติฟั่นเฟือนไม่รู้ว่าทำอันใดลงไป”
จวินอีส่ายหัวพลางกล่าว
เขายื่นมือไปให้คนบ้าเพื่อพาคนบ้าไปด้วย
คนบ้าหยุดร้องไห้ ดวงตาคู่นั้นจ้องมองจวินอี ทั้งคู่สบตากัน
“ช่างเป็นสายตาที่ใสกระจ่างเหลือเกิน…”
จวินอีมองตาคนบ้าแล้วเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ ยิ่งสงสารคนบ้าเข้าไปใหญ่
ทว่าในไม่ช้าเขาก็สงสารไม่ลง
“บัดซบ! คลายปากเดี๋ยวนี้!”
จวินอีด่ากราด ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยโทสะ
ไอ้เวรนี่ เจ้าคนฟั่นเฟือนเดนตาย สงสารไม่ลงจริง ๆ!
เขาอยากฉีกคนบ้าเป็นชิ้น ๆ นัก!
บ้าจริง!
คนบ้างับเข้าที่มือของเขาจนเนื้อยุ่ยไปหมด หมายจะกัดฝ่ามือเขาให้หลุด!