รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] - บทที่ 1164 อัปลักษณ์ไม่สมควรหัวเราะ ดูวานรขโมยลูกท้อเสีย!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]
- บทที่ 1164 อัปลักษณ์ไม่สมควรหัวเราะ ดูวานรขโมยลูกท้อเสีย!
บทที่ 1164 อัปลักษณ์ไม่สมควรหัวเราะ ดูวานรขโมยลูกท้อเสีย!
…………….
บทที่ 1164 อัปลักษณ์ไม่สมควรหัวเราะ ดูวานรขโมยลูกท้อเสีย!
จวินอีเปี่ยมด้วยจิตสังหาร ต้องการระบายความโกรธกับสิ่งมีชีวิตที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ทว่าเขาก็ยังมีความแปลกใจอยู่ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้มาจากที่ใดกัน? ทั้งหมดล้วนแข็งแกร่งน่าสะพรึงกลัว เขาสัมผัสได้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ต่างอยู่เหนือขั้นยี่สิบขอบเขตอัคร!
หากไม่ใช่เพราะใบไม้แห้งเหี่ยวในมือของเขา อย่าว่าแต่ระบายโทสะเลย กระทั่งความสามารถในการต่อกรเขายังไม่มีเสียด้วยซ้ำ ทำได้เพียงถูกสังหาร!
ตัวเขาอยู่ขั้นสิบเก้าขอบเขตอัคร ห่างไกลจากสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เกินไป!
ตู้ม!
โลกาสะเทือนเลือนลั่น จวินอีเข้าต่อสู้กับร่างเหล่านั้นอย่างดุเดือด พลังอันน่าสะพรึงกลัวพวยพุ่ง สรรพสิ่งถูกทำลายลงภายใต้พลังดังกล่าว
“อ่า…ทะเลาะกันแล้ว!”
คนบ้าที่อยู่ด้านข้างดูหวาดกลัวอย่างมาก นั่งยอง ๆ เอามือกุมหัว ทั้งร่างสั่นสะท้าน
“…นี่!”
จวินอีที่เห็นสถานการณ์ฝั่งคนบ้าพลันพูดไม่ออก
คนบ้าแข็งแกร่งยิ่ง การกำจัดพลังขั้นยี่สิบขอบเขตอัครไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด ทั้งยังทำได้ง่ายดาย ทว่าคนบ้ากลับมีท่าทางหวาดกลัว
เขาทอดถอนใจ สูตรโอสถร้ายแรงยิ่ง ทำให้ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้กลายเป็นบ้าได้ ไม่เหลือส่วนใดปกติเลย
ท่ามกลางจักรวาลดวงดารา สตรีอาภรณ์ขาวผู้หนึ่งปรากฏกายขึ้น ทั่วร่างของนางเปล่งประกาย งดงามอย่างถึงที่สุด บนใบหน้ามีรอยยิ้มอ่อนโยนระหว่างเดินไปหาคนบ้า
“ไม่ต้องกลัว มากับข้า ข้าไม่ทำร้ายเจ้า”
นางแย้มยิ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงไพเราะ มือสีขาวราวกับหยกยื่นออกไป ต้องการจะพาคนบ้าไปด้วย
มุ่งเป้ามาที่คนบ้าหรือ?
จวินอีมองสตรีอาภรณ์ขาว รับรู้ได้ทันทีว่าเป้าหมายของนางคือคนบ้า!
‘พวกเขามุ่งเป้าไปที่คนบ้าตั้งแต่แรก หรือว่าจะตามข้ามากัน?’
ดวงตาจวินอีหรี่ลงระหว่างคิดในใจ ‘ไฉนจึงบังเอิญเพียงนั้น มีโอกาสอย่างมากที่พวกเขาจะตามข้ามา!’
เขาไม่คิดว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่คนบ้าตั้งแต่แรก หากเป็นเช่นนั้นก็สมควรลงมือนานแล้ว ไม่รอจนกระทั่งถึงตอนนี้
เขาคิดว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะต้องติดตามเขาไปพบกับคนบ้า จากนั้นจึงคิดพาคนบ้าออกไปเพื่อรับสูตรโอสถ!
‘วิหารโบราณลึกลับกำลังใกล้เข้ามา สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างเคลื่อนไหว พวกเขาจะต้องพุ่งเป้าไปที่คุณชาย เมื่อข้าจากข้างกายคุณชายมา พวกเขาจึงลอบติดตามข้ามาด้วย!’
เขาคิดในใจ
ความจริงเขาคิดไม่ผิด ห้ามหากองกำลังต้องการวางเบ็ดตกปลา ไม่ยอมปล่อยหลี่จิ่วเต้าไป ลอบติดตามหลี่จิ่วเต้าตั้งแต่เริ่มแรก
เดิมทีพวกเขาต้องการใช้หลี่จิ่วเต้าเพื่อหย่อนเบ็ดล่อสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ทว่าหลี่จิ่วเต้าน่าสะพรึงกลัวเกินกว่าความคาดหมายของพวกเขาไปไกล จึงดึงดูดความสนใจของพวกเขาไม่ให้ปล่อยปละสิ่งใดก็ตามที่อยู่รอบกายหลี่จิ่วเต้า
ไม่เพียงจวินอีเท่านั้น แต่พวกซีเองก็ถูกพวกเขาลอบติดตาม
แน่นอน พวกเขาเพียงแค่ติดตาม ไม่ได้วางแผนจะลงมือ สิ่งที่หลี่จิ่วเต้าสำแดงออกมาล้ำลึกเกินหยั่งรู้ ประมุขมหากองกำลังทั้งห้าไม่กล้าเคลื่อนไหวอย่างหุนหันพลันแล่น
พวกเขาอยากสังเกตหลี่จิ่วเต้าอีกพักหนึ่ง
ครั้งนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลงมือกับจวินอี คนบ้าผู้นี้มีสูตรโอสถน่าอัศจรรย์บางอย่าง ห้ามหากองกำลังไม่อยากพลาด อีกทั้งไม่ต้องการให้หลี่จิ่วเต้าได้รับไป
อย่างไรเสีย หลี่จิ่วเต้าก็ล้ำลึกจนไม่อาจหยั่งถึงได้เพียงพอแล้ว หากได้รับสูตรโอสถไป หลี่จิ่วเต้าจะต้องยิ่งน่าสะพรึงกลัวและเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขามากขึ้น
ดังนั้นพวกเขาจึงต้องลงมือขัดขวางจวินอีที่ต้องการนำตัวคนบ้าไป
สตรีอาภรณ์ขาว ‘หลานเยียน’ นั้นเป็นคนที่ถูกส่งมาจากวังปี้อวี่
“พี่สาวตัวน้อยช่างงดงาม ทั้งยังพูดจาอ่อนโยนถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นคนดีมาก ไม่ทำร้ายเสี่ยวเจี๋ย เสี่ยวเจี๋ยเต็มใจตามพี่สาวตัวน้อยไป!”
เมื่อคนบ้าเห็นหลานเยียนก็ไม่หวาดกลัวอีกต่อไป หยุดตัวสั่นและริเริ่มจับมือหลานเยียนด้วยตัวเอง
‘เฮ้อ น่าเสียดายนัก แม่นางผู้งดงามปานนี้ หากถูกตบเกรงว่าจะต้องร้องไห้นานเป็นแน่!’
เมื่อจวินอีเห็นฉากนี้ ไม่เพียงแต่ไม่กังวล เขายังรู้สึกเสียดายกับหลานเยียนด้วยซ้ำ
ในฐานะผู้ที่ถูกคนบ้าเล่นจนใกล้ตาย ย่อมกระจ่างแจ้งเป็นอย่างดีว่าคนบ้าฟั่นเฟือนมากเกินไป ทุกสิ่งไม่อาจนำสามัญสำนึกทั่วไปมาตัดสินได้ พริบตาก่อนหน้าอาจกำลังยิ้มร่า แสดงท่าทางดีเยี่ยม ทว่าอึดใจต่อมาก็สามารถต่อยตีทำร้ายผู้อื่น!
เขาต้องทนทุกข์ทรมานมาหลายครั้ง
ตอนนี้หลานเยียนเองก็ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เดียวกันแน่นอน
อย่าได้มองว่าท่าทางที่คนบ้ามีต่อหลานเยียนนั้นดีมาก เขามั่นใจว่าพริบตาต่อมาหลานเยียนต้องถูกคนบ้าทุบตีแน่!
‘บัดซบ!’
แต่พริบตาต่อมา เขาพลันมองอย่างโง่งม สีหน้าแปลกประหลาดอย่างยิ่ง
ภาพคนบ้าทุบตีหลานเยียนตามที่เขาคาดการณ์เอาไว้ไม่ได้ปรากฏขึ้น สิ่งที่ทำให้สีหน้าเขาแปลกประหลาดยิ่งกว่าคือการที่คนบ้ายังแสดงท่าทางดียิ่ง ต้องการจะจากไปพร้อมหลานเยียนจริง ๆ
‘มารดามันเถิด นิสัยเดิมบุรุษยังอยู่แม้จะบ้าไปแล้วหรือ? สิ่งที่ฝังลึกลงกระดูกไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ นี่ยังคงมีความชื่นชอบต่อแม่นางผู้งดงามอย่างนั้นหรือ?!’
เขาสบถสาปแช่งในใจไม่หยุด เทียบกับหลานเยียนแล้วเขาช่างน่าเวทนานัก ถูกคนบ้าทุบตีไม่มีหยุด!
ส่วนกับหลานเยียนนั้น คนบ้าแสดงท่าทางโอนอ่อน ไม่ลงมืออันใดเลย!
นี่คือเสน่ห์ของหญิงงามหรือ? ต่อให้บ้าจุดนี้ก็ไม่แปรเปลี่ยน ยังคงชื่นชอบหญิงงาม!
“เพ้ย เสี่ยวเจี๋ย เจ้าลืมข้าแล้วหรือ?”
ตอนนี้เขาร้อนใจแล้ว รีบตะโกนหาคนบ้าว่า “ข้าเป็นพี่ใหญ่จวินอีของเจ้าไงเล่า เจ้าบอกจะไปกับข้าไม่ใช่หรือ?”
“เจ้าเป็นใคร ข้ารู้จักเจ้าหรือ?”
คนบ้าจ้องจวินอี มองครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะเอ่ยออกมา
“&@#…!”
จวินอีสบถด่า แทบจะกระอักเลือดออกมาอยู่แล้ว มารดามันเถิด คนบ้าผู้นี้เห็นคนงามก็ลืมกัน บอกว่าไม่รู้จักเขาหรือ?!
“เจ้าด่าข้าหรือ? ที่แท้ก็เป็นคนเลว! ยังกล้ามาบอกว่าเป็นพี่ใหญ่ข้า! คอยดู ข้าจะตีเจ้าจนตาย!”
เสียงสะเทือนเลือนลั่นดังขึ้น คนบ้าพุ่งตรงไปทางจวินอี กระทั่งหลานเยียนก็ไม่ทันตั้งตัว สิ่งนี้ทำให้นางตื่นตะลึง คนบ้าผู้นี้น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก
อั๊ก!
คนบ้าแข็งแกร่งเกินไป การเคลื่อนไหวรวดเร็วอย่างถึงที่สุด จวินอีตอบสนองด้วยความไว ยกใบไม้แห้งเหี่ยวขึ้นต้านทันในพริบตา แต่ก็ยังช้าเกินไป!
พลังใบไม้แห้งเหี่ยวยังไม่ทันระเบิดออก คนบ้าก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าจวินอีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นคนบ้าจับจวินอีมาทุบตีอย่างแรง ใบหน้าบวมช้ำ ร่างกายบิดเบี้ยว เลือดกระอักออกจากปาก แล้วคนบ้าจึงค่อยหยุดมือ
“จำเอาไว้ เสี่ยวเจี๋ยไม่มีพี่ชาย หากกล้าพูดว่าเป็นพี่ชายของเสี่ยวเจี๋ยอีก เสี่ยวเจี๋ยจะตีเจ้าจนตายอย่างแน่นอน!”
คนบ้ากำหมัดชกจวินอีพร้อมข่มขู่อย่างโหดเหี้ยม
“อ๊ากกก!”
จวินอีโกรธมากจริง ๆ คนบ้าสมควรตาย สติฟั่นเฟือนเสียจนไม่อาจวิปลาสไปมากกว่านี้แล้ว ก่อนหน้านี้เอาแต่เรียกเขาว่าพี่ชาย ตอนนี้กลับบอกว่าไม่มีพี่ชาย!
“พี่สาวตัวน้อย พวกเราไปกันเถิด!”
คนบ้ากลับไปหาหลานเยียน ท่าทางดุร้ายยามเผชิญหน้ากับจวินอีกลายเป็นอ่อนโยนเสียงนุ่มนวลทันที ประหนึ่งหลานเยียนเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของเขา!
‘มารดาเจ้าเถิด เจ้าแก่ตัณหากลับ!’
จวินอีสาปแช่งในใจ คนบ้าสมควรตาย เป็นบ้าแล้วยังคงตัณหากลับ!
“อย่าไปกับนาง!”
เขารีบตะโกนออกมาเสียงดัง หมายขัดขวาง
ทว่าเขาเพิ่งจะยืนขึ้น หลายร่างพลันพุ่งเข้ามาไม่ให้เขาเข้าไปยุ่ง
ตู้ม!
ขณะนั้นเองพลันเกิดแรงสั่ยสะเทือนครั้งใหญ่ สิ่งมีชีวิตมาถึงที่นี่เพิ่มขึ้น!
สี่มหากองกำลังอื่น ไท่เยวียน สำนักหยิน ตำหนักสูญหาย และซากสุสานได้มาถึงแล้ว
พวกเขาเหมือนกับหลานเยียน ล้วนถูกกองกำลังเบื้องหลังส่งมา แข็งแกร่งกว่าร่างเหล่านั้นมาก จุดประสงค์หลักเพื่อนำตัวคนบ้าไป
“ทุกท่าน ขออภัย พวกท่านมาช้าไปแล้ว เขาจดจำว่าข้าเป็นพี่สาวและกำลังจะจากไปพร้อมข้า”
หลานเยียนมองไปทางสิ่งมีชีวิตทั้งสี่พร้อมแย้มยิ้มบาง
กล่าวตามตรง เดิมทีนางไม่มั่นใจนักว่าจะพาคนบ้าไปด้วยได้ ทว่าหลังจากที่คนบ้ามาหานางแล้ว ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะแตกต่างออกไป
นางประจักษ์ถึงความน่ากลัวของคนบ้าแล้ว ในเมื่อคนบ้าอยู่ข้างนาง ไม่ว่าผู้ใดล้วนไม่อาจขัดขวางนางได้
ทว่าเพิ่งจะสิ้นเสียง รอยยิ้มยังไม่ทันจางหายจากใบหน้า นางพลัน…ถูกทุบตี!
คนบ้าชกเข้าศีรษะของนางโดยตรงจนแตกกระจายเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว!
“เจ้าอัปลักษณ์! ข้ารู้จักเจ้าด้วยหรือ? กล้าดีอย่างไรมาบอกว่าเป็นพี่สาวข้า! สมควรโดนตีแล้ว!”
คนบ้ากล่าวอย่างชิงชัง
“เจ้า!”
หลานเยียนสร้างศีรษะขึ้นมาใหม่ ใบหน้างดงามอย่างถึงที่สุดบิดเบี้ยวเนื่องจากแรงโทสะ
ในที่สุดนางก็ได้ประสบความฟั่นเฟือนของคนบ้า เขาช่างฟั่นเฟือนเกินไปแล้ว!
ก่อนหน้านี้ยังเรียกขานนางอย่างสนิทสนมว่าพี่สาว ชมนางงดงาม ทว่าพริบตาต่อมากลับเอ่ยว่าน่าอัปลักษณ์ ไม่รู้จักนางแต่อย่างใด?!
มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ!
“ฮ่า ๆ สมควร!”
เมื่อเห็นฉากนี้ จวินอีหัวเราะออกมาแทบตาย
ก่อนหน้านี้เขายังคิดว่าเมื่อคนบ้าเห็นสาวงามก็ไม่ฟั่นเฟือนอีกต่อไป กลับมาเป็นปกติ ทว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น คนบ้าก็ยังคงฟั่นเฟือนเหมือนเดิม!
“หัวเราะอันใด เจ้าบุรุษอัปลักษณ์! เทียบกับนางแล้วยังอัปลักษณ์เสียกว่า!”
คนบ้าจับจ้องไปทางจวินอี ก่อนจะปรากฏตัวข้างจวินอีในชั่วอึดใจพร้อมเริ่มลงมือทุบตีอย่างรุนแรง ก่อนจะโยนจวินอีทิ้งไปอีกด้าน!
“เจ้าบุรุษอัปลักษณ์ อย่าได้หัวเราะอีก ครั้งหน้าหากข้าได้ยินจะตีเจ้าจนตาย!”
คนบ้ากล่าวอย่างดุร้าย
จวินอีโมโหยิ่ง คนบ้ายังทุบตีเขาไม่พออีกหรือ? เขาหัวเราะก็ไม่ได้!
“สตรีอัปลักษณ์ เจ้าเองก็ด้วย คราวนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไป หากยังเอ่ยว่าเป็นพี่สาวข้าอีก เจ้าเองก็ต้องถูกตีจนตาย!”
คนบ้าเอ่ยกับหลานเยียนด้วยท่าทางดุร้าย
“อ๊าาา!”
ดวงตาหลานเยียนวาวโรจน์ นางใกล้เป็นบ้าแล้ว ก่อนหน้านี้ยังเรียกนางว่าพี่สาวตัวน้อยผู้งดงาม ยามนี้กลับเป็นสตรีอัปลักษณ์!
“พี่สาวของเสี่ยวเจี๋ยมีเพียงผู้เดียว นั่นคือ…นาง!”
คนบ้าแย้มยิ้ม ความเร็วของเขามากเกินกว่าไล่ตามได้ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดไม่ทันตอบสนอง ร่างของเขาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าสมาชิกไท่เยวียนพร้อมจับมือและเรียกพี่สาวอย่างสนิทสนม
สมาชิกไท่เยวียนงดงามเป็นเอกเช่นเดียวกัน รูปร่างอิ่มเอิบ ขาเรียวกลมเกลี้ยง งดงามน่าตื่นตะลึง
นางตกใจกลัวเมื่อถูกจับมืออย่างกะทันหัน ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความตระหนก
คนบ้าน่ากลัวเกินไปแล้ว ก่อนหน้านี้นางไม่รู้ตัวสักนิดจนกระทั่งโดนคนบ้าจับมือ หากคนบ้าลงมือ นางย่อมไม่อาจโต้ตอบหรือสกัดกั้นได้อย่างแน่นอน ถ้านางไม่ตายก็ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส!
แต่บนใบหน้าของนางพลันปรากฏรอยยิ้มอย่างรวดเร็ว กล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “ใช่ ข้าเป็นพี่สาวของเสี่ยวเจี๋ย และเสี่ยวเจี๋ยเป็นน้องชายของข้า”
นางจะไม่ยินดีได้อย่างไร ตอนนี้คนบ้านับได้ว่าอยู่ข้างนาง หมายถึงนางสามารถพาคนบ้าไปด้วยได้
‘ยังเป็นตัณหาของเขาอยู่ดี!’
เมื่อจวินอีเห็นฉากนี้พลันสาปแช่งในใจ
ก่อนที่คนบ้าจะเสียสติ เขาต้องเป็นพวกตัณหากลับอย่างแน่นอน ไม่รู้จักหลานเยียนเพราะได้พบสตรีที่งดงามกว่า!
เช่นนี้ก็ได้หรือ?
ตำหนักหยิน ซากสุสาน และตำหนักสูญหาย ต่างรู้สึกสงสัยในชีวิต ไท่เยวียนได้รับคนบ้าไปแล้วหรือ?
พวกเขาต้องการขัดขวาง แต่ก็ไม่กล้า เพราะความแข็งแกร่งของคนบ้าน่าหวาดกลัวเกินไป
“เสี่ยวเจี๋ย พวกเราไปเถิด”
สมาชิกไท่เยวียนนามฉิงอวิ๋นเอ่ยกับคนบ้าอย่างอ่อนโยน
นางไม่ได้คาดหวังว่าจะราบรื่นเพียงนี้ แต่ทั้งหมดล้วนไม่สำคัญ สามารถนำคนบ้าไปด้วยได้เป็นพอ
“ตกลงพี่สาว!”
คนบ้าแย้มยิ้มร่าเผยให้เห็นฟันซี่ขาว “แต่พี่สาวต้องอุ้มเสี่ยวเจี๋ยไปตลอดทาง พี่สาว เสี่ยวเจี๋ยอยากโดนอุ้ม ๆ…พี่สาวอุ้มเสี่ยวเจี๋ยแล้วเดินทางเถิด!”
เขาไม่ได้ดูเยาว์วัย ทั้งยังกล่าวได้ว่าแก่มากเสียด้วยซ้ำ แต่เขากลับแสดงท่าทางเหมือนเด็กไม่กี่ขวบปีออกมา อ้าแขนให้ฉิงอวิ๋นอุ้ม เห็นแล้วทำให้ฉิงอวิ๋นแขยงอย่างถึงที่สุด ภายในท้องบิดเกลียวอดอยากอาเจียนออกมาไม่ได้
‘ตัณหากลับอย่างไม่ต้องสงสัย!’
จวินอีวิจารย์ คนบ้าอยากให้อุ้มหรือ? เห็นได้ชัดว่าเพียงต้องการเอาเปรียบฉิงอวิ๋น กลายเป็นบ้าเช่นนี้แล้ว ยังไม่ลืมการเอาเปรียบ นี่ต้องมากตัณหาเพียงใด?
“ตกลง!”
ฉิงอวิ๋นรังเกียจขยะแขยง แต่นางก็ยังคงอุ้มคนบ้าขึ้นมา
“เป็นพี่สาวของเสี่ยวเจี๋ยจริง กลิ่นอายคุ้นเคยยิ่งนัก!”
ใบหน้าของคนบ้าแสดงความสุขเบิกบานอย่างมากออกมา ศีรษะถูไถเข้ากับแขนฉิงอวิ๋น ทำให้นางเกิดความคิดอยากสังหารคน!
สวรรค์ ร่างของนางบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่เคยใกล้ชิดกับบุรุษใดมาก่อนเลย ตอนนี้นางกลับถูกคนบ้าเอาเปรียบ จิตใจนางแทบแตกสลาย มีความคิดอยากฟันคนบ้าออกเป็นชิ้น ๆ!
ทว่าสุดทางนางก็ยังอดทนเอาไว้!
ไม่มีหนทางเลือก นางไม่อาจต่อกรกับคนบ้าได้ ไม่อยากอดทนก็ต้องอดทน!
“เสี่ยวเจี๋ย พวกเราไปกันเถิด!”
นางพยายามอย่างแรงกล้าในการอดกลั้นความรังเกียจเอาไว้ ต้องการพาคนบ้ากลับไปทันที จบประสบการณ์ความน่าแขยงโดยไวที่สุด
แต่นางยังไม่ทันได้เคลื่อนไหว พลันถูกคนบ้า…ลอบโจมตี!
“ดูเสีย…วานรขโมยลูกท้อ!”
คนบ้าตะโกน พลิกตัวในอ้อมแขนฉิงอวิ๋น ยื่นมือตรงไประหว่างขาของนาง
“เอ๋ เหตุใดจึงว่างเปล่า?!”
คนบ้าสับสนไม่เข้าใจ เหตุใดจึงว่างเปล่า? ‘ลูกท้อ’ เล่า?!
มือของเขาคลำหว่างขาฉิงอวิ๋นอีกครั้ง แต่ยังคงไม่พบสิ่งใด
“อ๊า!”
ทั่วทั้งร่างฉิงอวิ๋นเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำด้วยความอับอาย นางกรีดร้องออกมาเสียงดัง ไม่ต้องกล่าวเลยว่าเสียงกรีดร้องนั้นน่าสะพรึงกลัวเพียงใด ดวงดาราทั้งหมดถูกเสียงของนางทำลายล้างลงไปทันที!
คนบ้าสมควรตาย คลำอันใดกัน?!
นางใกล้จะเป็นบ้าแล้ว วานรขโมยลูกท้อ ขโมยไปจากนางหรือ? นี่มันเรื่องอันใดกัน! มารดามันเถิด!
นี่…ฟั่นเฟือนไปแล้วจริง ๆ!
สิ่งมีชีวิตจากกำลังอื่นต่างตกตะลึงจนโง่งม ตีพวกเขาจนตายก็ไม่คาดคิดว่าคนบ้าจะลงมือทำเช่นนี้!
“ฮ่า ๆ!”
จวินอีหัวเราะออกมา เขาสาบานเลยว่าตนเองไม่ต้องการหัวเราะ ทว่าเขาอดทนไม่ไหวจริง ๆ!
แต่พริบตาต่อมา ใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นสีเขียว!
เขาเห็นคนบ้าจับจ้องมา
“บุรุษอัปลักษณ์หัวเราะอันใด?! เฮ้ ดูสิ——วานรขโมยลูกท้อ!”
คนบ้าตะโกนเสียงดัง พุ่งตรงไปทางจวินอี!
“จับได้แล้ว ครั้งนี้มีลูกท้อ!”
คนบ้าแย้มยิ้มเต็มไปด้วยความพึงพอใจ
เขาจับ ‘ลูกท้อ’ ได้แล้ว!
…………….