ราชาโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 20
ผ่านมาแล้วหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่เปิดเรียน
เเน่นอนว่าฉันยังไม่ลืมเรื่องที่สัญญากับเเก้วเอาไว้หรอกนะ จะให้พูดจริงๆคือลืมไม่ได้ต่างหากล่ะ เธอน่ะมักจะส่งสัญญาณหลายๆอย่างเพื่อเตือนความจำของฉันไม่ให้ลืม
อย่างครั้งนึงที่ฉันเคยได้รับจดหมายจากคนแปลกหน้าแล้วด้านในก็มีรูปภาพของมีดทำครัวอยู่ บนตัวมีดสลักคำว่าZOMBIE ISLANDเอาไว้เด่นๆพร้อมกับรอยเลือดสีแดงประกอบฉาก
ถ้าโดนขนาดนี้แล้วฉันยังลืมมันได้อีก มั่นใจได้เลยว่ารอยเลือดที่ประกอบฉากหลังนั้นจะกลายเป็นเลือดของฉันแน่นอน…
“ นี่ หนังเรื่องนั้นสนุกจริงๆเหรอ? ”
“ อะไร? รึนายกำลังจะบอกว่าZombie Islandไม่สนุกงั้นสินะ? ”
“ เปล่า ก็แค่คอมเมนต์หรือพวกรีวิวที่ไปอ่านมาส่วนใหญ่มันเขียนคล้ายๆกันหมดเหมือนถูกจ้างมาเลยน่ะ ”
ถึงฉันจะเคยดูภาคก่อนๆของเรื่องนี้มาแล้วก็จริง แต่ก็สัมผัสถึงความสนุกไม่ได้เลย ถ้าเกิดฉันไม่เสียดายเงินคงจะหลับไปแล้ว
“ หาาาา!! นั่นมันก็เป็นเพราะตัวหนังสามารถทำให้ผู้ชมเข้าใจสิ่งที่จะสื่อแบบเดียวกันได้ยังไงเล่า! หนังทำมาถึง9ภาคเชียวนะ! ถ้าไม่สนุกจนมีคนดูเยอะแล้วคนสร้างจะเอางบจากที่ไหนมาใช้กันล่ะยะ! ในเมื่อนายไปอ่านรีวิวมาแล้วยังไม่เช้าใจถึงถึงความสุดยอดของเรื่องZombie Islandอีกงั้นเหรอ! ”
แก้วลุกขึ้นจากที่นั่งก่อนจะแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา
“ อ—เอ่อ ช่วยใจเย็นก่อนนะ คนเค้ามองมาทางนี้กันหมดแล้ว… ”
“ อะ———ขอโทษที่เสียงดังค่ะ…/// ”
ในตอนนี้พวกเรากำลังนั่งรอรถสองแถวอยู่ข้างทาง และแน่นอนว่าคนอื่นที่มารอรถเหมือนกันก็ได้ยินสิ่งที่แก้วพูดหมดทุกอย่าง
ก่อนหน้านี้ตอนที่แก้วบอกอยากไปด้วยรถสองแถวก็ทำเอาฉันรู้สึกตกใจนิดหน่อย เพราะทั้งฉันและเธอต่างก็ไม่เคยขึ้นรถสองแถวมาก่อนเลย แต่ยังโชคดีที่ฉันรู้จักกูรูด้านรถสองแถวและขอคำแนะนำมาก่อนแล้วเลยไม่ได้มีปัญหาอะไร จนกระทั่ง…
“ ค—คนเยอะดีเนอะ/// ”
“ อ—อื้ม… ”
เมื่อพวกเราขึ้นรถมาเเล้วก็พบว่าบนรถสองเเถวคันนี้มีคนเยอะมาก เยอะจนพวกเราทั้งคู่ต้องจำใจนั่งชิดติดกันเหมือนปาท่องโก๋เลย อีกนิดหน่อยคงได้ฟิวชั่นกันกลายเป็นชายผมตั้งไปแล้ว
นอกจากไหล่ของพวกเราที่กำลังชนกันแล้ว ต้นขาของเธอก็ได้ถูกดันมาชิดติดกับมือของฉันด้วย ภายในใจตอนนี้อยากจะร้องตะโกนดังๆว่า ‘นิ่มโว้ย!!’ เเต่ในสถานการณ์เเบบนี้ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากอดทนมันไว้
ทว่าจู่ๆคุณยายที่นั่งอยู่ข้างๆก็หันมาชวนพวกเราคุยด้วย…
“ พวกหนูจะไปไหนกันเหรอจ๊ะ? ”
เธอดูเหมือนคนแก่ใจดีทั่วไปที่แค่อยากรู้อยากเห็นเรื่องของวัยรุ่นเฉยๆ
“ พวกเรากำลังจะไปที่ห้างZoNaน่ะค่ะ เเล้วคุณยายล่ะคะ? ”
“ โอ้! เทสดีนิแม่หนู สมแล้วที่เป็นวัยรุ่น จะไปเดตก็ต้องไปที่ห้างนี่แหละเนอะ! ”
“ ค่ะ ”
แก้วไม่ปฏิเสธว่านี่คือการเดต บางทีเธออาจจะยอมรับมันหรือไม่ก็แค่ไม่ทันได้เอะใจเท่านั้น
“ พอดีพวกยายมากันหลายคนแล้ววางแผนกำลังจะไปเที่ยวหลายๆที่เพื่อหวนคิดถึงอดีตหลายๆอย่างด้วยกันน่ะ เอ้อ พอพูดถึงอดีตแล้วนึกเรื่องนี้ขึ้นได้เลย สมัยก่อนยายนี่ได้ชื่อว่าสวยสุดในหมู่บ้านเชียวนะ ผู้ชายจากทั้งในและนอกหมู่บ้านมักจะส่งจดหมายรักมาหายายบ่อยๆด้วย ”
“ โฮ๋ สุดยอดจังเลยนะคะ ”
“ ……? ”
ฉันที่นั่งฟังบทสนาอยู่นั้นก็ได้ไปสะดุดกับคำพูดนึงของคุณยายเข้า
( ที่ว่ามากันหลายคนเนี่ย อย่าบอกนะว่า… )
เมื่อฉันเริ่มมองไปที่คนรอบๆตัวก็พบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุเลยทั้งนั้น เเละแต่ละคนก็ดูไม่เหมือนคนแปลกหน้ากันด้วย…ฉับพลันนั้น—
—หนูหน้าตาน่ารักดีนะจ๊ะ! เป็นดาราเหรอ?
—พ่อหนุ่มเองก็หน้าตาดีไม่เบานะเนี่ย! สนใจผู้หญิงสูงอายุไหม
—หนูสนใจให้ลุงเเนะนำหลานชายไหม! หลานลุงคนนี้เรียนจบปริญญาเอกเลยนะ…ถึงไอ้นั่นจะเล็กสุดๆก็เถอะ
—นี่ๆ หลานสาวฉันน่ารักนะ สนใจหน่อยไหม? ถ้าสนใจเดี๋ยวเอาเบอร์ให้ได้นะ!
คนแก่ที่อยู่รอบๆก่อนหน้านี้เริ่มขยับเข้ามาหาพวกเราก่อนจะรัวคำถามใส่ไม่ยั้ง จากการพูดคุยเล็กๆก็เปลี่ยนไปกลายเป็นการร่วมชุมนุมหมู่บ้านไปซะแล้ว
ทั้งฉันและแก้วต่างก็ต้องรับศึกหนักจากรอบทิศทาง แต่ด้วยความสามารถของแก้ว เธอจึงตอบกลับทุกคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ต่างกับฉันที่ไม่ได้ตอบกลับไปสักคำถามเดียว
ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากพูด เเต่สมาธิของฉันตอนนี้กำลังมุ่งเน้นไปที่การควบคุมมือไม่ให้เคลื่อนที่อยู่ เนื่องจากมีคนเข้ามาเบียดจำนวนมากเลยทำให้มือของฉันมันค่อยๆเคลื่อนที่เข้าไปใกล้จุดที่ไม่สมควรอย่างช้าๆ
หมับ
แก้วที่สัมผัสได้ถึงนิ้วมือของฉันก็รีบหันมาจ้องเขม็งใส่และพยายามลดเสียงลงเพื่อไม่ใครได้ยิน
“ มือของนายจับตรงไหนอยู่น่ะยะ!? รีบปล่อยเลยนะ! ”
“ โทษที…พอดีมือเบรกแตก ”
“ หาาาา?! กำลังพูดบ้าอะไรอยู่น่ะ!? รีบๆปล่อยมือเลยนะ! เดี๋ยวคนอื่นก็สังเกตเห็นหรอก!! ชุดนี้มัน— ”
ตึงๆๆๆๆ!
แต่ก่อนที่แก้วจะได้พูดจบ จู่ๆรถคันที่พวกเรานั่งอยู่นั้นก็สั่นสะเทือนเนื่องจากพื้นถนนขรุขระ ผู้โดยสารทุกคนต่างก็ตัวกระเด้งขึ้นลงไปมาตามแรงสั่น แน่นอนว่ารวมถึงฉันกับเเก้วด้วย…
“ อื้ออออ…!?❤️❤️❤️❤️ ”
ฝ่ามือทั้งสองข้างของแก้วถูกชักขึ้นมาปิดปากเอาไว้อย่างรวดเร็วจึงทำให้เสียงครางสุดน่าอายนี้ดังอยู่แค่ภายในลำคอเท่านั้น โชคดีที่คนบนรถเองก็คุยกันเสียงดังด้วยเลยทำให้ไม่มีใครสักคนได้ยินเสียงสวรรค์นี้ แม้กระทั่งตัวฉันที่ยืนอยู่ข้างๆเธอก็ตาม
ทั้งหน้าตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีเเดงร้อนผ่าว เเววตาก็เหมือนคนกำลังจะร้องไห้ ร่างกายของเธอยังคงสั่นอยู่เเม้รถจะขับผ่านถนนขรุขระมาเเล้ว
( คืออะไรเนี่ย…? )
เมื่อฉันก้มไปมองที่นิ้วมือตัวเองแล้วก็พบของเหลวบางอย่างไหลผ่านมือของฉันไป เเต่ฉันก็ไม่ได้มีเวลามาให้ความสนใจกับมันมากนักเพราะขณะนี้รถสองแถวขับมาส่งพวกเราถึงจุดหมายเเล้ว
และถึงคุณยายที่ก่อนหน้านี้จะบอกว่ากำลังไปเที่ยวเพื่อหวนคิดถึงอดีต แต่สุดท้ายก็ลงที่ห้างZoNaเหมือนกัน…
“ เเม่หนูเป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ? ”
“ ม—ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ ”
“ อื้ม ถ้างั้นพวกยายไปก่อนนะ แล้วไว้เจอกันใหม่นะทั้งคู่ ”
หลังโบกมือลากันเสร็จ แก้วก็รีบวิ่งตรงดิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเธอก็เดินกลับออกมาด้วยสีหน้าปกติ
“ ถ้าไม่ไหวจะกลับกันเลยก็ได้นะ? ”
“ ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ไปกินบุฟเฟ่ต์กันเถอะ ”
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วแบบที่ฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ พอรู้สึกตัวอีกทีก็ถูกลากเข้ามาในร้านบุฟเฟ่ต์แล้ว
“ สต๊อปปปป!! ไม่ใช่ว่าพวกเราแค่มาดูหนังกันหรอกเรอะ?! ”
“ ก็ใช่สิยะ หนังมันเริ่มฉายตอนบ่ายโมงนะ พวกเราไปหาอะไรทำพลางๆรอเวลาก็ไม่เสียหายอะไรนี่ ตั๋วก็จองไว้แล้วด้วย รึว่านายคิดจะไปนั่งรอในโรงกันล่ะ? ”
“ บ่ายโมงเหรอ? ”
“ ใช่ไง บ่ายโมง ”
ก็ถ้ามันเริ่มฉายตอนบ่ายโมงแล้วคุณเธอจะมาปลุกฉันตั้งแต่เช้าทำหอกอะไรฟะเนี่ย…
“ ….เฮ้อ ก็ได้ฟะ จะได้แวะซื้อเค้กกลับบ้านด้วยพอดี ”
หลังจากที่กินบุฟเฟ่ต์เสร็จ ฉันก็ถูกเธอลากตัวไปซื้อของอย่างอื่นอีก แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากนัก แค่พวกของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น พวกแชมพูกับยาสีฟันอะไรทำนองนี้
และในระหว่างที่เดินแบบไร้จุดหมายอยู่นั้น หางตาของแก้วก็ได้ไปสะดุดเข้ากับร้านนึง แต่เธอก็มองมันแค่ไม่กี่วิก่อนจะเดินผ่านไป
ตอนที่เราพึ่งมาถึงห้างZoNaเวลาก็พึ่งจะ11โมงเช้าเอง ส่วนหนังที่จะดูมันก็เริ่มฉายตอนบ่ายโมง เวลามันเหลือเยอะตั้งขนาดนี้ พวกเราเลยไม่ได้รีบร้อนอะไรกัน ถ้าหาก…ไม่ได้หลงทางกันล่ะนะ…
“ เเฮก…แฮ่ก…มา…ถึง…จน…ได้ ”
“ ฟู่ว~เล่นเอาเหนื่อยใช้ได้เลยนะเนี่ย แต่ฉันบอกแล้วไงว่านายอย่าเดินห่างฉันน่ะ เห็นไหม สุดท้ายนายก็หลงทางจนได้ ”
“ ‘เห็นไหม’บ้าอะไร! เธอต่างหากที่หลงทางเฟ้ย!! ฉันแค่ไปเข้าห้องน้ำไม่กี่นาทีเองนะ เธอหายไปไหนมาเนี่ย??! ”
“ ….ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ หนังน่าจะพึ่งเริ่มฉายได้ไม่นาน พวกเรารีบเข้าไปกันดีกว่า ”
พวกเรามาช้าไป20นาที เเต่ยังโชคดีที่หนังยังไม่เริ่มฉายเพราะโฆษณา พวกเราเข้าไปนั่งตามตำเเหน่งเเละหนังก็เริ่มฉายทันที แน่นอนว่าป็อปคอร์นกับน้ำอัดลมที่พึ่งซื้อมาหน้าโรงก็ถูกกินหมดตั้งแต่10นาทีแรกตามเคย
Zombie Island 9 จะเล่าเรื่องต่อจากภาคที่แล้วที่ตัวเอกลื่นล้มตายต่อหน้าฝูงซอมบี้นับหมื่นและถูกคืนชีพกลับมาในภาคนี้
ฉันสามารถพูดได้เต็มปากว่าหนังเรื่องนี้ห่วยแตกมาก กระจายบทได้ไม่ดีพอจนทำให้คิดว่ามีนางเอกมาทำไม กระทั้งตัวประกอบบทยังมีเยอะยิ่งกว่านางเอกซะอีก และพวกฉากซีเรียสคนสร้างก็พยายามยัดมุกฝืดเข้ามาอีก
….ถึงฉันจะคิดอย่างงั้น แต่หนังเรื่องนี้ก็สามารถเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะอะไรไม่รู้คนส่วนมากถึงชอบเรื่องนี้จนมาต่อได้ถึงภาค9 ขนาดนักวิจารณ์หนังเองก็ยังให้คะเเนนถึง9.8คะเเนนเชียวนะ
( นอกจากไม่ให้บทแล้วยังฆ่าเธออีกเรอะ! นี่ผู้กำกับไปมีความแค้นอะไรกับนางเอกเนี่ย? )
ก็ไม่ได้อยากสปอยหรอกนะ แต่ตอนจบของภาคนี้มันขัดใจฉันสุดๆ นางเอกของเรื่องได้ตายลงอย่างกระทันหันเนื่องจากกินเนื้อซอมบี้เข้าไป และเหตุผลที่เธอกินไปมันก็ไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ว่าเนื้อซอมบี้กินได้ไหม เเต่ที่เธอกินไปก็เพราะเหตุผลโง่ๆอย่างการหยิบผิดสลับกับเนื้อตากเเห้งยังไงล่ะ…
( โคตรของโคตรห่วยเลย!! )
“ อ้า~โคตรของโคตรสนุกเลย ยิ่งช่วงฉากที่นางเอกตายนะ ฉันถึงกับร้องไห้เลย นายเองก็เห็นใช่ไหม! ”
หลังหนังฉายจบพวกเราก็เดินออกมาข้างนอก
“ รู้สึกดีสุดๆเลยตอนนี้~ ”
“ จ้าๆ แต่นี่ก็ถึงเวลากลับบ้านกันแล้ว ไป— ”
“ —เดี๋ยวก่อนสิ… ”
จู่ๆแก้วก็พูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับเปลี่ยนเป็นสีหน้าอึมครึม
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่คนรอบข้างเริ่มหันมามองทางพวกเรา แต่ทุกคนในที่นี่ต่างก็เห็นสีหน้าของแก้วเหมือนกันหมด…
“ ….วันนี้อุตส่าห์ได้มีโอกาสมาเที่ยวด้วยกันแค่สองคนทั้งที ฉันอยากเล่นเกมกับนายก่อนกลับบ้านน่ะ…ทำไม่ได้เหรอ? ”
สายตาของคนรอบข้างพลันเบนมองมาทางฉันเป็นทิศทางเดียว ฉันรู้สึกเหมือนตอนนี้มีมีดนับสิบเล่มกำลังจ่อคออยู่และมันพร้อมจะแทงเข้ามาได้ตลอดเวลา
—ลูกดูไว้แล้วอย่าเอาเป็นแบบอย่างนะ เด็กผู้ชายที่ทำให้เด็กผู้หญิงร้องไห้น่ะมันไม่เท่เอาซะเลย
—ฮะแม่…แต่จะให้ผมถ่ายคลิปพี่คนนั้นไปประจานเลยไหมฮะ?
—ไม่ต้องหรอกลูก เปลืองพื้นที่เปล่าๆ
ในสายตาของคนรอบข้างตอนนี้ ฉันคงจะกลายเป็นผู้ชายที่สารเลวที่สุดในประวัติศาสตร์ไปแล้ว
“ ….เล่นก็เล่นฟะ แต่ช่วยเร็วๆหน่อยละกัน ฉันยังต้องกลับไปทำการบ้านอีก ”
สุดท้ายแล้วฉันก็ทำได้แต่ต้องตอบตกลงไป
แน่นอนว่าฉันรู้อยู่แล้วว่านั่นก็คือการแสดงของเธอ คนอย่างแก้วเนี่ยนะที่จะมาร้องไห้ต่อหน้าฝูงชนแบบนี้ นั่นมันเป็นไปไม่ได้แน่!
“ เอ่อ… ”
“ มีอะไรอีก? ”
“ ก็ฉันใช้เงินที่เตรียมมาหมดแล้วน่ะสิ เพราะงั้นขอเงินหน่อยนะ เเค่นี้คงไม่ทำให้ขนหน้าเเข้งร่วงหรอกใช่ไหม? ”
“ ขอ? ไม่ใช่ยืมหรอกเรอะ?!———เฮ้อ…ก็เอาไปสิ ”
ยังไงนี่ก็ไม่ได้เป็นเงินของฉันอยู่แล้วนั่นแหละนะ
“ ขอบใจนะ ถ้างั้นเดี๋ยวฉันรีบไปเเลกเหรียญก่อน นายไปรอที่โซนเกมเลย วันนี้พวกเราจะยิงเอเลี่ยนให้ตัวพรุน! จะขับรถให้ล้อละลาย! จะตกปลาให้สูญพันธุ์เลย!! ”
“ นี่เธอได้ฟังตอนฉันบอกให้ ‘เร็วๆ’ ไหมเนี่ย… ”
“ ค่าๆ จะรีบไปแล้วค่า~ ”
เฮ้อ~ทำไมรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นผู้ปกครองของเธอไปแล้วล่ะเนี่ย?
หลังจากที่แก้วกลับมานั้นเธอก็ได้ลากฉันไปเล่นเกมทุกตู้ในโซนเกมเลย ไม่ว่าจะตกปลา ยิงปืน ขับรถ หรือแม้แต่คีบตุ๊กตาก็ด้วย เงินที่ถูกแลกเป็นเหรียญนั้นไม่ใช่จำนวนที่น้อยเลยสำหรับคนปกติ แต่ก็อย่างที่เคยบอกไว้ว่าเงินนี่มันไม่ใช่ของฉันอยู่แล้ว มันเป็นของพี่สาวแก้วต่างหากล่ะ เพราะงั้นต่อให้ฉันใช้เงินแบบสุลต่านก็ไม่มีปัญหา
และในระหว่างที่พวกเรากำลังรอรถสองแถวเพื่อนั่งกลับอยู่นั้น…
“ เอ้านี่… ”
“ หือ หมายความว่าไงเนี่ย? ”
“ ของตอบแทนที่ยอมมากับฉันในวันนี้น่ะ พอดีบังเอิญเจอเข้าตอนกำลังเดินเล่นแล้วคิดว่ามันเหมาะกันนายดีเลยไปซื้อมา ”
“ แว่นหนวดเนี่ยนะ? ”
“ ใช่…สรุปจะเอาหรือไม่เอา ”
“ เอ๊ะ? อา ขอบคุณ ”
ฉันยื่นมือไปรับสิ่งที่เธอเรียกมันว่า ‘ของตอบแทน’
ก็รู้สึกดีใจอยู่หรอกที่ได้รับของมา แต่ว่าทำไมถึงต้องเป็นแว่นตาของเล่นนี่ด้วยล่ะ?! แถมทำไมถึงมีไอ้หนวดที่ดูยังไงก็เป็นของปลอมนั่นอีก!? เธอคิดจะให้ฉันไปเล่นตลกรึไง…
หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งรถสองแถวกลับบ้านเหมือนตอนที่มา แต่เวลาตอนนี้คือพระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้ว ท้องฟ้าจึงเปลี่ยนเป็นสีส้มสวยงาม
และเมื่อฉันเปิดประตูบ้านเข้ามาก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งรออยู่ สีหน้าของเธอดูเหมือนจะไม่สบอารมณ์สุดๆ มันเป็นอารมณ์ที่ฉันเข้าใจได้เพราะถ้าฉันเป็นเธอก็อาจจะรู้สึกแบบเดียวกันก็ได้
“ ไหนพี่บอกจะออกไปเเค่ไม่กี่ชั่วโมงยังไงล่ะคะ! แล้วทำไมถึงหายไปทั้งวันเลยเนี่ย!? ”
“ ….อื้ม อันนั้นผมผิดจริงครับ ขอประธานอภัยเป็นอย่างสูง เเต่ได้โปรดดูนี่ซะก่อนครับ… ”
ทันทีที่ฉันชูถุงกระดาษขึ้นมา ดวงตาของฟ้าก็พลันฉายแววตื่นเต้นก่อนที่จะรีบกลับไปทำท่าทางเคร่งครึมเหมือนเดิม
“ พี่ซื้อเค้กสตอเบอรี่มาฝากด้วยล่ะนะ~ ของฟ้าคนเดียวสองชิ้น ของพี่หนึ่งชิ้นเเละของพ่อกับเเม่คนละชิ้นไงล่ะ มันพอจะเเทนคำขอโทษได้ไหมเอ่ย~ ”
“ ….ก—ก็ได้ค่ะ หนูจะยอมให้ยกโทษให้พี่ แต่ส่วนของหนูต้องเปลี่ยนเป็นสามชิ้นนะ ”
” เอ๋? แล้วมันจะพอดีกับทุกคนได้ยังไงล่ะ? พี่ซื้อมาแค่5ชิ้นเองนะ ”
“ ก็แค่เปลี่ยนของพี่เป็นศูนย์ชิ้นยังไงล่ะคะ ”
“ โหดร้าย!? ”