ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 80 ทีมสืบสวนร่วม
ตอนที่ 80 ทีมสืบสวนร่วม
ลีอาก็รับรู้ถึงความผิดปกติของมิเชลเช่นกัน จึงหันไปมองไรอัน พลางถามด้วยสายตา ว่าควรอัดให้สลบไปดีหรือไม่
ทันใดนั้น ลูเมี่ยนพูดกับมิเชล
“หลวงพ่อไม่อยู่หรือ”
ดวงตามิเชลกลายเป็นเร่าร้อนทันที
“หลวงพ่อกำลังจำวัดน่ะ ถ้าจะสวดมนต์ ให้ฉันช่วยก็ได้”
ใบหน้าของรองอธิการโบสถ์เปี่ยมไปด้วยความเว้าวอน
ลูเมี่ยน ‘ลังเล’ ไม่กี่วินาที ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ
“…ก็ได้”
เมื่อเห็นว่ามิเชลกำลังตื่นเต้นตื้นตัน เขารีบหันไปพูดกับพวกลีอา
“ทำไมล่ะ? การมาสวดมนต์ที่โบสถ์คือกิจของผู้ศรัทธาอยู่แล้ว มีอะไรต้องกลัว?”
ความนัยแฝงก็คือ เราทุกคนออกจากห้องใต้ดินมาแล้ว ซ้ำยังไม่ถูกจับคาหนังคาเขา ยังต้องกังวลไปไย?
สำหรับสาวกของสุริยันเจิดจรัส การมาสวดมนต์ในโบสถ์ถือเป็นกิจปกติ ส่วนการแอบเข้าออกผ่านประตูข้าง ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยจนสามารถมองข้ามได้
และการที่หลวงพ่อกับคนรับใช้จำวัดนานเกินไป ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเราสักหน่อยนี่?
ลูเมี่ยนทราบดี ข้ออ้างเหล่านี้สามารถใช้หลอกคนอื่นได้ แต่ไม่ใช่กับหลวงพ่อ
ทว่า ก่อนที่พวกหลวงพ่อจะได้รับ ‘พร’ พวกมันทำได้เพียงแกล้งโง่ ไม่กล้าเอะอะมะเทิ่ง ยกเว้นว่ากลุ่มของไรอันทำท่าว่าจะรายงานไปถึงเบื้องบน เพื่อยุติความผิดปกติทั้งหมดในหมู่บ้านกอร์ตู
ตราบใดที่พวกลีอายังคงทำเป็นเดินเตร็ดเตร่ในหมู่บ้าน หาคนคุยไปเรื่อยเปื่อย ทำตัวเหมือนยังมีข้อมูลเกี่ยวกับห้องใต้ดินของโบสถ์ไม่เพียงพอ หลวงพ่อก็ยินดีจะรักษาสถานะปัจจุบันเอาไว้
มิหนำซ้ำ แท่นบูชาใต้ดินถูกไรอันทำลายไปแล้ว ต้องใช้เวลาซ่อมแซมอีกสักพัก ลูเมี่ยนคาดว่าหลวงพ่อคงยังไม่ได้รับ ‘พร’ ภายในวันสองวันข้างหน้าแน่ อย่างเร็วที่สุดคือหนึ่งวันก่อนมหาพรต
เมื่อถึงวันมหาพรต เหตุการณ์ผิดปกติจะปะทุขึ้น ไม่ว่าจะเคยเขม่นกันมาก่อนหรือไม่ก็ตาม การยังเป็น ‘คนปกติ’ ก็ไม่ต่างอะไรกับก้างขวางคอชิ้นใหญ่ของหลวงพ่อ
หลังจากได้ยินคำพูดของลูเมี่ยน รองอธิการโบสถ์มิเชล·การีกูเริ่มคล้อยตาม พยักหน้าสอดรับอย่างเห็นด้วย
“ใช่ใช่ใช่! ไม่ว่าพวกคุณเคยทำอะไรไว้ ตราบใดที่สวดวิงวอนด้วยใจจริงและยอมรับบาป พระองค์ท่านก็จะให้อภัย”
จริงหรือ? ถ้าตอนนี้หลวงพ่อสารภาพบาปกับองค์สุริยันเจิดจรัส บอกว่าตนเคยหลงทางและหลงเชื่อเทพมาร แต่ตอนนี้อยากกลับตัวกลับไป เดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้อง พระองค์ก็จะให้อภัยทันที? ลูเมี่ยนแอบเสียดสีอยู่ในใจ แต่ภายนอกทำตัวเป็นผู้ศรัทธาอย่างแรงกล้า ก้าวไปทางแท่นบูชา
มิเชลเดินตัวปลิวนำทางไป ท่าทีราวกับจะบินเสียให้ได้
เมื่อลีอาเห็นนักบวชทำตัวกระตือรือร้นและจริงใจ ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองวาเลนไทน์ และพบว่าเพื่อนร่วมงานของตนกำลังเผยสีหน้าสลับซับซ้อน
นี่ควรจะเป็นสถานการณ์ที่วาเลนไทน์ออกปากชมเปาะ แต่เขาก็เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า รองอธิการโบสถ์มีความผิดปกติชัดเจน
ลีอาถอนสายตากลับจากวาเลนไทน์ เดินสองก้าวเข้าใกล้ลูเมี่ยน แล้วกระซิบข้างหูด้วยเสียงอันเบา
“เธอไม่คิดบ้างหรือ ว่าครึ่งหนึ่งของตรงนี้ อาจมิใช่สาวกสุริยันเจิดจรัส?”
“คุณไม่ใช่?” ลูเมี่ยนทำหน้าประหลาดใจ
มิใช่เพราะเขาหลักแหลมจนเข้าใจคำบอกใบ้ของลีอา แต่เพราะในห้าคนตรงนี้ หากไม่นับรองอธิการโบสถ์ที่ผิดปกติอย่างชัดเจน ที่เหลืออีกสี่คน วาเลนไทน์เป็นแน่นอน และลูเมี่ยนก็ถือว่าเป็น ซึ่งก็คือครึ่งหนึ่งแล้ว
ลีอาพยักหน้าเบาๆ ดังกรุ๊งกริ๊ง
หญิงสาวยิ้มแล้วกระซิบกระซาบ
“ไรอันเป็นคนของ ‘จิตแห่งจักรกล’ ส่วนฉันเป็นคนของ ‘หน่วยแปด’ พวกเราไม่ได้สังกัดศาสนจักรสุริยันเจิดจรัส”
ลูเมี่ยนเคยได้ฟังจากพี่สาวว่า ‘จิตแห่งจักรกล’ คือหน่วยงานที่คล้ายกับ ‘ศาล’ ของศาสนจักรสุริยันเจิดจรัส แต่สังกัดศาสนาเทพแห่งจักรกลไอน้ำ เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบคดีเหนือธรรมชาติ ส่วน ‘หน่วยแปด’ มีชื่อเต็มว่า ‘คณะกรรมการข่าวกรองและความมั่นคงแห่งสาธารณรัฐอินทิสหน่วยที่แปด’ ซึ่งเป็นองค์กรผู้วิเศษที่เป็นทางการที่สุดของรัฐบาลอินทิส
“ฉันนึกว่าคุณสองคนถูกศาสนจักรส่งมา…” เด็กหนุ่มหาเก้าอี้นั่ง พลางถามด้วยความใคร่รู้
ลีอานั่งลงข้างๆ แล้วพูดยิ้มๆ
“ในช่วงไม่กี่ปีหลัง มีเหตุการณ์อันตรายที่เกี่ยวข้องกับพลังเหนือธรรมชาติ เกิดขึ้นบ่อยครั้งในแถบชายแดนประเทศ โดยเฉพาะเขตที่มีข้อพิพาทด้านอำนาจการปกครอง ดังนั้น เมื่อทางการได้รับจดหมายขอความช่วยเหลือจากหมู่บ้านกอร์ตู พวกเขาจึงค่อนข้างให้ความสำคัญ หลังจากให้หน่วยข่าวกรองตรวจสอบเบื้องต้น จนยืนยันได้ว่าหมู่บ้านมีปัญหาจริง เบื้องบนจึงตัดสินใจส่งทีมสืบสวนร่วมเข้ามายังหมู่บ้านกอร์ตู เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงจากภายใน หน้าที่ของเราคือการรวบรวมข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุดส่งกลับไป ให้เบื้องบนวางแผนและตัดสินใจดำเนินการ”
“แต่ใครจะไปคิดว่าที่นี่…”
เธอหยุดพูดกะทันหัน และอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าจนเกิดเสียงกรุ๊งกริ๊ง
ความผิดปกติและความน่ากลัวของที่นี่ เกินกว่าที่เคยจินตนาการไว้มากนัก
ในบางครั้ง หญิงสาวก็รู้สึกว่าแนวคิดของวาเลนไทน์ ที่อยากรายงานเรื่องราวทั้งหมดโดยละเอียด เพื่อให้เบื้องบนทำลายหมู่บ้านนี้ทิ้งเสีย ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องขึ้นมา
เพียงแต่เธอยังไม่อยากตาย จึงต้องข่มความเป็นมืออาชีพและศีลธรรมเอาไว้
ขณะนี้ รองอธิการโบสถ์มิเชล·การีกู หยิบพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์บนแท่นบูชาขึ้นมา แล้วหันกลับมายังกลุ่มสี่คนที่แสร้งทำเป็นสวดมนต์
ลีอาจึงยกแขนทั้งสองข้างขึ้น ไขว้กันกลางหน้าอก ก้มศีรษะพร้อมกับโน้มตัวเล็กน้อย
“…” ลูเมี่ยนมองดูด้วยความงุนงง
เมื่อครู่เธอเพิ่งจะบอกว่าไม่ใช่ผู้ศรัทธาของสุริยันเจิดจรัส!
ลีอารับรู้ถึงสายตาของเด็กหนุ่ม จึงหันมาพูดยิ้มๆ
“ระหว่างกำลังปฏิบัติภารกิจ การปลอมตัวเป็นสาวกศาสนาอื่นจะไม่ถูกพระองค์ลงโทษ ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูนี่สิ…”
หญิงสาวชี้คางไปอีกฝั่งหนึ่ง
ไรอันจาก ‘จิตแห่งจักรกล’ กำลังไขว้แขนไว้กลางหน้าอก สีหน้าแววตาเปี่ยมล้นศรัทธา
ระหว่างภารกิจ ขีดจำกัดล่างในบางเรื่องสามารถยืดหยุ่นได้สินะ… ลูเมี่ยนนึกอยากจิกกัดลีอากับไรอัน แต่ทุกคนเริ่มสวดมนต์กันแล้ว ตนจะมัวชักช้าไม่ได้
เมื่อเด็กหนุ่มตั้งท่าตามแล้วหลับตาลง รองอธิการโบสถ์มิเชล·การีกู พลิกเปิดหน้าพระคัมภีร์ ปากขยับเปล่งเสียงเคร่งขรึม
“เมื่อพระองค์ทรงตรัสว่า ‘จงสว่าง’ … โลกนี้จึงมีแสงสว่าง…”
ลูเมี่ยน นั่งสำรวมอยู่ในโบสถ์หลังเดิมที่เคยเข้ามาหลายครั้ง ฟังคำเทศนาที่คุ้นเคย พลันหวนนึกถึงบางสิ่ง
หากเป็นเมื่อก่อน ทุกครั้งที่เข้ามาสวดมนต์ เด็กหนุ่มเพียงไหลไปตามคนหมู่มาก ไม่เคยมีสมาธิ เอาแต่มองซ้ายทีขวาที แอบคุยกันเสียงเบา
แต่บัดนี้ เขาปรารถนาอย่างแรงกล้าให้ทุกสิ่งกลับมาเป็นดังเดิม ถึงกับยอมสวดวิงวอนจากก้นบึ้งหัวใจ
กิจกรรมที่เคยไม่ชอบทำในอดีต ยามนี้ช่างน่าหวนคะนึงถึง
จนกระทั่งพวกลูเมี่ยนออกจากโบสถ์สุริยันเจิดจรัส หลวงพ่อกับคนรับใช้ก็ยังไม่ตื่น
ไรอันมองไปทางปราสาท แล้วพูดด้วยความรู้สึกจากก้นบึ้ง
“คุณนายคนนั้นแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดไว้มาก”
“แข็งแกร่งแค่ไหน?” ลูเมี่ยนถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ไรอันคิดสักพักก่อนพูดว่า
“เหมือนกับย่างเข้าประตูแห่งทวยเทพไปแล้ว แต่ก็เหมือนยัง”
คุณก็เหมือนกัน ทำเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็เหมือนยัง… ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้ตนต้องพึ่งพาพวกไรอัน ลูเมี่ยนคงกล่าวในสิ่งที่คิดออกไปแล้ว
อย่างไรก็ดี อาศัยความรู้งูๆ ปลาๆ ในศาสตร์เร้นลับระดับสูง เด็กหนุ่มเดาได้ว่าประตูแห่งทวยเทพของไรอันหมายถึงสิ่งใด
ลำดับ 4! จุดเริ่มต้นของครึ่งเทพ!
เขาครุ่นคิดสักพัก แล้วจึงพูด
“คุณนายปัวริสในร่าง ‘คุณนายราตรี’ น่ะ… ฉันคิดว่าสถานะของเธอดูแปลกๆ”
ก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มเคยเล่าเรื่องราวของ ‘โลกอีกฝั่ง’ และตำนานของ ‘คุณนายราตรี’ ให้พวกลีอาฟังแล้ว
“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ลีอาพูดยิ้มๆ “ยังกับเป็นสิ่งที่ถูกเย็บเข้าด้วยกัน แต่ยังเย็บไม่เสร็จ”
ไรอันพยักหน้า แล้วจึงเสริม
“พวกเราเคยได้ยินเรื่องของคุณนายราตรีมาบ้าง… ในเขตชายแดนระหว่างอินทิสกับอาณาจักรเฟเนพ็อต ตลอดหลายปีหลัง เกิดเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันหลายหน บ้างก็เรียกว่า ‘คุณนายราตรี’ บ้างก็ ‘คุณนายเฮลต์’ บ้างก็อ้างตนเป็น ‘เจ้ากรุณา’ บ้างก็เป็น ‘ราชันมาร’ แต่จนถึงตอนนี้ พวกเรายังไม่เคยจับได้สัก ‘คุณนาย’ และยังขาดความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับเธอ…”
“อา… แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินเกี่ยวกับ ‘โลกอีกฝั่ง’ ”
ลีอาเดินลัดเลาะริมลานจัตุรัส พลางกล่าวพร้อมเสียงกระดิ่ง
“สำหรับฉัน คำอธิบายของโลกอีกฝั่ง ชวนให้นึกถึงบางสิ่ง”
“นึกถึงอะไร?” ลูเมี่ยนไม่เคยอายที่จะถาม
ลีอาหันไปมองทางทิศใต้พร้อมกับพูด
“ศาสนจักรพระแม่ธรณีแห่งเฟเนพ็อต มีคำกล่าวว่า…”
“วิญญาณหวนคืนสู่ผืนดิน”
วิญญาณหวนคืนสู่ผืนดิน… ภาพของทุ่งร้างและวิญญาณคนตายที่เดินเตร่อยู่บนทุ่ง ผุดขึ้นในความคิดลูเมี่ยน
เขาต้องยอมรับว่า ลีอาเชื่อมโยงได้สมเหตุสมผล
เมื่อมาถึงต้นเอล์มตรงปากทางเข้าหมู่บ้าน ไรอันพูดพลางมองไปรอบๆ
“หลังจากนี้เราไม่ควรไปยุ่มย่ามกับคุณนายอีก…ในแผนยุติวัฏจักรเวลาของเรา แม้เธอจะไม่ใช่ผู้ช่วย แต่ก็คงไม่เป็นศัตรู… เพียงแต่ต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของเธอไว้ คอยสังเกตว่าเราจะใช้ประโยชน์จาก ‘จุดเวลา’ ที่เธอพูดถึงได้หรือไม่”
ที่ไม่ไปยุ่ง เพราะชัดเจนว่าสู้ไม่ไหวมากกว่ากระมัง… ลูเมี่ยนกลั้นคำพูดที่อยากเปล่ง มิให้เล็ดลอดออกไป
เด็กหนุ่มหันไปถามวาเลนไทน์แทน
“เหลืออีกกี่นาที”
เขากังวลว่าจะทำพลาดเรื่องเวลา จนพี่สาวเดินออกจากเขตหมู่บ้านเพื่อเริ่มต้นวัฏจักรใหม่
วาเลนไทน์หยิบนาฬิกาพกที่ทำจากทองคำออกมาเปิดดู
“เหลืออีกสิบนาที”
“ค่อยยังชั่ว…” ลูเมี่ยนโล่งอก แล้วโบกมือให้พวกไรอัน “ฉันจะไปหาโอลัวร์ ถ้าพวกคุณไม่มีอะไรทำ ช่วยตามหาและสืบเรื่องสามีของฌิบริลให้หน่อย ฌ็อง·โมรีน่ะ แล้วก็ตรวจสอบว่าใครเป็นคนแพร่ข่าวลือเรื่องที่ราศีกำลังจะเปลี่ยน จนทำให้ทุกครอบครัวมีโชคลาภ… ถ้าคืบหน้าเมื่อไรก็ไปหาฉันที่บ้านได้เลย… ไว้เจอกัน พวกกะหล่ำปลีของฉัน!”
พวกลีอาคิดจะทำอยู่แล้ว จึงไม่มีใครขัดข้อง
…
หลังจากอำลากับทีมสืบสวนร่วม ลูเมี่ยนเดินไปยังริมขอบหมู่บ้านตามจุดนัดพบ พลางจมอยู่ในความคิด
หลังจากเอาชีวิตรอดจากใต้โบสถ์มาได้ เขาพอจะมองเห็นภาพรวมของความผิดปกติในหมู่บ้านกอร์ตูแล้ว
วัฏจักรเวลาเกิดจากฝีมือของหลวงพ่อกับลิ่วล้ออย่างแน่นอน พวกมันแอบบูชาเทพมารมาไม่ต่ำกว่าครึ่งปี มีคนนอกหมู่บ้านถูกนำมาเซ่นสังเวยใต้โบสถ์เป็นระยะ เพื่อแลกกับ ‘พร’ มากมาย
ก่อนถึงวันมหาพรต หลวงพ่อกับปงส์·เบเนต์สังเวยผู้วิเศษสามคนที่ปิแยร์·แบรีนำกลับมา หรืออาจจะแค่หนึ่งในนั้น เพื่อให้ได้รับ ‘พร’ จากองค์ซ่อนเร้น รายแรกกลายเป็นผู้วิเศษที่เก่งกาจ จึงตัดสินใจเริ่มประกอบพิธีกรรมครั้งใหญ่ในวันมหาพรต
เมื่อถึงคืนที่สิบสอง ในขั้นตอนสุดท้ายของพิธีใหญ่ องค์ซ่อนเร้นผู้มีส่วนหนึ่งของพระนามว่า ‘ชะตากรรม’ ได้รับเครื่องเซ่นสังเวยครั้งใหญ่ และเตรียมมอบผลตอบแทนตามที่หลวงพ่อกับลิ่วล้อปรารถนา แต่ดันเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเสียก่อน พิธีกรรมจึงไม่ลุล่วง พลังงานที่เกี่ยวข้องกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคตจึงรั่วไหลออกมา นำไปสู่การเกิดวัฏจักรเวลา
เกี่ยวกับเหตุไม่คาดฝันดังกล่าว ลูเมี่ยนนึกถึงสิ่งที่มาดามลึกลับเคยพูดไว้
“เดิมที เธอจะต้องถูกปนเปื้อนอย่างรุนแรง แต่เคราะห์ดีที่รอยประทับของ ‘พระองค์ผู้ยิ่งใหญ่’ บนตัวถูกกระตุ้น จนพลังของพระองค์ไหลเข้ามาสถิตร่าง พร้อมกับช่วยผนึกต้นตอของมลพิษเอาไว้ สร้างความสมดุลให้กับร่างกาย…”
……………………………………………………..