ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 354 มือ
ตอนที่ 354 มือ
ใต้ดินใกล้ถนนอาเขตโรงละคร
ชายที่แต่งกายเป็นจอมเวท พูดกับฟรังก้าด้วยเสียงแหลม
“มันง่ายมาก เงื่อนไขที่เจาะจงมีเพียงสามข้อ หนึ่ง คุณต้องสัญญาว่าจะไปที่เหมืองหินในหุบเขาลึกแล้วระเบิดประตูลับภายในถ้ำ สร้างความวุ่นวายที่สามารถดึงดูดทุกคนโดยรอบ สอง ผมจะให้ค่าจ้างคุณห้าหมื่นเฟลคิน มัดจำล่วงหน้าสองหมื่น สาม หากไม่สามารถทำตามสัญญาจะถูกลงโทษอย่างไร ซึ่งเป็นข้อผูกมัดที่เหมือนกันสำหรับทั้งสองฝ่าย รายละเอียดสามารถเจรจาได้”
ชายคนนี้มิได้คิดจะหลอกสองผู้วิเศษตรงหน้าด้วยเนื้อหาของสัญญา แต่เตรียมจะใช้พลังของตนหลังจากที่สัญญามีผลบังคับใช้ เพื่อแก้ไขเนื้อหาของภารกิจ บังคับให้อีกฝ่ายต้องแอบเข้าไปในถ้ำลับในเหมืองหินหุบเขาลึก แล้วนำสิ่งที่ตนต้องการ รวมถึงหลักฐานสำคัญออกมา
ผู้ว่าจ้างคนนี้เคยใช้พลัง ‘แก้ไขเนื้อหาสัญญา’ เพื่อซื้อดวงวิญญาณมนุษย์ในราคาหนึ่งพันเฟลคินมาแล้ว
เขามั่นใจว่าตนจะทำสำเร็จในครั้งนี้เช่นกัน
มองไปทางฟรังก้าที่กำลังสนทนากับชายในชุดจอมเวท จินนาในเงามืดล้วงมือเข้าไปในถุงเงินใบเล็ก ลูบคลำเหรียญทอง เงิน และทองแดงด้านในอย่างไร้จุดหมาย
เธอแน่ใจว่าไม่มีตราประทับในถุงเงิน
หรือควรพูดว่า ฟรังก้าไม่เคยมีสิ่งที่เรียกว่าตราประทับอะไรนั่น!
เธอหมายถึงอะไรกันแน่? จินนาหันไปมองผู้ว่าจ้างที่พูดถึงเงื่อนไขในสัญญา พลางรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล
ถ้าต้องการทำข้อตกลง เหตุใดถึงไม่ขอการรับรองในการชุมนุมศาสตร์เร้นลับเมื่อสักครู่?
หากกังวลว่าเนื้อหาของภารกิจจะถูกเปิดโปง ก็สามารถใช้บริการ ‘ห้องพูดคุย’ แล้วยืมสมบัติวิเศษของเจ้าภาพ ไม่จำเป็นต้องแอบตามแล้วเสนอธุรกิจกลางทาง!
เรื่องนี้มีกลิ่นตุๆ!
เมื่อจินนาคิดได้ ก็เริ่มเข้าใจเหตุผลที่ฟรังก้าโยนถุงเงินให้เธอ:
หากพบว่าความผิดปกติเมื่อไร ให้ใช้ ‘แหวนลงทัณฑ์’ โจมตีฝ่ายตรงข้ามทันที ควบคุมสถานการณ์เอาไว้!
ฮู่… จินนาถอนหายใจแผ่วเบา พลางสวมแหวนลงทัณฑ์ ขณะเดียวกันก็อาศัยความมืดลดระยะห่างระหว่างตนกับผู้ว่าจ้างลงอีกเล็กน้อย
ฟรังก้าเหลือบมองเงาที่ไม่ถูกส่องสว่างด้วยโคมไฟคาร์ไบด์ ยิ้มพลางพูดกับผู้ว่าจ้างที่แต่งกายในชุดจอมเวท
“ฟังดูสมเหตุสมผลดี แต่ฉันต้องยืนยันว่าคุณไม่ได้โกหก หรือไม่ได้ซ่อนลับลมคมในไว้”
ขณะพูด เธอโยนโคมไฟคาร์ไบด์ในมือไปข้างหน้า แล้วหยิบกระจกออกจากกระเป๋าลับของชุดนักลอบสังหาร ยิ้มพลางกล่าว
“พอดีเลย ฉันถนัดการทำนาย”
ได้ยินประโยคดังกล่าว รูม่านตาของผู้ว่าจ้างในชุดจอมเวทพลันเบิกกว้าง บรรยากาศดูเครียดผิดปกติ
เขาไม่แน่ใจว่า ‘การทำนายด้วยกระจกวิเศษ’ จะสามารถเปิดโปงกลอุบายของตนได้หรือไม่!
จินนาที่ซ่อนตัวอยู่ในเงาสังเกตเห็นความผิดปกติดังกล่าว โดยไม่ลังเลเลย อาศัยความเด็ดขาดอันน่าเหลือเชื่อ เธอยกมือขวาขึ้น ทำให้แหวนโลหะที่ล้อมด้วยหนามเล็กๆ ส่องแสงระยิบระยับ
พร้อมกันนั้น คล้ายกับมี ‘สายฟ้า’ สองสายถูกยิงออกจากดวงตาจินนา
ทะลวงจิต!
…………
ณ บ่อน้ำสตรีซามาเรีย
ลูเมี่ยนกับเฮล่าถูกข่มขวัญความคิดอันน่าพรั่นพรึงอีกครั้ง ติดเชื้อความบ้าคลั่งอันบริสุทธิ์ จนทำได้เพียงยืนแน่นิ่งด้วยร่างกายสั่นเทา
นอกจากทำให้ทั้งสองแทบขยับตัวไม่ได้ มันยังค่อยๆ ‘ช่วย’ ให้พวกเขาหลุดพ้นจากสภาพใกล้ตาย ร่างกายที่เคยเย็นเฉียบร้อนรุ่มราวกับไฟเผา ความคิดที่เงียบสงัดเดือดพล่านราวกับน้ำเดือด ทั้งเกรี้ยวกราดและรุนแรง
แต่แน่นอน จุดสีม่วงแดงบนร่างกายของทั้งสอง รวมถึงผิวหนังเน่าเปื่อยหลายแห่ง มิได้ทุเลาลงเลย กลับยิ่งอาการแย่ลง
ความมืดอันลึกล้ำหวนกลับมาอีกครั้ง เฮล่าดิ้นรนอย่างยากลำบากเพื่อใช้แหวนเพชรสีดำบนมือขวา คอยปลอบโยนร่างที่ลอยขึ้นลงภายในบ่อน้ำสตรีซามาเรีย รวมถึง ‘ยักษ์’ ที่กำลังลุกไหม้อยู่ในชุดเกราะเก่าๆ ขาดวิ่นและเน่าเปื่อยหลายแห่ง
ลูเมี่ยนพอเริ่มได้พักสมอง ก็พบว่าการหนีของตนกับเฮล่าเมื่อสักครู่มิได้ไร้ประโยชน์
พวกเขาอยู่ห่างจากบ่อน้ำเป็นสิบเมตร โดยที่ร่างอันเน่าเปื่อยเหล่านั้นไม่สามารถออกจากเขตบ่อน้ำเพื่อปีนขึ้นฝั่งได้ จึงมิอาจคว้าขาของทั้งสองแล้วลากลงใต้น้ำ
ร่างเหล่านั้นยืนอัดแน่นอยู่ริมขอบสระด้วยสายตาเหม่อลอย ฝ่ามือที่ผุพังไปมากหรือบิดเบี้ยวพิสดารโผล่พ้นผิวน้ำเป็นระยะ สลับกับถูกแรงลึกลับกระชากกลับไป
พวกเขากรีดร้องอย่างไร้เสียง ทำให้ทางลาดสั่นไหวไปทั้งแผ่น ลูเมี่ยนกับเฮล่าพลันเกิดอาการง่วงซึมหรืออยากยอมแพ้ เต็มไปด้วยปฏิกิริยาด้านลบ
ทว่า ความบ้าคลั่งที่คอยกระตุ้นความคิดของทั้งสอง รวมถึงอิทธิพลที่ทำให้เกิดอาการคล้ายโรค ‘บุคลิกภาพแตกแยก’ ช่วยหักล้างสภาวะข้างต้นไปเกือบทั้งหมด
รอบๆ บ่อน้ำสตรีซามาเรีย สิ่งที่สามารถเข้าใกล้ลูเมี่ยนได้เหลือเพียงร่างของหญิงสาวที่เดินวนเวียน กับเส้นผมสีดำยาวเหมือนสาหร่าย ฝ่ายหนึ่งใช้ดวงตาสะท้อนภาพของเด็กหนุ่ม ส่วนอีกฝ่ายยืดยาวออกมา พยายามพันธนาการร่างเขาไว้
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ลูเมี่ยนตื่นเต้นยินดี เพราะเชื่อว่าถึงแม้ตนจะต่อต้านไม่สำเร็จ ถูกผมสีดำยาวกับร่างที่น่าจะเป็นนางมารลำดับสูงลากกลับไปหาบ่อน้ำสตรีซามาเรียอีกครั้ง แต่เมื่อต้องถูกลากไกลนับสิบเมตร ตนก็ยังมีโอกาสรอให้น้ำพุสีซีดเอาชนะร่างอันน่าสะพรึงเจ้าของนัยน์ตาสีเหล็กดำประกายแดง พัดพาอีกฝ่ายกลับเข้าไปในรูสีดำ
เมื่อถึงตอนนั้น ลูเมี่ยนจะวิ่งหนีอีกครั้งเพื่อทำระยะเพิ่มเติม วนสักสองสามรอบก็คงหลุดพ้นจากขอบเขตของหมอกสีเทาขาว กลับไปยังห้องฝังศพด้านบนได้สำเร็จ
หลังจากนั้น เขาจะส่งเฮล่ากลับเข้ามา โดยที่ตัวเองรออยู่ด้านนอกให้อีกฝ่ายเก็บน้ำจากบ่อแทน เพื่อหลีกเลี่ยงปรากฏการณ์พิสดารอันเกิดจากแร่เลือดธรณี รวมถึงหลีกเลี่ยง ‘ยักษ์’ ที่ชัดเจนว่าแข็งแกร่งกว่า ‘พรายน้ำ’ ตนอื่นๆ
วินาทีถัดมา ลูเมี่ยนพบว่าร่างกายของตนแข็งทื่อจนผิดวิสัย เป็นประสบการณ์เดียวกับการถูกแช่แข็ง
น้ำแข็งสีขาวเกาะกุมกลืนกินร่างกายเด็กหนุ่มอย่างต่อเนื่อง สลับกับละลายหายไป
บนกระจกตาสีน้ำเงินของสตรีลึกลับ ลูเมี่ยนกำลังถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็ง
ผมสีดำยาวพันรอบตัวเด็กหนุ่มทันที ลากเขาไปยังบ่อน้ำสตรีซามาเรีย
เฮล่าเห็นร่างของนางมารกับเส้นผมสีดำยาวพร้อมใจกันรุมเล่นงานลูเมี่ยน โดยที่ตัวเธอแทบไม่ได้รับผลกระทบ จึงเล็งแหวนเพชรสีดำบริสุทธิ์บนมือขวาที่คอยปล่อยความมืดไม่ขาดสาย ไปยังเป้าหมายนิรนามซึ่งสงสัยว่าเป็นวิญญาณนางมารลำดับสูง
ราตรีกลายเป็นม่านบังตา ห่อหุ้มนางมารเอาไว้ บังคับให้เธอเข้าสู่สภาวะนิทรา
ลูเมี่ยนฉวยโอกาสนี้ส่งเสียง ‘ฮึ่ม’ ยิงแสงสีขาวจากจมูกทะลุชั้นน้ำแข็งใสกระจ่าง ชนเข้ากับเส้นผมสีดำคล้ายสาหร่ายน้ำ
เส้นผมสีดำที่พันรอบตัวเขาร่วงกราวทันใด คล้ายกับสูญเสียพลังไปชั่วขณะ
ไม่ไกลนัก วิญญาณสตรีในชุดคลุมสีขาวที่ดูศักดิ์สิทธิ์โผล่ออกมาอีกครั้ง มองมายังลูเมี่ยนอีกครั้ง
แม้จะยังสลัดอันตรายออกไปไม่หมด แต่ลูเมี่ยนก็ค่อนข้างมีความสุข หลังรอดชีวิตจากการโจมตีรอบก่อนมาได้ เด็กหนุ่มมองว่าต่อให้ตอนนี้ตนเลิกต่อต้าน ก็ยังสามารถเอาตัวรอดได้จนกระทั่งน้ำพุสีซีดหดกลับเข้าไปในรูนั่นอีกครั้ง
แต่ทันใดนั้น ดวงตาสีเหล็กของร่างมหึมาที่ลอยอยู่ในน้ำพุกลับยิ่งทวีความบ้าคลั่ง ประกายสีแดงสนิมดูสดขึ้นจนเหมือนเลือด
เขากระชากน้ำพุอย่างเอาเป็นเอาตาย ราวกับมีโซ่เหล็กพันธนาการไว้
ในที่สุด ท่ามกลางความเคลื่อนไหวอันเกรี้ยวกราดดุจดังปฐพีคำราม ร่างที่สวมเกราะเก่าโชกเลือด ซึ่งมีเปลวไฟล่องหนลุกโชน ก็ก้าวมาถึงขอบน้ำพุสตรีซามาเรียในก้าวเดียว
ครืน!
ราวกับแผ่นดินสั่นสะเทือนไปทั้งผืน ฝุ่นสีเทาขาวร่วงกราวลงมาจากด้านบน
เสียงหึ่งดังขึ้นในหัวลูเมี่ยน เป็นเวลาเดียวกับที่สติดับวูบไป
หลังจากฟื้นคืนสติจากภาวะ ‘ภาพตัด’ ด้วยห้วงความคิดอันขาวโพลน ลูเมี่ยนพบว่าตัวเองได้ข้ามระยะทางหลายสิบเมตรในพริบตา กลับมายังขอบน้ำพุซามาเรียอีกครั้ง!
เด็กหนุ่มใช้หางตาชำเลืองแล้วพบว่า เฮล่ากำลังวิ่งกลับมายังริมขอบสระ ดวงตาเปื้อนเลือด แววตาว่างเปล่าราวกับหุ่นเชิด ราวกับศพ ราวกับทหารที่เชื่อฟังคำสั่งอย่างสมบูรณ์
ลูเมี่ยนจินตนาการออกทันทีว่า หลังจากภาพตัดไป ตนวิ่งกลับมายังริมขอบ่อสตรีซามาเรียได้อย่างไร — ก็วิ่งกลับมาในสภาพเหม่อลอยกึ่งๆ เชื่อฟังคำสั่งแบบนี้นี่แหละ!
เด็กหนุ่มที่เพิ่งตื่นขึ้นมาไม่เหลือทางหนีแล้ว เพราะทางลาดเอียงถูกขวางไว้โดยเส้นผมสีดำยาวกับร่างของผู้ที่น่าจะเป็นนางมารลำดับสูง ส่วนอีกฝั่งก็เป็นฝ่ามือเน่าเปื่อยเละเทะหรือบิดเบี้ยวน่าขยะแขยง
พวกมันรุมคว้าลูเมี่ยนพร้อมกัน หวังฉุดกระชากลากเด็กหนุ่มลงสระ ส่วนร่างมหึมาเจ้าผมยาวสีเลือดอยู่ห่างออกไปราวๆ หนึ่งก้าว
ลูเมี่ยนกัดฟันกรอด ในสภาพที่ยังพอจะหลงเหลืออิสระอยู่บ้าง เขาใช้ปากคาบโคนเทียนไขสีขาว แล้วสอดมือซ้ายที่กำลังสวมถุงมือ ‘ทุบตี’ เข้าไปในกระเป๋าเสื้อ
ขณะเดียวกันก็ด่าทอในใจ
“ไอ้พวกเทพมารอึสุนัขทั้งหลาย เอาแต่ดูอยู่ได้ ทำไมถึงไม่ส่งใครสักคนมาทำร้ายฉันสักที!”
“ไหนตัวอันตรายของพวกแก ไหวว่าจะส่งตัวอันตรายมาหาฉัน!”
“พวกแกกลัวสินะ ไม่กล้ามาที่นี่ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับร่างเสียสติสุดโต่งนั่น!”
ลูเมี่ยนด่าทอเสร็จ ด้วยหัวใจไม่ยอมแพ้ เด็กหนุ่มชักมีดสั้นแล้วเตรียมตัดข้อมือขวา ซึ่งผสานเข้ากับแร่เลือดธรณีไปบางส่วน
ถ้าอยากได้นักก็มาเอาไป!
สำหรับคำถามที่ว่า การรีเซตทุกหกโมงเช้าจะช่วยให้มืองอกกลับมาใหม่หรือไม่ ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้ว
ทันใดนั้น ท่ามกลางการสั่นสะเทือนของพื้นดิน ซึ่งสั่นลงไปถึงก้นสระสีซีด มือข้างหนึ่งยื่นออกมาจากรูสีดำสนิทนั่น
นิ้วมือเรียวยาว บนหลังมือมีแผลปริแตกจำนวนหนึ่ง แต่ละแผลมีขนนกสีเหลืองอ่อนเปื้อนคราบน้ำมันงอกออกมา หรือไม่ก็มีหนองเหลืองเน่าไหลซึม ด้านข้างของแผลปริแตกเหล่านั้น ผิวหนังมันวาวราวกับหยก แต่ซีดเซียวหม่นหมอง
ทันทีที่มือนี้ยื่นออกมา ก็ข้ามบ่อน้ำมาคว้าขาขวาของร่างมหึมานั่นไว้
ร่างที่มีเปลวไฟล่องหนลุกท่วม ซึ่งสวมชุดเกราะขาดวิ่นเปื้อนเลือด โซซัดโซเซอยู่ครู่หนึ่ง ฝืนดิ้นรนไปพลางถูกลากเข้าหารูสีดำสนิทก้นสระ
เขาขัดขืนสุดชีวิต แต่ความเร็วในการถูกลากกลับมิได้ลดลงเลย และแทบไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงใดกับฝ่ามือนั่นด้วย มีเพียงนกขนหลุดร่วงไม่กี่เส้น หนองเหลืองเน่าเปรอะเลือด และผิวหนังไม่มันวาวอีกต่อไป เผยให้เห็นเส้นเลือดสีดำที่ราวกับมีชีวิต
สัญลักษณ์อันซับซ้อนจำนวนมาก บ้างซีดจาง บ้างดำสนิท บ้างหม่นหมอง ทยอยปรากฏขึ้น บีบให้ร่างอันบ้าคลั่งและน่าพรั่นพรึงหดเล็กลง พลางถูกดูดเข้าไปในตาน้ำสีดำสนิท
ลูเมี่ยนไม่ได้มอง และมองไม่เห็นฉากดังกล่าว ทราบเพียงว่าร่างมหึมาเจ้าของใบหน้าเน่าเปื่อย เจ้าของผมยาวสีแดงเลือด เจ้าของนัยน์ตาสีเหล็กดำ กำลังออกห่างจากตนไปเรื่อยๆ โดยที่ฝ่ามืออันน่าขยะแขยงจำนวนมาก ซึ่งรัดรึงร่างกายเขา พลันหยุดนิ่งกะทันหัน ราวกับกระแสเวลาถูกหยุดไว้
ร่างอันน่าพรั่นพรึงและเสียสติคำรามต่ำ แต่ก็ยากที่จะหลุดพ้นจากพันธนาการ ผ่านไปเพียงชั่วอึดใจเดียว กว่าครึ่งของร่างเขาก็ถูกลากลงไปยังก้นบึ้งของตาน้ำ
เมื่อร่างดังกล่าวใกล้จะหายลับไปอย่างสมบูรณ์ ความบ้าคลั่งพลันแปรเปลี่ยนเป็นรูปธรรม จุด ‘สนิม’ สีแดงเข้มพุ่งออกจากดวงตาสีเหล็กดำของเขา ยิงตรงมาทางลูเมี่ยน
สัญชาตญาณสั่งให้เด็กหนุ่มยกมือขวาขึ้นมาป้องกัน แต่ ‘รอยสนิม’ ทั้งสองได้พุ่งผ่านถุงมือ ‘ทุบตี’ เข้ามา เจาะผิวหนังลูเมี่ยนที่ถูกแร่เลือดธรณีกัดกร่อน
โครม!
บ่อน้ำสีซีดหดกลับเข้าไปทั้งหมด พาทุกร่างที่ลอยอยู่ตามลงไปในรูสีดำสนิทด้วยกัน
บริเวณรอบตาน้ำกลายเป็นเงียบสงัดฉับพลัน
……………………………………………………..