ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 171 ปฏิภาณไหวพริบ
ตอนที่ 171 ปฏิภาณไหวพริบ
เสียง ‘ตุ้บ’ ดังขึ้น ร่างไร้วิญญาณอันหนักอึ้งกระแทกพื้นอย่างแรง ส่งอิทธิพลต่อจิตใจบารอนบรินิแยร์และลูอิสด้วยเช่นกัน
บารอนบรินิแยร์ลุกขึ้นยืน จ้องศพที่นอนนิ่งข้างเท้าลูเมี่ยน แลเห็นผมสีน้ำตาลหยักศกดกหนา แขนขายาวผิดปกติ และรูปร่างใหญ่โตน่าเกรงขาม
‘ค้อนเหล็ก’ แอตไม่ผิดแน่!
ม่านตาของลูอิสขยายกว้าง แทบไม่อยากเชื่อว่าศพที่นอนบนพื้นร้านกาแฟ จะเป็นคนทรยศของพรรคซาฟาห์ตัวจริง
บารอนเพิ่งมอบหมายงานให้ชาร์ลหลังอาหารค่ำ และตอนนี้ยังไม่ถึงสี่ทุ่มด้วยซ้ำ!
ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ทางนี้เพิ่งจะรวบรวมข้อมูลและอาวุธที่ช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จ แต่ยังไม่ทันจะได้ส่งมอบให้ชาร์ล เขาก็ทำภารกิจสำเร็จแล้ว?
นอกจากนี้ ‘ค้อนเหล็ก’ แอตยังเป็นผู้วิเศษ แข็งแกร่งกว่าวิลสัน และไม่ย่ามใจเหมือนมาร์โกต์ แอตมักจะมีคนคุ้มกันล้อมหน้าล้อมหลังเสมอ แต่ผลปรากฏว่า หลังจากที่บารอนโยนงานให้ ค้อนเหล็กก็อยู่บนโลกได้ไม่ถึงสามชั่วโมง
มันต่างอะไรกับการไปซื้อหมูจากตลาดคนซื่อมาเชือด?
แม้บารอนจะลงมือเอง ก็คงไม่ง่ายและงานเนี้ยบขนาดนี้ อาจจะล้มเหลวด้วยซ้ำ!
สายตาของลูอิสเลื่อนจากศพมายังใบหน้าชาร์ล ราวกับว่าเพิ่งจะรู้จักเด็กหนุ่มบ้านนอกรายนี้
มาร์โกต์ถูกเขาฆ่าเพราะประมาท ซ้ำอาวุธยังเป็นมีดพิษ ในกรณีของวิลสัน ที่ถูกจัดการได้ง่ายๆ ก็เพราะอีกฝ่ายอ่อนแอและถูกขังอยู่ในห้อง แต่ ‘ค้อนเหล็ก’ แอตเก่งกาจแทบไม่แพ้บารอน อีกทั้งยังระแวดระวังการลอบสังหารจากพรรคซาฟาห์อยู่ทุกลมหายใจ เรียกได้ว่าแทบจะไร้ช่องโหว่
แต่ผู้แข็งแกร่งระดับนั้นก็ถูกชาร์ลฆ่าภายในไม่กี่ชั่วโมง!
ไอ้เด็กนี่เก่งมาจากไหน?
ขีดจำกัดอยู่ตรงไหน?
เทียบกับบารอน ใครแข็งแกร่งกว่ากัน?
คำถามมากมายวนเวียนในหัวลูอิสอย่างมิอาจหักห้าม แววตาที่มองลูเมี่ยนเต็มไปด้วยความประหวั่นพรั่นพรึงโดยไม่รู้ตัว
นักเลงคนอื่นๆ ก็เช่นกัน
สายตาของบารอนบรินิแยร์มองสลับระหว่างศพของ ‘ค้อนเหล็ก’ กับใบหน้าลูเมี่ยน ราวกับว่าต้องการหาร่องรอยการเล่นตุกติก
ภารกิจที่ยากแม้แต่สำหรับตัวเขาเอง ลูเมี่ยน·ลีกลับทำสำเร็จได้ง่ายๆ?
ถ้าฆ่าแอตได้ง่ายขนาดนั้น พรรคซาฟาห์ที่อยากลงโทษคนทรยศใจแทบขาด จะปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้หรือ?
หมอนี่น่ากลัวกว่าที่เราประเมินไว้… ไม่ว่าจะด้านพละกำลัง สติปัญญา การลงมือทำ หรือการฉกฉวยโอกาส ไม่มีสิ่งใดด้อยกว่าเราเลย… ต้องมีความลับซ่อนอยู่ในตัวเขาแน่ ไม่ง่ายดายเหมือนที่เห็นจากภายนอก… บารอนบรินิแยร์ฝืนกลั้นอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน พยายามเรียกสติ เหตุผล และปัญญาที่ตนภาคภูมิใจกลับมา
เขาเตรียมจะยิ้มและพูดขอบลูเมี่ยน·ลีตามปกติ บอกว่าจะนำผลงานในคราวนี้ไปรายงานให้บอสทราบ แต่ทันใดนั้นก็ฉุกคิดถึงประเด็นหนึ่ง
สีหน้าของบารอนบรินิแยร์พลันแข็งกร้าว มองลูเมี่ยนพร้อมกับเอ่ยปาก
“มีใครอีกบ้างที่รู้ว่าคุณสังหาร ‘ค้อนเหล็ก’ แอต?”
ลูเมี่ยนตอบเถรตรง
“เพียบเลย”
สีหน้าของบารอนบรินิแยร์แปรเปลี่ยนทันที สูญเสียมาดของสุภาพบุรุษที่ชอบวางท่าประหนึ่งทุกสิ่งอยู่ในการควบคุม
ชั่วขณะนั้น เขาอยากจะก่นด่าลูเมี่ยนเสียเต็มประดา
ไอ้เวร! สมองเอ็งมีแต่ขี้หรือไง? มีคนมากมายรู้ว่าเอ็งฆ่า ‘ค้อนเหล็ก’ แอต แล้วยังจะเอาศพมันมาที่คาบาเร่ต์ลมเอื่อยอีก?
ไอ้สมองกลวง! ไม่คิดบ้างหรือไงว่าคนพวกนั้นจะไปแจ้ง ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ จนมันตามมาเอาคืนที่คาบาเร่ต์ลมเอื่อย?
เอ็งคิดว่าข้าสู้ ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ได้หรือไง? บัดซบ! ทำไมต้องมาเสี่ยงตายเพราะเอ็งด้วยเนี่ย!
เอ็งควรไปหลบอยู่ใต้ดินทรีอาร์สิวะ มุมไหนก็ได้โว้ย!
ระหว่างที่บารอนบรินิแยร์กำลังสูดลมหายใจเข้าออกยาวๆ โดยมิได้เปล่งเสียงด่าออกมา ลูเมี่ยนยิ้มอย่างสบายอุราพลางกล่าว
“ตอนนี้ลูกน้องของ ‘ค้อนเหล็ก’ น่าจะไปหา ‘แมงป่องดำ’ แล้วล่ะ มีแต่ถิ่นของบารอนเท่านั้นที่จะให้การคุ้มครองผมได้”
“บารอน ไม่ใช่ว่าคุณเตรียมรับมือกับการแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งจากแก๊งหนามพิษไว้แล้วหรอกหรือ? ถึงได้ส่งผมไปฆ่าสักคนในหมู่ ‘ค้อนเหล็ก’ ‘หัวล้าน’ และ ‘เชิงเทียนขาสั้น’ ?”
บารอนบรินิแยร์ถูกคำถามของอีกฝ่ายปิดปาก จนรู้สึกขมปร่าไปทั้งปาก หมดปัญญาจะไล่ตะเพิดลูเมี่ยนออกจากถิ่นของตน
สำหรับการแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งของแก๊งหนามพิษ เขาได้คิดแผนสำรองเอาไว้สองทาง จนมั่นใจว่าตนจะไม่ตกอยู่ในอันตราย
ส่วนเรื่องที่ ‘คนยักษ์’ ซิมงต์หรือ ‘มุสิก’ คริสโตอาจจะถูกฆ่าตาย นั่นไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรือ?
แต่ปัญหาก็คือ เขายังไม่ทันได้เตรียมการ ยังไม่ทันได้เริ่มใช้แผนเลย!
บารอนบรินิแยร์วางแผนจะส่งข้อมูลกับอาวุธไปยังโรงแรมระกาทองในเช้าวันพรุ่งนี้ แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะรับมือกับสถานการณ์อย่างไร โดยอ้างอิงจากผลลัพธ์หน้างาน อย่างไรเสีย การลอบสังหารหัวหน้าแก๊งหนามพิษไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่มีเวลาสักสองสามวันคงยากที่จะเข้าถึงตัว
ใครจะไปรู้ว่าคนบ้าลูเมี่ยน·ลีจะไปหา ‘ค้อนเหล็ก’ ทันทีที่รับงาน ไม่มัวประวิงเวลา ไม่สอดแนมก่อน ไม่เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ไม่รอโอกาสที่เหมาะสม
ที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่าคือ หมอนั่นดันทำสำเร็จ! แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ฆ่า ‘ค้อนเหล็ก’ แอตได้แล้ว แถมยังลากศพมาที่คาบาเร่ต์ลมเอื่อยอีก!
แม่งยังเป็นคนอยู่หรือเปล่าวะ!
ส่งผลให้เขายังขาดความพร้อม หาก ‘แมงป่องพิษ’ ลงมือจู่โจม ตนคงต้องนอนเป็นศพคู่กับ ‘ค้อนเหล็ก’ แอต
เห็นบารอนบรินิแยร์เงียบไป สีหน้าหม่นหมองไม่รู้ว่ากำลังคิดสิ่งใด ลูเมี่ยนนึกขบขันในใจ
ที่เขาแบกศพของ ‘ค้อนเหล็ก’ มายังคาบาเร่ต์ลมเอื่อย มาวางต่อหน้าบารอนบรินิแยร์ มิใช่เพื่ออวดเท่หรือทำเป็นเก่ง และมิใช่เพื่อข่มขวัญหัวหน้าหน่วยกับลูกน้อง
จุดประสงค์ของเขาคือการดึง ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์กับคนเก่งๆ ในแก๊งหนามพิษมาที่นี่!
ถ้าบารอนบรินิแยร์ตาย ตำแหน่งก็จะว่างลง จะดีจะร้ายก็ต้องมีคนเก่งๆ มาสืบทอด เมื่อถึงตอนนั้น ชาร์ลที่มีฝีมือดี มีผลงาน และเคยช่วยคนรักของ ‘บูตแดง’ แน่นอนว่าต้องเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ!
ส่วนคำถามที่ว่า เขาจะรอดจาก ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ไปได้อย่างไร ลูเมี่ยนไม่เป็นกังวลมากนัก
เพราะในกระเป๋าเสื้อของเขามีนิ้วของมิสเตอร์ K อยู่!
มิสเตอร์ K คงไม่ถือสาเรื่องที่เราเปลี่ยนจุดประสงค์การใช้นิ้ว อย่างไรเสีย เราทำไปเพื่อภารกิจของเขาเอง… ลูเมี่ยนคิดอย่างสบายใจ
ภัยคุกคามจากซูซานน่า·มาติสคงอีกนานกว่าจะมาเยือน หลังจากนี้ค่อยหาหนทางอื่น หรือบางที มิสเตอร์ K เห็นตนทำงานเสร็จได้ดีและเร็ว อาจให้นิ้วมาเพิ่มอีกก็ได้
หลังจากสีหน้าของบารอนบรินิแยร์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่สักพัก เขาก็ลุกจากเก้าอี้ เร่งเดินไปทางตู้นิรภัยโลหะสีเทาแถวๆ เคาน์เตอร์บาร์ร้านกาแฟ
บารอนหมุนปุ่มและกรอกรหัส
ลูเมี่ยนแอบครุ่นคิด คิ้วขมวดเล็กน้อยแทบมองไม่เห็น
บารอนบรินิแยร์จะหยิบอะไรออกมา? ขนเงินสดหนี?
หรือว่าเขามีสมบัติปิดผนึก แต่ไม่กล้าพกติดตัวเพราะผลข้างเคียงรุนแรงเกินไป จึงต้องเก็บไว้ในตู้นิรภัย?
ผ่านไปสักพัก บารอนบรินิแยร์เปิดฝาตู้นิรภัย หยิบแท่งระเบิดออกมาสองพวง — ระเบิดแบบที่ใช้กันในเหมือง
จะทำกับดักระเบิดเพื่อเล่นงาน ‘แมงป่องดำ’ ? คงยากอยู่นะ รายนั้นเป็นถึง ‘เจ้าวิชามาร’ … ลูเมี่ยนไม่ถาม เพียงมองดูบารอนบรินิแยร์เดินไปยังผนังห้องฝั่งถนนใหญ่ตลาด แล้วผลักหน้าต่างคู่ออก
หัวหน้าหน่วยพรรคซาฟาห์วางแท่งระเบิดสองพวงบนขอบหน้าต่าง จากนั้นก็หยิบไม้ขีดไฟออกมา ขีดให้ติดไฟพร้อมกับเสียงเสียดสี
ทันใดนั้น เขาจุดระเบิดหนึ่งพวง มองไปทางถนนใหญ่ตลาดที่มีบรรยากาศมืดสลัว แล้วเหวี่ยงแขนขว้างระเบิดลงไปกลางถนน
พวกนักเลงรวมถึงลูอิส พากันงงเป็นไก่ตาแตก ไม่เข้าใจว่าบารอนคิดจะทำอะไรกันแน่
ลูเมี่ยนไตร่ตรองเพียงครู่เดียวก็เข้าใจทันที อดชื่นชมในใจไม่ได้
“ฉลาดนี่หว่า…”
ตู้มม!!
ระเบิดพวงนั้นระเบิดขึ้นกลางถนนใหญ่ตลาด เกิดเสียงดังสะเทือนจนกระจกรอบๆ สั่นกุกกัก
คนเดินถนนจำนวนน้อยที่เตร็ดเตร่อยู่ริมทาง บางคนตกใจหงายหลังก้นจ้ำเบ้า ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย บางคนกรีดร้องพลางอุดหู แล้ววิ่งหนีอย่างอลหม่านเพื่อหากำบัง
บารอนบรินิแยร์ชำเลืองมองครู่หนึ่ง แล้วจุดระเบิดอีกพวง ขว้างไปยังกลางถนนที่ไม่ค่อยมีคน หากมีคนตายเพราะระเบิดขึ้นมา คงเป็นเรื่องยากที่จะตามเก็บกวาดได้หมด เขาเองก็ไม่อยากถูกทางการเพ่งเล็งสักเท่าไร
ตู้มมมม!!
เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง กองบัญชาการตำรวจเขตตลาด วิหารสุริยันเจิดจรัส และวิหารเทพจักรกลไอน้ำ ต่างก็เริ่มตอบสนองในระดับหนึ่ง
คนในคาบาเร่ต์ลมเอื่อยและอาคารข้างเคียงต่างก็ตื่นตระหนก แต่ไม่มีใครกล้าออกมาข้างนอก
บารอนบรินิแยร์ปัดมือ เดินกลับโต๊ะไม้ตัวเดิม ดึงเก้าอี้ออกแล้วนั่งลง
เขากลับมาอยู่ในบรรยากาศปกติ ยิ้มบางๆ พลางพูดกับลูเมี่ยน
“คงไม่มีอะไรแล้วล่ะ”
พวกตำรวจกับนักบวชต่างก็แตกตื่น เป็นธรรมดาที่จะส่งคนมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งในจำนวนนั้นอาจมีผู้วิเศษทางการแฝงตัวอยู่
แน่นอนว่าตำรวจที่สนิทกับพรรคซาฟาห์จะเข้ามาสอบถามเรื่องราว
ในสถานการณ์ดังกล่าว ‘แมงป่องดำ’ ยังจะกล้าบุกโจมตีอีกหรือ?
พวกมันไม่มีทางเดิมพันว่า ‘ผู้วิเศษทางการคงไม่สนใจกับแค่ระเบิด’ เพราะถ้ามันเดิมพันแพ้ ก็ได้ถึงคราวจบสิ้นแน่นอน!
ลูเมี่ยนคิดไม่ถึงว่าบารอนบรินิแยร์จะหาทางเอาตัวรอดจากการล้างแค้นของ ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ได้ในเวลาสั้นๆ แถมยังใช้แค่ทรัพยากรในมือเท่านั้น!
นี่ทำให้แผนการของตนต้องพับเก็บไปก่อนชั่วคราว
สมกับเป็น ‘มันสมอง’ ของพรรคซาฟาห์จริงๆ ปฏิกิริยาและไหวพริบในยามวิกฤติเหนือกว่ามาร์โกต์หรือ ‘ค้อนเหล็ก’ แอตมากนัก… ลูเมี่ยนขบฟันในใจ ไม่แยแสร่างของ ‘ค้อนเหล็ก’ บนพื้น เดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามบารอนบรินิแยร์
เด็กหนุ่มตอบยิ้มๆ
“การมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริงๆ”
ได้ยินประโยคดังกล่าว บารอนบรินิแยร์เกือบสำลักน้ำลาย
ถ้าเขาไม่มีปฏิภาณไหวพริบที่ดีพอ ป่านนี้คงเดือดร้อนไปด้วย หรืออาจตายไปแล้วก็ได้!
บารอนบรินิแยร์บรรจงถอนหายใจ มองศพบนพื้น แล้วพูดกับลูอิสกับคนอื่นๆ
“ลากไปซ่อนในห้องรับรองให้มิดชิด อีกสักพักน่าจะมีตำรวจขึ้นมา”
……………………………………………………..