ราชันย์จอมโจรปล้นสุสาน - บทที่ 32: ความผิดพลาดของประธานควอน 2
บทที่ 32: ความผิดพลาดของประธานควอน 2
“ไม่ทราบว่า… คุณคือซอจูฮอนหรือเปล่าคะ?”
มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาจูฮอนที่กำลังนั่งอยู่บนม้านั่ง
เธอดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงที่นำสมัยในชุดกึ่งทางการ
เธอดูสวย แต่ก็ดูเหมือนว่าเป็นคนยิ้มยาก เธอขมวดคิ้วทันทีที่จ้องดูรูปภาพจูฮอนจากงานประมูลและเปรียบเทียบกับจูฮอนตัวจริง
จูฮอนที่จำเธอได้จึงเริ่มยิ้ม
‘ลูกน้องของประธานควอนอยู่ที่นี่อีกคนแล้ว’
“ฉันชื่อลีจินอา เป็นทนายของประธานควอน”
ผู้หญิงที่แนะนำตัวเองว่าชื่อลีจินอากำลังนั่งอยู่ตรงข้ามจูฮอนในร้านกาแฟ
แน่นอนว่าจูฮอนคิดไว้แล้วว่าจะมีใครบางคนจากฝั่งประธานควอนโผล่มา
‘มันคงจะไม่สนุกถ้าพวกเขาไม่ส่งเหยื่อล่อมาทันทีที่รู้ว่าเราทำอะไรกับยุนซิอูไว้บ้าง’
นั่นเป็นเหตุผลที่จูฮอนปล่อยให้ออร่าของโบราณวัตถุล้นออกมาเพื่อที่คนอื่นจะได้ตามหาตัวได้ง่าย จากนั้นลีจินอาก็พูดต่อ
“ฉันจะเข้าประเด็นเลยนะคะ คุณเป็นคนที่ขโมยทรัพย์สินของยุนซิอูไปใช่ไหม?”
จูฮอนยิ้ม
“แล้วถ้าใช่ล่ะ?”
ลีจินอายิ้มราวกับรู้ว่าจูฮอนระวังคำพูดของเธออยู่และเริ่มพูดต่อไป
“โปรดอย่าเข้าใจผิด ยุนซิอูเป็นเหมือนคนที่มักจะสร้างจุดด่างพร้อยให้ประธานควอนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ฉันมาที่นี่เพราะมีข้อเสนอที่ดีกว่า ท่านประธานเชื่อว่าคุณเป็นคนที่มีความสามารถ”
จูฮอนรู้สึกขำทันทีที่ได้ยิน
“ข้อเสนองั้นเหรอ? ไอ้แก่นั่นมีข้อเสนอแบบไหนกันล่ะ?”
ลีจินอาดูเหมือนจะไม่ชอบสรรพนามที่จูฮอนพูด
“คุณซอจูฮอน ฉันขอให้คำแนะนำคุณในฐานะที่อาบน้ำร้อนมาก่อนเถอะ มันคงจะดีหากคุณระวังคำพูด ฉันเข้าใจว่าคุณอาจขาดประสบการณ์ทางสังคม”
“ใครจะไปรู้ล่ะ? ดูเหมือนว่าคุณมากกว่ามั้งที่จะเป็นคนที่ขาดประสบการณ์ทางสังคม”
“ว่าไงนะ?”
ลีจินอาถามด้วยความโกรธ แต่จูฮอนก็ยิ้มขึ้นมา ลีจินอารู้สึกหงุดหงิดที่เขาไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็เลือกที่จะระงับความโกรธและพูดต่อไป
“ข้อเสนอก็ไม่มีอะไรมาก เราไม่ได้จะมาขอให้คุณคืนสิ่งที่ขโมยไปด้วย คุณมีอิสระในการใช้มัน แต่คุณต้องเซ็นสัญญากับทีมงานขุดค้นของบริษัท TKBM”
จูฮอนเริ่มยิ้ม เขาสงสัยว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน แต่แผนมันก็เป็นอย่างที่เห็น
“เธอกำลังบอกให้ฉันเซ็นสัญญาทาสงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่แบบนั้น มันไม่ใช่ความตั้งใจของเราเลย ประธานควอนรู้ถึงคุณค่าในอนาคตของโบราณวัตถุเหล่านี้และคิดว่าคุณเป็นคนที่ใช้มันได้ดี”
“แล้ว…”
“เราจะจ่ายเงินให้คุณล่วงหน้าหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์ มันเป็นสิ่งที่เราทำเมื่อเราพยายามสรรหาคนที่มีความสามารถและมีศักยภาพสูงมาเข้าร่วมทีม คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย เราจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของคุณด้วย เราจะให้คุณลงนามในสัญญาและจ่ายเงินเดือนให้คุณพร้อมกับให้สิทธิประโยชน์ สิ่งที่คุณต้องทำคือเป็นส่วนหนึ่งของทีม TKBM…
“แล้วถ้าฉันตอบว่าไม่ล่ะ?”
“ว่าไงนะคะ?”
ลีจินอาถึงกับตกใจทันทีที่เห็นรอยยิ้มอันเย็นชาของจูฮอน
เป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะคิดว่าจะมีคนปฏิเสธข้อเสนอนี้โดยไม่ได้ฟังเลยแม้แต่น้อย
นี่เป็นความโง่เขลาของชายหนุ่มงั้นเหรอ?
“ว่าไงนะ คุณคิดว่าคุณเป็นใครกัน คุณซอจูฮอน ทุกอย่างจะซับซ้อนมากกว่านี้ถ้าประธานควอนยื่นรายงานเรื่องการโจรกรรมถึงตำรวจ”
“แล้วไง?”
“นี่คุณไม่เห็นหรือไงว่าเราต้องการที่จะทำให้สถานการณ์นี้มีแต่ได้กับได้ พวกเราเปิดเผยเรื่องโบราณวัตถุเหล่านี้กับคนอื่นไม่ได้”
‘เราพูดดีขนาดนี้ ชายคนนี้ไม่เข้าใจอะไรเลยหรือไง?’
“บริษัทอย่างเซียงแกลอรี่ของคุณจะถูกปิดตัวลงได้ง่ายมากเลยนะ ถ้าท่านประธานต้องการ คนอื่นก็จะต้องรับผลกระทบไปด้วย รวมถึงตัวคุณเองด้วย”
จูฮอนรู้สึกขบขันกับความคิดนั้น
“คุณเคยคิดไหมว่าคนที่เอาแต่ทำตัวไร้สาระอย่างคุณอาจตกอยู่ในอันตรายได้?”
ลีจินอายิ้มอย่างสงบ
“สนามบินนี้เต็มไปด้วยผู้คน คุณไม่ควรใช้โบราณวัตถุด้วยซ้ำ คุณต้องการให้คนอื่นรู้เรื่องโบราณวัตถุงั้นเหรอ?”
จูฮอนหัวเราะกับคำถามนั้น
ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้… กำลังคิดว่าเธอจะปลอดภัยเพราะอยู่ในพื้นที่ที่มีผู้คนมากมาย
ผู้ใช้โบราณวัตถุในช่วงเวลานี้พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อที่จะซ่อนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโบราณวัตถุเพื่อที่จะถือครองมันได้
มันเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ นั่นคือเหตุผลที่จูฮอนตอบอย่างสบายใจ
“ขอเตือนไว้ก่อนเลยนะ คุณไปเสียดีกว่าระหว่างที่ผมกำลังพูดดีด้วย”
“ว่าอะไรนะ… อย่างนั้นขอพูดให้มันชัดเจน ดูเหมือนคุณจะไม่เข้าใจเรื่องราวเพราะพูดอ้อมไปมาเหมือนชักแม่น้ำทั้งห้า ทั้งที่เงื่อนไขซึ่งฝ่ายเราเสนอไปนั้นดีมากแล้วด้วยซ้ำ”
เธอยื่นสัญญาให้กับเขา
“ต้องขอโทษด้วย เราได้ทำการตรวจค้นข้อมูลส่วนตัวของคุณนิดหน่อย คุณจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย ไม่มีคนสนับสนุน แล้วก็ขอพูดหน่อยเถอะนะ ฉันไม่เห็นว่าคุณจะมีอนาคตที่ดีได้กับงานที่ทำอยู่เลย คุณอาจจะต้องสูญเสียเงินทั้งหมดเพราะไม่รู้วิธีจัดการเงินที่ได้รับจากโบราณวัตถุ นี่คุณไม่ได้ซื้อหินภูเขาไฟไร้สาระที่งานประมูลนั่นมาด้วยหรอกใช่ไหม? อนาคตของคุณชัดเจน เราจะดูแลคุณทุกอย่าง ไม่ใช่แค่นั้น ท่านประธานเองยังได้ทำข้อตกลงลับกับพวกคนรวยระดับโลก…”
“นี่หูหนวกหรือไง? ฉันบอกให้ไปซะ”
คำพูดของจูฮอนฟังดูเย็นชา แต่ลีจินนอากลับหัวเราะขึ้นมา
ไอ้เด็กมัธยมปลายคนนี้คิดว่าจะไล่เราไปได้งั้นเหรอ?
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทำตามกฎหมายแล้วแหละ บาร์เทนเดอร์ยืนยันว่าคุณอยู่กับคุณยุนซิอู และฉันได้ยินมาว่าคุณพยายามเทผงแป้งประหลาดลงไปที่ตัวเขา ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณจะสู้กับ TKBM ได้นานแค่ไหน แต่…”
“นี่ คุณทนาย ฉันเพิ่งบอกอะไรไป จำได้ไหม?”
“ว่าไงนะ?”
“ฉันบอกว่าคุณก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ขาดประสบการณ์ทางสังคม”
“หือ… ว่าไงนะ?”
ดวงตาของจูฮอนเปล่งประกาย ลีจินอาทำอะไรไม่ได้ แต่เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างติดคออยู่
‘นี่มันผงแป้งซอมบี้’
จูฮอนที่กำลังนั่งไขว่ห้างยิ้มอย่างชั่วร้าย
“คนที่มีประสบการณ์ทางสังคมเยอะคงจะรู้ตัวไปนานแล้ว พวกเขาจะบอกได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นสุนัขที่ต้องเลี้ยงดูด้วยวิธีการให้กระดูกหรือฟาดด้วยแส้ ถึงไม่ใช่ พวกเขาก็ยังบอกได้ว่าคนนั้นเป็นสัตว์ป่าที่ควรจะวิ่งหนีหรือไม่”
ลีจินอามองไปรอบตัวและตะโกนขึ้นทันทีที่สังเกตเห็นผงแป้งเพิ่มขึ้น
“เดี๋ยวก่อนสิ… ที่นี่มีคนเยอะเลยนะ มันต้องไม่ดีแน่หากผู้คนรู้เรื่องโบราณวัตถุ…!”
เรื่องราวเกิดขึ้นก็ตอนนี้…
“คุณทนาย ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรผิดไปนะ”
จูฮอนใช้การยึดครองอันชั่วร้ายเพื่อเรียกใช้งานของผงแป้งซอมบี้
“ฉันไม่เหมือนกับประธานควอน แล้วก็ไม่สนใจด้วยว่าใครจะเห็นโบราณวัตถุ”
จากนั้นในสนามบินจึงเกิดเหตุระเบิดขึ้น