รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - ตอนพิเศษ 1
ณ สตูดิโอของสถานีโทรทัศน์เคเบิ้ลแห่งหนึ่ง
พิธีกรหญิงในชุดหรูเข้ามาในสตูดิโอที่ทีมงานกำลังเดินไปมากันให้วุ่น เตรียมการถ่ายทำที่จะมาถึง
“เหนื่อยเลยนะคะ”
เธอทักทายทีมงานพลางเดินข้ามมาอีกฝากของสตูดิโอ เปิดประตูห้องพักที่ใช้เป็นห้องแต่งหน้าแต่งตัวของพิธีกร
ในห้องแต่งตัว พิธีกรคนหนึ่งกำลังแต่งหน้าอยู่ หญิงสาวที่เข้ามายืนพิงประตูจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มที่สะท้อนอยู่ในกระจก
ทั้งตา จมูก ปากที่สะท้อนในกระจกช่างเพอร์เฟกต์อะไรแบบนี้ ผิวผู้ชายใสขนาดนี้ได้อย่างไรกัน ขนตาทำไมยาวได้ขนาดนั้น ดังนั้นก็อยากลองสัมผัสดูสักครั้ง
ผู้ชายที่นั่งหลับตาให้ช่างแต่งหน้านิ่งๆ อยู่บนเก้าอี้ โดยที่ไม่รู้ว่ามีใครแอบมองตัวเองก็คือ จีฮวัน
พัฟของช่างแต่งหน้าตบบริเวณหน้าของจีฮวัน ผ่านคางเรื่อยลงไปยังคอ
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
จีฮวันลืมตา สบตากับหญิงสาวในกระจกโดยไม่ได้หันหลังไปมอง
“อ่อ คุณตัวแทน สวัสดีค่ะ”
หญิงสาวซ่อนความตกใจทักทายอย่างสดใส จีฮวันเองก็ก้มศีรษะทักทาย
“สวัสดีครับ”
“ได้ยินว่ามาแล้วเลยมาทักทายค่ะ เห็นกำลังแต่งหน้า เลยว่าจะจะวางกาแฟเอาไว้ให้ อาทิตย์ที่ผ่านมาสบายดีนะคะ”
“ครับ สบายดี คุณจูยอนก็สบายดีนะครับ”
“ฉันก็เหมือนเดิมแหละค่ะ เตรียมออกอากาศ ออกอากาศ แล้วก็เตรียมตัวออกอากาศอีก ดื่มกาแฟนะคะ”
“ขอบคุณครับ”
“วันนี้ก็มาก่อนฉัน รักษาเวลาดีมากเลยนะคะ”
“ก็รู้นี่ครับว่าผมว่างงาน เพราะไม่มีงานแน่นอน เลยมาถึงเร็วหน่อย”
หญิงสาวเสียงสูงพลางหัวเราะกับคำพูดขำขันของจีฮวัน
“แหม คุณตัวแทนนี่ล่ะก็ พูดอะไรตลกจังเลยนะคะ คนว่างงานที่มีความสามารถอย่างคุณตัวแทนมีที่ไหน”
จีฮวันเอียงคอสงสัยว่าเขาพูดตลกอย่างนั้นเลย ขำตรงไหน หรือตรงว่างงาน
นึกถึงอึนคังที่เคยเล่นมุก ไม่สนใจว่าเป็นมุกคุณพ่อ ไม่สิ คุณปู่ แล้วบอกดูสิ ตลกใช่ไหม! ขำเนอะ!
จีฮวันลุกจากเก้าอี้ เช็คดูความเรียบร้อยของตัวเองในกระจก ขยับปรับเนกไทอีกเล็กน้อย
“เนกไทเหมาะมากเลยนะคะ”
หญิงสาวมองจีฮวันในกระจกพลางชื่นชม
“ขอบคุณครับ”
แน่นอนอยู่แล้ว ใครเป็นคนเลือกให้ เนกไทสีม่วงอ่อนเส้นนี้ อึนคังให้เขาเป็นของขวัญที่ได้เข้าร่วมทำรายการ สีเหมาะกับผิวขาวๆ ของจีฮวัน ถูกใจเขามาก
“เหลืออีกสิบนาที ออกไปเลยดีไหมครับ”
ทันทีที่จีฮวันหันมาถาม หญิงสาวจึงยิ้มรับอย่างสดใส
“ค่ะ”
จีฮวันกับหญิงสาวนั่งที่นั่งข้างกัน ดูบทและตรวจสอบเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นสักครู่ก็เริ่มอัดพร้อมกับการส่งสัญญาณของผู้กำกับ
“ดิฉันเองก็อยากลองเล่นหุ้นดูสักครั้ง วันนี้เลยรวบรวมเอาความปรารถนาของเหล่ามดคนธรรมดาที่อยากลงทุนมาคุยกันในหัวข้อ ‘การลงทุนของมดฉลาด’ จากสถานการณ์ตลาดหุ้นโลก เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่จะมาช่วยคลายความสงสัยมากมายของท่านผู้ชมทุกท่านให้เข้าใจได้ง่ายๆ ตัวแทนรยูจีฮวันค่ะ”
“สวัสดีครับ ผมรยูจีฮวัน ที่ปรึกษาด้านการเงิน ยิ่งศึกษาก็ยิ่งมีข้อสงสัยในเรื่องการลงทุน ผมจะช่วยแนะนำให้อย่างละเอียดและถูกต้องทีละอย่าง”
หญิงสาวเปิดรายการอย่างลื่นไหล จีฮวันเองก็รับช่วงต่อได้พอดิบพอดี
“คุณตัวแทนคะ วันนี้ทิศทางของเศรษฐกิจโลกที่จะบอกให้เราทราบกันเป็นเรื่องอะไรคะ”
“เราคงจะไม่พูดถึงเวียดนามไม่ได้นะครับ”
“อ๋อ เวียดนาม!”
หญิงสาวตบมือเข้าหากันเบาๆ
“หมู่นี้คนใกล้ตัวดิฉันที่ไม่ค่อยรู้เรื่องหุ้นและอสังหาริมทรัพย์คุยเรื่องเวียดนามกันเยอะมาก เห็นข่าวว่ากระแสเกาหลีเองก็กำลังบูมที่นั่น โอกาสการลงทุนของทั้งสองประเทศก็เพิ่มสูงขึ้น ดิฉันเองก็สงสัยอยากจะลองถามคุณตัวแทนดูเหมือนกัน ว่าเวียดนามเป็นประเทศที่ควรลงทุนจริงไหมคะ”
“ถ้าให้พูดแบบสรุปก็ใช่ครับ”
จีฮวันมองไปข้างหน้า กล้องจับไปที่เขา
“ถ้าจะหาที่ลงทุนใหม่ๆ ต่างประเทศ ลองหันมามองเวียดนามก็ดีครับ ปรากฏการณ์ที่ร้อนระอุจนถึงปลายปีที่แล้ว การเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นเวียดนามที่เคยน่าเป็นห่วง ปีนี้ได้ลดระดับลง และยังคงดีขึ้นเรื่อยๆ”
ทั้งใบหน้าหล่อเหลาขึ้นกล้องหน้าจอเอชดี สายตาเปล่งประกาย กระทั่งเสียงภูมิฐานที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้เนื้อหาที่พูดออกมาอย่างคล่องแคล่วไม่มีติดขัด หน้าตาของผู้ที่กำลังออกอากาศช่างชวนเคลิบเคลิ้ม
ใบหน้าของพิธีที่กำลังตั้งใจฟังคำพูดของจีฮวันพลางพยักหน้าด้วยความประทับใจอย่างไม่อาจปิดบัง
“ครึ่งปีแรกของปี 2018 ประเทศที่เปิดตลาดอย่างคึกคักที่สุดจากตลาดหุ้นทั่วโลกในปัจจุบันก็คือเวียดนามนั่นเองครับ เหตุผลที่สายตาจากนักลงทุนทั่วโลกจับจ้องมาที่เวียดนามนั้น ผมจะพูดไปพร้อมๆ กับให้ดูตาราง”
การอัดรายการกว่าสองชั่วโมงเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี การพูดเยอะๆ ที่ไม่ได้ทำมานานทำเอาเพลียไม่น้อย จีฮวันอยากรีบกลับบ้านไปพักผ่อน
“คุณจูยอน ขอบคุณนะครับ”
“ขอบคุณคุณตัวแทนเช่นกันนะคะ”
หญิงสาวลังเลก่อนจะอ้อมแอ้มพูดออกไป
“คือว่า วันนี้ถ้าพอมีเวลา ไปกินข้าวเย็นด้วยกันไหมคะ ทำรายการด้วยกันมาเดือนนึงแล้ว แต่พวกเรายังไม่ได้กินข้าวด้วยกันสักมื้อ”
“ข้าวเย็นเหรอครับ วันนี้มีงานเลี้ยงเหรอครับ”
“เปล่าค่ะ ไม่ใช่งานเลี้ยง งานเลี้ยงรวมมีนัดกันอีกทีวันหลัง วันนี้มีแค่เราสองคน… พอดีฉันมีเรื่องรายการจะปรึกษา รายการจะไปด้วยดี พิธีกรควรจะเข้าขากันใช่ไหมล่ะคะ”
หญิงสาวบอกพร้อมกับส่งยิ้มหวานท่าทางขวยเขิน แก้มแดง สีหน้าเขินอาย มือไม้อยู่ไม่สุข อาการทั้งหมดส่งข้อความบางอย่างออกมาอย่างต่อเนื่อง
“อ้า…”
แบบนี้มัน
“เป็นหมอดูหรือเปล่าเนี่ย…”
จีฮวันพึมพำพลางยิ้มขำ หญิงสาวทำหน้าสงสัย
“อะไรนะคะ”
“ไม่มีอะไรครับ มื้อเย็นนะครับ”
ความสดใสกลับมาบนใบหน้าของหญิงสาว
“ชอบอาหารประเภทไหนคะ แถวชองดัมดงมีร้านบรรยากาศดีๆ”
“แต่ก่อนอื่น ผมมีคนต้องขออนุญาตก่อน”
“ขออนุญาต? ใครคะ”
จีฮวันหยิบบางสิ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อนอก มันคือแหวน หลังจากสวมกลับลงที่นิ้วนางข้างซ้าย ก็ชูให้หญิงสาวดู
“ภรรยาผมครับ”
* * *
สองวันก่อนหน้า
อึนคังนอนอยู่บนโซฟาห้องรับแขกชั้นหนึ่ง เคี้ยวปลาหมึกไปพลางดูจีฮวันออกรายการไปพลาง ในที่สุดก็ถึงวันที่เธอต้องมาหาดูรายการเศรษฐกิจที่ออกอากาศทางเคเบิ้ล
จีฮวันอยู่ในห้องหนังสือของตัวเองที่ชั้นสอง อ้างว่ายุ่งเตรียมข้อมูลออกอากาศอาทิตย์นี้ แต่จริงๆ หลบเลี่ยงเพราะทนดูรายการที่ตัวเองไปออกไม่ได้มากกว่า
หน้าทำไมต้องแต่งซะเนียนกริบขนาดนั้น แล้วทำไมทำเสียงน่าเกลียดแบบนั้น ไม่อยากเห็นตัวเองในสภาพนั้นจริงๆ หลังจากเริ่มออกอากาาศ ก็ไม่เคยทนดูตั้งแต่ต้นจบได้เลย
“ขอบคุณท่านผู้ชมทุกท่าน พบกันใหม่อาทิตย์หน้านะครับ”
หลังจากกล่าวลาจบรายการ จีฮวันก็ลงจากชั้นสองมานั่งที่โซฟาราวกับรอเวลาอยู่แล้ว
พอจีฮวันลงนั่ง อึนคังก็เอาขาตัวเองไปพาดบนตักเขา แล้วจีฮวันก็กดฝ่าเท้าให้ทันที
“ยังจะอายอะไรอยู่อีกคะ เป็นพิธีกรตัวจริงแต่ดันทนดูตัวเองไม่ได้ งั้นก็หลับตาเสียสิคะ!”
“ก็แค่งานพิเศษไม่รู้จะโดนตัดออกเมื่อไหร่ พิธีกงพิธีกรอะไรกัน…”
“ตอนแรกบอกแค่ว่าเป็นงานพิเศษ แต่ตอนนี้เป็นผู้ดำเนินรายการอยู่นี่คะ ก็ต้องเป็นพิธีกรน่ะถูกแล้ว!”
“ใช่ที่ไหนกันล่ะครับ”
“พิธีกรหญิงที่ดำเนินรายการกับคุณ ชื่ออะไรนะ”
“คุณจองจูยอนน่ะเหรอ”
“ผู้หญิงคนนั้น ชอบคุณใช่ไหม”
“อะไรนะ”
มือของจีฮวันที่กำลังกดจุดฝ่าเท้าให้อึนคังหยุดชะงัก ทำหน้าไร้สาระ
“กินแต่ปลาหมึก เบียร์ก็ไม่มี ยังมีพรสวรรค์เมาได้ พูดอะไรไร้สาระ”
“จริงๆ นะ”
อึนคังลุกขึ้น
“ตอนทำรายการไม่รู้สึกบ้างเหรอคะ”
“ผมต้องรู้สึกอะไร เริ่มทำรายการมายังไม่ถึงสองเดือน เจอกันอาทิตย์ละครั้ง ใช้เวลาอัดแค่สองสามชั่วโมง หลังจากนั้นต่างคนก็ต่างแยกย้าย จะเอาเวลาตอนไหนไปมองว่าชอบไม่ชอบกันล่ะครับ”
อึนคังจุปากทำหน้าเวทนา
“จุ๊ๆ คนที่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน แต่ไม่มีเซ้นส์เอาซะเลย…”
“นี่คุณโกอึนคังครับ ขอบคุณที่ทำให้ผู้ชายตัวเองเข้าใจผิดว่าฮอตในหมู่สาวๆ ขอร้องนะครับ อย่าไปพูดแบบนี้ที่ไหน เขาจะด่าว่าโง่เอา”
“ว่าฉันโง่ คุณคอยดูแล้วกันว่าตัวเองเป็นหนุ่มฮอตจริงหรือเปล่า”
“คอยดูอะไร ให้คอยดูแล้วจะได้ดูอะไร”
“อีกไม่นานนี้ เธอจะต้องชวนคุณไปกินข้าวเย็น ยังไงเตรียมรับแอคชั่นให้ดีก็แล้วกัน อ๊ะ ทำไมต้องเป็นคนในวงการนี้อีกแล้ว! อารมณ์เสีย พ่อนักล่าผู้ประกาศ! จะเป็นที่หมายตาของพิธีกรหรือผู้ประกาศทั้งโลกเลยหรือไง!”
อึนคังจ้องจีฮวันพลางโวยวายลั่น
“มันใช่เวลามาขุดอดีตไหมเนี่ย ผมไปทำอะไร! นักล่าผู้ประกาศอะไรของคุณ! ไม่ใช่สักหน่อย! ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่น่ะ!”
* * *
ไม่น่าเชื่อ ขี้โกงชัดๆ เหลวไหลที่สุด เป็นไปได้อย่างไรกัน คำชวนกินข้าวมาจริงๆ อย่างที่อึนคังบอก นี่มันเกือบจะเป็นคำนายมากกว่ามีเซ้นส์! จีฮวันถึงกับขนลุกซู่
ไม่สิ มันอาจจะไม่ใช่ ผู้ชายผู้หญิงรู้สึกดีต่อกันก็ไปกินข้าวด้วยกันได้ไม่ใช่หรือไง เพื่อนร่วมงานทำงานด้วยกัน ก็กินข้าวด้วยกันได้
จีฮวันฮึดสุดขีด อย่างไรก็ตามต้องพิสูจน์ว่าอึนคังทำนายผิด แต่ใบหน้าของหญิงสาวทันทีที่เห็นแหวนก็กลายเป็นขาวซีด
“คุณตัวแทน ตะ แต่งงานแล้วเหรอคะ”
“อ๊ะ ผมยังไม่ได้บอกงั้นเหรอครับ ผมแต่งงานแล้วครับ”