บทที่006 ให้ตำรวจจัดการ
เว่ยเหออึ้งไป นี่ ……คือเรื่องอะไรกัน?
ริมฝีปากที่เย็นของฉู่หลินเฉินเม้มแน่น ดวงตาที่มืดครึ้มและแคบยาวจ้องไปที่ฉินซู ออร่าที่แข็งแกร่งและเยือกเย็นแผ่กระจายออกมาทันที
ฉินซูรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งตัว
เมื่อต้องพบกับสายตาที่จับจ้องเหมือนดั่งนกอินทรีของเขา หัวใจของเธอก็รู้สึกบีบรัดทันที
ตอนนี้เอง ลมหายใจของเธอก็เหมือนกับว่าโดนตรึงไว้ด้วยฝ่ามือที่มองไม่เห็น ทำให้หายใจไม่ออก
ฉินซูหลบสายตาของเขาอย่างไร้ร่องรอย
ตอนนี้เอง เสียงที่เย็นชาของฉู่หลินเฉินก็ดึงขึ้น “เว่ยเหอ ส่งแขก”
เว่ยเหอเข้าใจความหมายของนายของตัวเอง ก็รีบเดินเข้าไปหาพวกนักข่าว
“นายของพวกเราต้องการจัดการเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย ขอเชิญพวกคุณกลับไปก่อนนะครับ แล้วอีกอย่าง ได้โปรดทุกท่านช่วยลบวิดิโอและรูปถ่ายของวันนี้ที่ตระกูลฉู่ออกไปทั้งหมดด้วยนะครับ”
พวกนักข่าวมองหน้ากัน ให้พวกเขากลับไปก็ไม่ได้เป็นอะไรหรอก แต่ว่าข้อหลังนี้ยากที่จะเข้าใจ พวกเขาได้แต่มองไปที่คุณผู้หญิงฉู่
“ อาเฉิน ทำอะไรน่ะ?”ซ่งจิ่นหรงพูดอย่างไม่พอใจ นักข่าวพวกนี้เธอเป็นคนเชิญมาโดยเฉพาะเลยนะ
“คุณย่าครับ เดี๋ยวคุณย่าก็รู้”
ภายใต้ความต้องการของฉู่หลินเฉิน คนที่ไม่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็ถูก “เชิญออก”ไป
ในห้องโถง เหลือแต่คนของตระกูลฉู่ไม่กี่คน แล้วก็ฉินซู
คนรับใช้รออยู่ด้านนอกห้องโถง
ยิ่งคนน้อย ยิ่งหมายความว่าเรื่องมันร้ายแรงมาก
ฉินซูรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา แต่ว่ากลับไม่ได้เปิดเผยบนใบหน้าของเธอ
ฉู่หลินเฉินเห็นท่าทางฉินซูพยายามจะสงบ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ
เขาแฉออกมาอย่างไม่เกรงใจเลย “วิ่งมาถึงตระกูลฉู่เพื่อหลอกลวงต้มตุ๋น ถือว่ากล้าไม่น้อยเลยนะ! เธอจะออกไปคนเดียว หรือว่าให้ฉันให้คนมาโยนเธอออกไป?”
ฉินซูหน้าซีดทันที
ดูเหมือนว่า คุณชายฉู่คนนี้จะมองเธอออกแล้ว
ฉินซูขยับปาก แต่ว่าซ่งจิ่นหรงกลับเอ่ยปากก่อนอย่างงงวย “อาเฉิน นี่หลานหมายความว่ายังไง? ใครหลอกลวง?”
“เธอ”
ดวงตาที่เย็นชาของฉู่หลินเฉินเหมือนดาบที่แหลมคม มองไปที่ฉินซู
“นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง?” ซ่งจิ่นหรงลุกขึ้น “หลานเป็นคนบอกเองว่าจะแต่งงานกับเธอ แล้วก็ยังให้หลักฐานแสดงตัวตนไปอีก ย่าถึงได้ส่งคนไปรับเธอกลับมาที่บ้านเราไง!”
หลักฐานนั้นเธอก็ได้ตรวจสอบแล้ว มันเป็นของจริงอย่างแน่นอน
“คุณย่า หลักฐานนั้นผมให้ผู้หญิงที่ชื่อหวังอี้หลิน สำหรับเธอ——”
ฉู่หลินเฉินหรี่ตาลงอย่างเยือกเย็น “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอมีหลักฐานของผมได้ยังไง”
“นี่ นี่มัน…..ผิดคนยังงั้นเหรอ?”ซ่งจิ่นหรงช็อค ยากที่จะรับได้
ฉู่หยุนซีที่ยืนอยู่ด้านข้างก็หัวเราะอย่างดูถูก “คุณย่า หนูว่าไม่ได้ผิดคนหรอก แต่ว่าบางคนมีแรงจูงใจแอบแฝง อยากเข้าตระกูลฉู่ของพวกเราอย่างไร้ยางอาย! คนที่ชื่อฉินซูเนี่ย เป็นของปลอม!”
พอพูดจบ สายตาของคนในตระกูลฉู่ที่มองฉินซูก็ไม่เป็นมิตรอีกต่อไป
ฉู่หลินเฉินพูดกับเว่ยเหออย่างเย็นชา “โทรหาตระกูลหวัง”
“ครับ”
เว่ยเหอเดินไปคุยโทรศัพท์อีกฝั่งหนึ่ง
แล้วเขาก็กลับมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพูดว่า “คุณชายฉู่ครับ คุณอี้หลินบอกว่า หลักฐานหายไป แล้วอีกอย่าง——”
เว่ยเหอมองไปที่ฉินซูอย่างรวดเร็ว และพูดเสริมว่า “พอผมพูดถึงฉินซู คุณอี้หลินก็ประหลาดใจอย่างมาก เธอบอกว่าฉินซูคือเพื่อนร่วมชั้นและเป็นเพื่อนร่วมห้องของเธอ ทั้งสองคนอยู่ในชุมชนเดียวกัน วันก่อนตอนที่จบการอบรม ฉินซูช่วยเก็บสัมภาระให้เธอ”
ข้อเท็จจริงเหมือนจะปรากฏอยู่ตรงหน้า
ฉินซูใกล้ชิดกับหวังอี้หลิน อยากจะขโมยหลักฐานก็เป็นเรื่องง่ายจะตาย
ฉู่หลินเฉินมองฉินซูด้วยสายตาที่เยือกเย็น ออร่าที่แข็งแกร่งและกดดันปกคลุมอยู่เหนือศีรษะของฉินซู
“เธอยังมีอะไรจะพูดอีกไหม?”
“ฉันไม่ได้ขโมยของของอี้หลิน”
ฉินซูอธิบายโดยอัตโนมัติ แต่สำหรับสายตาที่เย็นชาของฉู่หลินเฉิน เธอก็ตระหนักได้ว่า ในเมื่อเขาเปิดโปงเธอแล้ว พูดมากไปแล้วจะมีประโยชน์อะไรกัน?
เธอสารภาพว่า “แต่ว่าฉันสวมรอยจริงๆ……”
ตอนนี้เธอถึงพึ่งเข้าใจ ข้อความสุดท้ายที่แม่บุญธรรมเธอส่งมา ว่าทำไมถึงให้เธอตัดขาดกับหวังอี้หลิน
ที่แท้ พวกเขาก็ให้สวมรอยมาเป็นเธอนั่นเอง
พอเห็นว่าฉินซูยอมรับ ดวงตาของฉู่หลินเฉินก็ดูรังเกียจมากขึ้น
“พี่ ผู้หญิงคนนี้ยังมีหน้ายอมรับอีกเหรอ? น่ารังเกียจจริงๆเลย รีบไล่เธอออกไปเร็ว!”
ฉู่หยุนซีมองไปที่ฉินซูด้วยสายตาดูถูก
ฉู่หลินเฉินเม้มปากแน่น ร่างกายของเขาแผ่ความเยือกเย็นออกมา เหมือนกับเทพที่เย็นชาและไร้หัวใจ น่ากลัวมาก
หลังของฉินซูเหยียดตรง มือที่ห้อยอยู่ข้างตัวกำแน่น รอการจัดการของเขา
ผ่านไปนาน เสียงที่เย็นชาและไร้อารมณ์ความรู้สึกของเขาก็ดังขึ้น “ไล่ออกไปมันง่ายเกินไปหน่อยไหม โทรเรียกตำรวจมาจัดการ”
ส่งเธอให้ตำรวจยังงั้นเหรอ?
ใบหน้าของฉินซูซีดเซียวลงทันที
ถ้าเกิดว่าเธอเข้าสถานีตำรวจ ชีวิตนี้เธอจะไม่พังหรอกเหรอ? แล้วอีกอย่าง ย่าเธอล่ะจะทำยังไง……
พึบ!
ด้านข้างมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“คุณย่า!”
“แม่——”
“คุณผู้หญิง……”
ทันใดนั้นซ่งจิ่นหรงก็ล้มลงกับพื้น ตาเหลือก ร่างกายกระตุกอย่างไม่สามารถควบคุมได้
คนในตระกูลฉู่ตกใจมาก
หญิงชรามีสุขภาพดีมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย
ฉินซูที่อยู่ใกล้ที่สุดตะลึงไปหนึ่งวินาที หลังจากนั้นก็ดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว
เธอย่อตัวลงทันทีเพื่อช่วยเหลือ
แต่ว่าอีกร่างหนึ่งเคลื่อนไหวเร็วกว่าเธอ เหมือนลมกระโชก
ฉินซูรู้สึกว่าหลังของเธอถูกกระแทกอย่างแรง เธอล้มลงอย่างไม่เป็นท่า เข่ากระแทกกับพื้น เธอรู้สึกเจ็บอย่างมาก
ตอนที่เธอเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นใบหน้าที่เคร่งขรึมของฉู่หลินเฉิน ไปประคองหญิงชราขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เสียงที่ทุ้มต่ำของเขาเย็นชาและรุนแรง “เว่ยเหอ เรียกรถพยาบาล!”
เว่ยเหอรีบโทรศัพท์ทันที
ฉู่ซวู่และคนอื่นๆก็รีบล้อมเข้ามาช่วยทันที
ฉินซูถูกเบียดออกไปด้านข้าง เธอขมวดคิ้วมองดูตระกูลฉู่ที่ล้อมกันเป็นวง
“รีบไปเอาผ้าขนหนูและน้ำมา!”
หลิ่วเหวยลู่เห็นน้ำลายฟูมปากที่มุมปากของหญิงชรา ก็รีบสั่งคนใช้
ฉู่ซวู่และฉู่หยุนซีช่วยกันจับแขนขาที่สั่นเทาของเธอไว้
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นสถานการณ์แบบนี้ จิตใจสับสนยุ่งเหยิง ทำอะไรไม่ถูก
ตอนนี้เอง ก็มีเสียงที่ชัดเจนและสงบเงียบดังขึ้น
“พวกคุณทำแบบนี้จะทำร้ายคุณนายได้นะคะ!
ฉินซูลุกขึ้นมาจากพื้น สีหน้าเคร่งขรึม
ฉู่หยุนซีรีบกลอกตาใส่เธอ “หุบปาก! เพราะว่าของปลอมอย่างเธอที่ทำให้คุณย่าโกรธจนล้มไป!”
ฉินซู:“……”
เธอเห็นอาการของคุณผู้หญิงฉู่แล้ว ถ้าปล่อยให้พวกเขาทำอะไรแบบนี้ ต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ
“เธอมานี่!”
เสียงที่ทุ้มต่ำเหมือนแม่เหล็กดังขึ้น
ฉู่หลินเฉินมองไปที่ฉินซู ดวงตาที่ลึกล้ำดูสงบมากกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย
ในเมื่อฉินซูเป็นเพื่อนร่วมชั้นของหวังอี้หลิน แสดงว่าเธอก็ต้องรู้ทักษะทางการแพทย์
ฉู่หยุนซีประหลาดใจ “พี่?”
หัวใจของหมอ ฉินซูจะไม่ยอมนั่งดูอยู่เฉยๆ
ดังนั้นพอฉู่หลินเฉินพูดแบบนี้ เธอก็รีบเดินเข้าไปทันที แล้วก็ผลักฉู่หยุนซีออกไปด้านข้าง
“คุณนายเป็นลมบ้าหมู! ห้ามจับมือกับเท้าของเธอ มันจะทำร้ายกล้ามเนื้อกับข้อต่อของเธอได้”
ฉู่หยุนซีไม่เชื่อคำพูดของฉินซู “ลมบ้าหมูอะไรกัน! คุณย่าของฉันไม่เคยเป็นลมบ้าหมูมาก่อน เธออย่ามาพูดจามั่วซั่ว!”
ระหว่างที่พูด ก็จะเข้ามาลากตัวเธอออกไป
ฉู่หลินเฉินตะโกนออกมาอย่างเยือกเย็น “ถอยไปอยู่ด้านข้าง!”
ฝีเท้าของฉู่หยุนซีหยุดนิ่ง แต่ภายใต้บรรยากาศที่ทรงพลังของฉู่หลินเฉิน เธอทำได้แค่ถอยหลังไปด้วยความรำคาญ
ฉินซูมองไปที่ฉู่หลินเฉินอย่างซาบซึ้ง แต่ได้สบกับสายตาที่บูดบึ้งของเขา เต็มไปด้วยพลังที่ดุเดือด
เขาออกปากเตือนอย่างเยือกเย็น “ถ้าเกิดว่าย่าฉันเป็นอะไรไป ฉันจะไม่มีวันให้อภัยเธอ!”
MANGA DISCUSSION