รักซ่อนร้าย นายซาตานรักผิดคน - ตอนที่ 49 ใครเป็นคนคิดเหมารวม
บทที่049 ใครเป็นคนคิดเหมารวม
หวังอี้หลินมีการตอบสนองทันที ตนเองโผล่ออกมาจังหวะนี้ จะโดนคนอื่นสงสัยเอาง่ายๆ
เธอดวงตาเป็นประกาย กล่าวว่า “ฉันกับหยุนซีนัดไปดื่มกาแฟกันแถวนี้ ก็ผ่านมาเห็นพวกคุณพอดีเลย”
เธอรู้ว่าฉู่หลินเฉินเชื่อใจเธอ เลยไม่ได้สงสัยอะไร เพียงถามอย่างรอบคอบมาประโยคหนึ่ง “เธอกับหยุนซีเข้ากันได้ไม่เลวงั้นเหรอ?”
แน่นอนว่าหวังอี้หลินไม่สามารถบอกได้ว่าเธอตั้งใจจะประจบฉู่หยุนซี
เธอพยักหน้า กล่าวเสียงเบา “หยุนซีดีกับฉันมาก”
ได้ยินดังนั้น มุมปากของฉู่หลินเฉินก็คว่ำลง
เขายังนึกว่าแม่สาวน้อยคนนั้นปฏิบัติกับใครก็เหมือนกัน ดูท่า น่าจะเป็นเพราะสถานะปลอมๆ ของฉินซูถึงได้คิดหาวิธีไปต่อกรกับเธอสินะ
นึกถึงคนตรงหน้าคนนี้ถึงจะเป็นผู้หญิงที่ตนจะต้องแต่งงานด้วยฉู่หลินเฉินก็ใจเต้น กล่าวว่า “คุณจะไปไหน? ผมจะไปส่ง”
หวังอี้หลินอยากจะตอบจนรอไม่ไหวแล้ว แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ สติปัญญาทำให้เธอเปลี่ยนใจ “ไม่ต้องหรอก ฉันกลับเองก็ได้แล้ว ถ้าโดนนักข่าวถ่ายได้จะมียุ่งยากเอา อีกทั้งคุณยัง…ต้องจัดการเรื่องของฉินซูด้วย”
ฉู่หลินเฉินคิดแล้วก็พยักหน้า “ก็ดี งั้นคุณก็ระวังตัวด้วยล่ะ”
“อืม”หวังอี้หลินพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ทว่าในใจกลับรู้สึกหดหู่ เขาเปลี่ยนใจเร็วเกินไปแล้ว…ยังนึกว่าเขาจะยืนยันจะส่งเธอกลับบ้านให้ได้เสียอีก
เธอจากไปอย่างผิดหวัง
เว่ยเหอกำลังขับรถไปอย่างราบรื่น พลางครุ่นคิดแล้วกล่าวว่า “คุณชายฉู่เมื่อครู่คุณอี้หลินน่าจะอยากให้คุณไปส่งนะครับ”
สายตาของฉู่หลินเฉินตกอยู่บนร่างของฉินซูที่สลบไม่ได้สติอยู่ข้างๆ พร้อมทั้งเม้มริมฝีปากบางและไม่ได้มีการพูดจาแต่อย่างใด
……
ฉินซูฟื้นขึ้นมา ร่างกายอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรงไปทั้งตัว
มองไฟคริสทัลที่อยู่เหนือศีรษะ เธอรู้สึกคุ้นเคยอย่างมึนงง พลางครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าตนเองนอนอยู่บนโซฟาในวิลล่า
สายตาล้ำลึกที่ไม่สามารถเมินเฉยได้ จับจ้องมาที่ร่างของเธอ
ฉินซูเงยหน้ามองไปทางหน้าต่างอย่างไม่รู้ตัว
“ตื่นแล้วเหรอ” ฉู่หลินเฉินยืนอยู่ข้างหน้าต่าง เรือนร่างสูงเปรียว แสงจันทร์สาดส่องเงาของเขาจนยาวเหยียดหยาด
เขาวางแก้วกระเบื้องสีดำในมือลง ก้าวมาทางเธอช้าๆ
พร้อมทั้งนั่งลงบนโซฟาเดี่ยวตรงหน้าเธอ ขายาวนั่งไขว่ห้าง พร้อมทั้งจ้องมองแต่เธอ
ฉินซูตัวลุกขึ้นนั่งบนโซฟา มองไปที่เขา ขยับริมฝีปาก “คุณ…คุณส่งฉันกลับมา…งั้น…”
เธอจำได้ว่า ตอนที่ยาออกฤทธิ์ เธอกระโจนเข้าสู่อ้อมแขนของผู้ชายคนหนึ่ง
ผู้ชายคนนั้นคือฉู่หลินเฉิน?
เธอรีบก้มหน้าตรวจสอบอย่างรีบร้อน
เขาที่มองความคิดของเธอออก ฉู่หลินเฉินส่งเสียงลำคอออกมาทันที พร้อมทั้งพูดว่า “วางใจ ไม่ได้แตะต้องคุณ”
ฉินซูมองเห็นบนแขนมีร่องรอยของเข็มฉีดยา ก็โล่งใจ
“คุณชายฉู่ขอบคุณค่ะ”
ฉู่หลินเฉินเชิดปลายคางเล็กน้อย พลางเอ่ยถามว่า “ว่ามา เกิดอะไรขึ้น?”
ฉินซูครุ่นคิดดู แล้วก็สั่นศีรษะ
“เป็นคนที่ฉลาดมากคนหนึ่ง ขนาดตัวเองถูกวางแผนก็ยังไม่รู้เรื่อง?” น้ำเสียงของฉู่หลินเฉินออกแนวเยาะเย้ย
ฉินซูเม้มปากจนไร้ถ้อยคำ แม้เธอจะรู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลินมึ่งฟานแต่กลับไม่รู้เรื่องว่าตนเองโดนลงมือเมื่อไหร่
อีกทั้ง เธอรู้ว่าฉู่หลินเฉินไม่ได้ถามเพราะเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องนี้
ผลที่ได้ก็คือ เขาลุกขึ้นจากโซฟา พร้อมทั้งมองเธอที่อยู่ด้านล่างจากมุมสูง พร้อมกล่าวว่า “หากครั้งนี้ไม่ใช่อารองที่รู้ความสัมพันธ์ที่แท้จริงของเราสองคน เลยรีบบอกฉันตั้งแต่แรก ก็ไม่รู้ว่าจะจบลงแบบไหนแล้ว คราวหลังคุณก็ระวังหน่อยก็แล้วกัน ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”
ฉินซูหน้าคว่ำ พยักหน้ากล่าวว่า “ตกลง”
แต่แล้วเธอก็ตกใจขึ้นมา
อารองงั้นเหรอ?
หรือว่าคนที่เธอล้มใส่ตอนนั้นไม่ใช่ฉู่หลินเฉินแต่เป็นอารองของเขา?
ฉินซูฉินชูรู้สึกเขินอายขึ้นมาทันที เมื่อนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้
ศาสตราจารย์ฉางให้ไปรวมตัวกันที่ห้องแล็บ!
แต่เมื่อมองดูเวลา ก็พบว่าสามทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว เลยเวลารวมตัวกันไปนานแล้ว
ฉินซูถอนหายใจ ก้มหน้าหาบนตัว กลับไม่เห็นแฟ้มอันนั้นของเธอ
คงไม่ใช่ว่าทำหายไปแล้วหรอกนะ?
เธอตื่นตระหนกเล็กน้อย มองชายที่กำลังเตรียมจะขึ้นไปชั้นบน รีบถามทันที “คุณชายฉู่ไม่ทราบว่าคุณเห็นแฟ้มสีดำอันหนึ่งหรือเปล่าคะ? ด้านในมีข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับการต้านมะเร็งอยู่”
ฉู่หลินเฉินหันหน้าหลับมา “ไม่เห็น”
ได้ยินคำตอบของเขา ในใจของฉินซูเต้นโครมครามไปทีหนึ่ง หายไปจริงๆ เหรอเนี่ย?
เธอรีบร้อนลุกขึ้นมา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมลุกออกไปข้างนอก
ฤทธิ์ของยาบำรุงยังไม่ได้หายไปทั้งหมด ทั้งร่างของเธอยังไร้เรี่ยวแรง เดินไปอย่างโงนเงน
ดวงตาดุจน้ำหมึกของฉู่หลินเฉินหรี่ตาเล็กน้อย “ดึกขนาดนี้แล้วคุณจะไปไหน?”
“ข้อมูลของฉันต้องหล่นในโรงแรมแน่ๆ ฉันจะลองไปหาดู” ฉินซูกล่าวโดยไม่หันหน้ากลับมา
ข้อมูลชุดนั้นสำคัญมาก เป็นข้อมูลที่ใช้มาจากการอ่านเธอใช้เวลาหลายวันมานี้ เพื่อมาสรุปทำเป็นรายงานชุดหนึ่ง เดิมทีต้องรอให้มีการนัดเจอกันแล้วนำไปส่งให้ศาสตราจารย์ฉางอีกที
“หยุด” ฉู่หลินเฉินกล่าวเสียงต่ำ
แต่ฉินซูเดินออกไปแล้ว
เมื่อเห็นดังนั้น หัวคิ้วของเขาก็ขมวดเลิกขึ้นไปอย่างแรง
“ต่อให้หล่นอยู่ในโรงแรม คุณกลับไปตอนนี้ก็คงไม่อยู่แล้ว!”
ฉู่หลินเฉินเอ่ยเตือน ยื่นมือออกไปดึงเธอเอาไว้
ฝีเท้าของฉินซูเดิมทีก็ไร้เรี่ยวแรงอยู่แล้ว จู่ๆ โดนเขาดึงไว้ ตัวจึงเซถลาล้มไปทางเขาอย่างช่วยไม่ได้
คนทั้งสองคนตัวประชิดตัวกัน เธอเงยหน้าอย่างประหลาดใจ ดวงตาทั้งสองคู่ประสานกัน จนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน
ฉินซูรีบถอยหลังออกมาก้าวหนึ่ง ฉู่หลินเฉินเองก็ปล่อยมือในเวลาเดียวกัน สัมผัสที่เนียนนุ่มเกลี้ยงเกลายังคงหลงเหลืออยู่ในฝ่ามือ
เขาเบือนหน้าหนี หยิบโทรศัพท์ออกมา “ฉันให้เว่ยเหอถามทางโรงแรมนั้นดูก็รู้เรื่องแล้ว”
ดวงตาฉินซูสว่างวาบ มองเขาอย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณค่ะ”
ฉู่หลินเฉินไม่ได้มองเธอมากนัก ริมฝีปากบางพ่นคำสองคำออกมาเบาๆ “กลับเข้าไป”
ฉินซูก็ไม่ได้ดื้อรั้น สภาพของเธอตอนนี้ จริงๆ แล้วไม่ค่อยเหมาะจะออกไปข้างนอกมากนัก
ดังนั้น เธอจึงกลับไปที่ห้องโถงอย่างเชื่อฟัง
ไม่นานนักเว่ยเหอโทรศัพท์กลับมาอย่างรวดเร็ว ทางโรงแรมด้านนั้นแจ้งมาว่า ไม่เห็นแฟ้มใดๆ ตกหล่นอยู่เลย
ฉินซูได้แต่ต้องยอมรับผลว่าข้อมูลได้สูญหายไปแล้ว
เธอขอบคุณฉู่หลินเฉินอีกครั้ง ก่อนจะกลับห้อง
ตอนนี้เอง ก็มีสายโทรเข้ามา เมื่อมองชื่อผู้โทรฉินซูก็รับสายอย่างไม่ลังเล
“นักเรียนเหอซู นัดส่งงานตอนห้าโมงเย็น ทำไมเธอถึงไม่มา?” น้ำเสียงเคร่งขรึมของหม่าเฉิงดังมาจากกระบอกเสียงปลายสาย
“อาจารย์หม่า ขอโทษด้วยค่ะ ทางหนูมีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย”
“เอาเถอะ ข้อมูลของนักเรียนคนอื่นรวบรวมส่งเข้ามาแล้ว ของเธอก็เอามาส่งพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ฉันจะรอเธออยู่ที่ห้องแล็บ”
อาจารย์หม่าเฉิงยังถือว่าพูดง่าย ไม่ได้กล่าวโทษเธออีก เพียงแค่ขอให้เธอเอาข้อมูลไปส่งใหม่อีกครั้ง
ฉินซูกล่าวอย่างลำบากใจเล็กน้อย “อาจารย์หม่าพรุ่งนี้คงจะไม่ทันแล้ว ข้อมูลของหนู…หายไปแล้วค่ะ”
“อะไรนะ? ทำหายไปแล้ว!”
หม่าเฉิงใจเต้นขึ้นมา ถามทันใดว่า “หายไปหรือว่าไม่ได้เตรียมไว้แต่แรกกันแน่? เหอซู สามารถเข้าทีมของพวกเรามาได้ก็เพราะท่านฉางเลือกเข้ามาด้วยตนเอง อาจารย์เองก็เชื่อมั่นในความสามารถของพวกเธอด้วย แต่โกหกหรือขี้เกียจ ทัศนคติแบบนี้คงอยู่ในทีมต่อไปไม่ได้ คุณรู้รึเปล่า?”
มือฉินซูที่ถือโทรศัพท์อยู่อดไม่ได้ที่จะกำแน่นขึ้น
จะขอโทษอีกมาเท่าไหร่ก็ไร้ประโยชน์ เธอครุ่นคิด ทางที่ดีที่สุดได้แต่สัญญาว่า “พรุ่งนี้หนูจะเอารายงานข้อมูลทั้งหมดไปส่งให้อาจารย์เองค่ะ”
ยังดีที่ หนังสือที่เธออ่านมาก่อนหน้านี้ การวิเคราะห์ที่เคยทำ ยังจำอยู่ในสมองได้ทั้งหมด โต้รุ่งทั้งคืนน่าจะทำออกมาใหม่ได้ชุดหนึ่ง
มีประโยคนี้ น้ำเสียงของอาจารย์หม่าก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย “อืม อย่าลืมว่าพรุ่งนี้ต้องเอามาส่งล่ะ”