บทที่ 044 ไม่ยอมนอนโรงพยาบาล
ฉู่หลินเฉินเพิ่งจะหันมามองทางฉินซู ก็เห็นว่าสีหน้าของเธอนิ่งสงบ ท่าทางทำตัวสบายๆ พลันคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่บ้านตระกูลฉู่ ดวงตาของเขาส่องประกายออกมาทันที พลันพูดว่า “ฉันรู้ว่าอาการป่วยของคุณย่าเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องสักนิด หยุนซีแค่ปากพล่อยไม่มีหูรูด จนแสดงท่าทางเป็นศัตรูกับเธออย่างเห็นได้ชัด”
ฉินซูเบะปากเล็กน้อย อารมณ์ของฉู่หยุนซีเธอคุ้นชินไปซะแล้ว
ฉู่หลินเฉินครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ พลางพูดต่อ “อี้หลินเธอก็แค่เป็นห่วงความปลอดภัยของคุณย่าเท่านั้นเอง จนทำให้ตัดสินและจัดการเรื่องจนผิดพลาดไป เรื่องนี้ คุณคงเข้าใจใช่ไหม?”
ฉินซูตะลึงงัน และนึกไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างฉู่หลินเฉินกับหวังอี้หลิน จนขยับริมฝีปากพูด “เข้าใจ ต้องเข้าใจสิ”
ฉู่หลินเฉินเป็นห่วงเป็นใยคนที่อยู่ในใจของตนเอง ฉะนั้นตนเองต้องขัดขวางได้ด้วยหรือ?
เมื่อเห็นว่าเธอก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไร ฉู่หลินเฉินรู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย
จากนั้นก็เก็บงำอาการผิดปกติในใจเอาไว้ จนเขากระแอมออกมา สีหน้ากลับมาเป็นปกติดังเดิม พร้อมทั้งพูดว่า “อาการป่วยเฉียบพลันท่ามกลางอันตรายของคุณย่าในครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่ว่าคุณเข้าไปช่วยเหลือได้ทันท่วงทีแล้ว ผลลัพธ์ที่ตามมาไม่กล้าจะจินตนาการตามเลย”
หัวคิ้วของฉินซูเลิกมองมาทางเขา พร้อมทั้งกะพริบตาปริบๆ
เมื่อได้ยินความหมายในคำพูดของเขาแล้ว ….
สิบวินาทีต่อมา พลันเริ่มเห็นเขาขยับปาก น้ำเสียงชัดเจน “ดังนั้น ขอบใจคุณด้วยนะ”
ฉู่หลินเฉินขอบคุณเธองั้นเหรอ!
นี่มันเป็นเรื่องเกินคาดที่พิเศษสุดๆ เป็นครั้งแรกเลย!
ฉินซู เริ่มแสดงอาการ “ได้รับความเอ็นดูและรู้สึกหวาดกลัวไปพร้อมกัน”
แต่ว่าไม่นานก็สามารถลงได้อย่างรวดเร็ว แถมยิ้มให้อย่างไม่คิดอะไร “คงไม่มีใครที่เห็นคนใกล้จะตายแล้วไม่ยอมช่วยมั้ง”
ฉู่หลินเฉินไม่ค่อยพอใจกับพูดที่ออกจะเพ้อเจ้อประโยคนั้น เพราะว่านั่นเป็นคุณย่าของเขา! แล้วดันหลุดออกมาจากปากเธอ ราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่เป็นไปจนเป็นเรื่องปกติเช่นนั้นแหละ?
แต่ว่า ฉินซูกับคุณย่าก็ไม่ได้สนิทสนมกันจริงๆ หรือว่าตนเองเห็นว่าเธอ คิดว่านั่นเป็นคุณย่าของเธอจริงๆ กันนะ?
ฉู่หลินเฉินหัวเราะให้กับความคิดของตนเอง จนโล่งใจได้ไปเปลาะหนึ่ง
เว่ยเหอเดินกลับมาแล้วพร้อมทั้งพูดว่า “คุณชายฉู่เรื่องห้องพักของคุณผู้หญิงทางนั้นได้จัดการเรียบร้อย เป็นห้องพักผู้ป่วยvipที่ดีที่สุด”
ฉู่หลินเฉินพยักหน้ารับ กำลังที่จะเดินไปดูสักหน่อยเว่ยเหอ รีบพูดดักทันที “มีเรื่องเร่งด่วน ทางเรื่องห่านซานนั้น..”
เขาหยุดเท่าทัน พลางหันมามองทางเว่ยเหอ
เว่ยเหอกระซิบเสียงต่ำ บริเวณหูของเขาอยู่หลายประโยค เพื่อพูดจบแล้ว สีหน้าของฉู่หลินเฉินเคร่งขรึมเล็กน้อย นัยน์ตาฉายแววคมกริบออกมา
ไม่นานนัก เขาก็พูดกับฉินซู “ฉันต้องไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย เรื่องคุณย่าต้องมีคนช่วยจัดการ คุณ …”
ไม่รอให้เขาพูดจบ ฉินซูก็พยักหน้ารับอย่างมีความสุข “ไม่มีปัญหาเลยค่ะ”
เพราะถึงอย่างไรเธอเองก็ไม่อยากไปจากที่นี่ เพราะว่ามีเรื่องต้องทำ พอดีเลยที่หาข้ออ้างเพื่อที่จะได้อยู่ที่นี่ต่อ
ฉู่หลินเฉินไม่คิดเลยว่าเธอจะตอบตกลงได้อย่างสบายขนาดนี้ แววตามองมาที่ใบหน้าของเธอ เมื่อคิดอะไรออก แล้วพูดออกมาทันที “ความสามารถทางด้านการแพทย์ของคุณไม่เลวเลยทีเดียว แม้ว่าการแข่งขันจะไม่ได้ไปร่วมงานด้วย แต่ฉันก็เอาใจช่วยเธอนะ”
พูดจบ ก็หันกลับไปแล้วเดินจากไปทันที
ฉินซูเห็นแผ่นหลังที่ก้าวยาวๆ เดินออกไปไกล จนผ่านไปสักพักถึงตั้งสติได้ จนต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย
ผู้ชายคนนี้…กำลังสนับสนุนเธออยู่ใช่ไหมเนี่ย?
ฉินซูได้แต่ส่ายหน้าไปมา พร้อมทั้งหานตัวเดินไปหาลิฟต์ พร้อมทั้งตัดสินใจว่าจะไปดูอาการของคุณผู้หญิงฉู่ก่อน
ยังไม่ได้เข้าห้องพักผู้ป่วยเลย ก็ได้ยินเสียงต่อต้านของซ่งจิ่นหรงมาแต่ไกล “ฉันไม่อยู่ที่นี่! อาเฉินล่ะ? ไปเรียกหลานฉันมา…. ใครให้พวกคุณจัดห้องให้ฉันพักที่โรงพยาบาลกัน?!”
ตอนที่ฉินซูเดินเข้ามานั้น ทางหมอและเหล่าพยาบาลได้แต่ยืนทำอะไรไม่ถูก พร้อมทั้งจ้องมองคุณผู้หญิงที่กำลังปีนเตียงอยู่ และไม่กล้าแม้แต่จะห้ามปราม
เมื่อเห็นดังนั้น ฉินซู ส่งสายตาให้กับพยาบาล ทุกคนต่างเข้าใจกันดี จนเดินไปจากห้องนั้น
ในห้องพักผู้ป่วยไม่มีคนอื่นอยู่แล้ว ฉินซูถึงได้เอ่ยเรียกชื่อออกมาอย่างเกรงใจ “คุณผู้หญิง”
เมื่อซ่งจิ่นหรงเห็นเธอแล้ว ก็รู้ทันทีว่าฉินซูเมื่อครู่เป็นคนช่วยชีวิตตนเองให้พ้นจากชายแดนความเป็นความตายให้กลับมาได้ ดังนั้นการแสดงออกเลยอ่อนโยนลงไปไม่น้อย พร้อมทั้งกอดผ้าห่มแล้วนั่งลงบนเตียงแทน พร้อมทั้งพูดอย่างอึดอัด “อาเฉินล่ะ?”
“คุณชายฉู่มีเรื่องด่วน เลยต้องขอตัวไปที่อื่นก่อน”
“ไอ้หมอนี่ เอาฉันมาทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล แล้วมันก็หนีไปคนเดียวซะงั้น!” ซ่งจิ่นหรงกล่าวโทษ
ฉินซูเขยิบเดินไปทางข้างหน้า “รายงานตรวจร่างกายของคุณ คงยังไม่ได้ดูใช่ไหม?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ความสนใจของซ่งจิ่นหรงก็มองไปที่รายงานที่อยู่ในมือของฉินซู
ทางโรงพยาบาลที่ดูแลอารมณ์ของคนมีอายุแล้ว ปกติแล้วจะไม่เอาเอกสารให้คนมีอายุดู แต่บอกผ่านทางญาติมากกว่า
อีกอย่างด้วยสถานะสูงส่งแถมเป็นคนพิเศษมากอย่างคุณผู้หญิงฉู่ ทางหมอเองยิ่งไม่กล้าเอาเอกสารมาให้เธอดูง่ายๆ อยู่แล้ว
ฉินซูแต่กลับเอามา พร้อมทั้งวางอยู่ตรงหน้าของซ่งจิ่นหรงอย่างเปิดเผย
“ท่านต้องดูเอกสารในการตรวจร่างกายก่อน แล้วค่อยบอกว่าจะพักต่อที่โรงพยาบาลหรือกลับบ้านกันดี”
สีหน้าของซ่งจิ่นหรงนึกสงสัยแล้วมองไปยังรายงานการตรวจร่างกายทันที
ยิ่งดู หัวคิ้วยิ่งขมวดเข้าหากันจนแน่น
แต่สุดท้ายแล้วเธอก็อ่านไม่เข้าใจอยู่ดี เลยถามฉินซูกลับ “นี่มันคือตัวอะไร wbc gra mpv……”
ฉินซูยิ้มให้ “เอามานี่เลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้ท่านฟังเอง”
“……”
หลังจากที่ฟังฉินซูอธิบายจนหมดไส้หมดพุงแล้ว ซ่งจิ่นหรงก็ยอมนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างว่าง่าย
ตัวเธอเองก็ไม่คิดว่า แค่ชาแก้วนั้นจะทำให้ร่างกายของตนเองเป็นเช่นนี้ ดังนั้นเลยไม่ค่อยจะเชื่อถือหวังอี้หลินสักเท่าไหร่แล้ว
พร้อมทั้งเปลี่ยนแววตาตอนที่มองมายังฉินซู พร้อมทั้งพูดอย่างน้อยนักที่จะเห็น “หล่อนอายุน้อยกว่าหยุนซีอยู่หลายปี แล้วทำไมถึงเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ แถมยังเก่งกาจกว่าหมอเสียอีก!”
ฉินซูค่อยๆ พูดอย่างปกติ “การแพทย์แผนจีนกับการฝังเข็มคุณย่าของฉันเป็นคนสอนฉันมาตั้งแต่เด็ก”
ซ่งจิ่นหรงได้แต่ยกนิ้วโป้งให้
ฉินซูเพิ่งคิดได้ว่าย่าของตนเองก็นอนพักรักษาตัวอยู่โซนข้างๆ ไม่ไกลกันนัก
หลังจากที่ล่ำลากับคุณผู้หญิงแล้วนั้น เธอก็มาถึงด้านนอกของห้องพักผู้ป่วยของย่าตนเอง พร้อมทั้งจ้องมองผ่านห้องกระจกอย่างเงียบๆ ซึ่งหมอกำลังทำการรักษาฉินกู้เซียงอยู่ทุกวัน
รอจนเวลาที่หมอออกมานั้น ฉินซูถึงได้ถามไถ่อาการ
“สภาพร่างกายของผู้สูงอายุนั้นดีขึ้นตามลำดับ อาทิตย์หน้าก็สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้แล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดของคุณหมอ ฉินซูดีใจจนไม่อาจปกปิดความรู้สึกเอาไว้ จนรีบพูดทันที “ขอบคุณค่ะ!”
“คุณนายหญิงก็เกรงใจเกินไปแล้ว ทั้งหมดนี่เป็นเรื่องที่พวกเราควรจะทำกันอยู่แล้ว อีกอย่างคุณชายฉู่กำชับนักกำชับหนา ห้ามให้มีความผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นเป็นอันขาด”
รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินซูผละไปชั่วครู่
ฉู่หลินเฉินกำชับนักกำชับหนางั้นเหรอ? ผู้ชายที่น่ากลัวคนนั้นอ่ะนะ ทำไมถึงได้จิตใจดีแสนดีขนาดนี้?
ฉินซูได้แต่ส่ายหน้าไปมา จนความรู้สึกกระเจิดกระเจิงไปไหนต่อไหนแล้ว
……
คฤหาสน์ตระกูลฉู่
เมื่อคนไปกันหมดแล้ว เหลือแค่คู่แม่ลูกฉู่หยุนซี
หลิ่วเหวยลู่พูดทันที “หยุนซี แกไปโรงพยาบาลพร้อมกับฉันหน่อย จะไปดูอาการของคุณย่า”
“แม่ ไปเยี่ยมคุณย่าแล้วทำไมแม่ไปเอาอี้หลินไปด้วยล่ะ เมื่อครู่ยังให้เธอกลับบ้านไปอีก?” ฉู่หยุนซีถามอย่างไม่พอใจ
“เธอ….” คิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็ส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ช่างเถอะ ยังดีที่ว่าย่าของแกยังรอดชีวิตกลับมาได้อย่างปลอดภัย เรื่องดูแลย่าของแก ให้ผู้เชี่ยวชาญมาดูแลเถอะ”
ฉู่หยุนซีได้ยินแล้ว พร้อมพูดอย่างรีบร้อนทันที “แม่ แม่นี่——”
หลิ่วเหวยลู่ทำหน้าเคร่งเครียด เธอได้แต่กลืนคำพูดนั้นลงคอไป
ฉู่หยุนซีพูดด้วยท่าทีไม่พอใจ พร้อมทั้งบ่นพึมพำ “อีนังจอมปลอมคนนั้นไม่ยอมช่วยตั้งแต่แรก ที่ถ่วงเวลาช่วยช้าไปนิด ก็เพราะต้องการให้อี้หลินขายหน้า จากนั้นเธอก็ทำให้ตัวเองสามารถเชิดหน้าชูตาขึ้นมาได้! หน้าด้านจริงๆ!”
“เธอช่วยคุณย่าเอาไว้!’ หลิ่วเหวยลู่พูดตักเตือน
ฉู่หยุนซีได้แต่กัดฟันพูด “แต่ยังไงอีนังนั่นก็เป็นของปลอมนี่!”
หลิ่วเหวยลู่เริ่มส่งสายตาเย็นชาออกมา เพราะเริ่มโมโหแล้ว
เธอตะโกนตัดบททันที “พอแล้ว แกไม่ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว อยู่เฝ้าบ้านก็แล้วกัน!”
พูดจบ ก็นั่งไปออกไปคนเดียว โดยให้คนขับรถเป็นคนขับออกไป
ฉู่หยุนซีได้แต่โมโหกระฟัดกระเฟียดยืนกระทืบเท้าอยู่กับที่
ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดู จนต้องขมวดคิ้วเข้าหากันจนแน่น
MANGA DISCUSSION