รักซ่อนร้าย นายซาตานรักผิดคน - ตอนที่ 35: ใบรับรองการบริจาค
บทที่35: ใบรับรองการบริจาค
ตระกูลหวัง
วันนี้จางเหวินอารมณ์ดี เตรียมตัวเข้านอนกับสามีแต่หัวค่ำ
เธอมาสก์หน้าเดินออกมา กลับเห็นหวังเจิ้นหัวนั่งอยู่ที่โซฟาไม่ขยับตัวเลย
“พี่หวัง คุณกำลังทำอะไรอยู่?”
“ผมก็รออี้หลินไปทานข้าวกับคุณชายฉู่กลับมา จะถามสถานการณ์ที่เธอคบหากับคุณชายฉู่หน่อยน่ะสิ”
จางเหวินฟังปุ๊บก็หัวเราะขึ้นมาเลย เธอนั่งบนตักเขา กอดคอเขาไว้และพูด: “คุณก็อายุปูนนี้แล้ว ทำไมยังมองเรื่องแบบนี้ได้ไม่ทะลุปรุโปร่งอีก คืนนี้อี้หลินไม่กลับมาแล้วค่ะ”
“อะไรนะ?”
หวังเจิ้นหัวเห็นรอยยิ้มคลุมเครือบนใบหน้าของจางเหวิน จู่ๆก็เข้าใจ
จางเหวินพูดว่า: “อี้หลินเด็กคนนี้ แฟนที่คบกันก่อนหน้านี้ ไม่มีคนไหนสู้ฉู่หลินเฉินได้เลย ลูกเราจะต้องจับเขาให้อยู่หมัด ไม่งั้นผู้ชายที่ดีเพียบพร้อมขนาดนี้ แค่ไม่ระวังก็ถูกมารจิ้งจอกตัวอื่นยั่วสวาทไปแล้ว”
หวังอี้หลินเข้าบ้านปุ๊บก็ได้ยินแม่ของเธอพูดคำนี้ เดิมทีอารมณ์ก็ไม่ดีอยู่แล้ว ทีนี้ยิ่งหดหู่เข้าไปใหญ่
เห็นเธอกลับมา หวังเจิ้นหัวกับจางเหวินต่างก็อึ้ง
พูดด้วยความสงสัย: “ลูก ทำไมคุณชายฉู่ถึงให้ลูกกลับมาล่ะ? คืนนี้ลูกสองคน…….”
หวังอี้หลินโยนกระเป๋าลงด้วยความหงุดหงิด: “อย่าพูดเลยค่ะ! หนูว่าเขาไม่มีความรู้สึกอะไรกับหนูเลยด้วยซ้ำ”
“เหลวไหล ไม่ชอบลูก แล้วเขาจะแต่งงานกับลูกเหรอ?”จางเหวินโต้แย้ง และลุกขึ้นมาจากตักของหวังเจิ้นหัว แล้วเดินมาที่ตรงหน้าเธอ
“หนูจะรู้ได้ยังไงคะ”หวังอี้หลินก้มหน้า ค่อนข้างไม่สบายใจ
เธอกังวล ถ้าเกิดคนที่ฉู่หลินเฉินชอบคือฉินซู…….
จางเหวินกุมมือของเธอไว้ และคอยให้คำแนะนำ: “ลูก บางทีคืนนี้เราอาจจะรีบร้อนเกินไป ความรักของพวกลูกต้องค่อยๆศึกษาดูใจกันไป ขอแค่สุดท้ายลูกได้เป็นคุณนายหญิงของตระกูลฉู่ ทุกอย่างก็พูดง่ายแล้ว”
“ทางฝั่งของคุณชายฉู่ ลูกไม่สะดวกเจอ แต่ลูกสามารถเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่ของครอบครัวเขาและได้รับการยอมรับจากพวกเขาได้”
แววตาของหวังอี้หลินเปล่งประกาย คำพูดของแม่เธอได้เบิกทางสว่างให้เธอจริงๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น
ฉู่หลินเฉินค่อยๆได้สติตื่นขึ้นมา บนตัวมีความหนาวเย็นโชยมาเป็นพักๆ
เขาหลุบตามองเสื้อที่ยุ่งเหยิงทีนึง ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
ไม่นึกเลยว่าเขาจะนอนอยู่ที่โซฟาในบ้าน!
ความคิดค่อยๆกลับคืนมา สีหน้าของฉู่หลินเฉินกลับดูฉงน
เมื่อคืนหลังจากทานข้าวกับหวังอี้หลินเสร็จ เขาไม่ได้พาเธอกลับมา เพราะฉะนั้น ผู้หญิงที่ถูกเขาทับอยู่บนตัวคือ……ฉินซู?
ทำไมเขาไม่มีความรู้สึกกับหวังอี้หลิน ทีกับฉินซูกลับควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้? บนตัวของผู้หญิงคนนั้นมีแรงดึงดูดอะไรกันแน่ ถึงกับให้เขาเกิดความภาพลวงตาแบบนั้น
เขาเงยหน้ามองไปที่ชั้นบนทีนึง ด้านบนเงียบสงบ ผู้หญิงคนนั้นไม่อยู่บ้าน คงออกไปแล้วแน่ๆเลย
ฉู่หลินเฉินนวดระหว่างคิ้วด้วยความหงุดหงิด จัดความคิดที่ยุ่งเหยิงไว้ให้ดี
จู่ๆ แววตาเขามืดมน ได้หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาเบอร์ๆนึง: “อาเหล่ย เหล้าแก้วเมื่อคืนมันยังไงกัน นายพูดมาให้ชัดเจนเลย”
ซีเหล่ยยิ้มแหะๆ: “พี่เฉิน ผมไม่ได้ตั้งใจต้มตุ๋นพี่นะ เดิมทีเหล้าแก้วนั้นเตรียมไว้ให้หื้อเฝ่ย พี่ก็รู้การกระทำหัวโบราณของเขา เฝ้าแมวป่าในบ้าน ดันจะต้องรอให้คนอื่นประเคนมาถึงปาก เพราะฉะนั้นถึงได้สองสามวันดีสี่วันร้ายไง!”
“เดิมทีพวกเราแค่อยากช่วยให้เขาบรรลุผล ใครจะไปคิดจับพลัดจับผลู พี่จะดื่มเหล้าที่ผสมยานั้นไป แต่พี่มีพี่สะใภ้อยู่ เหล้าแก้วนั้นก็ถือว่าเป็นตัวช่วยเพิ่มความสนุกให้พวกพี่ก็แล้วกันนะ!”
ซีเหล่ยกำลังพูดอยู่ จู่ๆได้ลากเสียงสูงเรียกคำนึง: “แม่งงง หื้อเฝ่ย นายมาเมื่อไหร่วะ อ๊า เมื่อคืน…….”
พริบตาเดียวในสายก็ไม่มีเสียงแล้ว
ฉู่หลินเฉินวางสายทิ้ง ไม่อยากสนใจความเป็นความตายของซีเหล่ยไอ้หมอนั่น
ถ้าเพราะฤทธิ์ยา ก็อาจจะสามารถอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงมีความวู่วามกับผู้หญิงคนนั้น
ในใจเขาฝืนปล่อยวางได้บ้าง
จู่ๆรู้สึกปวดหัวจี๊ดๆ เขายกมือไปจับ และจ้องคราบเลือดที่หลงเหลืออยู่บนปลายนิ้วมือ
สีหน้าค่อยๆมืดมนลงมา
……………..
ฉินซูไปจากวิลล่าแต่เช้า เพราะได้รับสายของอาจารย์ซวู
หนังสือยื่นคำร้องของเธอผ่านแล้ว ไม่นานก็สามารถเข้าห้องปฏิบัติและเข้าร่วมโปรเจ็ควิจัยได้แล้ว
เพราะฉะนั้น เธอจะต้องทำการเตรียมตัวนิดหน่อย
อีกสาเหตุนึงคือ ไม่อยากเผชิญหน้ากับฉู่หลินเฉิน
เมื่อคืน เธอตกใจจริงๆ
แต่ตอนนี้พอค่อยๆสงบสติอารมณ์ลงมา กลับรู้สึกเสียใจภายหลังเล็กน้อย
เมื่อคืนทุบเขาสลบเป็นโอกาสที่ดี เธอน่าจะถอดกางเกงเขา เพื่อพิสูจน์ว่าเขาเป็นผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า…….
เพราะยังไงซะ ความรู้สึกที่เขากับผู้ชายคนนั้นให้เธอช่างเหมือนมากจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อคืน กลิ่นอายจู่โจมที่กำเริบเสิบสานและเอาแต่ใจของเขา เหมือนผู้ชายคนนั้นเป๊ะๆ
ฉินซูส่ายหัว ปัดความคิดยุ่งเหยิงของสมองทิ้ง
ตอนนี้เธอจะกลับไปที่บ้านของพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง เพื่อมาเอาเข็มที่ย่าให้เธอ
วิจัยของครั้งนี้เกี่ยวโยงถึงแพทย์แผนจีนและการฝังเข็ม และเป็นสิ่งที่ฉินซูสนใจที่สุด เข็มชุดนั้น อาจจะได้ใช้งาน
เธอก็อยากถือโอกาสคอนเฟิร์มกับจงจื้อหย่วนอีกครั้ง เกี่ยวกับสิ่งที่ถือเป็นหลักฐานยืนยันฐานะของเธอเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
ถึงถูกคนเรียกเด็กเวรที่ไม่มีพ่อแม่ สุดท้ายก็อยากรู้ฐานะของตัวเองอยู่ดี
รถขับผ่านสถานสงเคราะห์แห่งนึง มีเด็กๆเล่นอยู่ที่ลาน และคนแก่ที่ร่างกายไม่แข็งแรงนั่งพูดคุยกันอยู่ใต้ต้นไม้
ฉินซูเกิดความหวั่นไหว เธอได้ให้คนขับจอดรถลง
เธอสแกนวีแชทจ่ายค่ารถ และสวมหมวกลงจากรถ จากนั้นเดินตรงไปยังสถานสงเคราะห์ เด็กที่กำลังเล่นอยู่ได้ทยอยหยุดท่าทางลง และมองมาที่เธอด้วยความแปลกใจ แววตาที่ไร้เดียงสาแฝงด้วยความคาดหวังเสี้ยวนึง
พวกเขาล้วนเป็นเด็กกำพร้า มีเด็กๆอายุขวบสองขวบ ถึงเด็กโตอายุสิบสามสิบสี่ ถึงแม้สถานสงเคราะห์ได้รับเลี้ยงพวกเขา แต่กลับให้ครอบครัวที่แท้จริงกับพวกเขาไม่ได้
ลุงรักษาความปลอดภัยสำรวจฉินซูรอบนึง แล้วถามว่า: “คุณผู้หญิงท่านนี้ คุณมารับเลี้ยงเด็กเหรอครับ?”
ฉินซูส่ายหัว
แววตาของเด็กพวกนั้นมืดมนลงไป ไม่สนใจกับฉินซูอีก และวิ่งเล่นในลานต่อ
ใบหน้าเป็นมิตรไมตรีของลุงรักษาความปลอดภัยก็เย็นชาลงเยอะ “งั้นคุณ?”
“ฉันอยากถามรายละเอียดหน่อย ถ้าจะบริจาคเงินให้สถานสงเคราะห์แห่งนี้ จะต้องมีกระบวนการอะไรบ้างคะ?”
นี่ก็เป็นความคิดกะทันหันตอนที่ฉินซูอยู่บนรถ
หลังจากเห็นเด็กไร้เดียงสาพวกนี้ และคนแก่ที่ร่างกายไม่ค่อยสู้ดีนักพวกนั้น เธอก็มีความแน่วแน่ที่จะช่วยเหลือพวกเขา
เพียงแต่ ตอนนี้เธอยังติดหนี้อยู่ ไม่มีเงินมากมายขนาดนั้นมาบริจาค
ส่วนเงินแปดแสนของหวังอี้หลิน ก็กำลังกลุ้มใจไม่มีที่ให้ใช้เงินอยู่
หวังอี้หลินอยากใช้เงินก้อนนี้ใส่ร้ายป้ายสีเธอ เธอก็ไม่คิดจะคืนแล้ว แต่ก็ไม่อยากเอามาใช้เอง
ฉินซูเคยบอก เงินที่ไม่ควรเอาเธอจะไม่เอา
พอดีเลยบริจาคให้คนที่ต้องการความช่วยเหลือ ทำกุศลดีกว่า
……………..
บริจาคเงินเสร็จ ฉินซูก็ไปจากสถานสงเคราะห์
เธอเดินมาถึงหน้าห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งนึง บนรถหรูคันนึง มีผู้หญิงสามคนลงมา
“แม่คะ วันนี้หนูตั้งใจเรียกอี้หลินมาช้อปปิ้งเป็นเพื่อนแม่ แม่มีความสุขมั้ยคะ? ด้านหน้าก็คือห้างแล้ว ดูซิว่ามีของที่จะซื้อมั้ย”
ฉู่หยุนซีควงแขนของหลิ่วเหวยลู่ไว้ อีกคนที่อยู่ข้างกายก็คือหวังอี้หลิน
หวังอี้หลินกำลังอยากคุยกับหลิ่วเหวยลู่ สายตาก็หันไปเจอฉินซู
ถึงแม้ฉินซูใส่แว่นดำและหมวก แต่พวกเธอรู้จักกันมานานขนาดนี้ ไม่นานก็ดูออก
เห็นหน้าของฉินซูที่ใส่เสื้อและถือกระเป๋าแบรนด์เนม หวังอี้หลินยังไงก็รู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย
เท่าที่เธอดู ฉินซูควรจะใส่เสื้อผ้าราคาถูก ถึงเข้ากับฐานะ“บ้านนอก”ของเธอ
ตัวเองใช้เงินของฉู่หลินเฉินคือสมเหตุสมผล แต่ฉินซู……ไม่เพียงขัดขวางเส้นทางการเป็นคุณหญิงคุณนายตระกูลร่ำรวยของเธอ แต่ยังคอยเสพสุขทุกอย่างที่ฉู่หลินเฉินให้เธออย่างถูกต้องและเปิดเผย!