'รักข้ามรุ่น' กับคุณลุงจอมขรึม - ตอนที่ 54 เยี่ยหลานซานคือสิ่งที่ฉันกำลังปกปิดอยู่!
เมื่อเยี่ยหลานซานได้ยินการเคลื่อนไหวที่ห่างออกไปไม่ไกลนักเธอจึงปิดเกมลงและเงยหน้าขึ้นมองกงเส่าถิงที่กำลังถอดเสื้อผ้าออก
เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและกวาดมองใบหน้าของเขาที่กระทบกับแสง: "… ?"
ลุงคนนี้กำลังทำอะไร?
เธอกำลังจะถามเขาออกไป แต่เขาก็สวนพูดขึ้นมาเสียก่อน: "อาการเพิ่งดีขึ้น อย่าออกมาตากลมสิ"
ในวินาทีต่อมาเขาเข้าไปอุ้มเธอแล้วเดินเข้าไปในห้อง
เยี่ยหลานซานสะดุ้งเล็กน้อยและใช้เวลาสองสามวินาทีกว่าเธอจะกลับมามีสติ
อุ้มท่าเจ้าหญิง?
เอิ่ม……..การอุ้มมันนี้สนิทสนมเกินไปสำหรับเพื่อนเพศตรงข้ามหรือเปล่า?
เธอไม่อยากวุ่นวายกับการแสดงออกของเขา ดังนั้นเธอจึงจึงถามออกไปอย่างใจเย็น: "ลุงคุณยังบาดเจ็บอยู่ ปล่อยฉันลงเถอะเดี๋ยวฉันเดินเอง"
"จะถึงอยู่แล้ว"
กงเส่าถิงไม่ได้อุ้มเธอขึ้นไปชั้นบน เขาวางเธอลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น และถอดรองเท้าให้เธอ
พฤติกรรมของเขาเป็นเรื่องปกติแม้ว่าจะอุ้มเธอกลับเข้ามา แต่เธอก็ไม่ได้อุ้มไปไกลเกินกว่านี้
ทุกท่วงท่าแสดงให้เห็นว่าเขานั้นน่าเอ็นดู เพียงแค่เพราะเขาไม่อยากให้เธอเป็นหวัด
เยี่ยหลานซานไม่มีความคิดอื่นใด เธอเอนหลังนอนรอเขาอยู่ที่โซฟา
กงเส่าถิงเดินไปและกลับมาในไม่ช้า
ชายร่างสูงเพรียวถือรองเท้าสลิปเปอร์ผู้หญิงสีชมพูคู่หนึ่งไว้ในมือ มันดูช่างไม่เข้ากับเขาเอาเสียเลย แต่พอมองดีๆมันกลับดูเข้ากันแปลกๆ
เขาเดินกลับมาคุกเข่าข้างหน้าเธอ จับเท้าและสวมรองเท้าให้เธอ
เยี่ยหลานซานหดเท้าลงโดยไม่รู้ตัว: "…ฉัน ฉันจะทำเอง … "
"ไม่เป็นไร"
กงเส่าถิงเงยหน้าขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา
ทำให้หัวใจของเยี่ยหลานซานเต้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้
ฝ่ามืออันอบอุ่นของเขาจับเท้าเล็ก ๆ ที่เย็นเฉียบของเธอ สัมผัสได้ถึงฝ่ามือที่หยาบกร้านของเขา
แก้มของเธอเป็นสีแดง เธอตัวแข็งทื่อและหันหนีไป
เอาจริงลุงยิ้มสวยจริงๆ
ผู้ชายที่มีน้ำใจและอ่อนโยน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความหล่อเหลาและฐานะที่สูงส่ง…เยี่ยหลานซานเริ่มรู้สึกกังวลว่าผู้หญิงแบบไหนนะที่จะคู่ควรกับเทพบุตรแบบเขา?
เฮ้อ
เธอเป็นแม่สื่อที่ไม่ดีเอาซะเลย
ไม่รู้ว่าทำไม พอคิดว่าเช้าวันนั้นที่ฉืออวี้เฟิงขอให้เธอเข้าใกล้แท่นน้ำเพื่อเข้าใกล้พระจันทร์…
"เสร็จแล้ว"
เสียงของเขาดังขึ้นใกล้ๆหูเธอ พร้อมกับกลิ่นหอมที่ลอยแตะลงบนคอของเธอ มันช่างร้อนแรงและเย้ายวนมาก
หัวใจของเยี่ยหลานซานเต้นแรงขึ้นมากขึ้น เธอรีบกระโดดลงจากโซฟาและมุ่งหน้าขึ้นไปยังชั้นสองอย่างลนๆ: "ลุงกลับมาก็ดีแล้ว งั้น งั้น ฉันเพลียแล้ว ไปนอนก่อนนะ"
หลังจากพูดจบเธอก็วิ่งขึ้นไปชั้นบน
กงเส่าถิงมองแผ่นหลังของเธอที่ค่อยๆลับหายไป เขาก้มหน้าลงและงอนิ้วเบาๆ ปลายนิ้วยังคงทิ้งเหลือความรู้สึกของข้อเท้าบางเย็นๆไว้
"หึ"
เขาหัวเราะเบา ๆ มุกปากของเขายกขึ้นอย่างมีเสน่ห์
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของเขา เขากดรับสาย
“ลุง ตาแก่เฉียวหยวนฟานคนนั้นมันมากเกินไปแล้ว! ผมปฏิเสธที่จะพบเขาในตอนบ่าย แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้และหาผมที่บ้านของผม! ! ! "
ฉืออวี้เฟิงถ่มน้ำลายลงอย่างโกรธเคือง: "เวรเอ้ย! ผมไม่คาดคิดมาก่อนว่าตาแก่จะมีแผนแบบนั้นจริงๆ! เขาบอกว่าจะช่วยให้ผมผ่านทุกประตูของวงการบันเทิง เงื่อนไขก็คือต้องขายความลับของลุง และออกหน้าช่วยบริษัทของเขาที่นักแสดงในบริษัทสองคนทำเรื่องสกปรกไว้! ผมปฏิเสธไป แต่เขาก็ดื้อด้านไปหาพ่อของผมเพื่อบีบบังคับให้เขาพูดเกี่ยวกับผมและใช้โอกาสนี้พูดสิ่งไม่ดีเกี่ยวกับผม … "
เขาไม่กลัวนรกไม่กล้วสวรรค์เลย กลัวว่าลุงจะโกรธเขาและพ่อของเขา!
ส่วนเรื่องไล่เฉิงเฉิงออก เขารู้สึกว่าลุงก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ดังนั้นเขาจึงเมินเฉยมันไป
กงเส่าถิงจดจ่อ: "พี่เขยส่งมันมา แต่ว่า… "
"ห้ะ?"
“มาที่โกลเด้นพาเลซพรุ่งนี้เช้า แล้วเล่าให้ฟังว่าคืนวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง”
สมองของฉืออวี้เฟิงค่อนข้างกระตือรือร้น และเข้าใจทุกๆนาที: "จงใจบอกแม่ลุง? จะยิ่งทำให้เธอเกลียดบ้านเฉียวมากยิ่งขึ้น? เกลียดเฉียวเฟยฝาน? "
กงเส่าถิงยิ้มลึกๆ: "ฉันจะให้คนเตรียมขนมปังสับปะรดของโปรดของนายสำหรับอาหารเช้าพรุ่งนี้ให้"
"ลุง รักลุงที่สุดเลย!"
ฉืออวี้เฟิงได้รับกําลังใจจึงเริ่มคิดวิธีการเพิ่มน้ำมันเพื่อเล่นละครในวันพรุ่งนี้
หลังจากกงเส้าถิงรู้แผนการของเฉียวหยวนฟานแล้ว เขาก็มุ่งเป้าไปที่บริษัทสื่อใหม่ทันที
เขาสังเกตเห็นมานานแล้วว่าบริษัทสื่อใหม่ต้องการให้เยี่ยหลานซานเซ็นสัญญาด้วยเหตุผลที่ไม่บริสุทธิ์
ที่แท้ก็เป็นเฉียวหยวยฟานที่อยู่เบื้องหลัง
อ่า ตาแก่นั่นเหลี่ยมเยอะจริงๆเลย แต่เขาไม่ได้มองว่าผู้หญิงตัวเล็กๆที่เขาคิดจะจัดการคือใคร
วันนี้จะคิดดอกเบี้ยก่อนละกัน
ส่งข้อความถึงพี่เขยฉือจิ่นทันที
ไม่นานนักฉืออวี้เฟิงก็ส่งวิดีโอมา เป็นสภาพน่าสังเวชของเฉียวหยวนฟานที่ถูกยามเขตกองทัพโจมตีไล่ออกไป
เขาคว่ำริมฝีปากลงด้วยสีหน้าเย็นชา
หมอหวังชุยถือยารักษาอาการบาดเจ็บเดินเข้ามา ทันที่เข้ามาถึงก็เห็นสีหน้ามืดมนของกงเส่าถิง ทำให้เขาไม่กล้าถามอะไรออกไป เพียงแค่ช่วยเขาเปลี่ยนผ้าพันแผล
เมื่อมองไปที่บาดแผลทั้งสองแผลบนผิวของเขา เขาถอนหายใจและแสดงทักษะของแพทย์อัจฉริยะ: "บอสครับ แผลตกสะเก็ดแล้ว ทายาตัวนี้วันละสองครั้ง ภายในสามวันก็จะดีขึ้น"
กงเส่าถิงเอนกายลงบนโซฟา เขาลดเสียงลงและสั่งออกไป: "เปลี่ยนเป็นยาที่ออกฤทธิ์ช้ากว่านี้"
หวังชุยเกือบจะคิดว่าเขาได้ยินผิดไป: "บอส?"
"เปลี่ยนเหรอ"
“……”
หลังจากที่หมอหวังชุยส่งขวดยาให้เขาอีกครั้ง เขาก็ถามออกไปอย่างไม่แน่ใจว่า: "อาการบาดเจ็บของบอสมันเป็นไปได้ไหมว่าคุณจงใจ … "
กงเส่าถิงเหลือบมอง
ในใจของหวังชุยรู้ทุกอย่าง แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก: "บอส รีบพักผ่อนนะครับ"
………………
คืนนี้เยี่ยหลานซานมีอาการนอนไม่ค่อยหลับ
ตั้งแต่เธอโตมา ยกเว้นรองเท้าของเธอที่ตก และเธอก็ร้องขอให้พ่อของเธอใส่รองเท้าให้เธอ และไม่มีเคยมีใครสวมรองเท้าให้เธอเลยนอกจากพ่อ
เขาแค่คุกเข่าข้างหน้าตรงของเธอจับเท้าของเธอเบาๆ …
พอคิดถึงก็หน้าแดงขึ้นมา
“อ๊ากกกก!”
เยี่ยหลานซานรู้สึกเหมือนกำลังเธอเมามาก ทำไมเธอถึงต้องคิดถึงฉากนั้นอยู่เรื่อยๆเลย?
เธอฝังหัวของเธออย่างหงุดหงิดลงบนหมอน เธอถูใบหน้าของเธอกับหมอนจนเป็นสีแดงและพยายามบังคับตัวเองให้หลับ
วันรุ่งขึ้น ขณะที่เธอกำลังจะลงไปชั้นล่าง เธอก็ได้ยินเสียงวุ่นวายภายในห้องนั่งเล่น
เสียงนั้น … !
เธอเร่งฝีเท้าของเธอ
แน่นอนว่าชั้นล่างคือฉืออวี้เฟิงที่กำลังเล่นกับเสี่ยวไป๋ในห้องนั่งเล่น ไม่ไกลนักกงเส่าถิงและกงฉีหลินกำลังคุยกัน
ก่อนที่เธอจะกล่าวทักทาย เธอเห็นฉืออวี้เฟิงรีบวิ่งขึ้นมาและจ้องมองไปทางซ้ายและขวาของเธอ
สายตานั้นมันแปลกมาก
เยี่ยหลานซานรู้สึกสยดสยองเล็กน้อย เมื่อเธอเห็นดังนั้นเธอจึงเขย่าตัวเขา: "สายตาของนายมันคืออะไรกัน? มันไม่เหมือนวันแรกที่เราเจอกัน? "
"เฮ้อ…."
ฉืออวี้เฟิงถอนหายใจเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจและนั่งลงข้างๆกงฉีหลินด้วยสีหน้าที่ไม่อาจคาดเดาได้
สีหน้าแปลกประหลาดนั้น เยี่ยหลานซานมองอย่างแปลกใจ